ดูแลเด็ก ใน เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต

ดูแลเด็ก ใน เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Thanraphat  Lerteakkul
Thanraphat Lerteakkul
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

สวัสดีค่ะ ภัสร์นะคะ นิสัยส่วนตัวเป็นคนอ่อนโยน ใจเย็น รักเด็ก รักความสะอาด ละเอียด รอบคอบ สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคติดต่อค่าาา Hello !! I'm Phat. You can count on me, I'll make your baby happy.

แสดงเพิ่มเติม
ภัทรวรรณ กลิ่นเพ็ชร
ภัทรวรรณ กลิ่นเพ็ชร
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

สวัสดีค่ะ ดิฉันขื่อนางสาวภัทรวรรณ กลิ่นเพ็ชร อายุ 23 ปี ค่ะ มีประสบการณ์ในการเป็นพี่เลี้ยงติวเตอร์ให้แก่เด็ก 3,4 และ 9 ปีระยะเวลาในการทำงานเกือบจะ 2 ปีค่ะ โดยหน้าที่หลักๆแล้วจะช่วยซัพพอร์ทน้องๆในเรื่องการเรียนและทำกิจกรรมเสริมสร้างพัฒนาการร่วมกับน้อง ไม่ว่าจะเป็น สอนการบ้านและมารยาททางสังคม วาดรูป ประดิษฐ์ ฝึกกล้ามเนื้อมือ และพาน้องออกไปทำกิจกรรมเรียนรู้ข้างนอกบ้าน เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องการดูแลความปลอดภัย เตรียมอาหาร เก็บของเล่น และพาอาบน้ำอีกด้วยค่ะ โดยนิสัยส่วนตัวของดิฉันนั้น เป็นคนใจเย็น สดใสร่าเริง ตรงต่อเวลา และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ตัวเองสูงค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Areeya Dumluck
Areeya Dumluck
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี

มีประสบการณ์ในการดุแลเด็ก และสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีค่ะ เป็นคนใจเย็น พูดเพราะ เล่านิทานเก่ง

แสดงเพิ่มเติม
Soraya Promjit
Soraya Promjit
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

ดิฉันเคยเป็นพนักงานโรงแรมตำแหน่งแม่บ้านอายุงาน8-9ปีและรับจ็อบเลี้ยงเด็กในโรงแรมด้วยมีใบเซอร์ผ่านการอบรมเลี้ยงเด็ก มีลูกหนึ่งคน อัธยาศัยดี เข้ากับคนได้ดี รักเด็กไม่เกี่ยงงาน

แสดงเพิ่มเติม
อาภาพร  เรืองสูง
อาภาพร เรืองสูง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ชอบอยู่กับเด็กค่ะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวค่ะการที่เราใช้ชีวตกับเด็กๆๆๆเห็นรอยยิ้มเขามันคือความสุขของเรามันทำให้เรานึกถึงลูกขอวเราว่าพ่อแม่ฝากลูกเขาไว้กับเราเขาก็ต้องหวังว่าเราสามารถดูแลลูกเขาได้เหมือนทีเราก็รักลูกขอเราเหมือนกันค่ะ ใส่ใจเด็ก เป็นคนใจเย็นชอบคุยกับเด็กเป็นคนรักเด็กค่ะ และคนคนที่ตั้งใจกับงานมากค่ะไม่ว่างานอะไรถึงจะอายุยังน้อยแต่เป็นคนตั้งใจทำงานที่เขามอบหมายให้ทำค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ภรณ์กรานต์ วิจิตร
ภรณ์กรานต์ วิจิตร
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

เป็นคนมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายและตั้งใจทำงานเป็นอย่างดีค่ะ สื่อสารภาษอังกฤษได้ดี มีใจรักงานบริการค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ชัญญารัตน์ บิลยะโฮร์
ชัญญารัตน์ บิลยะโฮร์
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนใจเย็น สามารถดูแลเด็กได้เป็นอย่างดี มีประสบการณ์การดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิด-10 ขวบ สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี

แสดงเพิ่มเติม
พุทธชาติ วงษ์กำแหง
พุทธชาติ วงษ์กำแหง
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 47 ปี

