พี่เลี้ยงสองภาษา ใน กระทุ่มแบน, สมุทรสาคร

พี่เลี้ยงสองภาษา ใน กระทุ่มแบน, สมุทรสาคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ตัดสินใจไม่ผิดจริงๆ ครับที่เลือกให้ลูกอยู่กับพี่เลี้ยงแบบสองภาษา เห็นผลชัดเจนตอนลูกเริ่มเข้าโรงเรียนนี่แหล่ะครับ พัฒนาการลูกผมดีมาก คุณครูที่โรงเรียนยังชม ว่าลูกผมกล้าแสดงออก ไม่กลัวที่จะพูดภาษาอังกฤษและมีพื้นฐานมาแล้วจากที่บ้าน ราคาอาจจะสูงกว่าพี่เลี้ยงทั่วไป แต่ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนจริง ๆ ครับ
Saijai
วิญญู วัยวุฒิ
3 ปีที่แล้ว
เพราะอยากให้ลูกได้ภาษา คุณพ่อบ้านนี้เลยพูดอังกฤษกับลูกๆ ค่ะ แถมจ้างพี่เลี้ยงที่พูดภาษาอังกฤษเป็นด้วย เน้นสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษเป็นหลัก หาแนนนี่คุณสมบัติตามนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ในทีสุดเราก็เจอเพราะอยากให้ลูกได้ภาษาคนนี้ผ่านเว็บใส่ใจ ตรงใจ ถูกใจที่สุดค่ะ
Saijai
วันดี ดริ้งวอร์เตอร์
3 ปีที่แล้ว
อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษตั้งแต่เขายังเด็ก เราจึงตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงชาวฟิลิปปินส์ เพราะเราได้ทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างพี่เลี้ยงชาวฟิลิปปินส์ คุณแม่ส่วนใหญ่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าพี่เลี้ยงชาวฟิลิปปินส์มีมาตรฐานที่ดีในการเลี้ยงลูกที่ดีเลย อีกทั้งยังฝึกภาษาอังกฤษให้ลูกของเราอีกด้วย เราเลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงต่างชาติของทางใส่ใจ ตอนนี้พี่เลี้ยงเริ่มงานแล้ว 1 เดือน โดยรวมเราประทับใจในการบริการมาก ๆ และพี่เลียงเข้ากับลูกได้ดีเลยทีเดียว
Saijai
รุ้งลดา ทองสุข
3 ปีที่แล้ว
เลือกจ้างพี่เลี้ยงฟิลิปปินส์ค่ะ เข้ากันง่ายมากกับลูกทั้งเรื่องการสื่อสาร และการดูแล ลูกบอกพี่เลี้ยงใจดีมากๆ อยากให้อยู่เล่นด้วยกันบ่อยๆ ประทับใจจริงๆค่ะ
Saijai
เกศมณี พาศโยธี
3 ปีที่แล้ว
จองง่ายไม่ยุ่งยาก
Saijai
แอน คาล
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา พี่เลี้ยงสองภาษา

พี่เลี้ยงเด็กสองภาษามีความจำเป็นหรือไม่หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกได้ภาษาที่ 2 จริงๆ
เมื่อพูดถึงเรื่องความจำเป็นของการใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กสองภาษา พ่อแม่ผู้ปกครองต้องเข้าใจความต้องการและจุดมุ่งหมายของตัวเองเสียก่อนว่าทำไมจึงอยากให้ลูกสามารถพูดภาษาอื่นได้

พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ตระหนักถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการและการสื่อสารไร้พรมแดน ที่ทำให้เราเข้าถึงข้อมูลความรู้ได้ทั่วทุกมุมโลก การที่เราสามารถสื่อสารภาษาที่สอง หรือหลายภาษาจึงถือเป็นข้อได้เปรียบ พ่อแม่ผู้ปกครองจึงให้ความสำคัญในการปูพื้นฐานและส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาให้กับเด็กตั้งแต่เนิ่น ๆ ทั้งตัวพ่อแม่เองที่พยายามใช้ภาษาที่สอง ซึ่งอาจจะเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ฯลฯ สื่อสารกันในครอบครัว ให้ลูกเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีโปรแกรมสองภาษา และเลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กสองภาษา เพื่อให้เด็กอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มาการสื่อสารด้วยภาษาที่สอง

