ติว GAT ใน ชลบุรี

ติว GAT ใน ชลบุรี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการติว GAT ใน ชลบุรี:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ติวเตอร์คอยแนะนำเนื้อหาที่ต้องเตรียมตัวและเก็งข้อสอบให้ลูกเข้าใจได้ง่าย ๆ ตอนนี้เห็นได้ชัดถึงพัฒนาการของลูกจากผลคะแนนการทดลองทำโจทย์ปีก่อน ๆ มากเลยค่ะ รอลุ้นกับผลคะแนนของลูกมาก ๆ ขอบคุณติวเตอร์ค่ะะะะ
Saijai
ธิดาพร ถาวีสิน
4 ปีที่แล้ว
ติวเตอร์คุณภาพดีคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายมาก ๆ ลูกชายสอบแกทได้ 270+ คะแนน ได้เข้าทันตะสมใจ คุณแม่ปลื้มมากค่ะ
Saijai
แม่ป้อม
4 ปีที่แล้ว
แม่อยากเน้นแกทภาษาอังกฤษให้ลูกชายเพิ่ม ลองหาที่สอนพิเศษแถว ๆ บ้านแต่ยังไม่ถูกใจเท่าไหร่ เลยลองเสิร์ชหาดูในเน็ต เจอเว็บใส่ใจพอดีเลยลองดูๆ มีติวเตอร์เยอะ ราคาดีมาก ๆ เลยค่ะ
Saijai
แม่เพ็ญ
4 ปีที่แล้ว
หนูติว Gat Eng กับพี่ติวเตอร์จากธรรมศาสตร์ค่ะ พี่เค้าเน้นการสอนแบบทำความเข้าใจและติวข้อสอบ เสริมทักษะในการทำข้อสอบให้ไว สอนแบบละเอียด ไม่เข้าใจ ก็สามารถปรึกษาส่วนตัวได้ตลอด จริง ๆ ชอบค่ะ
Saijai
ปาณิสษา เรืองกิจ
4 ปีที่แล้ว
ผมหาที่ติว Gat Pat ให้ลูกชายครับ กลัวลูกสอบไม่ติด เลยหาข้อมูลเอาไว้ก่อน จริง ๆ มีหลายเว็บให้เลือก แต่มาลงตัวที่เว็บใส่ใจ เพราะมีตัวเลือกของติวเตอร์เยอะ มีประวัติของติวเตอร์ให้เราลองอ่านคร่าว ๆ ก่อนตัดสินใจด้วย ที่สำคัญเป็นติวเตอร์ที่มีประสบการณ์การสอนมาก่อน ผมเลยมั่นใจเลือกติวเตอร์จากที่นี่ และไม่ผิดหวังจริง ๆ ติวเตอร์เก่ง ลูกผมขยันและตั้งใจเรียนขึ้นมากเลย
Saijai
พิเชต มากพันธุ์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติว GAT

GAT มีผลสำคัญต่อแอดมิชชั่นอย่างไร
GAT คือ การสอบวัดความถนัดทั่วๆไป หรือมีชื่อเต็มว่า General Aptitude Test ซึ่งจะมีข้อสอบอยู่ 2 ส่วน ได้แก่

ส่วนที่ 1 เรียกว่า GAT เชื่อมโยง เป็นการอ่าน เขียน คิด วิเคราะห์ และการแก้ปัญหา มีคะแนนเต็ม 150 คะแนน
ส่วนที่ 2 เรียกว่า GAT ENG เป็นความสามารถในการสื่อสารด้านภาษาอังกฤษ ส่วนนี้จะมีคะแนนเต็ม 150 คะแนน โดยข้อสอบมี 4 Part ดังนี้ Speaking and Conversation, Vocabulary, Structure and Writing, Reading Comprehension
คะแนน GAT ใช้ยื่นในรอบการรับแบบ Admission ในระบบ TCAS โดยย่อมาจาก Thai University Central Admission System เป็นระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาแบบใหม่ ซึ่งจะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน โดยอัตราส่วนการใช้คะแนนในรอบ Admission นี้ คะแนน GAT มีค่า 50% ของคะแนนทั้งหมด

ลักษณะแนวข้อสอบ GAT จะมี 2 แบบ คือ

1. ลักษณะข้อสอบ GAT เชื่อมโยง มี 20 ข้อ ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง มีลักษณะเป็นบทความยาว 1-2 หน้ากระดาษ แล้วให้มาอ่านวิเคราะห์เพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ ระหว่างคำหรือข้อความที่โจทย์กำหนด
2. ลักษณะข้อสอบ GAT Eng รูปแบบข้อสอบ เป็นแบบปรนัย 5 ตัวเลือก 1 คำตอบ GAT ENG มีทั้งหมด 60 ข้อ มีค่าข้อละ 2.5 คะแนน แบ่งออกเป็น 4 part
- Speaking and Conversation 15 ข้อ เป็น part ที่ง่ายที่สุด เป็นบทสนทนาในชีวิตประจำวัน มีทั้งสั้นและยาว
- Vocabulary 15 ข้อ ซึ่งแบ่งย่อยออกเป็น 2 part อีกเช่นกัน คือ synonyms 5 ข้อ และ Meaning 10 ข้อ
- Reading comprehensive 15 ข้อ ซึ่งวัดทักษะการอ่าน และความเข้าใจ
- Structure and Writing 15 ข้อ แบ่งเป็น 3 part ย่อย ได้แก่ Error 5 ข้อ Cloze test 5 ข้อ และ Writing paragraph 5 ข้อ

ทำไมต้องติว GAT ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย
การสอบ GAT (General Aptitude Test) เป็นการสอบเกี่ยวกับความถนัดทั่วไปเพื่อวัดระดับความพร้อมในการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยของนักเรียน โดยการสอบ GAT จะจัดขึ้นทุก ๆ ปี โดยสถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ซึ่งการทดสอบนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 วิชา คือ GAT ภาษาไทยหรือที่นิยมเรียกกันว่า “แกทเชื่อมโยง” และ GAT ภาษาอังกฤษ โดยผลออกมาพบว่าผู้เข้าสอบสามารถทำคะแนนในส่วนของ GAT เชื่อมโยงได้เป็นอย่างดี แต่กลับกันผลคะแนนในส่วนของพาร์ท GAT ภาษาอังกฤษนั้นดันออกมาน้อยกว่าที่คิด ดังนั้น การที่จะช่วยพัฒนาทักษะเพื่อให้ทำคะแนนสอบ GAT ทั้งสองพาร์ทออกมาได้ดีเท่า ๆ กันนั้นคือการติวและทบทวนทำข้อสอบเก่าบ่อย ๆ เหตุผลง่าย ๆ ที่ว่าทำไมเราต้องติว GAT ก็คือ การสอบ ADMISSIONS เข้าแต่ละคณะสาขาในมหาวิทยาลัยนั้นส่วนใหญ่จะใช้สัดส่วนของคะแนน GAT มากสุด 10-50% เลยทีเดียว เรียกว่าครึ่งต่อครึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งบางคณะก็อาจใช้สัดส่วนคะแนนของ PAT ร่วมด้วยเช่นกัน ดังนั้น หากเราติวข้อสอบ GAT อยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ทำแบบฝึกหัดเพิ่มเติม ติวกันเป็นกลุ่ม หรือจะจ้างครูสอนพิเศษมาติว GAT ให้โดยเฉพาะก็ตาม ทั้งหมดนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจระหว่างการทำโจทย์ข้อสอบ GAT ได้แน่นอน นอกจากรอบ ADMISSIONS ที่ใช้สัดส่วนคะแนน GAT/PAT เป็นเกณฑ์การคัดเลือกแล้ว บางมหาวิทยาลัยก็ใช้สัดส่วนคะแนนในส่วนนี้เพื่อคัดเลือกนักเรียนในการสอบแบบรับตรงและแบบโควตาด้วยเช่นกัน และบางคณะสาขากำหนดสัดส่วนผลคะแนน GAT ไว้ตั้งแต่ 10-50% เช่นกัน ฉะนั้น หากใครมีความเตรียมพร้อมที่ดีและทำผลคะแนนออกมาได้ดี ก็จะมีโอกาสสูงในการเลือกเรียนในคณะที่ตัวเองตั้งใจไว้แต่แรกได้เช่นกัน เป็นที่ชัดเจนว่าการติวสอบ GAT นั้นสำคัญเป็นอย่างมากต่อนักเรียนทุกคนที่ต้องการเข้าเรียนในคณะและมหาวิทยาลัยที่ตัวเองใฝ่ฝัน ดังนั้น ควรเตรียมความพร้อมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่ออนาคตที่ดีของตัวเราเอง
สมัครเข้ามหาวิทยาลัยรัฐบาลจำเป็นต้องสอบ GAT PAT หรือไม่
การสอบ GAT/PAT ที่ต้องเข้าระบบ TCAS เพื่อยื่นคะแนนเรียนต่อมหาวิทยาลัย จำนวนรอบใน TCAS ที่มีถึง 5 รอบ มาพร้อมกติกาที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะวิชายอดฮิตอย่าง GAT/PAT ที่เด็กหลายคนเลือกสอบเพื่อใช้ยื่นเข้าเรียนในคณะที่สนใจ วันนี้เรามาทำความเข้าใจกับการสอบ GAT/PAT กันค่ะ

1. หลายคนคิดว่า การเข้ามหาวิทยาลัยทุกคนต้องสอบ GAT/PAT ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว “ไม่ใช่ทุกคนที่จะต้องสอบ” วิธีตรวจสอบว่าเราต้องสอบหรือไม่ คือ การดูจากคณะที่เราเลือกเรียนและระเบียบการของคณะในแต่ละมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นตัวกำหนดเองว่าใช้คะแนนอะไรในการพิจารณา ถ้ามีระบุว่าใช้ GAT/PAT เราต้องสมัครสอบในวิชา GAT/PAT ด้วย
2. จากที่กล่าวมาข้างต้น นอกจากไม่ต้องสอบ GAT/PAT ทุกคนแล้ว อีกหนึ่งเรื่องก็คือ “ไม่ต้องสอบ PAT ครบทุกวิชา” เลือกสอบเฉพาะวิชาที่ต้องใช้คะแนนยื่นในการพิจารณาเท่านั้น โดยดูจากการเลือกคณะแล้วอ่านระเบียบการ ถ้าระเบียบการกำหนดว่าใช้คะแนน GAT/PAT ต้องดูต่อไปอีกว่าคณะที่เราเลือกใช้คะแนน PAT อะไรบ้าง จากทั้งหมด 7 วิชา ไม่จำเป็นต้องสมัครทั้งหมด เพราะสอบไปคะแนนก็ไม่ได้นำมาใช้ และยังสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบอีก

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เด็กๆ ต้องเจอและทำความเข้าใจกับระบบ TCAS (Thai University Center Admission System) ซึ่งเป็นระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยระบบใหม่ เพื่อใช้ในการวางแผนเข้าเรียนในคณะที่ต้องการได้สำเร็จ

ค่าธรรมเนียมการสอบ GAT แต่ละวิชาเท่าไหร่
สมัยนี้นอกจากต้องตั้งใจเรียน ตั้งใจติวหนังสือสอบแล้ว อีกอย่างที่สำคัญคือเรื่องค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบต่างๆ ซึ่งเราสามารถประเมินได้คร่าว ๆ ก่อนตามนี้

รอบที่ 1 Portfolio ยื่นแฟ้มสะสมผลงาน การสมัครขึ้นอยู่กับคณะและมหาวิทยาลัยเป็นผู้กำหนดเอง รอบนี้ค่าใช้จ่ายธรรมเนียมการสมัครสอบประมาณ 200 – 1,000 บาท ใน TCAS ปี 2564 ยังเพิ่มการสอบ GAT วัดสมรรถนะทั่วไป 3 ส่วน ใช้สำหรับการยื่นในรูปแบบแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) หรือโควตา ทั้งยังมีค่าสมัครสอบวัดความถนัดเพิ่มเติมที่ทางคณะจะพิจารณาคะแนนวัดความสามารถต่างๆ
รอบที่ 2 รับตรงโควต้า รอบนี้เป็นรอบที่ใช้ความสามารถพิเศษ แต่ละโครงการจะมีค่าสมัครอยู่ที่โครงการละประมาณ 200-600 บาท เกณฑ์ในรอบนี้ มีทั้ง GAT-PAT, 9 วิชาสามัญ ต้องยื่นคะแนนความสามารถทางภาษาเพิ่ม และต้องเสียค่าสอบวิชาเฉพาะของทางมหาวิทยาลัยเพิ่มอีกด้วย
รอบที่ 3 Admission (รวม Admission 1 และ Admission 2) โดยประกาศผล 2 ครั้ง สำหรับ Admission สามารถใช้คะแนนสอบกลางเป็นเกณฑ์ในการสมัครได้เลย ซึ่งคะแนนที่ใช้คือ เกรดเฉลี่ยสะสม คะแนน O-NET, GAT/PAT ค่าสมัครรอบ Admission อันดับแรก 150 บาท อันดับ 2-4 เพิ่มอันดับละ 50 บาท อันดับ 5 เป็นต้นไป เพิ่มอันดับละ 100 บาท รวมสูงสุด 900 บาท
รอบที่ 4 รับตรงอิสระ รอบสุดท้ายคือ รับตรงอิสระ ที่มีอัตราค่าสมัครตั้งแต่ 200 - 1,000 บาท ซึ่งคณะและมหาวิทยาลัยจะกำหนดค่าธรรมเนียมในการรับสมัครเองอย่างอิสระ รอบนี้จะใช้คะแนน O-Net, GAT/PAT และ 9 วิชาสามัญด้วย