เป็นคนรักเด็กและป็นคนอารมณ์ดี ใจเย็น พูดเพราะค่ะ สามารถสอนการบ้าน เล่านิทานเด็กได้ พูดภาษาอังกฤษได้ดี ทำอาหารอร่อยด้วย

แสดงเพิ่มเติม
 พัชรีย์  สุยบางดำ
พัชรีย์ สุยบางดำ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นคนรักเด็ก มีประสบการณ์ดูแลเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
วรัญญู บุญยัง
วรัญญู บุญยัง

มีประสบการณ์เลี้ยงเด็กมาบ้างค่ะ ปิดเทอมซัมเมอร์เลยอยากออกหาประสบการณ์เพราะโดยส่วนตัวรักเด็กค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง คณะภาษาจีนธุรกิจ อังกฤษ-จีน สมามารถฟังพูดอ่านเขียนได้ค่ะ

I have some Au pair experience. I want to gain more my Au pair experience in summer and personally I love children. Now I’m studying at Mae Fah Luang university in major of Business Chinese. In my English and Chinese language skills, able to listen, speak, read and write.

我有一些互惠生的经验。 我想在夏天获得更多我的互惠生经验,我个人喜欢孩子。 现在我在Mae Fah Luang大学学习商务中文专业。 在我的英语和汉语能力方面,能够听、说、读、写。

แสดงเพิ่มเติม
Rohanee  Samandee
Rohanee Samandee
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์ด้านการดูแลเด็ก​ทั้งดลางวันและกลางคืน​ ผ่านงานด้านโรงแรมและบริหารมากกว่า​ 7ปี​ ดูแลลูกแขกทั้งเด็กไทยและต่างชาติ​ เคยเป็นหัวหน้าแผนก Kid's Club และนำกิจกรรมเด็ก ๆ​ มีลูกชายหนึ่งคน​

แสดงเพิ่มเติม
เกศรินทร์ ทองสง
เกศรินทร์ ทองสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

จบ Na ด้านดูเเลผู้สูงอายุเเละเด็ก ประสบการณ์ทำงาน ด้านผู้ช่วยแพทย์ศัลยกรรม มา 4ปี เข้าเคสผ่าตัด นวดหน้า สปาหน้า ปลูกผม ด้านดูแลผู้สูงอายุ 2 ปี ด้านดูเเลเด็ก เนอสเซอรรี่ 1 ปี

แสดงเพิ่มเติม
ดายานา มนูญ
ดายานา มนูญ
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 22 ปี

เป็นคนใจเย็น พูดเพราะ มีน้องผู้หญิงอายุ 5 ขวบ ช่วยแม่ดูแลน้องมาตลอดค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Arpasiri Salika
Arpasiri Salika
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 47 ปี

สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีค่ะ ภาษาจีนกลางพอใช้ เป็นคนใจเย็น รักเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
Chantana Srichoo
Chantana Srichoo
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

จบปริญญาตรี ครุศาสตร์บัณฑิต เอกคอมพิวเตอร์

มีประสบการณ์การเลี้ยงเด็ก มีลูก 3 คน เลี้ยงลูกเอง

สามารถ ฟัง พูด อ่านเขียน ภาษาอังกฤษได้ดี

เคยทำงานโรงแรมแผนกกีฬาและสันทนาการ อยู่ห้องเด็ก นำเด็กทำกิจกรรมต่างๆ เคยทำงานโรงเรียนนานาชาติ เป็นผู้ช่วยครูบรรณารักษ์ ดูแลเด็กและอ่านนิทานให้เด็กฟัง ผ่านการอบรมการดูแลเด็ก และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เป็นคนคล่องแคว่ง ว่องไว รักษาความสะอาด

แสดงเพิ่มเติม
สวรรยา ศรีรัตน์
สวรรยา ศรีรัตน์

สวัสดีค่ะ ดิฉันมีชื่อเล่นว่าจ๋า อายุ 21 ปีค่ะ อยากหารายได้พิเศษระหว่างเรียนค่ะ นิสัยส่วนตัวเป็นคนรักเด็กค่ะ แต่ยังไม่มีประสบการณ์ในการรับเลี้ยงเด็กค่ะ เป็นคนสนุกสนาน ร่าเริง ชอบทำกิจกรรมค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค้าา ประสบการณ์การทำของดิฉัน จะเกี่ยวข้องกับงานพาร์ทไทม์เป็นส่วนใหญ่ค่ะ เช่น เสิร์ฟในโรงแรมหรือร้านอาหาร ขับรถรับ-ส่งแขกในสนามกอล์ฟ และเป็นผู้ช่วยไกด์ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
พิณทิพย์ เลือกผล
พิณทิพย์ เลือกผล
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Apichaya Polnakarn
Apichaya Polnakarn
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์ดูแลเด็ก สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี สามารถสอนหรือทำกิจกรรมเสริมสร้างพัฒนาการ ชอบดูและเด็ก สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้

