ติวเตอร์ภาษาไทย ใน เชียงดาว, เชียงใหม่

ติวเตอร์ภาษาไทย ใน เชียงดาว, เชียงใหม่

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการติวเตอร์ภาษาไทย ใน เชียงดาว, เชียงใหม่:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ศิระประภา จีรพัฒนโภคิน
ศิระประภา จีรพัฒนโภคิน
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

ดิฉันเป็นนักศึกษาปีที่4 สาขาภาษาจีนธุรกิจ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ปัจจุบันนี้กำลังฝึกงานอยู่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เคยมีประสบการณ์เป็นครูผู้ช่วยที่สถาบันสอนภาษาแห่งหนึ่ง มีผลสอบHSKระดับที่6 ส่วนภาษาอังกฤษอยู่ในระดับดี เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน จึงมีส่วนช่วยในการพัฒนาทักษะทางด้านภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก นิสัยส่วนตัว เป็นคนเป็นกันเอง มีความมุ่งมั่นตั้งใจสูง หากได้ลงมือทำอะไรแล้ว จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Nantanat Kangwansong
Nantanat Kangwansong
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี

หากคุณกำลังมองหาติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ สังคมศาสตร์ มาเรียนกับดิฉันสิคะ

- จากประสบการณ์การทำงานกับชาวต่างชาติมากกว่า 13 ปี ให้กับแผนก Visiting Schools Program แคมปัสเดียวกับโรงเรียนนานาชาติเปรมติณสูลานนท์ ดิฉันได้เป็นติวเตอร์ใหกับนักเรียนหลายคน

- ดิฉันมีทักษะ ความรู้ในการสอนนักเรียนชาวไทยและชาวต่างชาติและ มีความอดทน มีความเข้าใจถึงความต้องการของนักเรียน

- ขณะนี้ดิฉันได้ทำการสอนวิชาภาษาอังกฤษ ภาษาไทยและคณิตศาสตร์ ทั้งแบบออนไลน์แบะแบบตัวต่อตัวให้กับนักเรียนและผู้ใหญ่ชาวไทยและชาวต่างชาติ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

คนส่วนใหญ่คิดว่า ภาษาไทยก็พูดได้กันอยู่แล้ว จะเรียนไปทำไม จริงๆ ภาษาไทยมีความซับซ้อนมาก เขียนผิดนิดเดียว วรรคผิดนิดนึง ความหมายก็เปลี่ยนโดยเฉพาะลูกเราเป็นเด็ก 2 ภาษา พ่อพูดภาษาอังกฤษ แม่พูดภาษาไทย บางครั้งลูกค่อนข้างสับสน จะสอนเองก็ไม่เก่ง มองหาติวเตอร์ภาษาไทย คิดว่าจะหายาก แต่พอมาเจอเว็บใส่ใจ เปลี่ยนความคิดเลยค่ะ ได้ติวเตอร์คุณภาพ มีคุณสมบัติที่ครบถ้วน ตรงตามความต้องการทุกอย่างเลยค่ะ
Saijai
ช่อลัดดา รัตนภูมิ
4 ปีที่แล้ว
เจอครูประจำชั้นลูกครั้งล่าสุด ครูบอกว่าลูกเรามีปัญหาด้านภาษาไทย เราเองก็เพิ่งย้ายมาทำงานแถวทองหล่อ ไม่แน่ใจสถานที่เรียน คุยกับแม่ ๆ หลายคนส่งลูกไปติววิชาภาษาไทยกับติวเตอร์ที่นี่ ลองเข้าไปศึกษาดูข้อมูลในเว็บ ก็น่าสนใจจริง ๆ ที่สำคัญราคาไม่แพงอย่างที่คิด บอกตามตรงช่วงนี้ก็ต้องประหยัดค่าใช้จ่าย แต่สุดท้ายคิดว่าอยากให้ลูกมีพัฒนาการด้านภาษาที่ดีตั้งแต่เด็ก เลยให้ลูกเรียนดีกว่าค่ะ
Saijai
สรัญภร สุวรรณ
4 ปีที่แล้ว
ครอบครัวเราเพิ่งย้ายกลับจากสวีเดนมาไทยได้ไม่นาน อยากให้ลูกฝึกภาษาไทยเลยจ้างติวเตอร์มาสอน คนรู้จักแนะนำเว็บของใส่ใจให้เลยลองเข้าไปดู ตัวเว็บใช้งานสะดวกมากค่ะ บริการก็ดี แนะนำเลยค่ะ
Saijai
คีตา เวลส์
4 ปีที่แล้ว
คือว่าหนูอยากเข้าเรียนเอกภาษาไทยค่ะ เพราะว่าตัวเองพอมีทักษะทางด้านภาษาไทยอยู่บ้างคะ เคยแต่งคำประพันธ์ เขียนเรียงความ แล้วก็เคยแข่งอะไรที่เกี่ยวกับภาษาไทยอีกมากมาย การเลือกมาติวเพิ่ม เพื่อฝึกฝนทักษะเพิ่มเติม ทำความเข้าใจให้มากขึ้น ภาษาไทยเป็นภาษาที่สวยงาม ความฝันของหนูคือการเป็นนักเขียน ติวเตอร์ที่นี่ให้แนวทางดีมากๆ เลยคะ
Saijai
ณัชชา โสภณวัชรากุล
4 ปีที่แล้ว
จ้างติวเตอร์ภาษาไทย เรียนไปเรียนมาสนุกขึ้น พบความสละสลวย คำคล้องจอง ทำให้ เราเอาไปประยุกต์ใช้ในการเขียนรายงานได้มากขึ้น เรามีความกล้าที่จะพรีเซนต์รายงานหน้าห้องมากขึ้น
Saijai
ฑิมพิกา อภิวัชช์คุณากร
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์ภาษาไทย