เนื่องจากความสามารถของเด็กในการเรียนรู้เสียงในภาษานั้นเป็นคุณสมบัติ หรือพรสวรรค์โดยธรรมชาติอย่างหนึ่งที่ทารกหรือเด็กมีมาตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ของแม่ ซึ่งในเรื่องนี้ได้มีงานวิจัยที่ค้นพบว่าทารกนั้นมีความสามารถในการเรียนรู้และจะจำเสียงในภาษาได้โดยเฉพาะเสียงของแม่ได้ตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ ทารกจะความสามารถพิเศษที่จะเรียนรู้ จดจำ และ แยกแยะภาษาที่สอง หรือสาม หรือมากกว่านั้นได้รวดเร็วกว่าผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นการเลี้ยงดูแบบสองภาษาควบคู่กันไปตั้งแต่เด็ก ยิ่งเป็นการส่งเสริมพัฒนาของสมองและวิธีการเข้าใจภาษาแบบสองภาษาไปพร้อม ๆ กัน

จากข้อมูลข้างต้นจึงพออธิบายให้ท่านได้เห็นแล้วถึงความจำเป็นของการใช้พี่เลี้ยงสองภาษาในการเลี้ยงดูลูกของท่านตั้งแต่ยังเป็นทารก พี่เลี้ยงก็เปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่สอง หรือในบางกรณีพี่เลี้ยงเด็กนั้นเป็นผู้ที่มีเวลาได้อยู่กับลูกมากกว่าพ่อแม่ด้วยซ้ำไป พี่เลี้ยงสองภาษาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะหล่อหลอมหรือสร้างให้เด็กมีวิธีการคิด หรือการเข้าใจภาษาแบบสองภาษาไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งจะแตกต่างไปจากการเรียนภาษาที่สองเพิ่มเติมจากภาษาหลัก เหมือนที่มีสอนกันในโรงเรียนโดยทั่วไป
คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ่ายแพงกว่าจริงหรือหากต้องการจ้างพี่เลี้ยงเด็กสองภาษา
คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ่ายแพงกว่าจริงหรือหากต้องการจ้างพี่เลี้ยงเด็กสองภาษา ก่อนอื่นต้องดูที่เป้าหมายของคุณพ่อคุณแม่ว่ามีความคาดหวังหรือต้องการเสริมพัฒนาการของลูกอย่างไร แน่นอนว่าการที่เด็กได้รับการปูพื้นฐานด้านภาษาตั้งแต่เล็กจะช่วยให้เด็กสามารถสื่อสารสองภาษาได้และได้เปรียบกว่าเด็กคนอื่นเมื่อเด็กต้อง เข้าเรียน โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้ลูกเข้าเรียนในโปรแกรมสองภาษาหรือโปรแกรมนานาชาติ ปัจจุบันเราสามารถหาพี่เลี้ยงที่สามารถสื่อสารภาษาที่สองได้มาดูแลลูก ซึ่งหากดูอัตราค่าจ้างแล้วอาจจะสูงกว่าพี่เลี้ยงคนไทยไม่มากนัก แน่นอนว่าการได้อะไรที่พิเศษกว่าย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายที่อาจจะมากกว่าอยู่บ้าง แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นย่อมมากกว่าเช่นกัน พี่เลี้ยงเด็กชาวต่างชาติหลาย ๆ คนที่ผ่านการอบรม หรือมีประกาศนียบัตรรับรอง มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กในช่วงวัยที่แตกต่าง และมีอัตราจ้างที่แตกต่าง (14,000 – 22,000 บาท/เดือน) ข้อมูลเหล่านี้คุณพ่อคุณแม่สามารถสืบค้น เปรียบเทียบและวางแผนก่อนตัดสินใจ

