ติว GAT ใน แม่ริม, เชียงใหม่

ติว GAT ใน แม่ริม, เชียงใหม่

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

จ้างติวเตอร์ส่วนตัวค่าจ้างอาจจะสูงกว่า แต่เราว่าคุ้มมาก ๆ เพราะเรียนส่วนตัวสำหรับทำให้เรารู้สึกมีสมาธิมาก ๆ และติวเตอร์สอนดีอีกด้วย ให้ฝึกทำข้อสอบปีเก่า ๆ เพื่อฝึกก่อนทำข้อสอบจริง
Saijai
ชัชรียา พยุงรัตน์
3 ปีที่แล้ว
ติวเตอร์คอยแนะนำเนื้อหาที่ต้องเตรียมตัวและเก็งข้อสอบให้ลูกเข้าใจได้ง่าย ๆ ตอนนี้เห็นได้ชัดถึงพัฒนาการของลูกจากผลคะแนนการทดลองทำโจทย์ปีก่อน ๆ มากเลยค่ะ รอลุ้นกับผลคะแนนของลูกมาก ๆ ขอบคุณติวเตอร์ค่ะะะะ
Saijai
ธิดาพร ถาวีสิน
3 ปีที่แล้ว
GAT ภาษาไทยเตรียมความพร้อมเองได้ไม่ยากมากนักหาข้อสอบเก่าๆทำ แต่ภาษาอังกฤษต้องหาผู้ช่วย ช่วยสรุปให้ จะเรียนออนไลน์กลัวไม่เข้าใจ เลยหาดู จนเจอเพจใส่ใจ จองติวเตอร์ผ่านเพจนี้ แล้วลองเรียนมาสองครั้งแล้ว ติวเตอร์สอนโอเค ทำให้เรามั่นใจมากขึ้น
Saijai
จินต์ เกษมกิจมงคล
4 ปีที่แล้ว
หนูติว Gat Eng กับพี่ติวเตอร์จากธรรมศาสตร์ค่ะ พี่เค้าเน้นการสอนแบบทำความเข้าใจและติวข้อสอบ เสริมทักษะในการทำข้อสอบให้ไว สอนแบบละเอียด ไม่เข้าใจ ก็สามารถปรึกษาส่วนตัวได้ตลอด จริง ๆ ชอบค่ะ
Saijai
ปาณิสษา เรืองกิจ
4 ปีที่แล้ว
ผมจะสอบแอดมิดชั่นเข้าจุฬา และต้องยื่นคะแนนแกทแพท ผมตัดสินใจที่จะจ้างติวเตอร์ส่วนตัวในการติวแกทเชื่อมโยง ติวเตอร์สอนดีมาก ๆ ให้ฝึกทำโจทย์หลายรูปแบบ บอกเทคนิคการทำข้อสอบ ตอนนี้คะแนนออกมาแล้วคือได้แกทไทยเต็ม ดีใจมาก ตอนนี้ติดจุฬาแล้วครับ
Saijai
วชร นารีเกตุ
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติว GAT

GAT มีผลสำคัญต่อแอดมิชชั่นอย่างไร
GAT คือ การสอบวัดความถนัดทั่วๆไป หรือมีชื่อเต็มว่า General Aptitude Test ซึ่งจะมีข้อสอบอยู่ 2 ส่วน ได้แก่

ส่วนที่ 1 เรียกว่า GAT เชื่อมโยง เป็นการอ่าน เขียน คิด วิเคราะห์ และการแก้ปัญหา มีคะแนนเต็ม 150 คะแนน
ส่วนที่ 2 เรียกว่า GAT ENG เป็นความสามารถในการสื่อสารด้านภาษาอังกฤษ ส่วนนี้จะมีคะแนนเต็ม 150 คะแนน โดยข้อสอบมี 4 Part ดังนี้ Speaking and Conversation, Vocabulary, Structure and Writing, Reading Comprehension
คะแนน GAT ใช้ยื่นในรอบการรับแบบ Admission ในระบบ TCAS โดยย่อมาจาก Thai University Central Admission System เป็นระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาแบบใหม่ ซึ่งจะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน โดยอัตราส่วนการใช้คะแนนในรอบ Admission นี้ คะแนน GAT มีค่า 50% ของคะแนนทั้งหมด

ลักษณะแนวข้อสอบ GAT จะมี 2 แบบ คือ

1. ลักษณะข้อสอบ GAT เชื่อมโยง มี 20 ข้อ ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง มีลักษณะเป็นบทความยาว 1-2 หน้ากระดาษ แล้วให้มาอ่านวิเคราะห์เพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ ระหว่างคำหรือข้อความที่โจทย์กำหนด
2. ลักษณะข้อสอบ GAT Eng รูปแบบข้อสอบ เป็นแบบปรนัย 5 ตัวเลือก 1 คำตอบ GAT ENG มีทั้งหมด 60 ข้อ มีค่าข้อละ 2.5 คะแนน แบ่งออกเป็น 4 part
- Speaking and Conversation 15 ข้อ เป็น part ที่ง่ายที่สุด เป็นบทสนทนาในชีวิตประจำวัน มีทั้งสั้นและยาว
- Vocabulary 15 ข้อ ซึ่งแบ่งย่อยออกเป็น 2 part อีกเช่นกัน คือ synonyms 5 ข้อ และ Meaning 10 ข้อ
- Reading comprehensive 15 ข้อ ซึ่งวัดทักษะการอ่าน และความเข้าใจ
- Structure and Writing 15 ข้อ แบ่งเป็น 3 part ย่อย ได้แก่ Error 5 ข้อ Cloze test 5 ข้อ และ Writing paragraph 5 ข้อ

ข้อดีของการติว GAT ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
การสอบ GAT (ความถนัดทั่วไป) สอบกันครั้งแรกตั้งแต่ปี 2553 อย่างที่ทราบกันดีว่า GAT (General Aptitude Test) มีข้อสอบแบ่งออกเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กัน คือ

1. GAT เชื่อมโยง ความสามารถในการอ่าน คิด วิเคราะห์ คะแนนเต็ม 150 คะแนน
2. GAT อังกฤษ ส่วนของความถนัดด้านภาษาอังกฤษ คะแนนเต็ม 150 คะแนน

การสอบ GAT มีความซับซ้อนของข้อสอบและยากขึ้นทุกปี และนี่คือเหตุผลที่ควรติว Gat

1. การสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยทุกคณะและสาขาวิชา กำหนดใช้คะแนน GAT พิจารณาเข้าศึกษาต่อในสัดส่วน 10 – 50% นับว่าเป็นจำนวนที่สูงมากๆ เพราะบางคณะไม่ใช้องค์ประกอบ PAT แต่เน้น GAT ดังนั้นจะเห็นว่าในรอบ Admissions GAT มีความสำคัญเป็นอย่างมาก
2. การสอบตรงหรือการสอบโควตา หลายๆ มหาวิทยาลัยใช้ GAT ในการพิจารณาเข้าศึกษา บางสาขาให้ค่าน้ำหนัก GAT มากถึง 70% นอกจากนี้ยังมีโครงการพิเศษ หรือ โควตาพิเศษ ที่คณะจัดเปิดรับเอง แทบทุกมหาวิทยาลัยใช้ GAT ด้วย
3. อย่างที่ทราบกันดีว่า GAT มีการจัดสอบ 2 ครั้ง คือ เดือนตุลาคมและมีนาคม แต่ช่วงที่มีคนเข้าสอบมากที่สุด คือ การสอบครั้งที่ 1 เดือน ตุลาคมนั่นเอง จากคนสอบทั้งหมดทั่วประเทศ ถ้าใครสามารถทำคะแนนสอบ GAT ได้สูงกว่าคนอื่น โอกาสสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้จะสูงเช่นกัน
4. การติว GAT นอกจากจะเป็นการทบทวนเนื้อหาที่เรียนมาและรู้จักกับข้อสอบ รวมถึงกระดาษคำตอบแล้ว ก็จะทำให้เรารู้แนวข้อสอบที่น่าจะออกมากขึ้นอีกด้วย เพราะติวเตอร์จะมีเทคนิคในการคาดการณ์ข้อสอบล่วงหน้าว่าข้อสอบจะออกมาแนวไหน อย่างไร มีเทคนิคมากมาย เพื่อพิชิตข้อสอบ GAT ให้ได้
สมัครเข้ามหาวิทยาลัยรัฐบาลจำเป็นต้องสอบ GAT PAT หรือไม่
การสอบ GAT/PAT ที่ต้องเข้าระบบ TCAS เพื่อยื่นคะแนนเรียนต่อมหาวิทยาลัย จำนวนรอบใน TCAS ที่มีถึง 5 รอบ มาพร้อมกติกาที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะวิชายอดฮิตอย่าง GAT/PAT ที่เด็กหลายคนเลือกสอบเพื่อใช้ยื่นเข้าเรียนในคณะที่สนใจ วันนี้เรามาทำความเข้าใจกับการสอบ GAT/PAT กันค่ะ

1. หลายคนคิดว่า การเข้ามหาวิทยาลัยทุกคนต้องสอบ GAT/PAT ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว “ไม่ใช่ทุกคนที่จะต้องสอบ” วิธีตรวจสอบว่าเราต้องสอบหรือไม่ คือ การดูจากคณะที่เราเลือกเรียนและระเบียบการของคณะในแต่ละมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นตัวกำหนดเองว่าใช้คะแนนอะไรในการพิจารณา ถ้ามีระบุว่าใช้ GAT/PAT เราต้องสมัครสอบในวิชา GAT/PAT ด้วย
2. จากที่กล่าวมาข้างต้น นอกจากไม่ต้องสอบ GAT/PAT ทุกคนแล้ว อีกหนึ่งเรื่องก็คือ “ไม่ต้องสอบ PAT ครบทุกวิชา” เลือกสอบเฉพาะวิชาที่ต้องใช้คะแนนยื่นในการพิจารณาเท่านั้น โดยดูจากการเลือกคณะแล้วอ่านระเบียบการ ถ้าระเบียบการกำหนดว่าใช้คะแนน GAT/PAT ต้องดูต่อไปอีกว่าคณะที่เราเลือกใช้คะแนน PAT อะไรบ้าง จากทั้งหมด 7 วิชา ไม่จำเป็นต้องสมัครทั้งหมด เพราะสอบไปคะแนนก็ไม่ได้นำมาใช้ และยังสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบอีก

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เด็กๆ ต้องเจอและทำความเข้าใจกับระบบ TCAS (Thai University Center Admission System) ซึ่งเป็นระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยระบบใหม่ เพื่อใช้ในการวางแผนเข้าเรียนในคณะที่ต้องการได้สำเร็จ

ค่าสมัครสอบ GAT ของนักเรียนที่จะเข้ามหาวิทยาลัยวิชาละเท่าไหร่
นอกจากการเตรียมตัวสอบ GAT/PAT แล้ว สิ่งที่จำเป็นอีกอย่างคือการเตรียมค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบนั่นเอง ใส่ใจมีข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบ และการใช้ผลคะแนนยื่นในแต่ละรอบให้คุณแล้ว การสมัครสอบ GAT ทั้งสองวิชา นั่นคือ GAT ภาษาไทย (เชื่อมโยง) และ GAT ภาษาอังกฤษ นั้นจะมีค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบอยู่ที่วิชา ละ 140 บาท ดังนั้น หากต้องการสอบ GAT ทั้ง2 วิชา จะต้องเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมด 280 บาทนั่นเอง โดยการใช้ผลคะแนนสอบของ GAT นั้นสามารถยื่นได้ทั้ง4 รอบเลยทีเดียว หลาย ๆ คนอาจยังคิดว่าผลคะแนนสอบ GAT นั้นสามารถใช้ยื่นได้เพียงแค่รอบเดียว นั่นคือรอบที่ 4 แต่ความเป็นจริงแล้วผลคะแนน GAT สามารถใช้ยื่นได้ทั้ง 4 รอบด้วยกัน ในส่วนของระบบ TCAS จะสามารถยื่นได้ตั้งแต่รอบที่ 2 ถึงรอบที่ 5 โดยผลคะแนนของ GAT/PAT นั้นจะใช้ในการยื่นเข้าในรอบที่ 4 เป็นหลัก ส่วนรอบที่ 2 และ 5 อาจจะต้องดูจากข้อกำหนดเพิ่มเติมที่ทางคณะและมหาวิทยาลัยนั้น ๆ กำหนดและใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกอีกที เช่น อาจต้องใช้ความสามารถพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย เป็นต้น ส่วนในรอบที่ 3 จะเป็นแบบ Admission หรือรับตรงร่วม โดยสามารถใช้ผลคะแนนในการสอบแบบอื่นที่ทางคณะของแต่ละมหาวิทยาลัยนั้น ๆ กำหนด อย่างการสอบ O-NET และเกรดเฉลี่ยสะสม เป็นต้น ดังนั้น นักเรียนต้องศึกษาและทำความเข้าใจของกฎเกณฑ์ในการยื่นผลคะแนน GAT/PAT ของแต่ละคณะและมาวิทยาลัยให้ละเอียดถี่ถ้วน จะได้ไม่พลาดโอกาสในการเข้าเรียนคณะและมหาวิทยาลัยที่ตั้งใจไว้นั่นเอง