ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน เมืองสมุทรปราการ, สมุทรปราการ

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน เมืองสมุทรปราการ, สมุทรปราการ

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ภาษร ภูผา
ภาษร ภูผา
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

สัตวแพทย์แผนปัจจุบันมีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ถูกต้องตามกฎหมาย ประสบการณ์ทำงานทั้งทางด้านอายุกรรมและศัลยกรรมนาน 7 ปีมีทักษะพิเศษในด้านสัตวแพทย์ทางเลือกหลายแขนง ทั้งทางด้านการฝังเข็มกายภาพตามหลักสัตวแพทย์ศาสตร์จีน(ผ่านการอบรมจาก Chi University) และสมุนไพรไทย(กำลังศึกษาเภสัชกรรมไทย ร.ร.ภัทรเวชสยาม)สามารถสื่อสารได้ดีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (เคยอยู่อาศัยต่างประเทศ)ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมตัวศึกษาต่อ ยินดีให้ความช่วยเหลือสัตว์ป่วยที่มีข้อจำกัดในการออกนอกสถานที่ ทั้งในด้านการเก็บตัวอย่างเพื่อประกอบการรักษา ฝังไมโครชิพ ดำเนินการด้านสุขภาพต่างๆ การขนย้ายประสานงานการรักษากับสถานพยาบาลสัตว์ที่มีมาตรฐานใกล้เคียง จัดส่งชันสูตรซาก ฌาปนกิจตามหลักศาสนา ไปจนถึงงานจิตอาสาอื่นๆ

แสดงเพิ่มเติม
ณัฐณิชา ยงพฤกษา
ณัฐณิชา ยงพฤกษา
Saijai อายุ 40 ปี
ณัฎฐ์ชญานิศ ศรีสุขรัตนา
ณัฎฐ์ชญานิศ ศรีสุขรัตนา
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เคยเพาะพันธุ์สุนัขชิสุและพุดเดิ้ลขายทางออนไลน์ ให้มาซื้อที่บ้านคะ ทำคลอดสุนัขและเลี้ยงเขาตั้งแต่ออกจากท้องแม่ มาหลายคอกคะจนมีคนติดต่อมารับถึงบ้าน และเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไทยไว้เฝ้าบ้านหลายรุ่นคะ บางทีเวลาเพื่อนต้องการให้ไปปล่อยสุนัขที่บ้านเพื่อนออกจากกรงและพาให้เขาเดินวิ่งอึถ่าย ก็จะไปดูแลให้คะ(ตอนเพื่อนไปต่างจังหวัด)

แสดงเพิ่มเติม
อนุธิดา เทศกุล
อนุธิดา เทศกุล
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 24 ปี

เป็นคนรักสัตว์ และรักเด็ก ชอบความเป๋นส่วนตัว

แสดงเพิ่มเติม
พงศธร เฉยวิชิต
พงศธร เฉยวิชิต
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 33 ปี

เป็นคนใจเย็น รักสัตว์ เป็นมิตรกับสัตว์ มีสัตว์เลี้ยงที่เคยเลี้ยง เข่น กระรอก สุนัข กระต่าย

แสดงเพิ่มเติม
เทพทัต กะโปงทอง
เทพทัต กะโปงทอง
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 20 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ มีความอดทนอดกลั้น เคยเลี้ยงสัตว์

แสดงเพิ่มเติม
ปาวารีย์ จำปาศิริ
ปาวารีย์ จำปาศิริ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 27 ปี

750 ต่อวัน ปกติรับส่งสัตว์เลี้ยง หลายประเภท นิสัยแต่งต่างกัน พอมีวิธีรับมือตรงนี้อยู่บ้าง แล้วตัวเองก็เลี้ยงสัตว์หลายชนิดเช่น หมา แมว เม่นแคระ ชูก้าไรเดอร์ นก กระต่าย แพรี่ด็อก ตอนนี้บางตัวหมดอายุไขตามอายุของมัน เป็นคนใจเย็น ชอบพูดกับสัตว์ อยู่ด้วยได้ทั้งวัน มีดุบ้าง ทำตัวดีให้ขนม และมีรถจักรยานยนต์ใช้ในการเดินทาง รถยนต์ไปได้บ้างโอกาส

แสดงเพิ่มเติม
Khaimuk  Homberg
Khaimuk Homberg
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

