ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน พานทอง, ชลบุรี

ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน พานทอง, ชลบุรี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

จิดาภา ผดุงรัตนโยธี
จิดาภา ผดุงรัตนโยธี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 33 ปี

ดิฉัน มีประสบการณ์การณ์ สอนมาเกือบสิบ ปี เป็นอาชีพที่รักมากๆค่ะ ทำตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัย สอนตั้งแต่ เด็กเล็ก จนถึงคนทำงาน คนเรียน ป โท วิธีการสอนจะเน้นดูพื้นฐานของผู้เรียนเป็นหลัก และ เสริมเพิ่มเติมให้ในสิ่งที่ผู้เรียน สนใจค่ะ

เคยสอน ที่ โรงเรียน tutor house

เตรียมอุดม น้อมเกล้า

เตรียมอุดม พัฒนาการ

โรงเรียนเทพลีลา

สอนตามบ้าน

สอนได้ทั้ง reading speaking listening และ writing

เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศสิงค์โปร ค่ะ

อดีตลูกเรือ บริษัท บางกอกแอร์แวย์

แสดงเพิ่มเติม
Sarocha Phodee
Sarocha Phodee
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 25 ปี
ชมพูนุท วงศ์สมุทร
ชมพูนุท วงศ์สมุทร
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

เป็นคนสนุกสนานร่าเริง ใจดีไม่ดุ สามารถถ่ายทอดความรู้จากเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายได้ มีเทคนิคต่างๆ ช่วยให้จำง่ายขึ้น ไม่ต้องปวดหัวกับการจำอีกต่อไป เป็นกันเองเหมือนเพื่อนๆ มาสอนเองเลยทีเดียว

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

มองหาและเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ เว็บ เว็บนี้มีราคาแสดงไว้ชัดเจน จดไว้เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในตอนแรก พอไปดูเว็บอื่น บางเว็บไม่ยอมบอกราคาไว้ ทำให้ต้องติดต่อหาเจ้าหน้าที่หลายขั้นตอน เสียเวลามากค่ะ สุดท้ายตัดสินใจเลือกที่นี่เพราะนอกจากราคาจะดีงามแล้ว ยังได้ติวเตอร์ดี มีประสบการณ์ คุ้มค่ากับที่จ่ายไปจริง ๆ ค่ะ
Saijai
สาลิณี อนันชัยกูร
3 ปีที่แล้ว
พี่ติวเตอร์เก่งมาก ๆ ทำให้เราเข้าใจคำศัพท์ได้ง่าย ๆ วิธีการใช้ในประโยคในเวลาไม่กี่เดือน ตอนแรกจะจำศัพท์ไม่ค่อยได้ เพราะศัพท์เยอะมาก แต่พอท่องศัพท์และหัดใช้ ตอนนี้ดีขึ้นมากเลย คะแนนก็ดีขึ้น
Saijai
ชนกานต์ วรธีรนนท์
3 ปีที่แล้ว
กำลังจะเตรียมตัวสอบ TOEIC ไปสมัครงานค่ะ ก่อนหน้านี้มองหาที่เรียนพิเศษภาษาอังกฤษแถวบ้านแต่หายากมากเพราะไม่ได้อยู่ในตัวเมือง เลยลองเสิร์ชหาใน google ดู มาเจอของใส่ใจ เห็นว่ามีเรียนพิเศษแบบออนไลน์ด้วยก็เลยตัดสินใจเลือกใช้บริการเลยค่ะ ถือว่าสะดวกกว่ามาก ๆ แถมติวเตอร์สอนเข้าใจง่ายด้วย
Saijai
ไอด้า พิทักษ์ยิ่ง
3 ปีที่แล้ว
ส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษเลยเพราะคิดว่ามันยากเกินไป แต่จะบอกว่าติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษที่เราจ้างผ่านใส่ใจทำให้เราเปลี่ยนวิธีคิดไปเลยจากที่เคยมองเรื่องภาษาเป็นเรื่องที่ยาก จนตอนนี้ทำให้เราสนใจอยากที่จะพัฒนาตัวเองในด้านการสื่อสารมาก ๆ ติวเตอร์สอนสนุก เป็นกันเอง ทำให้เราหายกังวลไปเลยค่ะ
Saijai
รริชา นาคนาวา
3 ปีที่แล้ว
ลูกเพิ่งเข้าเรียนโรงเรียนหลักสูตร2ภาษาครับ แต่ลูกมีปัญหาไม่กล้าพูดและใช้ภาษาอังกฤษที่โรงเรียนเพราะกลัวเรื่องแกรมม่าและการออกเสียงคำศัพท์มากๆ จนต้องตัดสินใจหาติวเตอร์มาช่วยสอน ซึ่งตัวของติวเตอร์ช่วยสอนและฝึกให้ลูกพูดสนทนาออกเสียง ตอนนี้ลูกมีความกล้าและมั่นใจในตัวเองมากขึ้นมากเลยครับ
Saijai
ชาธิต ประทีบศาสตร์
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ

อยากพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษต้องทำอย่างไรบ้าง
ภาษาอังกฤษนั้นเรียกได้ว่าเป็นภาษาที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ ของภาษาที่ใช้สื่อสารกันบนโลกนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นภาษากลางที่ผู้คนทั่วโลกสามารถใช้ติดต่อสื่อสารกันรองมาจากภาษาแม่ของแต่ละชนชาตินั่นเอง
ดังนั้นความรู้ความเข้าใจในภาษาอังกฤษจึงจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้คนในสมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งการพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน ทั้งหมดนี้อาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับบุคคลที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เกิด แต่ถ้าเราหมั่นฝึกฝนและพัฒนาภาษาอังกฤษอยู่บ่อย ๆ จะทำให้ภาษาอังกฤษนั้นไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป

ใส่ใจขอแนะนำ 5 เคล็ดลับที่จะทำให้ทักษะภาษาอังกฤษของเราพัฒนามากยิ่งขึ้นดังนี้

1. อ่านหนังสือหรือบทความที่เป็นภาษาอังกฤษถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับหลาย ๆ คน ควรเริ่มจากบทความสั้น ๆ จากนิตยสาร หรือหนังสือที่มีภาพประกอบ เพราะหนังสือเหล่านี้จะเลือกใช้คำศัพท์ที่ไม่ยากจนเกินไป ทำให้เราสามารถจดจำและเข้าใจความหมายได้ง่ายขึ้น
2. หมั่นจดคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่เจอในแต่ละครั้ง เพราะการจดคำศัพท์พร้อมความหมายเอาไว้ในสมุดโน๊ตจะช่วยให้เราคุ้นชินกับมันบ่อย ๆ เมื่อต้องเปิดสมุดในแต่ละครั้ง และจดจำไปเองในที่สุด
3. เรียนรู้ภาษาอังกฤษจากการดูและการฟัง ไม่ว่าจะเป็นข่าว การ์ตูน ซีรีส์ภาพยนตร์ต่าง ๆ เมื่อหูเริ่มคุ้นกับประโยคและสำเนียงการพูดแล้ว ยิ่งทำให้เราเข้าใจภาษาอังกฤษได้เร็วขึ้นในยามที่ต้องพูดคุยสื่อสารกับเจ้าของภาษาจริง ๆ
4. ฝึกพูดให้บ่อย ๆ ไม่ว่าจะลองฝึกพูดกับตัวเองหน้ากระจก หรือลองพูดกับเพื่อน ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองมากขึ้น
5. อย่ากลัวที่จะลองพูดคุยกับเจ้าของภาษา เวลามีงานสังสรรค์พบปะผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ลองหาโอกาสที่จะเข้าไปพูดคุยกับเจ้าของภาษาหรือคนอื่น ๆ ดู และอย่ากลัวว่าจะพูดผิด บางครั้งหากเราพูดผิดและได้รับการแก้ไขจากคนรอบข้างจะยิ่งทำให้เรารู้ศักยภาพของตัวเองและไม่ลืมที่จะนำกลับไปพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
ติวเตอร์ภาษาอังกฤษส่วนตัวช่วยพัฒนาการสื่อสารภาษาอังกฤษหรือไม่
ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ภาษาอังกฤษส่วนตัวดีอย่างไร? ทำไมใคร ๆ จึงอยากเรียนกับติวเตอร์ส่วนตัว มาดูกันเลยค่ะ

