ผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา

ผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

รีวิวล่าสุด

คุณแม่สามีมาจากประเทศอังกฤษ เราเลยหาผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา จากใส่ใจมาดูแล ทำงานดีมาก พูดภาษาอังกฤษคล่องด้วย แม่สามีชมใหญ่เลย
Saijai
กาญจณา บลัดเวิร์ท
3 ปีที่แล้ว
ผู้ดูแลสองภาษาที่เราติดต่อผ่านเว็บใส่ใจ ทำงานดีมาก ขอชื่นชมเลยค่ะ ตั้งใจเข้ามารีวิวให้เลย เพราะน้องเค้าทั้งช่วย​เช็ดตัว เปลี่ยนแพมเพิส พยุง Mama เราให้นั่งรถเข็น จัดยา จัดอาหารให้ ทำกายภาพให้ ดูแลความสะอาด ต่าง ๆ ในบ้านให้เราด้วย น้องเค้าทำงานดีมาก ๆ จริง ๆ ประทับใจมากค่ะ
Saijai
ณัฐวรินทร์ แสงชูโต
3 ปีที่แล้ว
พนักงานดูแลที่จ้างมา สุภาพแถมมีมารยาทกับคนในบ้านมากๆ
Saijai
อารีนา เกศุมณี
3 ปีที่แล้ว
I got the bilingual senior care for my dad with perfect process, perfect service, and perfect price. Thank you so much.
Saijai
Christina Yang
3 ปีที่แล้ว
คุณปู่ที่บ้านแกเป็นคนเชื้อสายจีนครับ ปกติเป็นคนดื้อ ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย แต่ตอนนี้ดีขึ้นตั้งแต่ได้คนมาช่วยดูแล
Saijai
เมรี รัตนชัยกุล
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา

ข้อดีของผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษาในกรณีที่ต้องดูแลผู้สูงอายุชาวต่างชาติมีอะไรบ้าง
ด้วยจุดเด่นในด้านงานบริการด้วยรอยยิ้ม ค่าครองชีพที่ไม่สูง สภาพอากาศที่อบอุ่น ศิลปวัฒนธรรมที่สวยงาม และการบริการทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับ ทำให้มีผู้สูงอายุจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางเข้ามาประเทศไทยเพื่อท่องเที่ยว พักผ่อน หรือใช้ชีวิตยามบั้นปลายหลังเกษียณ จนประเทศไทยถูกจัดอยู่ใน 1 ใน 5 ของประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางในการเดินทางของผู้สูงอายุ และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเติบโตอย่างต่อเนื่องราว 6.5% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2558-2560 อาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ขยายตัวตามเทรนด์นี้ด้วย โดยเฉพาะผู้ดูแลสองภาษาที่สามารถสื่อสารกับผู้สูงอายุต่างชาติได้ ทำให้ผู้สูงอายุชาวต่างชาติสามารถมั่นใจได้ว่าผู้ดูแลนั้นตอบสนองต่อความต้องการของตนได้อย่างถูกต้อง และสร้างบรรยากาศที่ดีในการอยู่ร่วมกัน ที่สำคัญเมื่อสามารถสื่อสารกันได้เข้าใจ จะทำให้เข้าใจในความต่างทางวัฒนธรรมและมีความเคารพซึ่งกันและกัน การสื่อสารด้วยภาษาเดียวกันไม่ได้ส่งผลดีแค่ต่อตัวผู้สูงอายุเองเท่านั้น แต่ยังเป็นผลดีต่อครอบครัวของผู้สูงอายุด้วย อย่างในกรณีที่ผู้ดูแลต้องการติดต่อขอคำแนะ หรือแจ้งข่าวสารให้กับครอบครัวผู้สูงอายุ อาจเนื่องจากภาวะการเจ็บป่วยในผู้สูงอายุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ผู้สูงอายุบางท่านมีโรคประจำตัวต่างๆ เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง สามารถทำได้โดยตรงและทันท่วงที โดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือให้ผู้อื่นช่วยแปล ถือเป็นการรักษาความเป็นส่วนตัวและข้อมูลที่ไม่ควรเปิดเผยให้กับผู้สูงอายุด้วย
สำหรับผู้ที่ต้องการจ้างคนต่างชาติ เช่น สัญชาติฟิลลิปปินส์ พม่า ลาว หรือ กัมพูชา เพื่อดูแลผู้สูงอายุ ต้องเตรียมอะไรบ้าง
ประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ASEAN และยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามาทำงานทั้งลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม และฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะชาวฟิลิปปินส์ที่ถือเป็นชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง ทำให้สามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและมีความตั้งใจในการทำงาน ด้วยข้อได้เปรียบทางภาษาทำให้โอกาสที่แรงงานเหล่านี้เข้าไปทำงานแม่บ้าน หรือแม่บ้านดูแลผู้สูงอายุชาวต่างชาติในประเทศไทย

