พี่เลี้ยงสองภาษา ใน สมุทรสาคร

พี่เลี้ยงสองภาษา ใน สมุทรสาคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ถ้าเทียบกับค่าจ้างพี่เลี้ยงสองภาษาที่อื่นแล้ว ใส่ใจมีหลากหลายราคาและหลากหลายตัวเลือกเลยค่ะ พี่เลี้ยงสองภาษาที่จ้างมาก็ถือว่าคุ้มค่ากับการจ้างด้วยค่ะ
Saijai
ฑิฆัมพร สุขโข
3 ปีที่แล้ว
มีสามีชาวต่างชาติ แต่ไม่มีเวลาดูแลลูกกันทั้งคู่ เราเลยมองหาพี่เลี้ยงชาวฟิลิปปินส์ จะได้คุยกับสามีเรารู้เรื่องและคุยกับลูกเราเป็นภาษาอังกฤษด้วย ตอนแรกพยามหาพี่เลี้ยงผ่านคนรู้จักก็ยังหาคนไม่ได้ สุดท้ายหาเองผ่านอินเตอร์เน็ต เจอกับเว็บใส่ใจ สะดวกสบายมากรับรองว่าจะแนะนำให้เพื่อน ๆ มาใช้บริการด้วยแน่นอนค่ะ
Saijai
ชัชฏาพร ฮอฟฟอร์ด
3 ปีที่แล้ว
To be honest, I prefer hiring a Filipino nanny who speaks English fluently because I want my child to start learning English since he was very young. And what I can see now, my son is trying to speak English with me all the time. Thank you Saijai so much for providing such a good quality nanny.
Saijai
Araya Josley
4 ปีที่แล้ว
อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษตั้งแต่เขายังเด็ก เราจึงตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงชาวฟิลิปปินส์ เพราะเราได้ทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างพี่เลี้ยงชาวฟิลิปปินส์ คุณแม่ส่วนใหญ่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าพี่เลี้ยงชาวฟิลิปปินส์มีมาตรฐานที่ดีในการเลี้ยงลูกที่ดีเลย อีกทั้งยังฝึกภาษาอังกฤษให้ลูกของเราอีกด้วย เราเลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงต่างชาติของทางใส่ใจ ตอนนี้พี่เลี้ยงเริ่มงานแล้ว 1 เดือน โดยรวมเราประทับใจในการบริการมาก ๆ และพี่เลียงเข้ากับลูกได้ดีเลยทีเดียว
Saijai
รุ้งลดา ทองสุข
4 ปีที่แล้ว
เลือกจ้างพี่เลี้ยงฟิลิปปินส์ค่ะ เข้ากันง่ายมากกับลูกทั้งเรื่องการสื่อสาร และการดูแล ลูกบอกพี่เลี้ยงใจดีมากๆ อยากให้อยู่เล่นด้วยกันบ่อยๆ ประทับใจจริงๆค่ะ
Saijai
เกศมณี พาศโยธี
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา พี่เลี้ยงสองภาษา

พี่เลี้ยงเด็กสองภาษาช่วยให้เด็กพัฒนาด้านภาษาได้จริงหรือไม่
มีการวิจัยว่าเด็กเล็กต้องได้รับรู้ภาษา 30% ของเวลาการตื่นนอนโดยประมาณ จึงจะมีความสามารถพูดภาษานั้น ๆ ได้คล่องแคล่ว

อย่างไรก็ตาม ความเชื่อที่ว่าเมื่อเด็กได้ฟังหลายภาษาทำให้พูดช้าลง เป็นความเชื่อที่ไม่เป็นความจริง เด็กจะพูดช้าหรือไม่ขึ้นอยู่กับตัวเด็กเองไม่ได้เกี่ยวกับการที่เขาได้ฟังหลายภาษา ดังนั้นพ่อแม่ที่ต้องการให้ลูกเป็นเด็กสองภาษา (Bilingual) ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับประเด็นนี้