มีบทสัมภาษณ์ของคุณพ่อคุณแม่ที่มีประสบการณ์จ้างพี่เลี้ยงเด็กสองภาษามาดูแลลูกได้กล่าวไว้ว่า “เดิมที่คุณแม่จะสื่อสารภาษาอังกฤษกับลูก แต่เมื่อคุณแม่ต้องไปทำงานจึงมองหาพี่เลี้ยงที่พูดภาษาอังกฤษมาดูแล พี่เลี้ยงมีวุฒิการศึกษาดีทีเดียว มีประสบการณ์ ใช้เวลาไม่นาน ลูกและพี่เลี้ยงปรับตัวเข้าหากันได้ เวลาเราสื่อสารจะใช้ภาษาอังกฤษกับพี่เลี้ยง ทำให้ทุกคนในบ้านได้ฝึกไปด้วย คราวนี้สนุกกันไปลูกมีพัฒนาการภาษาที่ดีมีความสุข พี่เลี้ยงทำงานบ้านได้นิดหน่อย ไม่ใช่ปัญหาเพราะเป้าหมายคือพัฒนาการทางภาษาของลูก ในค่าใช้จ่ายที่เกือบเท่ากันกับแม่บ้านไทยแต่ลูกและครอบครัวได้ภาษาเพิ่มขึ้น”

เราจะไม่รู้สึกว่าจ่ายแพงเลยถ้าสิ่งที่ได้มาคุ้มค่าตามที่ตั้งใจไว้
เทคนิคพิเศษที่พี่เลี้ยงสองภาษาควรมีเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางด้านภาษาของเด็กคืออะไร
เทคนิคพิเศษที่พี่เลี้ยงสองภาษาควรมีเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางด้านภาษาของเด็กมีดังต่อไปนี้

1. เทคนิคในการใช้สื่อการสอนเป็นภาษาที่สอง และมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้เด็ก ๆ ทำโดยไม่ซ้ำกัน พี่เลี้ยงสองภาษาสามารถจัดเตรียมสื่อการสอนต่าง ๆ ที่เป็นภาษาที่สองไว้ให้เด็ก เช่น การ์ดเกมคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โปสเตอร์คำศัพท์พร้อมรูปภาพ เกมฝึกทักษะด้านภาษาอย่าง Scrabble เป็นต้น สื่อการสอนเหล่านี้จะช่วยให้เด็กมีความสนใจในการเรียนรู้คำศัพท์มากกว่าต้องมานั่งจำหรืออ่านจากในตำราที่มีแต่ตัวหนังสือ
2. ดึงดูดความสนใจของเด็กด้วยวีดิโอหรือการ์ตูนที่เป็นภาษาอังกฤษ แทนที่พี่เลี้ยงจะให้เด็กดูแต่การ์ตูนภาษาไทย พี่เลี้ยงควรเปิดการ์ตูนภาษาอังกฤษให้เด็กดูบ่อย ๆ เพื่อให้เด็กได้ซึมซับจากการออกเสียง การได้ยินภาษาอังกฤษจากในการ์ตูนบ่อย ๆ จะทำให้เด็กเคยชินและเผลอใช้ภาษาอังกฤษออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว
3. พี่เลี้ยงควรสอดแทรกคำศัพท์ภาษาที่สองในระหว่างปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของเด็กทีละนิด เช่น หากเด็กต้องการอะไรบางอย่าง พี่เลี้ยงสามารถสอนให้เด็กพูดเป็นประโยคภาษาอังกฤษง่าย ๆ เพื่อเป็นการฝึกให้เด็กใช้ภาษาที่สองในการใช้ชีวิตประจำวัน
4. เทคนิคในการสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษจากสิ่งรอบตัวของเด็ก ปกติเด็กในวัย 2-5 ขวบขึ้นไปมักจดจำคำศัพท์จากสิ่งใกล้ตัว คงจะดีไม่น้อยหากพี่เลี้ยงสามารถสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษง่าย ๆ ให้กับเด็กได้เพื่อเป็นการสะสมคำศัพท์ขั้นพื้นฐานให้กับเด็กตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนเตรียมตัวเข้าโรงเรียนอนุบาล
5. สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เอื้ออำนวยต่อตัวเด็ก บางครั้งพี่เลี้ยงสามารถลองพูดคุยสื่อสารกับเด็กด้วยประโยคภาษาอังกฤษง่าย ๆ แล้วลองให้เด็กตอบกลับมาเพื่อดูว่าเด็กมีความเข้าใจมากน้อยแค่ไหน หากเด็กตอบผิดให้พี่เลี้ยงพยายามอธิบายและช่วยบอกประโยคที่ถูกต้องให้ ทำให้เด็กรู้สึกรักและดื่มด่ำกับภาษา และทำให้ภาษาที่สองนั้นไม่ดูยากเกินไปสำหรับเด็ก
ก่อนจ้างพี่เลี้ยงเด็กสองภาษา คุณพ่อคุณแม่ควรทำการตกลงกับพี่เลี้ยงในเรื่องใดบ้าง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจเลือกใช้บริการพี่เลี้ยงสองภาษา ข้อแรกที่ควรระลึกไว้เสมอว่าพี่เลี้ยงเป็นเพียงตัวช่วยหนึ่งเท่านั้น แม้ตลอด 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นอย่างน้อยและ 5 วันต่อสัปดาห์ที่ลูกจะต้องอยู่ในการดูแลของพี่เลี้ยงลูกยังคงต้องการเวลาที่อบอุ่นจากคุณพ่อคุณแม่ มีเรื่องเล่ามากมายว่าได้เจออะไรได้ทำอะไร ดังนั้นก่อนจ้างพี่เลี้ยงเด็กสองภาษา

