ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน ยานนาวา, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน ยานนาวา, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

อนุธิดา เทศกุล
อนุธิดา เทศกุล
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนรักสัตว์ และรักเด็ก ชอบความเป๋นส่วนตัว

แสดงเพิ่มเติม
ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 43 ปี

ที่บ้านมีสถานที่ ให้น้องวิ่งเล่น มีไซ เพศเมียอายุ 1 ปี น้องน่ารักนิสัยดีค่ะ มีโกลเด้น 1 ตัว น้องชอบเล่นมาก ที่บ้านมีอาหาร ห้องแอร์ ของเล่น ขนม พร้อมให้น้องๆค่ะ ที่รับเลี้ยงเพราะน้องไซที่บ้านจะได้มีเพื่อนใหม่ๆด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อารยา หนูทอง
อารยา หนูทอง
Saijai อายุ 25 ปี

เคยมีประสบการณ์ทำงานเเม่บ้านมาก่อน สามารถทำความสะอาดได้ โดยส่วนตัวเป็นคนใจเย็นกับสถานการณ์ต่างๆพร้อมรับมือ

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 42 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ นอนกับสุนัข์ทุกวัน

แสดงเพิ่มเติม
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 27 ปี
ศิริกานต์ จาวะลา
ศิริกานต์ จาวะลา
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 29 ปี

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ราคาไม่แพง มีการบอกรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆให้ด้วย ซึ่งตอนนี้ใช้บริการมา 4ครั้งแล้วครับ บริการดีทุกครั้งเลยครับ
Saijai
ศิลา ใจอารีย์
4 ปีที่แล้ว
หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
4 ปีที่แล้ว
เว็บใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ใช้ครั้งแรกชอบเลย ได้พี่เลี้ยงมาดูแลน้องแมวให้ถึงบ้าน สบายใจทาสแมวอย่างเราไปเลยค่ะ
Saijai
ณัฐฐา แก้วดี
5 ปีที่แล้ว
ลองเรียกคนดูแลน้องหมาผ่านเว็บใส่ใจ พี่เลี้ยงเขาเฟรนด์ลี่มาก พาน้องไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น รู้สึกประทับใจพี่เลี้ยงมาก ๆ เลยค่ะ
Saijai
อรัชกร แซ่ลี้
5 ปีที่แล้ว
สะดวกมากเลยค่ะ นัดพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่เราต้องการมาดูแลน้องหมาที่บ้านได้เลย ไม่ยุ่งยาก ระบบใช้งานง่าย สะดวกสุด ๆ ค่ะ ชอบ ๆ
Saijai
ธีรศักดิ์ เหมศักดิ์
1 วินาทีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ความสำคัญของการมีสัตว์เลี้ยง
การมีสัตว์เลี้ยงเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในงานอดิเรกของหลาย ๆ คนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ซึ่งสัตว์เลี้ยงที่คนนิยมเลี้ยงกันก็มีมากมายหลายชนิด แน่นอนว่านั่นหมายถึงการที่เราต้องใช้เวลาไปกับการดูแลเอาใจใส่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นทั้งการดูแลเรื่องอาหารการกิน ที่อยู่อาศัย สุขภาพ รวมไปถึงสภาพจิตใจของสัตว์เหล่านี้ด้วย

การดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงในทุก ๆ ด้านที่กล่าวมาข้างต้นนั้นนับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะมันส่งผลดีให้กับทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยง ในมุมมองของเจ้าของ การได้ให้อาหาร หรือการเล่นกับสัตว์เลี้ยงนั้นเปรียบเสมือนความสุขอย่างหนึ่ง ในวันที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน หากได้กลับมาเจอสัตว์เลี้ยงนั่งรออยู่ที่หน้าประตู เพียงเท่านี้ก็ช่วยคลายความเหนื่อยไปได้เยอะเลยทีเดียว กลับกันในมุมของสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างครบถ้วนนั้นจะส่งผลดีให้กับพวกเขาเช่นกัน สัตว์เลี้ยงสัมผัสได้ถึงความรักที่ได้รับจากเจ้าของ ในขณะเดียวกันพวกเขาจะมอบความรักกลับคืนให้เจ้าของเช่นเดียวกัน

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการมีสัตว์เลี้ยงในบ้านคือ สามารถเยียวยาสภาพจิตใจของผู้เลี้ยงได้ ซึ่งการได้ใช้เวลาทำกิจกรรมดี ๆ ร่วมกันระหว่างคนและสัตว์เลี้ยงช่วยลดอาการตึงเครียดและภาวะซึมเศร้าได้ ทั้งยังช่วยให้ทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงมีสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย เช่นการพาสัตว์เลี้ยงออกไปเดินเล่นทำให้ผู้เลี้ยงเองได้ออกกำลังกายไปด้วย

เห็นได้ชัดว่าการมีสัตว์เลี้ยงนั้นมีประโยชน์ต่อคนมากมาย ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะฉะนั้น ก่อนเลี้ยงต้องมั่นใจว่าคุณจะมีความรับผิดชอบมากพอที่จะดูแลเขา เพราะสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนมนุษย์เช่นกัน หากคุณอยากมีสัตว์เลี้ยงไว้ที่บ้าน แต่ไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของคุณ การใช้บริการรับดูแลสัตว์เลี้ยงก็นับว่าเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว
ทักษะที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี
การดูแลสัตว์เปรียบเสมือนการดูแลบุคคลในครอบครัว เมื่อตัดสินใจรับมาเลี้ยงแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต แต่หากเรามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือมีภาระอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ และไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงของเราได้ในบางตรั้ง และจำเป็นต้องหาคนมาดูแลสัตว์เลี้ยงชั่วคราว หรือที่เรียกว่าพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง

พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้

• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
ข้อสังเกตุว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจจะมีอาการป่วย
หลาย ๆ คนที่เคยมีสัตว์เลี้ยงย่อมเคยผ่านเหตุการณ์ที่สัตว์เลี้ยงป่วย การสังเกตพฤติกรรมในแต่ละวันเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามแม้อาจจะเป็นเพียงความเปลี่ยนแปลงเพียงเล็ก ๆ น้อย เพราะหลายครั้งกว่าที่เราจะรู้ว่าสัตว์เลี้ยงป่วยก็ต่อเมื่อพวกเขามีอาการหนักแล้ว

วันนี้เรามีวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ควรมองข้ามมาแชร์ให้ทราบกันค่ะ

1 สัตว์เลี้ยงมีอาการซึมเศร้า ไม่ร่าเริง นอนมากกว่าปกติ ไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่อ้อนเหมือนเคย
2 พฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้ง ๆ ที่ปกติกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น อากาศร้อนเกินไป เปลี่ยนอาหารใหม่ ที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงกินน้อยลง
3 พบความผิดปกติ หรืออาการอื่นๆ เช่น มีขี้ตาเยอะ อาเจียน ตาแดง มีน้ำมูก มีกลิ่นตัวแรง เดินผิดปกติ ถ่ายเหลว
4 กินน้ำมากกว่าปกติ ก็เป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเราป่วยได้เช่นกัน
5 สัตว์เลี้ยงอาจมีอาการ นอนไม่หลับ ตาเหล่ ตาเอียง ไม่มีแรงเดิน ซึ่งอาการเหล่านี้อาจจะเป็นสัญญาณของความผิดปกติทางระบบประสาทในสัตว์เลี้ยง
6 สัตว์เลี้ยงเดินวนไปวนมาในเวลากลางคืน เป็นอาการที่พบบ่อยว่าเกิดจากโรคสมองเสื่อมในสัตว์วัยชรา หรืออาจจะบ่งชี้ได้ว่ามีโรคทางสมองอยู่ จนทำให้วงจรการหลับมีปัญหา นอกจากนี้โรคเบาหวาน กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ลำไส้อักเสบ ก็อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ตื่นขึ้นมากลางดึกก็เป็นได้
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เป็นห่วงและต้องการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและมาดูแลสัตว์เลี้ยงในช่วงเวลาที่ไม่อยู่บ้านหรือไม่มีเวลาพาน้อง ๆ ไปเดินเล่น มักมองหาผู้ช่วยงานในส่วนนี้และก่อนที่จะเริ่มงานกันต้องมีข้อตกลงกัน เพื่อให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและผู้ว่าจ้างรู้สึกสบายใจกันทั้งสองฝ่าย

1. สอบถามประสบการณ์ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงทุกคนรู้ดีว่าการเลี้ยงสัตว์ แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันตามสายพันธุ์ ต้องมีความรู้ความเข้าใจเป็นพิเศษที่จะดูแลสัตว์นั้นๆ เพราะมีหน้าที่มากกว่าการให้อาหาร หรือ พาสัตว์เข้านอน การชวนสัตว์เลี้ยงเล่นหรือทำกิจกรรม หรือเคยดูแลสัตว์ชนิดไหน สายพันธุ์อะไรมาก่อน
2. ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะไม่ต้องตลอดทั้งวันหรือเป็นบางช่วงเวลา การพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น ไปทำกิจกรรมในเวลาเช้า หรือเวลาเย็น หรือต้องดูแลตลอดทั้งวันในช่วงที่เจ้าของต้องไปทำงาน
3. ค่าจ้างในการทำงานของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ขึ้นอยู่กับประเภทของสัตว์เลี้ยง หน้าที่ความรับผิดชอบ เช่น ต้องให้อาหารกี่ครั้ง ต้องพาไปเดินเล่นหรือไม่ ต้องทำความสะอาดด้วยหรือเปล่า และความยากง่ายในการดูแลตามชนิดและสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงนั้น ๆ
4. ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์ตัวหนึ่ง ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ ถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของตนเองให้คุณฟัง จากการพูดคุยในลักษณะนี้คุณสามารถวัดความรักที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว

จะดีหรือไม่ถ้ามีใครที่เชื่อถือได้พร้อมให้คำแนะนำและพร้อมทำตามข้อตกลง ด้วยใจรักต่อสัตว์เลี้ยงจากใจจริงที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงให้กับท่านทุกความกังวลก็จะหมดไป

ส่องจุดเด่นย่านยานนาวา

เขตยานนาวา เป็น 1 ใน 50 เขตของจังหวัดกรุงเทพมหานคร เมืองที่มีความโดดเด่นในหลายด้าน คำขวัญของเขตยานนาวา “สะพานสวย วัดงาม นามกระเดื่อง เรื่องอุตสาหกรรม” ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพใต้ ทำเลอยู่ใกล้ใจกลางเมืองอย่างสีลม-สาทร ยานนาวาส่วนใหญ่เป็นแหล่งการค้าและบริการ อีกทั้งยังเป็นแหล่งอาศัยอยู่ของผู้คนมากมาย เนื่องจากทำเลที่โอบล้อมไปด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งตอบโจทย์อย่างมากในการทำธุรกิจหรือเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย เขตยานนาวาแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 2 แขวง 1) แขวงช่องนนทรี มีพื้นที่ทั้งหมด 9.984 ตร.กม. มีประชากรอาศัยอยู่ในพื้นจำนวนที่พักอาศัยทั้งหมด 47,872 คน (ข้อมูลเดือนธันวาคม 2563) 2) แขวงบางโพงพาง มีพื้นที่รวม 6.678 ตร.กม.และมีจำนวนประชากรอาศัยอยู่ทั้งหมดรวม 4,296.50 คน (ข้อมูลเดือนธันวาคม 2563) เขตยานนาวาตอบโจทย์ด้านการเดินทางที่มีถนนหลากหลายสายที่สามารถลัดเลาะไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งต่าง ๆ อาทิ เช่น เซ็นทรัลพลาซ่าพระราม 3 แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ครบวงจรที่ตอบโจทย์นักช้อปเปอร์ทั้งหลาย อีกทั้งยังมีร้านอาหารมากมายให้สายกินได้ไปลิ้มรสกับอาหารหลากหลายสไตล์ และร้านอาหารชื่อดัง ต่าง ๆ มากมาย อีกหนึ่งสถานที่ดังย่านยานนาวาที่เป็นที่รู้จักของชุมชนคนเมืองย่านพระราม 3 นั่นก็คือ The Up Rama3 เป็นศูนย์การค้าชุมชนที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นแนวชิโนโปรตุกีสซึ่งจะเป็นอาคารสองชั้นกึ่งร้านค้ากึ่งที่อยู่อาศัย มีร้านอาหารให้เลือกมากมายหลายสไตล์ อาทิเช่น ร้าน Sushi Hiro Neo Suki Boon Tong Kee ข้าวมันไก่สิงคโปร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย



วิธีปฐมพยาบาลสัตว์เบื้องต้น

สำหรับมนุษย์รักสัตว์อย่างเรา ๆ ไม่ควรที่จะละเลยความรู้เบื้องต้นในการปฐมพยาบาลสัตว์เลี้ยงเมื่อสัตว์เลี้ยงของเราได้รับบาดเจ็บไม่ว่าจะด้วยอุบัติเหตุหรือโรคร้ายต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยงของเราได้ แน่นอนค่ะสำหรับคนเลี้ยงสัตว์มือใหม่หรือคนที่เลี้ยงสัตว์มานานอาจจะยังขาดความรู้ที่ถ่องแท้ในการดูแลสัตว์เลี้ยงเบื้องต้นเมื่อสัตว์เลี้ยงได้รับบาดเจ็บซึ่งอาจนำไปสู่อันตรายแก่สัตว์เลี้ยงได้ วันนี้ใส่ใจรวบรวมข้อมูลวิธีการดูแลสัตว์เลี้ยงเบื้องต้นหรือวิธีการปฐมพยาบาลสัตว์เลี้ยงเมื่อสัตว์เลี้ยงได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วย

ในกรณีที่สัตว์เลี้ยงเกิดอุบัติเหตุรถชน สิ่งแรกที่คุณควรทำคือการประเมินสถานการณ์ก่อน ไม่ควรรีบเร่งในการช่วยเหลือเพราะอาจทำให้สัตว์มีอาการตกใจได้ เพราะหากสัตว์เลี้ยงมีอาการตกใจ เจ็บปวด สัตว์มักจะพยายามหนีออกจากสถานการณ์ดังกล่าวได้ หรือบางครั้งเมื่อสัตว์เกิดอาการตกใจ พยายามที่จะหนี ทำให้สัตว์อาจแว้งมากัดผู้ที่กำลังจะช่วยเหลือได้ หากคุณได้ทำการประเมินสถานการณ์ดีแล้วจึงสามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ ในขั้นตอนแรกคุณจะต้องตรวจชีพจรของสัตว์ โดยเฉพาะการหายใจ การเต้นของหัวใจ หากสัตว์เลี้ยงที่คุณกำลังช่วยเหลืออยู่ไม่หายใจ ให้เริ่มด้วยการช่วยหายใจโดยใช้วิธีการผายปอด ปากคนสู่จมูกของสัตว์เลี้ยง เพราะหากสัตว์เลี้ยงของคุณขาดออกซิเจนนานเกินกว่า 3-5 นาที อาจทำให้สัตว์เสียชีวิตได้ อีกวิธีที่ช่วยให้สุนัขที่ขาดออกซิเจนและหัวใจหยุดเต้น คือการปั๊มหัวใจ โดยจะจับสุนัขนอนตะแคงขวาและคลำหาตำแหน่งของหัวใจ จากนั้นให้ทำการนวดหัวใจสลับกับการผายปอด ทำจนกว่าสุนัขหายใจหรือหัวใจเต้นได้เอง

ในกรณีที่สัตว์เลี้ยงโดนความร้อนและมีแผลไฟไหม้ สิ่งที่ควรทำคือ ควรนำสัตว์เลี้ยงออกจากบริเวณที่มีไฟลุกทันที และสังเกตอาหารสัตว์เลี้ยงว่ามีแผลหรือบาดเจ็บตรงไหน หากมีบริเวณที่โดนไฟ ให้ทำการประคบเย็นและนำไปพบแพทย์ทันที

ในกรณีที่สัตว์เลือดออก ไม่ว่าจะมาจากโดนสิ่งของมีคมบาด หรือเลือดออกจากภายใน เจ้าของควรรู้วิธีปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง เพราะหากมีเลือดออกมาก อาจทำให้เกิดอาการช็อคได้ สิ่งแรกที่ควรทำคือใส่ที่ครอบปากเพื่อเลี่ยงให้สัตว์เลี้ยงเลียแผลตัวเองจากนั้นทำการห้ามเลือดโดยใช้ผ้าก๊อซหรือผ้าสะอาดกดแผลป้องกันเลือดไหลประมาณ 5-10นาทีเพื่อให้เลือดแข็งตัว ให้สัตว์เลี้ยงนอนในด้านตรงข้ามของแผลเพื่อลดการไหลเวียนโลหิต ถ้าหากพบภาวะรุนแรง หรือมีเลือดออกมาก ควรนำไปพบแพทย์ทันที



รวมโรงพยาบาลรักษาสัตว์ในกรุงเทพ

หากใครที่กำลังมองหาโรงพยาบาลสัตว์ในกรุงเทพมหานคร ใส่ใจรวบรวมโรงพยาบาลสัตว์มาฝากทุกท่านค่ะ

โรงพยายาลสัตว์เล็กจุฬา

เปิดบริการ จันทร์-ศุกร์ ในเวลา 8.00-15.00 น. คลินิกนอกเวลา 17.00-20.00 น.

เสาร์-อาทิตย์ 8.30-11.00 น. คลินิกนอกเวลา 13.00-20.00 น.

วันหยุดนักขัตฤกษ์ 8.30-11.00 น. คลินิกนอกเวลา 13.00-20.00 น.

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อมีด้วยกัน 10 สาขา

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาพระราม9 (สาขาใหญ่) (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาสุขุมวิท

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขา สิรินธร-ปิ่นเกล้า (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาศรีนครินทร์ (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขารังสิต (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขารามอินทรา (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาประดิษฐ์มนูธรรม (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาติวานนท์ (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาพระราม2 (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาเพ็ทเวลเนสเซนเตอร์ Central Eastville

โรงพยาบาลสัตว์ สัตวแพทย์ 4

เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง

โรงพบาบาลสัตว์ตลิ่งชัน

เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง

โรงพยาบาลสัตว์ เจริญสุข

เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง

โรงพยาบาลสัตว์พญาไท ๗

เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง

โรงพยาบาลสัตว์โอะไดจินิ

เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง

โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์มีทั้งหมด 6 สาขา

โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สำนักงานใหญ่ (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขาบางบัวทอง (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขาปทุมธานี (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขาแคราย(Express) (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขาเกษตร-นวมินทร์(Extra) (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขา Pet Clinic (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์ ไอเว็ท

เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง

โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน

เวชศาสตร์ฉุกเฉินทุกวัน 24 ชั่วโมง