1 ครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัว โดยมากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน และจบด้านภาษาอังกฤษโดยตรง หรืออาจจบการศึกษามาจากต่างประเทศ ทำให้สามารถพูดสำเนียงได้เหมือนเจ้าของภาษา จึงการันตีได้ว่าผู้เรียนจะได้เรียนกับครูสอนภาษาอังกฤษที่มีความชำนาญจริงๆ
2 ติวเตอร์มีระบบแบบแผนการสอนที่ชัดเจนและมีคุณภาพ ทำให้นักเรียนได้รับความต่อเนื่องในการเรียน
3 ติวเตอร์ภาษาอังกฤษเก่งในเรื่อง คำศัพท์ เนื้อหา Grammar ต่างๆ รวมทั้งการเก็งข้อสอบ
4 การสอนแบบตัวต่อตัวที่บ้าน ทำให้ติวเตอร์สามารถแก้ปัญหาของผู้เรียนได้ตรงจุด รู้ว่านักเรียนมีจุดอ่อนหรือจุดแข็งในด้านใด ควรปรับ ควรเสริมอะไรบ้าง เพื่อให้การเรียนพิเศษภาษาอังกฤษมีความเหมาะสมกับนักเรียนมากที่สุด หากพื้นฐานภาษาอังกฤษของนักเรียนไม่ดีนัก ติวเตอร์จะสอนแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วนคนที่พื้นฐานดีอยู่แล้วติวเตอร์สามารถเน้นเนื้อหาให้เข้มข้นตามและเจาะจงหัวข้อที่อยากเรียน โดยจะสอนแบบรวบรัดเพื่อให้ได้เนื้อหาที่ครอบคลุม เพื่อให้สามารถสอบเข้าในสถานศึกษาชั้นนำได้ในที่สุด
5 ติวเตอร์จะให้นักเรียนฝึกทำข้อสอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อสอบมิดเทอม ข้อสอบเพื่อเรียนต่อ และช่วยฝึกฝนการสนทนาภาษาอังกฤษแบบที่ไม่น่าเบื่อ เพราะมีเทคนิคใหม่ ๆ ที่ทันสมัยมาช่วยให้นักเรียนชอบภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยให้นักเรียนรู้ถึงข้อผิดพลาดขอตัวเองก่อนทำข้อสอบจริง
จุดอ่อนของเด็กไทยในการเรียนภาษาอังกฤษคืออะไร และควรทำอย่างไรเพื่อพัฒนาการเรียนภาษาอังกฤษให้ดียิ่งขึ้น
อะไรคือจุดอ่อนของการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนไทย แล้วเราจะแก้ได้อย่างไร ปัจจุบันหลายโรงเรียน มีการสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่ชั้นอนุบาลและต่อเนื่องในทุกระดับชั้น แต่ทำไมภาษาอังกฤษยังคงเป็นจุดอ่อนสำหรับน้อง ๆ หลาย ๆ คน จากการค้นคว้าข้อมูลจากหลายแหล่งได้สรุปสาเหตุไว้คร่าว ๆ ดังนี้ว่า

1. ขาดการฝึกฝน ขาดคำศัพท์ เพราะส่วนใหญ่นักเรียน จะเรียนภาษาอังกฤษในห้องเรียน 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ต่อวัน แต่เวลาที่เหลือแทบจะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเลย การเรียนการสอนส่วนใหญ่เน้นไปที่ให้ทำข้อสอบได้ ดังนั้นเด็กนักเรียนไทยส่วนหนึ่งเรียนภาษาอังกฤษเพื่อจะใช้ในห้องสอบ ทักษะอื่น ๆ และคำศัพท์นอกเหนือจากที่เรียนในห้องเรียนแทบจะไม่ได้ใช้เลย ทางแก้ไขคือน้อง ๆ นักเรียน ต้องฝึกฝน เรียนรู้เพิ่มเติม และเพิ่มคำศัพท์แล้วพยายามใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน อาจมีการรวมกลุ่มหรือชมรม ห้องเรียนพิเศษที่มีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษมากกว่าในห้องเรียน
2. เป็นเหตุต่อเนื่องจากข้อแรก คือขาดความมั่นใจเพราะกลัวพูดผิด กลัวพูดออกไปแล้วสื่อสารไม่ได้เลยไม่กล้าที่จะพูด บวกกับนิสัยของคนไทยที่ขี้อาย เกรงใจ เขิน ไม่กล้าแสดงออก จนไม่กล้าพูด ทางแก้ไขคือ เมื่อมีโอกาสได้ใช้ภาษาควรแสดงความสามารถและพยายามสื่อสารทั้งด้วยคำพูด น้ำเสียงและท่าทางประกอบกัน เมื่อผ่านไปได้ครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งต่อ ๆไปจะตามมา ที่สำคัญต้องจำคำศัพท์ให้ได้มาก ๆ จะช่วยให้เราสื่อสารได้มากขึ้น
3. การเรียนการสอนที่ไม่ถูกหลัก ทำให้ไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษ อย่างที่รู้กันอยู่ว่าทุกวันนี้เด็กไทยของเราเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล และได้รับการสอนภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ มากกว่า 10 ปี แต่คนไทยเรายังไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ จากการศึกษาข้อมูลทำให้พบว่า การสอนภาษาอังกฤษที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก โดยที่เราเริ่มต้นสอนทักษะภาษาอังกฤษจากการอ่าน การเขียน ก่อนที่จะเรียนการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ จึงทำให้การเรียนรู้การพูดภาษาอังกฤษของเด็กไทยนั้นเป็นเรื่องที่ยาก เพราะเมื่อทำไม่ได้เลยรู้สึกไม่สนุก ไม่อยากเรียน ครูผู้สอนควรสร้างบรรยากาศการเรียนให้สนุก เช่นเรียนภาษาอังกฤษจากเพลง แล้วค่อย ๆ แทรกเนื้อหาหลักไวยากรณ์หรือคำศัพท์ลงไป นักเรียนจะซึมซับความรู้เหล่านั้นไปโดยไม่รู้ตัว