คุณพ่อคุณแม่ควรทำการตกลงกับพี่เลี้ยงในเรื่องใดบ้าง

1. เด็กอยู่ในวัยลอกเลียนแบบซึมซับพฤติกรรม ดังนั้นบุคลิกภาพและลักษณะนิสัยของพี่เลี้ยงสำคัญมากบางครั้งพี่เลี้ยงที่ต่างวัฒนธรรม อาจมีบุคลิกและการแสดงออกที่ต่างออกไป เราควรตกลงว่าพี่เลี้ยงควรแสดงพฤติกรรมกับลูกว่าอย่างไรบ้าง พี่เลี้ยงควรมีพื้นฐานเป็นคนอารมณ์ดี ใจเย็น รักเด็ก มีความอดทน และมีความเข้าใจเรื่องเด็ก การใช้คำพูด คำศัพท์ที่เหมาะสมตามวัย
2.พูดคุยเรื่องการรักษาความสะอาด สุขอนามัย และระเบียบวินัยภายในบ้านกับพี่เลี้ยง เพื่อสุขอนามัยของลูกวัฒนธรรมที่แตกต่าง หรือประสบการณ์ที่แตกต่าง บางครั้งต้องคุยกับพี่เลี้ยงให้เข้าใจ เพื่อจะได้คอยดูแลสภาพแวดล้อมรอบตัวให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของเด็กอย่างปลอดภัย
3.แบ่งหน้าที่ทำงานให้ชัดเจน พี่เลี้ยงมาช่วยไม่ได้มารับผิดชอบทั้งหมดถ้างานหนักไปอาจทำให้การดูแลลูกไม่เต็มที่หรือทำงานภายใต้แรงกดดัน ดังนั้นตกลงเรื่องเงินเดือนและหน้าที่รับผิดชอบให้พี่เลี้ยงเข้าใจตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อลดปัญหาภายหน้า
4.กำหนดกติกาสิ่งที่ลูกทำได้หรือไม่ได้ให้พี่เลี้ยงทราบอย่างชัดเจน เช่น พี่เลี้ยงไม่ควรปล่อยเด็กให้ดูโทรทัศน์นาน ๆ เพราะมีผลต่อสมาธิและพัฒนาการของลูก พี่เลี้ยงไม่ควรตามใจให้เด็กรับประทานขนมหวานมากเกินไป เป็นต้น คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับพี่เรื่องให้เรื่องเหล่านี้กับพี่เลี้ยงก่อนเริ่มงาน