ดูแลเด็ก ใน เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต

ดูแลเด็ก ใน เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

อาภรณ์ ผอมแก้ว
อาภรณ์ ผอมแก้ว

แนะนำตัวเอง : ชื่ออาภรณ์ ผอมแก้ว อายุ 44 ปี ชื่อเล่น พร สถานภาพ สมรส สามีอายุ 55 ปี ทำผู้จัดการฝ่าย fb ลูกสาว 1 คน (อายุ 25 ปี) ทำงานแผนกบัญชี และมีหลานสาว 1 คน (อายุ 5 ขวบ) กำลังเรียนชั้นอนุบาล 2 ประวัติการทำงาน : เคยทำงานแผนกสปา fb แม่บ้าน ในโรงแรมเซนทาร่ากะรน ทำมาแล้ว 13 ปี นิสัยส่วนตัว : เป็นคนรักเด็ก อารมณ์ดีใจเย็น เป็นกันเอง ชอบปลูกต้นไม้ ให้อาหารหมา-แมวจรจัด ฟังเพลง ชอบออกไปเที่ยวกับครอบครัว ถ่ายรูป ชอบทำอาหารและส้มตำ เวลาว่างก็จะนั่งทำเหรียญโปรยทาน

แสดงเพิ่มเติม
เบญจมาภรณ์ คะนานทอง
เบญจมาภรณ์ คะนานทอง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

รักเด็ก สามารถอยู่กับเด็กได้ตลอด เป็นคนใจเย็น มีความอดทนสูง ไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องงาน

แสดงเพิ่มเติม
Supaporn Tohiso
Supaporn Tohiso

I can speak, read and write English. I have more than 10 years experience for baby sitter.

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
4 ปีที่แล้ว
ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
4 ปีที่แล้ว
ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
5 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
5 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
5 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีคืออะไร
6 ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี

1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา

ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังกับพี่เลี้ยง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะไว้วางใจให้ลูก ๆ ของคุณอยู่ในความดูแลพี่เลี้ยงเด็ก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเด็กอาจเกิดความรู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ ใส่ใจมีวิธีการที่จะช่วยลดความกังวลของทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ดังนี้ค่ะ

1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
ข้อตกลงสำคัญที่พ่อแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
สัญญาหรือข้อตกลงในการทำงานเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กต้องตกลงร่วมกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในขอบเขตการทำงานและค่าตอบแทน การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป แต่การร่างหรือการบันทึกรายการช่วยให้ทั้งสองฝ่ายจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น มีอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กควรตกลงกันก่อนเริ่มงาน

1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

เมืองภูเก็ต รอยต่อของอุตสาหกรรม

บนเนื้อที่ 224 ตารางกิโลเมตร ทางด้านทิศตะวันออกของจังหวัดภูเก็ต มีประชากร ที่ขึ้นทะเบียนอาศัยอยู่ในเขตอำเภอเมืองประมาณ 2 แสน 5 หมื่นคน แต่เนื่องด้วยภูเก็ตเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จึงทำให้มีแรงงานหลั่งไหลเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่องทั้งคนไทย และแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้จำนวนประชากรจะแตกต่างกันไปตามขนาดของเศรษฐกิจบนเกาะภูเก็ต