เมื่อพ่อแม่ต้องไปทำงานและลูกต้องใช้ชีวิตอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมงกับคนอื่น พัฒนาการด้านภาษาจึงขึ้นอยู่กับผู้ที่เลี้ยงดูเด็ก เด็กมักเลียนแบบและทำตามคนใกล้ชิดเสมอ และผู้ที่ใกล้ชิดเด็กนอกจากพ่อแม่นั้นคือพี่เลี้ยงเด็ก การอ่านและการเขียน (Reading and Writing) อาจยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่ากับการฟังและการพูด (listening and speaking) ซึ่งการฝึกฝนตั้งแต่เล็ก ๆ จะเป็นการปูพื้นฐานให้เด็กสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีในอนาคต

ปัจจุบันในประเทศไทยพ่อแม่จำนวนมากจึงเทคะแนนนิยมหันมาจ้างพี่เลี้ยงเด็กชาวต่างชาติมากขึ้น เพื่อให้เด็กเกิดความคุ้นเคยกับการฟังและพูดภาษาอังกฤษไปโดยปริยาย ข้อดีอีกข้อหนึ่งคือทำให้ลูกได้ภาษาโดยไม่ต้องจ่ายเงินที่แพงมากเมื่อเทียบกับการไปเรียนภาษาเพิ่มเติมแบบหวังผลจริงจัง ตัวอย่างเช่น พี่เลี้ยงจากฟิลิปปินส์ส่วนมากจบการศึกษามาในระดับที่ดีและได้รับการฝึกอบรมมาอย่างถูกวิธี แต่การจ้างงานอาจจะมีความยุ่งยากอยู่บ้างเพราะทางไทยและฟิลิปปินส์เองยังไม่มีข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างแรงงานระหว่างรัฐ ทำให้การจ้างงานพี่เลี้ยงชาวฟิลิปปินส์ใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการจ้างแรงงานต่างด้าวทั่วไปซึ่งต้องเป็นการจ้างผ่านนิติบุคคล ในส่วนนี้คุณพ่อคุณแม่ที่อยากจ้างพี่เลี้ยงฟิลิปปินส์สามารถทำตามขั้นตอนเดียวกับการจ้างแรงงานต่างด้าวจากประเทศอื่นได้เลย
เหตุผลที่ค่าจ้างพี่เลี้ยงเด็กสองภาษาสูงกว่าค่าจ้างพี่เลี้ยงทั่วไป
คุณสมบัติบางอย่างของพี่เลี้ยงเป็นหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราค่าแรงหรือค่าจ้าง หากพ่อแม่ผู้ปกครองลองสำรวจอัตราค่าจ้างพี่เลี้ยงเด็กโดยค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต จะพบว่าค่าจ้างของพี่เลี้ยงเด็กสองภาษามักสูงกว่าค่าจ้างของพี่เลี้ยงเด็กทั่วไป เหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้ค่าจ้างของพี่เลี้ยงเด็กสองภาษาแพงกว่าพี่เลี้ยงเด็กทั่วไปนั้นต้องเป็นเรื่องของทักษะด้านภาษาแน่นอนอยู่แล้ว และโดยส่วนมากพี่เลี้ยงเด็กสองภาษาเป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยหรือพี่เลี้ยงสัญชาติไทยที่มีทักษะความรู้ด้านภาษาที่สอง พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนหนึ่งยินดีที่จะจ่ายแพงกว่าเพราะต้องการให้เด็กมีความสามารถพูดภาษาอังกฤษได้หรือต้องการเลี้ยงลูกแบบ Bilingual

พี่เลี้ยงเด็กสองภาษามีทักษะด้านภาษาที่สามารถดูแลและสอนการบ้านที่เป็นภาษาอังกฤษให้แก่เด็กได้ ยิ่งในปัจจุบันที่มีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่ชั้นอนุบาล พี่เลี้ยงเด็กสองภาษาสามารถแบ่งเบาหน้าที่ของพ่อแม่ผู้ปกครองในการสอนการบ้านหรืออ่านหนังสือนิทานภาษาอังกฤษเพราะตัวพี่เลี้ยงเองมีความรู้ความสามารถด้านภาษาในระดับหนึ่ง