แสดงเพิ่มเติม
Ailada Srirat
Ailada Srirat
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์ดูแลเด็กเล็ก เด็กโต ใจเย็น สื่อสารภาษาอังกฤษได้ ในเขตพื้นที่ ตำบลสาคู ไม้ขาว เชิงทะเล

แสดงเพิ่มเติม
Sureerut  Plukmaidee
Sureerut Plukmaidee
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์ดูแลเด็กมา 10 ปี แล้วค่ะ เป็นคนใจเย็น รักเด็ก รักความสะอาด ชอบออกกำลังกาย สุขภาพแข็งแรง

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
3 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถว สุขุมวิท71 ลองใช้เว็บใส่ใจครั้งแรก เพราะเพื่อนๆ แนะนำมา อยากได้พี่เลี้ยงเด็ก มองหามาหลายที่ ที่นี่รายละเอียดครบ ราคาชัดเจน โทรปรึกษาพนักงานก็อธิบายเข้าใจง่ายมาก สะดวกสบาย ง่ายกว่า search หาเองใน Google ชอบมากๆ ค่ะ
Saijai
นงคราญ แซ่ตั้ง
4 ปีที่แล้ว
เราทำงานนอกบ้าน เลยหาพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลน้องที่บ้าน ค้นหาข้อมูลดูเวปนี้ให้รายละเอียดพี่เลี้ยงน่าสนใจ ราคาเรารับได้ เราเลยให้น้องมาทดลองงานก่อนเราไปทำงาน น้องมีประสบการณ์มา เลยปรับตัวไม่ยาก เวลาเราอยู่น้องจะช่วยหยิบจับของทำโน่นทำนี่ไป ประทับใจคะ สองเดือนแล้วน้องทำงานดี มีระเบียบเรียบร้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เราไว้ใจให้น้องคนนี้ดูแล
Saijai
แม่น้องกัญ
4 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
4 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว ใส่ใจขอแนะนำให้คุณพ่อคุณมองหาคุณสมบัติและทักษะเหล่านี้ในตัวพี่เลี้ยงเด็กเพื่อให้ได้คนที่ตรงใจที่สุดค่ะ

1. ความอดทน พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเข้าใจในธรรมชาติและอดทนต่อพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนที่แตกต่างกัน
2. ทักษะการต่อรอง พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเทคนิคในการเจรจาสื่อสารเพื่อโน้มน้าวให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับ
3. ทักษะแก้ปัญหา พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความสามารถในการจัดการและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ต้องรายงานคุณพ่อคุณแม่หากไม่ใช่เรื่องร้ายแรง
4. ความคิดสร้างสรรค์ พี่เลี้ยงเด็กควรมีความคิดสร้างสรรค์ หากิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็กในแต่ละช่วงวัยเพื่อให้เด็กได้เล่นเพลิดเพลินและฝึกช่วยเหลือตัวเอง
5. ตรงต่อเวลา พี่เลี้ยงเด็กต้องเป็นคนที่ตรงต่อเวลาและมีความรับผิดชอบในงานของตัวเอง คือต้องมาทำงานและเลิกงานตามเวลาที่ตกลงไว้กับคุณพ่อคุณแม่ หากมีเหตุสุดวิสัยทำให้มาสายควรแจ้งให้คุณพ่อคุณแม่ทราบโดยเร็วที่สุด
6. สุขภาพดี พี่เลี้ยงต้องเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงและดูแลตัวเองทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมให้สะอาดอยู่เสมอ
7. วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที
อะไรที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูก ๆ ของคุณ ความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจ คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการใดบ้างที่จะหาพี่เลี้ยงที่วางใจได้ ใส่ใจมีวิธีการที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น

