เรียนภาษาต่างประเทศ ใน ปทุมธานี

เรียนภาษาต่างประเทศ ใน ปทุมธานี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการเรียนภาษาต่างประเทศ ใน ปทุมธานี:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ปีที่แล้วตั้งใจจะส่งลูกไปเรียน Summer ที่ออสเตรเลีย แต่ติดปัญหาเรื่อง Covid แผนการทุกอย่างระงับไปหมด ก็เลยมองหาที่เรียนภาษาให้ลูกอยู่ที่บ้าน เพื่อความปลอดภัยและต้องประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย สุดท้ายลงตัวกับการเรียนภาษาออนไลน์กับครูที่บ้าน นอกจากลูกจะได้เรียนกับเจ้าของภาษาแล้ว ราคาที่จ่ายไปก็ถูกกว่ามาก ๆ เมื่อเทียบกับต้องเดินทางไปเรียนต่างประเทศ ไหนจะค่ากิน ค่าที่พักอีก ให้ลูกเรียนที่นี่ไม่ต้องเป็นห่วงด้วย ถือว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้ายในช่วงที่ปิดประเทศจริง ๆ ค่ะ
Saijai
จารุวรรณ สิทธิโชค
4 ปีที่แล้ว
ชอบซีรี่ย์เกาหลี จนอยากพูดภาษาเกาหลีได้ ตอนนี้เรียนแบบออนไลน์กับครูที่่ได้จากเว็บไซต์ใส่ใจ ดีงามมากแม่
Saijai
ธนัฏฐา พัฒนปรีชากุล
4 ปีที่แล้ว
เว็บใช้งานง่ายมาก ๆ อยากได้ติวเตอร์ภาษาฝรั่งเศส เข้ามาจองในเว็บแป้บเดียวได้เลยค่ะ แถมได้คนสอนแบบที่เราต้องการเลย
Saijai
อารียา เพ็ญพุ่ม
4 ปีที่แล้ว
เราชอบ BTS มาก มากจนอยากพูดเกาหลีเป็น ตั้งใจเลยว่าหลังจบ ม.6 เราจะสอบชิงทุนไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่เกาหลี ตอนนี้เลยเริ่มเตรียมตัว เรียนภาษาเกาหลี เราเลือกเรียนกับครูที่เจอบนเว็บใส่ใจ เพราะรีวิวของครูคนนี้ดีมาก ๆ แล้วก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ เราเรียนมา 3 คอร์สแล้ว ครูสอนดีมากทั้งเรื่องภาษาและวัฒนธรรมของเกาหลี เราจะทำตามฝันให้ได้ Fighting!!!
Saijai
ดายานา มนูญ
4 ปีที่แล้ว
ชอบดูหนังและซีรี่ย์จีนมาก ๆ เลยค่ะ เลยตั้งใจที่อยากจะเรียนไว้เป็นภาษาที่3 แต่หลาย ๆ ที่ มีค่าคอร์สเรียนที่ค่อนข้างสูง เจอครูสอนภาษาจีนที่เว็บของใส่ใจ มีหลายราคา ขอลองแบบไม่แพงก่อนนะคะ พอดีมีงบน้อยนิด ตอนนี้เรียนมาได้2คอร์สแล้วค่ะ อาจารย์ที่สอน สอนได้สนุกมากเป็นกันเองด้วย โชคดีมากเลย
Saijai
ปรางทิพย์ วีรดา
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา เรียนภาษาต่างประเทศ

ภาษาที่ 3 มีความสำคัญอย่างไรในยุคปัจจุบัน
ในปัจจุบันคนที่มีความสามารถทางด้านภาษาจะได้เปรียบเหนือคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นโอกาสทางการศึกษาหรือโอกาสในการทำงาน เนื่องจากทักษะทางด้านภาษานั้นเป็นที่ต้องการในแทบทุกวงการ คนไทยนิยมใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองในการสื่อสาร แต่ความสามารถด้านภาษาอังกฤษแค่ภาษาเดียวดูจะไม่เพียงพอเสียแล้ว