รักสัตว์ค่ะ สามารถพาน้องๆไปเดินเล่นได้

คอยดูแล เก็บมูลได้ และรู้วิธีสังเกตุอาการป่วยของน้องค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ราคาไม่แพง มีการบอกรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆให้ด้วย ซึ่งตอนนี้ใช้บริการมา 4ครั้งแล้วครับ บริการดีทุกครั้งเลยครับ
Saijai
ศิลา ใจอารีย์
3 ปีที่แล้ว
น้องแมว 2 ตัว ไม่สามารถเดินทางไปกับครอบครัวเราได้ ลูกสาวจึงหาที่ดูแล เจอเว็บใส่ใจ ที่ฝากเลี้ยงอยู่ใกล้บ้าน จึงฝากใส่ใจให้ดูแล ห้องพักแยกออกมาเป็นสัดส่วน น้องมีของเล่น คลายเหงา
Saijai
วรากร พงศ์ศิริพัฒน์
3 ปีที่แล้ว
ชอบมากเลย บริการคือดีมาก ดูแลน้องหมาเราดี ปลื้มสุด
Saijai
อรอนงค์ วาร์ด
3 ปีที่แล้ว
เหตุผลที่เลือกใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยง เพราะว่าไม่มีเวลาดูแลน้องหมาน้องแมวที่บ้านเลยจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมาดูแลแทนเวลาเราไม่อยู่ อยากแนะนำสำหรับใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์ที่ราคาไม่สูง ผู้ให้บริการบนเว็บไซต์ใส่ใจเป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ
Saijai
มัจฉา รุ่งอนันต์
3 ปีที่แล้ว
เว็บใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ใช้ครั้งแรกชอบเลย ได้พี่เลี้ยงมาดูแลน้องแมวให้ถึงบ้าน สบายใจทาสแมวอย่างเราไปเลยค่ะ
Saijai
ณัฐฐา แก้วดี
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

การดูแลสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างไร
สัตว์เลี้ยง (Pets) หมายถึง สัตว์ที่คนเรานำมาดูแล ตั้งแต่ การให้อาหาร ที่อยู่ รักษายามเจ็บป่วย และ การผสมพันธุ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้งาน เป็นอาหาร หรือเป็นเพื่อน คนจึงมีความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงด้วยความรักและการเป็นมิตรต่อกัน ส่วนการเลี้ยงสัตว์ หมายถึง การบำรุงสัตว์เลี้ยงให้เจริญเติบโต ด้วยการให้ความรัก ให้อาหาร ให้ที่อยู่ และรักษายามเจ็บป่วย ด้วยกันนั้นสัตว์แต่ละชนิดมีพฤติกรรมและสภาพความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน การดูแลสัตว์เลี้ยงที่เหมาะทำให้สัตว์ที่เราเลี้ยงมีความสุข เติบโต และใช้ชีวิตไปตามธรรมชาติของสัตว์เลี้ยง จึงสำคัญ เพราะสัตว์เลี้ยงก็มีชีวิต มีหัวใจ และสิ่งที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคนสามารถสัมผัสได้ คือ ความรักที่แท้จริงที่เราได้จากสัตว์เลี้ยง เราจะมีความสำคัญสำหรับพวกเขาเสมอ

ดังนั้นเราและสัตว์เลี้ยงเลยมีคุณค่าทางจิตใจซึ่งกันและกัน ในปัจจุบันสัตว์เลี้ยงที่เป็นที่นิยมอย่างมาก ได้แก่ สุนัข แมว และปลา บางคนเลี้ยงสัตว์โดยไม่ได้คำถึงประโยชน์ของการเลี้ยงสัตว์มากนัก เพราะคิดว่าการเลี้ยงสัตว์ทำให้เรามีความสุขเพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วการเลี้ยงสัตว์นั้นมีประโยชน์มากมายหลายข้อเลย มาดูกันค่ะ

1. การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงช่วยลดความเครียดได้
2. ช่วยลดปัญหาด้านจิตใจห่อเหี่ยวสำหรับผู้สูงอายุ
3. ช่วยทำให้มีจิตใจที่โอบอ้อมอารี
4. การเลี้ยงสุนัขทำให้เจ้าของนั้นได้ออกกำลังกายมากขึ้นเนื่องจากเจ้าของหมั่นต้องพาน้องหมาไปเดินออกกำลังกายเป็นประจำ
5. ช่วยลดค่าความดันโลหิตสูง มีผลวิจัยมาว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นช่วยลดความเครียด คอเลสเตอรอลต่ำ และความดันโลหิตลดลงอีกด้วย
ทักษะที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี
การดูแลสัตว์เปรียบเสมือนการดูแลบุคคลในครอบครัว เมื่อตัดสินใจรับมาเลี้ยงแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต แต่หากเรามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือมีภาระอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ และไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงของเราได้ในบางตรั้ง และจำเป็นต้องหาคนมาดูแลสัตว์เลี้ยงชั่วคราว หรือที่เรียกว่าพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง

พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้

• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
สัญญานที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยมีอะไรบ้าง
สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยง การสังเกตพฤติกรรมในแต่ละวันของสัตว์เป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะหลายๆครั้งกว่าที่เราจะรู้ว่าสัตว์เลี้ยงที่เรารักมีอาการป่วยก็ต่อเมื่อพวกเขามีอาการหนักแล้ว ใส่ใจอยากแบ่งปันความรู้กันและวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เหมือนเป็นสัญญาณอันตรายที่เราไม่ควรมองข้าม เพื่อให้เราได้สังเกตและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่เรารักได้ทันเวลา

1. พบอาการป่วย หรือพบความผิดปกติอื่นๆที่สังเกตได้ เช่น มีขี้ตาเกรอะกรัง ตาแดง มีน้ำมูก หายใจติดขัด ขนร่วงเป็นหย่อมๆ มีสะเก็ดหรือมีกลิ่นตัวแรง เดินกะเผลก อาเจียน ถ่ายเหลว น้ำหนักลดลงในเวลาอันรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งกินน้ำมากกว่าปกติ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเรากำลังป่วยก็เป็นได้
2. มีพฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุด หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้งๆ ที่นิสัยเดิมกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจสุขภาพ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอกอื่นๆ เช่น วัยที่เปลี่ยนไป เปลี่ยนอาหารใหม่ อากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล หรือมีสิ่งมากวนใจที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงตัวน้อยกินได้ลดลง
3. มีอาการซึมไม่ร่าเริง นอนมากผิดปกติ เวลาเจ้าของเรียกจะไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่มาหาเหมือนเคย เช่นสุนัขมีอาการ หาวบ่อย หากสุนัขดูอ่อนเพลีย ง่วง อยากพักผ่อน เกิดอาการหาวบ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าน้องหมากำลังเครียด เบื่อ หรือกระวนกระวายใจ แต่หากเป็นสัตว์เลี้ยงที่อายุมากแล้ว อาจจะร่าเริงน้อยลง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้อาการซึมอาจเกิดมาจากอาการเหงา ซึมเศร้า ซึ่งนับเป็นอาการป่วยทางใจ อันอาจเป็นผลมาจากเจ้าของไม่ค่อยมีเวลาให้ก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อเรามีสัตว์เลี้ยงแล้ว การมีเวลาการเอาใจใส่ การได้สัมผัสก็ช่วยป้องกันและรักษาอาการป่วยทางใจได้
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เป็นห่วงและต้องการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและมาดูแลสัตว์เลี้ยงในช่วงเวลาที่ไม่อยู่บ้านหรือไม่มีเวลาพาน้อง ๆ ไปเดินเล่น มักมองหาผู้ช่วยงานในส่วนนี้และก่อนที่จะเริ่มงานกันต้องมีข้อตกลงกัน เพื่อให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและผู้ว่าจ้างรู้สึกสบายใจกันทั้งสองฝ่าย

1. สอบถามประสบการณ์ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงทุกคนรู้ดีว่าการเลี้ยงสัตว์ แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันตามสายพันธุ์ ต้องมีความรู้ความเข้าใจเป็นพิเศษที่จะดูแลสัตว์นั้นๆ เพราะมีหน้าที่มากกว่าการให้อาหาร หรือ พาสัตว์เข้านอน การชวนสัตว์เลี้ยงเล่นหรือทำกิจกรรม หรือเคยดูแลสัตว์ชนิดไหน สายพันธุ์อะไรมาก่อน
2. ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะไม่ต้องตลอดทั้งวันหรือเป็นบางช่วงเวลา การพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น ไปทำกิจกรรมในเวลาเช้า หรือเวลาเย็น หรือต้องดูแลตลอดทั้งวันในช่วงที่เจ้าของต้องไปทำงาน
3. ค่าจ้างในการทำงานของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ขึ้นอยู่กับประเภทของสัตว์เลี้ยง หน้าที่ความรับผิดชอบ เช่น ต้องให้อาหารกี่ครั้ง ต้องพาไปเดินเล่นหรือไม่ ต้องทำความสะอาดด้วยหรือเปล่า และความยากง่ายในการดูแลตามชนิดและสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงนั้น ๆ
4. ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์ตัวหนึ่ง ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ ถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของตนเองให้คุณฟัง จากการพูดคุยในลักษณะนี้คุณสามารถวัดความรักที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว

จะดีหรือไม่ถ้ามีใครที่เชื่อถือได้พร้อมให้คำแนะนำและพร้อมทำตามข้อตกลง ด้วยใจรักต่อสัตว์เลี้ยงจากใจจริงที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงให้กับท่านทุกความกังวลก็จะหมดไป

โรคพิษสุนัขบ้า โรคร้ายที่คนเลี้ยงสุนัขต้องระวัง

<โรคพิษสุนัขบ้า หรือบางคนเรียกว่า “โรคกลัวน้ำ” หรือ “โรคหมาว้อ” ในภาษาอีสาน เกิดจากเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้า (Rabies Virus) มีรูปร่างคล้ายกระสุนปืน เป็นโรคติดต่อจากสัตว์เลือดอุ่นโดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ไม่ใช่เฉพาะสุนัข แต่ยังสามารถเกิดในแมว ลิง ชะนี ค้างคาว ม้า หรือสุกรได้ เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายสัตว์หรือคน เชื้อจะเดินทางไปตามเส้นประสาทสู่สมอง เมื่อเกิดอาการขึ้นแล้วจะไม่สามารถรักษาให้หายได้และเสียชีวิตทุกราย

การติดต่อของโรคพิษสุนัขบ้า เกิดจากน้ำลายสุนัขที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้า โดยเชื้อจะถูกขับออกมาในน้ำลายของสุนัข ในช่วงระยะ 3 วันแรกที่สุนัขมีอาการของโรค เชื้อไวรัสตัวนี้จะถูกขับออกมาเรื่อย ๆ ทางน้ำลายจนกระทั่งสุนัขตาย เมื่อสุนัขถูกสุนัขหรือสัตว์ที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้ากัด เชื้อที่อยู่น้ำลายจะเข้าสู่ร่างกายผ่านเส้นประสาทส่วนปลาย ไขสันหลัง และเข้าสู่สมอง เกิดการแบ่งตัวและปล่อยเชื้อไวรัสไปตามประสาทที่ไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ทั้งร่างกาย พิษสุนัขบ้าจะเพิ่มจำนวนเซลล์ของต่อมน้ำลายในช่วงที่สัตว์เริ่มแสดงอาการออกมา

เจ้าของสุนัขหรือผู้ดูแลสุนัขสามารถสังเกตอาการได้ดังนี้

ระยะฟักตัวของโรคจะอยู่ราว 14-90 วัน หรืออาจนานกว่านั้น แต่ไม่เกิน 6 เดือน แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ

ระยะเริ่มแรก มีอาการประมาณ 2-3 วัน สังเกตได้จากอารมณ์และอุปนิสัยใจคอของสุนัขที่เปลี่ยนไป มีอารมณ์หงุดหงิด อุณหภูมิของร่างกายขึ้นสูงกว่าปกติเล็กน้อย ม่านตาขยายโตและมีการตอบสนองต่อแสงลดลง กินข้าวกินน้ำน้อยลง

ระยะตื่นเต้น สุนัขจะเริ่มมีอาการทางประสาท กระวนกระวาย อาจงับหรือกัดสิ่งของที่ขวางหน้า เริ่มออกวิ่งแบบไร้จุดหมาย เสียงเห่าหอนเปลี่ยนไป ตัวแข็ง ลิ้นมีสีแดงและลิ้นห้อย น้ำลายไหลเนื่องจากเกิดอาการอัมพาตของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการเคี้ยวและกลืน กลัวน้ำ สุนัขจะแสดงอาการในระยะประมาณ 1-7 วัน

ระยะอัมพาต เป็นระยะที่สั้นที่สุด สุนัขจะเริ่มขาอ่อน ทรงตัวไม่ได้ ล้มแล้วลุกไม่ได้ เกิดอัมพาตขึ้นทั้งตัวอย่างรวดเร็ว มีภาวะหัวใจล้มเหลว โคม่า และตายในที่สุด

อาการของสัตว์แต่ละตัวจะแตกต่างกันไป แบ่งเป็น 2 แบบ คือ แบบดุร้าย (furious form) และแบบซึม (dumb or paralytic form) โดยทั่วไปสุนัขที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้ามักจะแสดงอาการแบบดุร้ายซึ่งอยู่ในระยะตื่นเต้นมากกว่าแสดงอาการแบบซึมที่อยู่ในระยะอัมพาต

ปัจจุบันโรคพิษสุนัขบ้ายังไม่มียารักษาโดยตรง แต่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ดังนั้น เพื่อเป็นการควบคุมการเกิดโรคพิษสุนัขบ้า เจ้าของสุนัขจึงควรพาสุนัขไปฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าตามกำหนด และฉีดซ้ำทุกปี รวมถึงไม่ปล่อยสัตว์เลี้ยงไปตามที่สาธารณะ หากพาสุนัขออกนอกบ้านควรใส่สายจูงเสมอ และไม่ควรนำสัตว์ป่ามาเลี้ยง



2 สวนสาธารณะในเมืองสมุทรปราการน่าไปออกกำลังกาย

คนรักสุขภาพส่วนใหญ่ที่ชอบออกกำลังกายกลางแจ้ง มักจะเลือกไปออกกำลังกายตามสวนสาธารณะใกล้บ้าน เพราะนอกจากจะได้ออกกำลังกายในสวน อากาศดี ปลอดโปร่ง มีลมพัดเย็นสบายแล้วยังได้มีโอกาสทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ หรือพบปะพูดคุยกับคนที่รักสุขภาพเช่นเดียวกัน

จังหวัดสมุทรปราการมีสวนสาธารณะใหญ่ๆที่เหมาะกับการออกกำลังกายอยู่เกือบทุกอำเภอ สำหรับในเขตอำเภอเมืองสมุทรปราการ มีสวนสาธารณะ 2 แห่ง ที่อยากจะแนะนำ ได้แก่

สวนสาธารณะเทศบาลเมืองแพรกษา ตั้งอยู่ตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ เปิดช่วงเช้า 05:00 – 07:00 น. และช่วงเย็น 16:00 – 19:00 น. มีที่จอดรถสะดวกสบาย สามารถเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจ เดิน วิ่ง ปั่นจักรยานได้ ภายในมีลานกว้าง ใช้เป็นลานเต้นแอโรบิค มีเครื่องกำลังกาย มีสนามเล่นฟุตซอล แบดมินตัน ลานตะกร้อ มีทางสำหรับเดินวิ่งโดยเฉพาะ (เลนสีฟ้า 1 รอบ ระยะทางราว 300-400 เมตร) อีกทั้งมีสระน้ำเลี้ยงเต่า มีที่นั่งเป็นขั้นบันไดริมอ่าง และจุดให้อาหารเต่า นอกจากนี้ยังมีสนามเด็กเล่นขนาดเล็กพร้อมเครื่องเล่นให้เด็กๆได้มาเล่นและออกกำลังกายไปพร้อมกับผู้ปกครองด้วย ห้องน้ำมีให้บริการ โดยแยกชาย-หญิง และผู้พิการ

สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ (บางปู) ตั้งอยู่ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ สวนสาธารณะแห่งนี้สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ภายในสวนมีการปลูกต้นไม้ไว้รอบด้าน โดยเฉพาะต้นรวงผึ้ง ทำให้มีบรรยากาศร่มรื่น มีสระน้ำ ทำให้ได้ไอความเย็นของน้ำ พร้อมลานจัดกิจกรรมและเครื่องออกกำลังกาย สวนสาธารณะแห่งนี้เพิ่งเปิดได้ไม่นาน แต่ได้รับความร่วมไม้ร่วมมืออย่างดีจากประชาชนที่เข้าไปใช้บริการ ไปออกกำลังกายช่วยกันดูแลรักษาความสะอาด ทำให้เป็นอีกที่ที่น่าสนใจสำหรับคนรักสุขภาพ