ปัญหาใดที่พบบ่อยในการใช้ภาษาไทยของเด็กไทยในปัจจุบัน มีวิธีการแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไรบ้าง
ปัญหาการใช้ภาษาไทยของเด็กไทยในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและยาวนานมากแล้ว ยกตัวอย่างคำง่าย ๆ เช่น ค่ะ หรือ นะคะ เป็นคำยอดฮิตทุกยุคทุกสมัยที่คนยังคงสะกดไม่ถูกต้อง ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้องคือ ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ได้รับจากสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นเป็นกลุ่มที่นิยมใช้ภาษาเฉพาะกลุ่มในการติดต่อสื่อสาร ไม่ว่าจะทาง Facebook หรือ Line Application โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องเหมาะสมของภาษา ในบางครั้งมีการสร้างค่านิยมที่ผิด ๆ สร้างคำศัพท์ใหม่ ๆ ขึ้นมาเพื่อใช้สื่อสารกันและทำให้เด็กรุ่นใหม่เรียนรู้และจดจำคำศัพท์ที่ผิดไปด้วย

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเคยนำนิสิตนักศึกษาจำนวน 398 คน มาทำการทดสอบเพื่อวัดสมรรถภาพในการใช้ภาษาไทย หัวข้อทักษะการเขียนภาษาไทยเพื่อการประกอบอาชีพ ผลที่ได้คือ มีนักศึกษาอยู่ในระดับดีเพียง 28 คนเท่านั้น และไม่มีผู้เข้าทดสอบคนใดที่มีผลอยู่ในเกณฑ์ "ดีมาก" ข้อผิดพลาดที่พบคือ เรื่องการเว้นวรรคตอนผิด จากจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์การทดสอบทั้งหมด 250 คน ที่สื่อความคิดได้ครบถ้วนแต่ยังคงต้องปรับปรุงเรื่องการใช้คำเชื่อม การใช้คำให้ตรงความหมายและการสะกดคำ และมีผู้ไม่ผ่านเกณฑ์การทดสอบถึง 120 คน