ปัจจัยทั้งหมดนอกจากตัวของน้อง ๆ นักเรียนเอง ยังมีเรื่องของสภาพแวดล้อม ที่ส่งผลกระทบต่อผู้เรียนโดยตรง ถ้าปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนสามารถทำให้นักเรียนได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำ และได้ช่วยพัฒนาจุดอ่อนของน้องๆนักเรียนอย่างตรงจุด จะสามารถช่วยพัฒนานักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

TOEIC, TOEFL และ IELTS มีความสำคัญอย่างไร ใส่ใจมีติวเตอร์สอนหรือไม่
TOEIC (Test of English for International Communication) หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า “โทอิก” เป็นการทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษสำหรับคนที่ต้องการจะสมัครงานจำพวกการบิน การโรงแรม งานท่องเที่ยว ขนส่ง รวมไปถึงบริษัทเอกชนอีกหลายแห่ง โดยการสอบโทอิกนี้จะเน้นไปที่การวัดระดับทักษะการฟังและการอ่านเป็นหลัก ปัจจุบันนี้การสอบโทอิกได้แบ่งออกเป็น 2 พาร์ทด้วยกันคือ การฟังและการอ่าน (TOEIC Listening and Reading Test) และพาร์ท การพูดและการฟัง (TOEIC Speaking and Writing Tests) ซึ่งข้อสอบจะเป็นแบบปรนัย รวมทั้งสิ้น 990 คะแนน

TOEL (Test of English as a Foreign Language) หรือที่เราเรียกสั้น ๆ ว่า “โทเฟิล” หรือ “โทเฟล” นั่นเอง เป็นแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร หรือภาษาประจำชาติ การสอบชนิดนี้จะครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะ คือ การอ่าน การพูด การฟัง และการเขียน รวมทั้งสิ้น 120 คะแนน โทเฟลยังสามารถใช้ยื่นในการสอบเข้าเรียนในต่างประเทศอย่างอเมริกาได้อีกด้วย

IELTS (International English Language Testing System) นิยมเรียกกันว่า “ไอเอลส์” เป็นการทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่มีความสนใจทั่วไป หรือผู้ที่ต้องการจะเรียนต่อหรือสมัครงานในต่างประเทศฝั่งยุโรป โดยจะมีการสอบทั้งหมด 9 ระดับด้วยกัน แน่นอนว่าการทดสอบทั้ง 3 อย่างนี้เป็นการทดสอบเกี่ยวกับภาษา สำหรับผู้ที่สนใจจะสมัครเรียนหรือทำงานต่อในสายงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร เช่น การบิน การโรงแรม ท่องเที่ยว หรือบริษัทเอกชนต่าง ๆ ผลสอบเหล่านี้จะช่วยยืนยันว่าคุณมีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ และเปิดโอกาสในการทำงานให้กับคุณมากยิ่งขึ้นนั่นเอง