เมืองสมุทรปราการ คาเฟ่ไหน น้องหมาเข้าได้บ้าง

เหล่าทาสหมาเวลาจะพาเจ้านายไปเที่ยวที่ไหนแต่ละครั้งต้องหาข้อมูลกันอย่างดี เพราะไม่ใช่ทุกที่จะอนุญาตให้เจ้านายสี่ขาของเราเข้าไปกับเราได้ สถานที่ท่องเที่ยวหลายที่ในเมืองสมุทรปราการอนุญาตให้นำสุนัขเข้าไปได้ แต่เจ้าของจะต้องดูแลรักษาความสะอาดเรื่องการขับถ่ายของสุนัข รวมถึงใส่สายจูงหรือให้สุนัขอยู่ในรถเข็นตลอดเวลา ไม่ปล่อยสุนัขไปรบกวนผู้อื่น วันนี้เรามีคาเฟ่น่ารักๆที่ยินดีต้อนรับสุนัขตัวโปรดของเรามาแนะนำ

เริ่มที่ Sanctuary Café & Restaurant คาเฟ่ที่นี่ร่มรื่นมาก เป็นลักษณะเหมือนบ้านพัก 2 ชั้น และ ชั้นเดียวในสวน ให้บรรยากาศคล้ายกับการนั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่มอยู่ในสวนของบ้าน มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มขาย ที่นี่อนุญาตให้นำสุนัขเข้าไปได้ แต่จำกัดเฉพาะโซนด้านนอกเท่านั้น ไม่สามารถนำสุนัขเข้าไปในโซนห้องแอร์ได้ โซนด้านนอกจะมีต้นไม้ร่มรื่น มีสนามหญ้าเล็กให้สุนัขได้รู้สึกผ่อนคลาย ข้างๆร้านมีที่จอดรถ ไม่เก็บค่าบริการ Sanctuary Café & Restaurant ตั้งอยู่ถนนสุขุมวิท ซอย 29 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองสมุทรปราการ

Play Farm Restaurant ที่นี่เป็นฟาร์มและร้านอาหาร ตั้งอยู่ริมน้ำ บรรยากาศดี มีเป็ด ห่าน ว่ายน้ำอยู่บริเวณริมคลอง นอกจากนี้ที่นี่ยังเลี้ยงกระต่าย และนกกระจอกเทศด้วย ซึ่งสามารถถ่ายรูปกับสัตว์ในฟาร์มได้ แน่นอนว่าร้านนี้ยินดีต้อนรับสุนัข แต่เจ้าของต้องดูแลการขับถ่ายของสุนัข และสามารถควบคุมสุนัขของตนเองไม่ให้ไปรบกวนผู้อื่นได้ Play Farm Restaurant ตั้งอยู่ที่ 882 ซอยเทวา 3 ถนนเทพารักษ์ ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ เปิดทุกวัน เวลา 15:30 – 24:00 น.

The Art Of Food ร้านตกแต่งสวยงามทันสมัย ผนังแบบปูนเปือยเท่ๆ บรรยากาศสบายๆ มีทั้งโซนด้านในและด้านนอก เหมาะกับการมานั่งดื่มนั่งทานอาหาร ร้านนี้อนุญาตให้สุนัขเข้าได้เฉพาะโซนด้านนอกเท่านั้นนะคะ The Art Of Food ตั้งอยู่ที่ ซอยแบริ่ง 31 ถนนศรีนครินทร์ ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11:00 – 23:00 น.

Begin Café เป็นคาเฟ่เล็กๆ บรรยากาศสบายๆ เน้นเครื่องดื่มและของหวาน เช่น Begin Waffle ที่ทำร้อนๆจากเตา ที่นี่มีโต๊ะหน้าร้านเป็นโซนสำหรับสุนัข ห้ามนำสุนัขเข้าด้านในห้องแอร์ค่ะ Begin Café ตั้งอยู่ที่ 1010/12 หมู่ 3 ถนนเทพารักษ์ อำเภอเมืองสมุทรปราการ เปิดทุกวัน เวลา 08:00 – 19:00 น.

มีลิสต์คาเฟ่น่ารักๆ ที่ยินดีต้อนรับเจ้านายสี่ขาของเราแล้ว อย่าลืมพาเจ้านายไปลองนั่งคาเฟ่ แล้วถ่ายรูปเก๋ๆ นะคะ