1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
ข้อตกลงสำคัญที่พ่อแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
สัญญาหรือข้อตกลงในการทำงานเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กต้องตกลงร่วมกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในขอบเขตการทำงานและค่าตอบแทน การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป แต่การร่างหรือการบันทึกรายการช่วยให้ทั้งสองฝ่ายจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น มีอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กควรตกลงกันก่อนเริ่มงาน

1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

เมืองภูเก็ต รอยต่อของอุตสาหกรรม

บนเนื้อที่ 224 ตารางกิโลเมตร ทางด้านทิศตะวันออกของจังหวัดภูเก็ต มีประชากร ที่ขึ้นทะเบียนอาศัยอยู่ในเขตอำเภอเมืองประมาณ 2 แสน 5 หมื่นคน แต่เนื่องด้วยภูเก็ตเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จึงทำให้มีแรงงานหลั่งไหลเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่องทั้งคนไทย และแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้จำนวนประชากรจะแตกต่างกันไปตามขนาดของเศรษฐกิจบนเกาะภูเก็ต

ภูเก็ต ได้ชื่อว่าเป็น ดินแดนแห่งไข่มุกอันดามัน เคยเป็นดินแดนที่รุ่งโรจน์และมีความมั่งคั่งจากการทำเหมืองแร่ดีบุก ภูเก็ตมีแร่ดีบุกมากที่สุดในประเทศไทย มั่งคั่ง มีทั้งนายทุนที่เป็นคนไทยเอง ชาวจีน ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจที่นี่ ซึ่งการขุดแร่ดีบุกที่ภูเก็ต มีประวัติความเป็นมากว่า 500 ปีมาแล้ว จนวันหนึ่งธุรกิจเหมืองแร่ค่อยๆ ซบเซาลงตามความต้องการของตลาด และ อุตสาหกรรมใหม่ ก็เข้ามานั่นคืออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่ทำให้เมื่อเรานึกถึงภูเก็ตเชื่อว่าทุกๆ คนจะนึกถึงภาพชายหาดสวยงาม หาดทรายสวยงาม หรือ สถานบันเทิงที่เต็มไปด้วยชาวต่างชาติที่ มาท่องเที่ยวพักผ่อนประจำปี นอกเหนือจากนั้นล่องลอยความเจริญในยุคเหมืองแร่ก็ยังคงอยู่ ณ ใจกลางเมืองภูเก็ต ที่ที่เคยเป็น ศูนย์กลางการค้าขายแร่ดีบุก อาคารบ้านพักของผู้ที่เข้ามาทำเหมืองแร่ ไปจนถึง สถานที่ศูนย์ราชการที่ได้จัดวางไว้เป็นอย่างดี ปัจจุบันถ้าหากเราอยากสัมผัสชีวิตเมื่อครั้งเหมืองแร่ยังรุ่งเรืองเราสามารถ เดินดูได้ ณ ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ลักษณะของสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีสคือการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมยุโรปและศิลปะจีน กล่าวคือ “สถาปัตยกรรมแบบอาณานิคม” หรือ “อาคารแบบโคโลเนียล” (Colonial Style) ถ้าเป็นอาคารสองชั้นกึ่งร้านค้ากึ่งที่อยู่อาศัย (shop-house or semi-residential) จะมีด้านหน้าอาคารที่ชั้นล่างมีช่องโค้ง (arch) ต่อเนื่องกันเป็นอาคารห้องแถวยาวติดต่อกันตลอดสองข้างทาง บนถนนกลางเมืองภูเก็ต เช่น ถนนถลาง ถนนดีบุก เพื่อให้เกิดการเดินเท้า ที่ภาษาไทยเรียกทับศัพท์ว่า “อาเขต” (arcade) หรือที่ภาษาจีนฮกเกี้ยนเรียกว่า “หง่อคาขี่” ซึ่งมีความหมายว่า ทางเดินกว้างห้าฟุต อีกเหตุผลหนึ่งที่จำเป็นต้องมีอาเขต ตลอดทางเดิน เพราะภูเก็ตเป็นเมืองที่มีปริมาณฝนตกมากจึงต้องทำทางเดินที่มีหลังคา นอกจากอาเขตที่เป็นเอกลักษณ์ของอาคารแบบนี้แล้ว อาคารแบบโคโลเนียลยังมีการนำลวดลายศิลปะตะวันตกแบบกรีกโรมันหรือเรียกว่า “สมัยคลาสสิก” เช่น หน้าต่างวงโค้งเกือกม้า หรือหัวเสาแบบโยนิก หรือไอโอนิก (แบบม้วนก้นหอย) และคอรินเทียน (มีใบไม้ขนาดใหญ่ประดับ) เป็นต้น ซึ่งนักวิชาการบางท่านอาจเรียกสถาปัตยกรรมแบบนี้ว่า “นีโอคลาสสิก” สถาปัตยกรรมจึงมีลักษณะผสมผสานกันระหว่างศิลปะตะวันตกและศิลปะตะวันออกเรียกว่า "อาคารแบบโคโลเนียล" จากนั้นก็ส่งอิทธิพลไปตามเมืองท่าต่างๆ อย่างสิงคโปร์และปีนังซึ่งมีสายสัมพันธ์โดยตรงกับภูเก็ต



เมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร

ภูเก็ตได้รับการยกย่องจากยูเนสโก ในโครงการเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network) ประเภท “เมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร" (Creative City of Gastronomy) ภูเก็ตเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดประเทศไทย มีประชากรประมาณ 390,000 คน ที่มีความหลากหลายวัฒนธรรมมากว่า 200 ปีและที่นี่วัฒนธรรมการทำอาหารแบบดั้งเดิมถูกมองว่าเป็นตัวกระตุ้นสำหรับการสนทนาระหว่างวัฒนธรรมและระหว่างรุ่นและในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้รับประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและความรู้ที่หลากหลาย ในขณะที่ภาคส่วนของการทำอาหารมีการสนับสนุนอย่างมีนัยสำคัญกว่า 100 ล้านบาทต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น ในแต่ละปีมีความพยายามอย่างสูงการผลิตและการใช้ประโยชน์อย่างสมดุลเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนมากขึ้น

ภายในเมืองภูเก็ตมีการทำอาหารที่มีบทบาทสำคัญเนื่องจากมีความสามารถในการถ่ายทอดและรักษาสูตรอาหารโบราณที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนภายในครอบครัวและชุมชน มีความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์ และส่งเสริมการแสดงออกแบบดั้งเดิมนี้ได้รับการเน้นโดย จัดเทศกาลในย่านเมืองเก่าประจำปี ซึ่งจะฟื้นฟูความรู้โบราณในการทำอาหารงานฝีมือและศิลปะพื้นบ้านและทัศนศิลป์ วัฒนธรรมอาหารนี้ได้ดึงดูดผู้ชมทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 400,000 คน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเทศบาลเมืองภูเก็ตได้ลงทุนอย่างสูงในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับห่วงโซ่อาหารปลอดภัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านโครงการอาหารปลอดภัยภูเก็ตและครัวอันดามัน เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าในการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนจังหวัดภูเก็ตยังมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการสร้างขีดความสามารถและยกระดับความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศในด้านการวิจัยและพัฒนาด้วยการทำงานเพื่อให้บรรลุการผลิตและการบริโภคทรัพยากรอาหารในท้องถิ่นอย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืน

สาเหตุที่ยูเนสโกได้เลือกภูเก็ต เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหารมีอยู่ 5 เหตุผลดังนี้

1. ความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะวัฒนธรรมอาหารที่เกิดจากพหุสังคม เช่นคนไทย คนจีน คนมุสลิม และชาวต่างชาติที่อยู่ที่นี่ ได้เคยสร้างวัฒนธรรมอาหารที่กลมกลืนกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนภูเก็ต

2. อาหารภูเก็ตมีเอกลักษณ์และเป็นองค์ประกอบสำคัญในทุกเทศกาล รวมถึงพิธีการความเชื่อ วิถีชีวิตในครอบครัว

3. อาหารท้องถิ่นภูเก็ตหลายประเภทมีอัตลักษณ์หาทานที่อื่นไม่ได้ มีสูตรลับเฉพาะที่ถ่ายทอดผ่านคนในครอบครัว และหลายอย่างเป็นวัตถุดิบที่มีเฉพาะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

4. ความเข้มแข็งและความร่วมมือจากภาคเอกชน ภาครัฐและสถาบันทางวิชาการในภูเก็ต สืบค้น จัดเทศกาล และนำเสนอ ให้กลมกลืนกับยุคสมัย ทำให้มีการสร้างสรรค์นวัตกรรมบนพื้นฐานวิทยาการด้านอาหารหลากหลายอย่าง เช่น การจำหน่ายอาหารท้องถิ่น แปรรูปเป็นของฝาก ของที่ระลึก ฯลฯ

5. ชาวภูเก็ตมีน้ำใจ อัธยาศัยดีงาม มีความยินดีร่วมมือแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์กับเมืองอื่นๆ เช่นในเปอรานากัน (Peranakan กลุ่มนี้มีวัฒนธรรมใกล้เคียงกับกลุ่มเปอรานากันในประเทศมาเลเซีย, อินโดนีเซีย และสิงคโปร์) ในเครือข่าย ภายใต้นโยบายที่ว่า "Good Food, Good Health, Good Spirit...in Phuket" กินดี อยู่ดี มีจิตใจงาม...ที่ภูเก็ต



เคล็ดลับส่งเสริมให้เด็กรักการเรียนรู้

1. ส่งเสริมให้เด็กมีส่วนร่วม ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาให้ความเห็นว่าสิ่งที่ทำให้ผลการเรียนของนักเรียนต่ำกว่าปกติเกิดจากการ "ขาดการมีส่วนร่วม" ในชั้นเรียน ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองอาจช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้โดย ถามเด็ก ๆ ว่าพวกเขาเรียนรู้อะไรที่โรงเรียนในวันนี้ ในการทำเช่นนี้ช่วยให้พวกเขาภาคภูมิใจกับความรู้ที่เพิ่งค้นพบ สิ่งที่เรียนรู้มา เด็กบางคนจะเพลิดเพลินกับโอกาสที่จะสอนบางสิ่งบางอย่างแก่พ่อแม่ของพวกเขา ดังนั้นการสนใจอยากรู้อยากเห็นและถามคำถามมากมายจะช่วยได้จริงๆ

2. ทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุก ดูหลักสูตรการบ้านหรือหนังสือเรียนของบุตรหลาน คุณจะพบตัวอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นแนวคิดและข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณสามารถนำไปใช้ในกิจกรรมที่พวกเขาชอบได้ สำหรับเด็กเล็ก อาจทำได้ง่ายๆ เช่น เล่นเกมนับเลขด้วยของเล่น หรือให้พวกเขาลองสะกดคำจากหนังสือเล่มโปรดสำหรับเด็กโตช่วยให้พวกเขาค้นพบความชอบและความสนใจ

3. สิ่งที่เรียนรู้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง โดยเฉพาะวัยรุ่นอาจจะรู้สึกหงุดหงิดเมื่อสิ่งที่พวกเขาต้องเรียนรู้เป็นข้อมูลที่ "ไร้ประโยชน์" หรือ "ไม่เกี่ยวข้อง" กับสิ่งที่พวกเขาสนใจหรือต้องการทำ ต้องอธิบายให้เด็กเข้าใจว่า ความรู้พื้นฐานที่ได้จากการเรียนในโรงเรียนซึ่งเกี่ยวข้องกับทักษะการแก้ปํญหา นั่นจะช่วยในการเรียนรู้ในอนาคต

4.มุ่งเน้นที่กระบวนการไม่ใช่ผลลัพธ์ นักเรียนจะรู้สึกกดดันเมื่อต้องการได้คะแนนที่ดี แต่ความกดดันกลับเป็นตัวทำลายความสามารถในการเรียนรู้ ทำให้เกิดความวิตกกังวลจนอาจนำไปสู่การหลีกเลี่ยงการไปโรงเรียนและการเข้าเรียน พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถช่วยเด็กได้โดยส่งเสริมให้เด็กมีความพยายามในการเรียนรู้ อธิบายถึงประโยชน์ที่เด็กจะได้รับ แต่ไม่ได้เน้นว่าเด็กต้องทำให้ได้คะแนนดี แค่ให้โอกาสได้สนุกกับการเรียน