ภูเก็ต ได้ชื่อว่าเป็น ดินแดนแห่งไข่มุกอันดามัน เคยเป็นดินแดนที่รุ่งโรจน์และมีความมั่งคั่งจากการทำเหมืองแร่ดีบุก ภูเก็ตมีแร่ดีบุกมากที่สุดในประเทศไทย มั่งคั่ง มีทั้งนายทุนที่เป็นคนไทยเอง ชาวจีน ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจที่นี่ ซึ่งการขุดแร่ดีบุกที่ภูเก็ต มีประวัติความเป็นมากว่า 500 ปีมาแล้ว จนวันหนึ่งธุรกิจเหมืองแร่ค่อยๆ ซบเซาลงตามความต้องการของตลาด และ อุตสาหกรรมใหม่ ก็เข้ามานั่นคืออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่ทำให้เมื่อเรานึกถึงภูเก็ตเชื่อว่าทุกๆ คนจะนึกถึงภาพชายหาดสวยงาม หาดทรายสวยงาม หรือ สถานบันเทิงที่เต็มไปด้วยชาวต่างชาติที่ มาท่องเที่ยวพักผ่อนประจำปี นอกเหนือจากนั้นล่องลอยความเจริญในยุคเหมืองแร่ก็ยังคงอยู่ ณ ใจกลางเมืองภูเก็ต ที่ที่เคยเป็น ศูนย์กลางการค้าขายแร่ดีบุก อาคารบ้านพักของผู้ที่เข้ามาทำเหมืองแร่ ไปจนถึง สถานที่ศูนย์ราชการที่ได้จัดวางไว้เป็นอย่างดี ปัจจุบันถ้าหากเราอยากสัมผัสชีวิตเมื่อครั้งเหมืองแร่ยังรุ่งเรืองเราสามารถ เดินดูได้ ณ ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ลักษณะของสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีสคือการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมยุโรปและศิลปะจีน กล่าวคือ “สถาปัตยกรรมแบบอาณานิคม” หรือ “อาคารแบบโคโลเนียล” (Colonial Style) ถ้าเป็นอาคารสองชั้นกึ่งร้านค้ากึ่งที่อยู่อาศัย (shop-house or semi-residential) จะมีด้านหน้าอาคารที่ชั้นล่างมีช่องโค้ง (arch) ต่อเนื่องกันเป็นอาคารห้องแถวยาวติดต่อกันตลอดสองข้างทาง บนถนนกลางเมืองภูเก็ต เช่น ถนนถลาง ถนนดีบุก เพื่อให้เกิดการเดินเท้า ที่ภาษาไทยเรียกทับศัพท์ว่า “อาเขต” (arcade) หรือที่ภาษาจีนฮกเกี้ยนเรียกว่า “หง่อคาขี่” ซึ่งมีความหมายว่า ทางเดินกว้างห้าฟุต อีกเหตุผลหนึ่งที่จำเป็นต้องมีอาเขต ตลอดทางเดิน เพราะภูเก็ตเป็นเมืองที่มีปริมาณฝนตกมากจึงต้องทำทางเดินที่มีหลังคา นอกจากอาเขตที่เป็นเอกลักษณ์ของอาคารแบบนี้แล้ว อาคารแบบโคโลเนียลยังมีการนำลวดลายศิลปะตะวันตกแบบกรีกโรมันหรือเรียกว่า “สมัยคลาสสิก” เช่น หน้าต่างวงโค้งเกือกม้า หรือหัวเสาแบบโยนิก หรือไอโอนิก (แบบม้วนก้นหอย) และคอรินเทียน (มีใบไม้ขนาดใหญ่ประดับ) เป็นต้น ซึ่งนักวิชาการบางท่านอาจเรียกสถาปัตยกรรมแบบนี้ว่า “นีโอคลาสสิก” สถาปัตยกรรมจึงมีลักษณะผสมผสานกันระหว่างศิลปะตะวันตกและศิลปะตะวันออกเรียกว่า "อาคารแบบโคโลเนียล" จากนั้นก็ส่งอิทธิพลไปตามเมืองท่าต่างๆ อย่างสิงคโปร์และปีนังซึ่งมีสายสัมพันธ์โดยตรงกับภูเก็ต



เมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร

ภูเก็ตได้รับการยกย่องจากยูเนสโก ในโครงการเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network) ประเภท “เมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร" (Creative City of Gastronomy) ภูเก็ตเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดประเทศไทย มีประชากรประมาณ 390,000 คน ที่มีความหลากหลายวัฒนธรรมมากว่า 200 ปีและที่นี่วัฒนธรรมการทำอาหารแบบดั้งเดิมถูกมองว่าเป็นตัวกระตุ้นสำหรับการสนทนาระหว่างวัฒนธรรมและระหว่างรุ่นและในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้รับประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและความรู้ที่หลากหลาย ในขณะที่ภาคส่วนของการทำอาหารมีการสนับสนุนอย่างมีนัยสำคัญกว่า 100 ล้านบาทต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น ในแต่ละปีมีความพยายามอย่างสูงการผลิตและการใช้ประโยชน์อย่างสมดุลเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนมากขึ้น

ภายในเมืองภูเก็ตมีการทำอาหารที่มีบทบาทสำคัญเนื่องจากมีความสามารถในการถ่ายทอดและรักษาสูตรอาหารโบราณที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนภายในครอบครัวและชุมชน มีความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์ และส่งเสริมการแสดงออกแบบดั้งเดิมนี้ได้รับการเน้นโดย จัดเทศกาลในย่านเมืองเก่าประจำปี ซึ่งจะฟื้นฟูความรู้โบราณในการทำอาหารงานฝีมือและศิลปะพื้นบ้านและทัศนศิลป์ วัฒนธรรมอาหารนี้ได้ดึงดูดผู้ชมทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 400,000 คน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเทศบาลเมืองภูเก็ตได้ลงทุนอย่างสูงในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับห่วงโซ่อาหารปลอดภัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านโครงการอาหารปลอดภัยภูเก็ตและครัวอันดามัน เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าในการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนจังหวัดภูเก็ตยังมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการสร้างขีดความสามารถและยกระดับความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศในด้านการวิจัยและพัฒนาด้วยการทำงานเพื่อให้บรรลุการผลิตและการบริโภคทรัพยากรอาหารในท้องถิ่นอย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืน

สาเหตุที่ยูเนสโกได้เลือกภูเก็ต เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหารมีอยู่ 5 เหตุผลดังนี้

1. ความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะวัฒนธรรมอาหารที่เกิดจากพหุสังคม เช่นคนไทย คนจีน คนมุสลิม และชาวต่างชาติที่อยู่ที่นี่ ได้เคยสร้างวัฒนธรรมอาหารที่กลมกลืนกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนภูเก็ต

2. อาหารภูเก็ตมีเอกลักษณ์และเป็นองค์ประกอบสำคัญในทุกเทศกาล รวมถึงพิธีการความเชื่อ วิถีชีวิตในครอบครัว

3. อาหารท้องถิ่นภูเก็ตหลายประเภทมีอัตลักษณ์หาทานที่อื่นไม่ได้ มีสูตรลับเฉพาะที่ถ่ายทอดผ่านคนในครอบครัว และหลายอย่างเป็นวัตถุดิบที่มีเฉพาะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

4. ความเข้มแข็งและความร่วมมือจากภาคเอกชน ภาครัฐและสถาบันทางวิชาการในภูเก็ต สืบค้น จัดเทศกาล และนำเสนอ ให้กลมกลืนกับยุคสมัย ทำให้มีการสร้างสรรค์นวัตกรรมบนพื้นฐานวิทยาการด้านอาหารหลากหลายอย่าง เช่น การจำหน่ายอาหารท้องถิ่น แปรรูปเป็นของฝาก ของที่ระลึก ฯลฯ

5. ชาวภูเก็ตมีน้ำใจ อัธยาศัยดีงาม มีความยินดีร่วมมือแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์กับเมืองอื่นๆ เช่นในเปอรานากัน (Peranakan กลุ่มนี้มีวัฒนธรรมใกล้เคียงกับกลุ่มเปอรานากันในประเทศมาเลเซีย, อินโดนีเซีย และสิงคโปร์) ในเครือข่าย ภายใต้นโยบายที่ว่า "Good Food, Good Health, Good Spirit...in Phuket" กินดี อยู่ดี มีจิตใจงาม...ที่ภูเก็ต



เคล็ดลับส่งเสริมให้เด็กรักการเรียนรู้

1. ส่งเสริมให้เด็กมีส่วนร่วม ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาให้ความเห็นว่าสิ่งที่ทำให้ผลการเรียนของนักเรียนต่ำกว่าปกติเกิดจากการ "ขาดการมีส่วนร่วม" ในชั้นเรียน ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองอาจช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้โดย ถามเด็ก ๆ ว่าพวกเขาเรียนรู้อะไรที่โรงเรียนในวันนี้ ในการทำเช่นนี้ช่วยให้พวกเขาภาคภูมิใจกับความรู้ที่เพิ่งค้นพบ สิ่งที่เรียนรู้มา เด็กบางคนจะเพลิดเพลินกับโอกาสที่จะสอนบางสิ่งบางอย่างแก่พ่อแม่ของพวกเขา ดังนั้นการสนใจอยากรู้อยากเห็นและถามคำถามมากมายจะช่วยได้จริงๆ

2. ทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุก ดูหลักสูตรการบ้านหรือหนังสือเรียนของบุตรหลาน คุณจะพบตัวอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นแนวคิดและข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณสามารถนำไปใช้ในกิจกรรมที่พวกเขาชอบได้ สำหรับเด็กเล็ก อาจทำได้ง่ายๆ เช่น เล่นเกมนับเลขด้วยของเล่น หรือให้พวกเขาลองสะกดคำจากหนังสือเล่มโปรดสำหรับเด็กโตช่วยให้พวกเขาค้นพบความชอบและความสนใจ

3. สิ่งที่เรียนรู้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง โดยเฉพาะวัยรุ่นอาจจะรู้สึกหงุดหงิดเมื่อสิ่งที่พวกเขาต้องเรียนรู้เป็นข้อมูลที่ "ไร้ประโยชน์" หรือ "ไม่เกี่ยวข้อง" กับสิ่งที่พวกเขาสนใจหรือต้องการทำ ต้องอธิบายให้เด็กเข้าใจว่า ความรู้พื้นฐานที่ได้จากการเรียนในโรงเรียนซึ่งเกี่ยวข้องกับทักษะการแก้ปํญหา นั่นจะช่วยในการเรียนรู้ในอนาคต

4.มุ่งเน้นที่กระบวนการไม่ใช่ผลลัพธ์ นักเรียนจะรู้สึกกดดันเมื่อต้องการได้คะแนนที่ดี แต่ความกดดันกลับเป็นตัวทำลายความสามารถในการเรียนรู้ ทำให้เกิดความวิตกกังวลจนอาจนำไปสู่การหลีกเลี่ยงการไปโรงเรียนและการเข้าเรียน พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถช่วยเด็กได้โดยส่งเสริมให้เด็กมีความพยายามในการเรียนรู้ อธิบายถึงประโยชน์ที่เด็กจะได้รับ แต่ไม่ได้เน้นว่าเด็กต้องทำให้ได้คะแนนดี แค่ให้โอกาสได้สนุกกับการเรียน