หลายคนให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศเพิ่มเติมหรือที่เรียกกันว่าภาษาที่สาม ภาษาต่างประเทศที่เป็นที่นิยมหรือภาษาที่มีผู้ใช้สื่อสารมากที่สุด ได้แก่ภาษาจีนกลาง ภาษาฮินดี ภาษาสเปน ภาษาอังกฤษ ภาษาอารบิก ภาษาโปรตุเกส ภาษาเบงกาลี ภาษารัสเซีย ภาษาญี่ปุ่น และภาษาปัญจาบ ตามลําดับ จากจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกภาษาที่ใช้มากที่สุดบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตคือ ภาษาจีนกลางเท่ากับ 24.2% จากจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมด และภาษาสเปนเท่ากับ 7.8% และภาษาอื่น ๆ อีก 26.4%

การที่เราจะตัดสินเรียนภาษาที่สามนั้น นอกจากความชอบส่วนตัวแล้วเราต้องแน่ใจว่าภาษาที่เราเลือกเรียนนั้นคุ้มค่ากับการลงทุนทั้งด้านเวลาและค่าใช้จ่ายและเราจะได้ใช้ภาษานั้นจริง ๆ ดังนั้นสิ่งที่ต้องพิจารณาคือ ภาษานั้นมีคนใช้มากแค่ไหนซึ่งสามารถเพิ่มโอกาสของเราได้ ตัวอย่างเช่นในอนาคตประเทศจีนมีอิทธิพลต่อการค้าการลงทุนทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ด้วยเหตุนี้องค์การสหประชาชาติ (United Nations : UN) ได้กำหนดให้ภาษาจีนกลางเป็น 1 ใน 6 ภาษาหลักที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย สเปน จีน และอารบิก ดังนั้นการเรียนภาษาจีนในประเทศไทยจึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายและมากขึ้นเรื่อย ๆ เราจะพบว่ามีในบางโรงเรียนเริ่มสอนภาษาจีนให้แก่นักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล และมีสอนในทุกระดับชั้นจนถึงระดับปริญญา นอกจากในโรงเรียนยังมีสถาบันกวดวิชาที่เปิดสอนภาษาจีนโดยเฉพาะด้วย

เพราะภาษาเป็นประตูสื่อสารระหว่างบุคคล ไม่ว่าจะเป็นคนชาติเดียวกันหรือชาวต่างชาติ ภาษาจะช่วยทำให้คนเกิดความเข้าใจระหว่างกัน เพื่อนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพ และภาษายังเป็นใบเบิกทางสำหรับโอกาสและการเรียนรู้ที่ท้าทายในชีวิตของเราทุกคน
เรียนพิเศษภาษาต่างประเทศมีค่าใช้จ่ายสูงหรือไม่
ปัจจุบันนี้ผู้คนต่างให้ความสำคัญกับการเรียนภาษาต่างประเทศเป็นอย่างมาก เพราะสามารถเป็นการเพิ่มทักษะความรู้เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองทั้งในด้านการเรียนและการทำงาน ผู้คนส่วนใหญ่จึงขวนขวายหาความรู้เกี่ยวกับภาษาต่างประเทศที่ตนสนใจเรียนเพิ่มเติมมากขึ้น โดยในปัจจุบันก็มีตัวเลือกในการเรียนภาษามากมายเพื่อให้ได้ตัดสินใจกัน ไม่ว่าจะเป็นสถาบันสอนภาษา การจ้างติวเตอร์ส่วนตัว หรือแม้กระทั่งการเรียนพิเศษตามสถานศึกษาทั่วไป ซึ่งอัตราค่าใช้จ่ายในการเรียนภาษาต่างประเทศนั้นก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้