ไม่ได้มีแค่ครอบครัวคนไทยที่ต้องการใช้บริการพี่เลี้ยงสองภาษา แต่ยังมีครอบครัวของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยและต้องการจ้างพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านภาษามาดูแลลูกของตน ดังนั้นจึงเป็นอะไรที่สะดวกกว่าหากเลือกจ้างพี่เลี้ยงที่สามารถเข้าใจและสื่อสารภาษาที่สองกับเด็กได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญผู้ปกครองชาวต่างชาติส่วนใหญ่เต็มใจที่จะให้ค่าตอบแทนที่สูงกว่าปกติเช่นกัน สิ่งเหล่านี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ค่าจ้างของพี่เลี้ยงเด็กสองภาษานั้นสูงกว่าค่าจ้างของพี่เลี้ยงทั่วไป
เทคนิคพิเศษที่พี่เลี้ยงสองภาษาควรมีเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางด้านภาษาของเด็กคืออะไร
เทคนิคพิเศษที่พี่เลี้ยงสองภาษาควรมีเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางด้านภาษาของเด็กมีดังต่อไปนี้

1. เทคนิคในการใช้สื่อการสอนเป็นภาษาที่สอง และมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้เด็ก ๆ ทำโดยไม่ซ้ำกัน พี่เลี้ยงสองภาษาสามารถจัดเตรียมสื่อการสอนต่าง ๆ ที่เป็นภาษาที่สองไว้ให้เด็ก เช่น การ์ดเกมคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โปสเตอร์คำศัพท์พร้อมรูปภาพ เกมฝึกทักษะด้านภาษาอย่าง Scrabble เป็นต้น สื่อการสอนเหล่านี้จะช่วยให้เด็กมีความสนใจในการเรียนรู้คำศัพท์มากกว่าต้องมานั่งจำหรืออ่านจากในตำราที่มีแต่ตัวหนังสือ
2. ดึงดูดความสนใจของเด็กด้วยวีดิโอหรือการ์ตูนที่เป็นภาษาอังกฤษ แทนที่พี่เลี้ยงจะให้เด็กดูแต่การ์ตูนภาษาไทย พี่เลี้ยงควรเปิดการ์ตูนภาษาอังกฤษให้เด็กดูบ่อย ๆ เพื่อให้เด็กได้ซึมซับจากการออกเสียง การได้ยินภาษาอังกฤษจากในการ์ตูนบ่อย ๆ จะทำให้เด็กเคยชินและเผลอใช้ภาษาอังกฤษออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว
3. พี่เลี้ยงควรสอดแทรกคำศัพท์ภาษาที่สองในระหว่างปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของเด็กทีละนิด เช่น หากเด็กต้องการอะไรบางอย่าง พี่เลี้ยงสามารถสอนให้เด็กพูดเป็นประโยคภาษาอังกฤษง่าย ๆ เพื่อเป็นการฝึกให้เด็กใช้ภาษาที่สองในการใช้ชีวิตประจำวัน
4. เทคนิคในการสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษจากสิ่งรอบตัวของเด็ก ปกติเด็กในวัย 2-5 ขวบขึ้นไปมักจดจำคำศัพท์จากสิ่งใกล้ตัว คงจะดีไม่น้อยหากพี่เลี้ยงสามารถสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษง่าย ๆ ให้กับเด็กได้เพื่อเป็นการสะสมคำศัพท์ขั้นพื้นฐานให้กับเด็กตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนเตรียมตัวเข้าโรงเรียนอนุบาล
5. สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เอื้ออำนวยต่อตัวเด็ก บางครั้งพี่เลี้ยงสามารถลองพูดคุยสื่อสารกับเด็กด้วยประโยคภาษาอังกฤษง่าย ๆ แล้วลองให้เด็กตอบกลับมาเพื่อดูว่าเด็กมีความเข้าใจมากน้อยแค่ไหน หากเด็กตอบผิดให้พี่เลี้ยงพยายามอธิบายและช่วยบอกประโยคที่ถูกต้องให้ ทำให้เด็กรู้สึกรักและดื่มด่ำกับภาษา และทำให้ภาษาที่สองนั้นไม่ดูยากเกินไปสำหรับเด็ก
สิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กสองภาษามีอะไรบ้าง
สิ่งที่พ่อแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงสองภาษาในรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. รายละเอียดเรื่องวันทำงาน ระยะเวลาในการทำงานแต่ละวัน วันหยุดมีกี่วันต่อปี จำนวนเด็กที่ต้องดูแลในครอบครัวนั้น ระยะเวลาการจ้างงาน
2. ตกลงอัตราค่าจ้างในการทำงาน รวมถึงอัตราค่าจ้างในการทำงานล่วงเวลาหรือในวันพิเศษอื่น ๆ ถ้ามี
3. ตกลงและทำความเข้าใจเรื่องรายละเอียดงาน เวลานอน เวลาทานนมหรืออาหารของเด็ก เพราะในหลายกรณีคุณพ่อคุณแม่อาจมีกำหนดตารางเวลาของกิจวัตรประจำวันที่ต้องการรักษาไว้อยู่แล้ว รวมทั้งต้องตกลงเกี่ยวกับความรับผิดชอบในหน้าที่อื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการเลี้ยงดูลูกของท่าน เช่นพ่อแม่บางท่านอาจต้องการให้พี่เลี้ยงดูแลรับผิดชอบการทำความสะอาดบ้าน การทำหรือปรุงอาหารด้วย เป็นต้น
4. ตกลงหรือแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบถึงพฤติกรรมที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องการ หรือไม่ต้องการให้พี่เลี้ยงปฏิบัติต่อลูกของท่าน ซึ่งแต่ละครอบครัวนั้นอาจมีพฤติกรรม หรือแนวทางการเลี้ยงที่แตกต่างกันไป เช่นบางครอบครัวอาจอนุญาตให้ลูกเล่นบนพื้นดิน หรือทรายนอกบ้านได้ แต่บางครอบครัวอาจไม่ บางครอบครัวอาจอนุญาตให้ลูกเล่นกับสัตว์เลี้ยงเช่นน้องหมาหรือแมวได้ เป็นต้น โดยพี่เลี้ยงจะต้องรับทราบถึงรสนิยม หรือลักษณะการเลี้ยงดูที่พึงประสงค์ของแต่ละครอบครัวที่แตกต่างกันออกไปนี้
5. แนวคิดการสอนหรือระดับภาษาที่พ่อแม่ผู้ปกครองคาดหวัง หรือต้องการให้พี่เลี้ยงสอนลูกได้ เช่น บางครอบครัวคุณอาจให้ลูกเรียกพ่อแม่ หรือคุณพ่อคุณแม่ บางครอบครัวใช้คำว่ากินข้าวแต่บางครอบครัวต้องใช้คำว่ารับประทานอาหาร จะต้องไม่มีการพูดคำหยาบคายให้ลูกคุณได้ยิน เป็นต้น
6. พ่อแม่ควรตกลงเรื่องการวัดผลการปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอ และมีการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดว่าเด็กมีพัฒนาการการเรียนรู้ทางภาษาแบบสองภาษาตามเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่

โดยข้อตกลงที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เป็นเพียงข้อตกลงมาตรฐาน แต่ละครอบครัวอาจมีความแตกต่าง หรือมีส่วนอื่นเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแต่ละครอบครัว แต่สิ่งที่สำคัญและเพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายข้อตกลงทั้งหมดนี้ควรทำกันเป็นสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร