ติวเตอร์วิทยาศาสตร์ ใน เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต

อยากเป็นเด็กสายวิทย์-คณิต ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ลองมาดูกันนะคะ

1. ตั้งใจเรียนในห้องเรียน มีสมาธิและโฟกัสในสิ่งที่ครูสอน จะทำให้รู้แนวทางว่าครูต้องการเน้นเนื้อหาอะไร จุดไหนเป็นจุดสำคัญ นอกจากนี้ควรตั้งใจเรียนทั้งในห้องเรียนและที่เรียนพิเศษ
2. เรียนเสริม หรือติวกับติวเตอร์ วิธีนี้ช่วยได้เพราะติวเตอร์มีเทคนิคต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ในการทำข้อสอบและมีประโยชน์ในการจำ
3. พยายามทำความเข้าใจและหากไม่เข้าใจให้ถามคุณครูเพื่อความกระจ่าง อย่าอายที่จะถาม โดยให้เรียนไปด้วยคิดตามไปด้วย ต้องพยายามทำความเข้าใจ หรือศึกษาเพิ่มเติมด้วยตัวเองโดยการดูวิดีโอจากสื่อต่าง ๆ เช่น Youtube ซึ่งจะมีวิธีการสอนที่เข้าใจง่าย หรือสามารถดูซ้ำจนกว่าจะเข้าใจ
4. การแบ่งเวลาเป็นเรื่องที่สำคัญมากอีกเรื่องหนึ่งเพราะบางบทบางวิชาต้องใช้เวลานานในการทำความเข้าใจ ต้องให้เวลากับบทนั้นๆ จึงต้องแบ่งเวลาเล่นกับเวลาเรียนให้ได้ หากเรียนมากเกินไปไม่มีเวลาพักจะทำให้เครียด ดังนั้นจึงต้องบริหารเวลาให้เป็น
5. ทำสรุปเนื้อหาบทเรียนต่างๆ ในแบบของตัวเอง ถือว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้สนุกในการอ่านหนังสือ ทำให้เราจดบันทึกความรู้ที่ได้รับมาเป็นภาษาของตัวเอง เข้าใจง่ายและกระชับ อาจจะเป็นการบรรยายสั้น ๆ หรือวาดรูปเพิ่มด้วยก็ได้ พอทำสรุปออกมาจากหนังสือหลายสิบหน้าอยู่ในกระดาษแค่แผ่นเดียว จะทำให้รู้สึกว่าเนื้อหาไม่เยอะ และมีกำลังใจอ่านมากขึ้น ที่สำคัญการสรุปเนื้อหาเป็นการทบทวนบทเรียนไปในตัวด้วย
เราควรพักผ่อนให้เพียงพอเพราะมีประโยชน์ทั้งต่อร่างกายและสมอง หากพักผ่อนเพียงพอแล้วจะรู้สึกสดชื่นพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ใส่ใจ (SAIJAI) เชื่อว่าวิทยาศาสตร์อยู่รอบตัวเรา การเรียนรู้วิทยาศาสตร์คือการเข้าใจธรรมชาติ เข้าใจโลก บนแพลตฟอร์มของเรามีผู้ให้บริการครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์วิทยาศาสตร์ที่พร้อมถ่ายทอดความรู้ให้กับนักเรียนในทุกระดับชั้น เพื่อการเรียนรู้ ทบทวนและสร้างความมั่นใจในการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์

1. อนุบาล ธรรมชาติสิ่งต่าง ๆ รอบตัวคือสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับน้อง ๆ วัยเรียนอนุบาล มีความหมายมากมาย สำหรับโลกใหม่ในธรรมชาติ สังเกตสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัว เมื่อการเรียนรู้สามารถตอบคำถามในใจน้อง ๆ ได้ ทำให้เด็กรักในธรรมชาติและสิ่งรอบข้างเสริมสร้างนิสัยรักวิทยาศาสตร์ตั้งแต่เล็ก
2. การเรียนวิทยาศาสตร์วัยประถมศึกษา โลกกว้างขึ้น เรื่องราวมีความสนุกและน่าเรียนรู้ เรื่องราวของร่างกาย สู่ธรรมชาติที่น่าสนใจ ไปยังอวกาศ ดวงดาว กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และธรณีวิทยา
3. ช่วงระดับมัธยมศึกษา วิชาวิทยาศาสตร์มีความเข้มข้นมากขึ้น ต้องสรุปแนวทางของสูตรต่าง ๆ ให้นักเรียนเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น ทั้งฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา และดาราศาสตร์ เจาะแนวทางข้อสอบเพื่อความฝันในอนาคต
4. ระดับมหาวิทยาลัย วิธีการต่อยอดความรู้ทางวิทยาศาสตร์พื้นฐานในระดับมัธยมสู่ระดับมหาวิทยาลัย เข้าใจรวมถึงกฎต่าง ๆ ทางฟิสิกส์ หรือชีววิทยา ซึ่งมีความแตกต่างกันไปตามสาขาวิชาที่เรียน
5. สำรับบุคคลทั่วไป ที่ต้องการต่อยอดความรู้เพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน หรือนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

วิชาวิทยาศาสตร์มัธยมปลาย มีความสำคัญอย่างมากต่อการสอบเพื่อเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย บนแพลตฟอร์มใส่ใจมีผู้ให้บริการติวเตอร์ในแขนงวิชาวิทยาศาสตร์ทุกสาขา เพื่อสอนในระดับมัธยมปลายที่มีความรู้ ความสามารถ โดยแผนการเรียนวิทยาศาสตร์จะเน้นวิชา ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ซึ่งจะได้เรียนทั้งทฤษฎีและการปฏิบัติ โดยมีรายละเอียดต่างๆดังนี้

1. วิชาฟิสิกส์ เป็นวิทยาศาสตร์ที่ว่าด้วยการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต สสาร พลังงาน และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ รวมไปถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยศึกษาค้นคว้าจากการทดลอง สังเกต และจดบันทึกรวบรวมข้อมูลเพื่อมาทำการวิเคราะห์สรุปผล นอกจากนี้ความรู้ทางด้านฟิสิกส์ยังสามารถนำไปเป็นความรู้พื้นฐานในการนำไปใช้กับเทคโนโลยีเพื่อทำการผลิตสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรกล ยานพาหนะ จะเห็นได้ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ล้วนใช้หลักในการผลิตมาจากความรู้ทางฟิสิกส์ทั้งสิ้น
2. วิชาเคมี เหตุผลสำคัญที่ต้องเรียนวิชาเคมีเนื่องจากวิชาเคมีเป็นรากฐานของวิทยาศาสตร์พื้นฐานที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ซึ่งเป็นผลจากการค้นพบและการประยุกต์ใช้กฎต่างๆ ทางเคมี การศึกษาวิชาเคมีประกอบด้วยกระบวนการ 3 ขั้นตอน คือ
- การสังเกต (Observation)
- การแสดงผล (Representation)
- การแปลความหมายข้อมูล (Interpretation)
เราจึงจำเป็นต้องศึกษาเคมีเพื่อจะได้นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในวิชาชีพ และในการดำรงชีวิตประจำวัน
3. วิชาชีววิทยา เป็นการศึกษาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตเชิงวิทยาศาสตร์ โดยการอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการศึกษา ดังนั้นเราจึงต้องเรียนรู้เกี่ยวกับชีววิทยาเพื่อเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตและสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้