1. การเรียนตามระดับชั้นทั่วไปตามระดับการศึกษา ซึ่งจะมีสอนในระดับชั้นดังต่อไปนี้
• ระดับชั้นอนุบาล
• ระดับชั้นประถม
• ระดับชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลาย
• ระดับมหาวิทยาลัย
• บุคคลทั่วไป
ซึ่งโดยปกติค่าใช้จ่ายในการเรียนจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 200 บาทขึ้นไปต่อคน ขึ้นอยู่กับระดับความยากง่ายของเนื้อหาที่เรียน
2. การเรียนพิเศษกับเจ้าของภาษาโดยตรง (Native Speaker) การเรียนแบบนี้ถือว่าเป็นที่นิยมมาก เพราะข้อดีของการเรียนกับเจ้าของภาษาโดยตรงทำให้เราได้ซึมซับสำเนียงและวิธีการพูดที่ถูกต้องมากขึ้น แต่อัตราค่าเรียนก็จะค่อนข้างสูง ขึ้นอยู่กับวุฒิการศึกษาของครูที่สอนด้วยเช่นกัน ยิ่งถ้าเป็นการเรียนแบบตัวต่อตัวก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ยิ่งสูงขึ้น แต่ถ้าเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้มานั้นถือว่าคุ้มค่าแน่นอน เพราะเราจะได้รับการเรียนการสอนอย่างใกล้ชิด เรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ ทำให้เราสามารถเก่งภาษาต่างประเทศได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
3. การเรียนกับครูที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาหรือ Non-Native Speaker ค่าใช้จ่ายในการเรียนกับครูที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาแต่มีความรู้ความสามารถในภาษานั้น ๆ โดยเฉพาะอาจจะถูกว่าการเรียนกับเจ้าของภาษาเองโดยตรง อีกทั้งยังได้เรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ ที่เหมือนกันอีกด้วย โดยปกติจะมีค่าเรียนเฉลี่ยอยู่ที่ 450 บาทต่อคน แต่หากเรียนแบบเป็นกลุ่มค่าเรียนก็จะลดลงไปอีกเช่นกัน
มีเทคนิคการเรียนอย่างไรในการเรียนภาษาต่างประเทศให้ได้ผลดีที่สุด
มีเทคนิคการเรียนอย่างไรในการเรียนภาษาต่างประเทศให้ได้ผลดีที่สุด ภาษาต่างประเทศเป็นประสบการณ์และความรู้ใหม่ เพราะไม่ใช่ภาษาที่เราใช้สื่อสารในชีวิตประจำวันหรือมีโอกาสใช้น้อยมาก หากเราจะเรียนรู้มีวิธีใดที่ได้ผลดีที่สุด

1. สะสมคำศัพท์ ยิ่งเรารู้ศัพท์มากเท่าไร เรายิ่งมาเรียงเป็นประโยคได้มากเท่านั้น ท่องคำศัพท์ เขียนคำศัพท์และคำแปล เมื่อเวลาผ่านไปจำนวนคำศัพท์มากขึ้นทำให้เราเข้าใจภาษามากขึ้น
2. ใช้เวลากับภาษาที่เราอยากเรียนรู้ ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไปในระยะเริ่มต้น ใช้เวลาว่างทบทวนคำศัพท์ ลองหาบทความในภาษานั้น ๆ มาอ่าน โดยหาเรื่องที่เราที่เราสนใจจะทำให้เราสนุกไปกับการอ่าน เข้าใจง่ายและจำได้มากขึ้น
3. ฝึกอย่างจริงจังและทบทวน อ่านออกเสียงเพื่อให้ได้ยินเสียงของตัวเอง ฝึกเขียนจะได้ใช้ศัพท์ที่เราท่องจำมา ทำซ้ำบ่อย ๆ เปิดพจนานุกรม (Dictionary) ในภาษานั้นๆเพื่อหาความหมายหากไม่เข้าใจ
4. เรียนเพิ่มเติม การลงทุนเรียนที่สถาบันสอนภาษาหรือเรียนกับครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ ทำให้เราได้มีโอกาสฝึกทักษะและใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องปรับวิธีการใช้ภาษาให้ถูกต้องเหมือนเจ้าของภาษา
5. หาจุดอ่อน คุณควรหาจุดอ่อนในการเรียนของตัวเองให้เจอ เพื่อที่เพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ อย่างเช่น ถ้าเราเป็นคนไม่กล้าพูด ไม่กล้าสื่อสาร ซึ่งเป็นปัญหาในการพัฒนาทางด้านภาษาเราต้องหาโอกาสสร้างโอกาส ในการพูด อาจเริ่มจากให้ห้องเรียน เพื่อนในชั้นเรียนด้วยกัน
6. หาโอกาสใช้ภาษาบ่อย ๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับภาษานั้น ๆ ให้ได้มากที่สุด การพูดคุยกับเจ้าของภาษา หาบทความที่เราสนใจ ฟังเพลง หรือดูหนังเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับสำเนียงเจ้าของภาษา