สำหรับผู้ที่ต้องการจ้างคนต่างชาติ เช่น สัญชาติฟิลิปปินส์ พม่า ลาว หรือ กัมพูชา เพื่อดูแลผู้สูงอายุ ต้องเตรียมอะไรบ้าง

1. เตรียมอุปกรณ์ในการดูแลผู้สูงอายุให้พร้อม เช่นอุปกรณ์พยุงช่วยเดิน (Walker) อุปกรณ์ทำความสะอาด สำลี ถุงมือยาง หน้ากากอนามัย เพื่อช่วยให้พี่เลี้ยงชาวต่างชาติทำงานได้สะดวกขึ้น บางครั้งผู้ดูแลผู้สูงอายุที่เป็นชาวต่างชาติ อาจมีอุปสรรคทางการสื่อสาร การเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม คนต่างชาติที่มาทำงานได้ตามหน้าที่
2. ตรวจสอบกฎหมายเรื่องใบอนุญาตการทำงาน แน่นอนว่าผู้ที่มารับจ้างดูแลผู้สูงอายุชาวต่างชาตินั้นต้องมีบัตรทำงานหรือใบอนุญาตทำงานจึงเป็นเอกสารสำคัญ ซึ่งนายจ้างทุกคนสามารถตรวจสอบบัตรทำงานได้ ซึ่งจะมีบัตรประเภท MOU และกลุ่มพิสูจน์สัญชาติในประเทศ โดยกลุ่ม MOU จะเป็นบัตรสีขาว และเล่มสีน้ำเงิน มีตราประทับในเล่มระบุ MOU เพื่อความสะดวกควรเลือกจ้างบริษัทที่ดูแล MOU ให้พนักงาน สัญชาติฟิลิปปินส์ พม่า ลาว หรือ กัมพูชา เพื่อลดขั้นตอนความยุ่งยาก
3. ต้องทำการตรวจประวัติอาชญากรรม เพราะแรงงานที่เข้ามามีความหลากหลาย บางครั้งเราไม่อาจทราบได้ว่าเคยมีปัญหาอะไรมาบ้าง การมีหนังสือรับรองก็สามารถ แน่นอนเราต้องสอบถามถิ่นที่พัก พักที่ไหน หากเกิดเหตุฉุกเฉินต้องติดต่อใคร ส่วนหลักประกันนั้น ตัวแทนหรือบริษัทควรเป็นผู้ดูแลหากเกิดความเสียหายขึ้นมา
4. ตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพกับกระทรวงสาธารณสุข ตามกฎหมายแรงงาน ต่างด้าวที่ต้องการทำงานในประเทศไทยต้องทำการตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อรับรองว่าไม่เป็นโรคต้องห้าม ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการทำงานดูแลผู้สูงอายุ เพราะผู้สูงอายุสามารถรับเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ง่าย
5.เตรียมทำความเข้าใจกับผู้สูงอายุ ว่าคนที่จ้างมาทำหน้าที่อะไรบ้าง เพื่อลดความรำคาญใจ หากคนที่จ้างมาทำงานไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้ ซึ่งอาจเป็นงานนอกเหนือกว่าที่ตกลงไว้
ค่าจ้างหรือค่าแรงของคนสัญชาติอื่นในงานดูแลผู้สูงอายุ เช่น สัญชาติฟิลิปปินส์ หรือพม่า จะสูงกว่าค่าแรงสำหรับจ้างผู้ดูแลชาวไทยหรือไม่
เมื่อพูดกันถึงประเด็นค่าจ้างหรือค่าแรงของคนสัญชาติอื่นในงานบริการดูแลผู้สูงอายุ ว่าจะสูงกว่าค่าแรงของผู้ดูแลชาวไทยหรือไม่ อย่างไรนั้น เรามีข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องนี้ดังนี้