แนวทางในการแก้ปัญหาการใช้ภาษาไทยของเด็กไทย อาจจะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยสอดส่องดูแลอย่างใกล้ชิดแต่ถึงอย่างไรการจัดการกับปัญหานี้ไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานรัฐเพียงอย่างเดียว ปัจจัยหลัก ๆ ที่จะช่วยจัดการกับปัญหาการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่นได้ง่ายที่สุด คือ สถาบันครอบครัว เช่น พ่อ แม่ หรือญาติผู้ใหญ่ ผู้อาวุโสในบ้าน ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ตัวและมีบทบาทสำคัญที่สุดที่จะช่วยในการแก้ปัญหา โดยเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็ก สอนให้เด็กเขียนหนังสือให้ถูกต้อง พูดให้สุภาพ และปลูกฝังนิสัยรักการอ่านยิ่งช่วยให้เด็กคุ้นเคยกับการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง
อยากให้ผลการเรียนภาษาไทยดีขึ้น ควรจ้างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ส่วนตัวหรือไม่
เรียนเสริม เรียนพิเศษภาษาไทยสำคัญหรือไม่ เรามาดูกันค่ะ
ภาษาไทยไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด หลายคนมักคิดว่าภาษาไทยไม่ได้มีความสำคัญอะไรเพราะเป็นภาษาแม่ของเราอยู่แล้ว เราพูด อ่าน เขียน ภาษาไทยกันมาตั้งแต่เด็กจึงไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เพิ่มเติม แต่จริง ๆ แล้วภาษาไทยมีอะไรมากกว่าที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน ที่เป็นเพียงภาษาพูดทั่วไป แต่ภาษาไทยมีหลายระดับ ทั้งภาษาราชการ ราชาศัพท์ คำศัพท์ที่ใช้เฉพาะ เช่น คำศัพท์ที่ใช้กับพระสงฆ์ ด้วยความหลากหลายในการใช้ภาษาจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ควรให้เด็กเรียนภาษาไทยตั้งแต่เนิ่น ๆ ตามสุภาษิตไทยที่ว่า ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก โดยเฉพาะการเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวยิ่งทำให้ง่ายต่อการเรียนรู้และพัฒนา หลายคนคิดว่าวิชาภาษาไทยเป็นวิชาที่น่าเบื่อ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นวิชาสำคัญที่นักเรียนต้องเรียนและควรให้ความสนใจ เป็นอีกหนึ่งในวิชาหลักที่จะต้องมีการเอาไปคิดคะแนนและมันมีผลต่อคะแนนปลายภาคอย่างมากอีกด้วย

ตามที่เกริ่นไปแล้วข้างต้น ภาษาไทยสำหรับคนไทยดูเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ เด็ก ๆ ไม่ให้ความสนใจสักเท่าที่ควร ดังนั้น หากเรามีครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ที่เก่งและมีเทคนิคดี ๆ มาสร้างความสนใจในการเรียนภาษาไทยของเด็กแล้ว วิชาภาษาไทยจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ยิ่งถ้าติวเตอร์เป็นผู้มีประสบการณ์ในการสอนเพื่อดึงดูดให้นักเรียนสนใจเรียนแล้ว เป็นเรื่องที่ดีมากขึ้นไปอีก ติวเตอร์ภาษาไทย จะมีความรู้เรื่องการอ่านและการเขียนภาษาไทย โดยเน้นการปูพื้นฐานให้แน่น จดจำสระ ประสมพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ ออกเสียงคำศัพท์ที่มีวรรณยุกต์แตกต่างกันได้ชัดเจน และออกเสียงพยัญชนะตัวสะกดให้ถูกต้อง แล้วค่อย ๆ พัฒนาไปถึงการเขียนประโยค เมื่อพื้นฐานดี การพัฒนาจะดียิ่งขึ้นในอนาคต
ใส่ใจมีติวเตอร์ที่สอนภาษาไทยให้กับชาวต่างชาติหรือไม่
บนแพลตฟอร์มใส่ใจ (SAIJAI) มีผู้ให้บริการหรือติวเตอร์สอนภาษาไทยหลักสูตรที่เหมาะสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการพูดภาษาไทยระดับพื้นฐานและพัฒนาก้าวไปจนถึงการสื่อสารในภาคธุรกิจ และสามารถใช้ภาษาได้อย่างเจ้าของภาษา สามารถเรียนรู้ควบคู่ไปกับการเรียนรู้วัฒนธรรมไทย เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจและใช้ภาษาได้อย่างสอดคล้องกับวัฒนธรรมไทย

ติวเตอร์ที่มีความเข้าใจเรื่องของภาษาศาสตร์ ไม่ได้เป็นเพียงเจ้าของภาษาและพูดภาษาไทยได้เท่านั้น เพราะความสำคัญของการสอนภาษานั้น ต้องสามารถอธิบายทักษะของภาษาไทยได้ ว่าทำไมเราจึงใช้ภาษาไทยสื่อสารอย่างนั้น และสามารถเปรียบเทียบกับภาษาเดิมของชาวต่างชาติที่เรียนได้ด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจและมีประสิทธิภาพ ติวเตอร์จะดูแลการเรียนการสอน ภาษาไทย ให้ใช้ได้ถูกต้องยืดหยุ่นได้ตามศักยภาพของผู้เรียน ติวเตอร์ได้เลือกและสร้างสรรค์หลักสูตรและเนื้อหาให้เหมาะสมกับผู้เรียนเพราะชาวต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ (ต่างกับเราที่เรียนภาษาไทย ภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก) เช่น คนต่างชาติที่เพิ่งมาอยู่ไทย เพิ่งรู้จักสังคมไทย และบางประเทศมีวัฒนธรรมและโครงสร้างของภาษาที่ต่างจากภาษาไทยมาก เช่น ไม่มีคำลักษณะนาม แต่ภาษาไทยมีการใช้คำลักษณะนามที่ชัดเจน เช่น จดหมาย 1 ฉบับ, ปากกา 1 ด้าม, ไข่ 1 ฟอง ฯลฯ เพื่อจะให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจและใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง

ลองเลือกดูข้อมูลของติวเตอร์สอนภาษาไทยที่ตรงใจคุณที่สุดได้เลยค่ะ
บทเรียนเริ่มต้นสำหรับชาวต่างชาติที่อยากเรียนภาษาไทย ควรเริ่มด้วยอะไร
อยากเรียนภาษาไทย ควรเริ่มต้นจากตรงไหนดี ? สำหรับชาวต่างชาติที่อยากเรียนภาษาไทยกับครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ภาษาไทยควรเริ่มต้นอย่างไรมาดูกันค่ะ

1. ฝึดการฟัง ฟังคำง่ายๆ ประกอบท่าทาง เช่น สวัสดี ขอบคุณ ขอโทษ หรือ มีภาพประกอบเป็นคำเกี่ยวกับอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย สิ่งของรอบตัว สัตว์เลี้ยง โดยติวเตอร์จะพูดซ้ำ 3-5 ครั้ง ให้ผู้เรียนจดจำได้ และอาจจะมีการสอนการฟังสอดแทรกวันละ 15-20 นาที และวันแรกไม่เกิน 10 คำ เพราะถ้าสอนมากไปจะจำไม่ได้และสับสน ค่อย ๆ เพิ่มคำศัพท์ในวันต่อ ๆ ไป
2. ฝึกการพูด ให้ฝึกพูดเกี่ยวกับสิ่งใกล้ตัวผู้เรียนก่อน ได้แก่ คำทักทาย สวัสดี ขอโทษ ขอบคุณ ต่อมาให้รู้จักพูดชื่อครูและชื่อตนเอง พูดเกี่ยวกับอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น หน้า ผม ตา จมูก มือ เท้า แขน ขา และอิริยาบถต่างๆ ของร่างกาย เช่น ยืน เดิน นั่ง นอน วิ่ง ต่อมาให้ผู้เรียนสามารถ เรียกชื่อวัตถุสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น สมุด ดินสอ ปากกา ยางลบ ไม้บรรทัด หน้าต่าง ประตู โต๊ะ เก้าอี้ กระดาษ
3. ฝึกการอ่าน อาจฝึกอ่านได้หลายวิธี แล้วแต่ความพร้อมของผู้เรียน โดยฝึกอ่านจากตัวพยัญชนะ เริ่มจาก ก ไปจนถึง ฮ แต่ให้ติวเตอร์จะสอนอ่านวันละ 5-10 ตัว และอาจฝึกอ่านคำจากภาพ เช่น ไก่ ไข่ ขวด ควาย ระฆัง งู จนถึงนกฮูก ต่อมาฝึกอ่านประโยค และอ่านเรื่อง ตามลำดับ
4. เริ่มฝึกเขียนพยัญชนะ ก ถึง ฮ ซึ่งวิธีนี้มักนิยมกันอย่างแพร่หลาย หรืออาจลองฝึกหัดเขียนโดยเน้นเขียนตัวที่ฝึกง่ายก่อนก็ได้ หรือตัวที่เขียนคล้าย ๆ กันก่อน เพราะฝึกเขียนง่ายและเป็นมีรูปแบบใกล้เคียงกัน
5 ฝึกถาม-ตอบ คำถามง่าย ๆ ที่ใช้บ่อยและสามารถนำไปใช้ต่อไปในชีวิตประจำวันได้ด้วย

เริ่มต้นง่าย ๆ กับติวเตอร์ภาษาไทยบนแพลตฟอร์มใส่ใจ ทำให้คุณค้นหาผู้ให้บริการที่ตรงใจคุณที่สุด