การได้เรียนรู้ในทุก ๆ ทักษะ ไม่ว่าจะเป็นทักษะการฟัง ทักษะการพูด ทักษะการอ่าน และทักษะการเขียน หากได้เรียนกับเจ้าของภาษาโดยตรง เจะทำให้มีพื้นฐานทางด้านภาษาที่แข็งแรงกว่า เพราะเราจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำกว่า โดยเฉพาะในเรื่องสำเนียงจากเจ้าของภาษา
อยากเรียนภาษาต่างประเทศ จำเป็นไหมที่ต้องไปเรียนที่ต่างประเทศถึงจะสื่อสารได้
เพราะภาษาต่างประเทศไม่ใช่ภาษาที่เราคุ้นเคย ดังที่วลีภาษาอังกฤษมักใช้คำว่า “it is not my mother tongue” หมายถึง ไม่ใช่ภาษาที่เราคุ้นเคยตั้งแต่เกิดหรือง่าย ๆ คือไม่ใช่ภาษาแม่ของเรา มีคำถามว่าถ้าเราอยากเก่งภาษาต่างประเทศจำเป็นไหมที่ถ้าเราต้องเดินทางไปเรียนภาษาที่ประเทศนั้น ๆ การไปต่างประเทศสำหรับหลาย ๆ คนเป็นเรื่องที่ยาก ทั้งการจัดการและค่าใช้จ่าย ถ้าอย่างนั้นเราลองผสมผสานการใช้ภาษาเข้ากับชีวิตประจำวันของเราดู ค่อย ๆ ฝึกและเรียนรู้ เพื่อให้พัฒนาการทางภาษาดีไม่แพ้การไปเมืองนอกเลย

1. อ่านหนังสือหรือบทความภาษาอังกฤษ เริ่มอ่านอย่างไรให้น่าสนใจให้เข้าใจง่าย ให้อ่านในสิ่งที่เราสนใจที่เราชอบ อย่างน้อยเราเมื่อมีพื้นฐานในเรื่องนั้น ๆ เมื่ออ่านภาษาต่างประเทศ เราพยายามแปลคำศัพท์ทำให้เราเข้าใจบทความง่ายขึ้น เมื่อเป็นเรื่องง่ายเราไม่เบื่อที่จะทำ เมื่อทำบ่อย ๆ เราก็จะซึมซับและได้คำศัพท์ไปในตัว
2. ยิ่งอ่านมากยิ่งทำให้เราเจอคำศัพท์ใหม่ ๆ ให้จดบันทึกและหาความหมาย ลองหาบทความที่มีความซับซ้อนมากขึ้นเพื่อพัฒนาการอ่าน
3. การอ่านอ่อนออกเสียงทำให้เราคุ้นเคยกับการใช้ภาษาและเป็นการฝึกสำเนียงไปด้วย คราวนี้เราลองหาเรื่องราวที่เราสนใจฟังอาจเป็นคลิปวิดีโอสั้น ๆ ซึ่งมีอยู่มากมายบนโลกออนไลน์
4. ฝึกทุกที่ที่มีโอกาส การพบเพื่อนใหม่ผ่านสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์ค ที่มีหลากหลายช่องทาง เราสามารถอ่านความเห็นและแสดงความเห็นได้ด้วย ไปถึงการหาโอกาสพูดคุย กับคุณครูในโรงเรียน หรือในกลุ่มที่สนใจเรื่องเดียวกัน
5. สำคัญที่สุดอย่ากลัวที่จะใช้ เพราะถ้าเราไม่ใช้ภาษาออกไปเราไม่รู้ว่ามันผิดหรือถูก ถ้าเราใช้ออกไปแล้วมีผู้สื่อสารทักมาว่าผิดเราได้แก้ไขให้ถูกต้องได้ ค่อยๆปรับไปไม่นานเราก็สามารถใช้ภาษาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
6. ศูนย์การเรียนรู้ เรียนพิเศษ การที่ได้รับการแนะนำจากคุณครู ติวเตอร์เจ้าของภาษาโดยตรงทำให้เรามีความมั่นใจในการใช้ภาษามากขึ้น ที่สำคัญติวเตอร์สามารถจัดวิธีการเรียนที่เหมาะสมกับพัฒนาการทางภาษาของเรา