ประเด็นแรก อัตราค่าจ้างของการทำงานของคนต่างด้าว หรือของคนสัญชาติอื่นในประเทศไทย นั้น มีหลักเกณฑ์และข้อกำหนดเรื่องค่าจ้าง หรือค่าแรงขั้นต่ำ ตามหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตทำงานของกระทรวงแรงงาน โดยได้กำหนดค่าจ้างขั้นต่ำของสัญชาติอื่นไว้ดังนี้ เช่น ฟิลิปปินส์ เงินเดือนขั้นต่ำ ต้องไม่น้อยกว่า 35,000 บาท ต่อเดือน หรือ สัญชาติพม่า เงินเดือนขั้นต่ำต้องไม่น้อยกว่า 25,000 บาท ต่อเดือน
ประการที่สอง อย่างที่พอรู้กันอยู่แล้วว่าประเทศไทยมีชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มชาวต่างชาติวัยเกษียณที่ตัดสินใจเลือกประเทศไทยเพื่อใช้ชีวิตในบั้นปลาย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลของอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราที่สูงกว่าเงินบาท หรือค่าครองชีพที่ถูกว่าหากต้องใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ หรือแม้แต่ลักษณะภูมิอากาศ หรือความสวยงามของประเทศที่ดึงดูดให้คนเหล่านี้เลือกอาศัยอยู่ในประเทศไทย ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ ผู้ดูแลผู้สูงอายุที่สามารถสื่อสารภาษาต่างประเทศ เช่นภาษาอังกฤษได้ จึงเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน และ เนื่องด้วยลักษณะหน้าที่การทำงานที่การสื่อสารและความสามารถในการเข้าใจเรื่องภาษาเป็นสิ่งที่จำเป็นและมีความสำคัญต่อการปฏิบัติงานเป็นอย่างมาก ผู้ดูแลที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้จึงมีความได้เปรียบในการต่อรองเรื่องเงินเดือน และเป็นข้อได้เปรียบของผู้ดูแลผู้สูงอายุสัญชาติอื่น เนื่องจากสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีกว่าคนไทย แต่นั่นไม่ได้เป็นการการันตีว่าค่าจ้างของผู้ดูแลสัญชาติอื่นจะสูงกว่าผู้ดูแลสัญชาติไทยไปด้วย เพราะหากผู้ดูแลเป็นคนไทยที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี ย่อมมีความได้เปรียบในด้านการสื่อสารที่สังคมไทยส่วนใหญ่ยังใช้ภาษาไทยเป็นหลัก และคนไทยย่อมมีความเข้าใจวัฒนธรรมประเพณีไทยได้ดีกว่าคนชาติอื่น บวกกับลักษณะนิสัยของคนไทยที่ความโอบอ้อมอารี จึงทำให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุคนไทยที่มีคุณสมบัติด้านภาษาเป็นที่ต้องการและมีอัตราค่าจ้างสูงตามไปด้วย
เว็บไซต์ของใส่ใจมีข้อมูลผู้ให้บริการดูแลผู้สูงอายุที่พูดภาษาอังกฤษได้หรือไม่
สำหรับท่านที่กำลังมองหาผู้ดูแลผู้สูงอายุที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ท่านสามารถค้นหาผู้ดูแลที่มีคุณสมบัติดังกล่าวโดยระบุในตัวคัดกรอง (Filters) เพื่อให้ระบบแสดงข้อมูลของผู้ให้บริการที่ตรงตามความต้องการของท่าน และท่านสามารถเลือกดูประวัติของผู้ให้บริการที่ท่านสนใจ รวมถึงอัตรค่าบริการและรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการ เพื่อเป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุ