วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประสบการณ์สอนมากกว่า 3 ปี ผู้สอนสอบผ่านการสอบวัดระดับภาษาจีน HSK5 และ TOCFL Level 3 แลกเปลี่ยน ณ Guangxi University of Foreign ประเทศจีน 1 ปี เคยเป็นวิทยากร ล่าม organizer จัดงานสัมพันธ์ไทย-จีน เคยได้ทุนปริญญาโท 100% ณ National Changhua University of Education ไต้หวัน รีวิวจากผู้เรียนจริงมีมากกว่า 30+ รีวิว สามารถขอดูได้ค่ะ
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา เรียนภาษาต่างประเทศ
1. การเรียนตามระดับชั้นทั่วไปตามระดับการศึกษา ซึ่งจะมีสอนในระดับชั้นดังต่อไปนี้
• ระดับชั้นอนุบาล
• ระดับชั้นประถม
• ระดับชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลาย
• ระดับมหาวิทยาลัย
• บุคคลทั่วไป
ซึ่งโดยปกติค่าใช้จ่ายในการเรียนจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 200 บาทขึ้นไปต่อคน ขึ้นอยู่กับระดับความยากง่ายของเนื้อหาที่เรียน
2. การเรียนพิเศษกับเจ้าของภาษาโดยตรง (Native Speaker) การเรียนแบบนี้ถือว่าเป็นที่นิยมมาก เพราะข้อดีของการเรียนกับเจ้าของภาษาโดยตรงทำให้เราได้ซึมซับสำเนียงและวิธีการพูดที่ถูกต้องมากขึ้น แต่อัตราค่าเรียนก็จะค่อนข้างสูง ขึ้นอยู่กับวุฒิการศึกษาของครูที่สอนด้วยเช่นกัน ยิ่งถ้าเป็นการเรียนแบบตัวต่อตัวก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ยิ่งสูงขึ้น แต่ถ้าเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้มานั้นถือว่าคุ้มค่าแน่นอน เพราะเราจะได้รับการเรียนการสอนอย่างใกล้ชิด เรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ ทำให้เราสามารถเก่งภาษาต่างประเทศได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
3. การเรียนกับครูที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาหรือ Non-Native Speaker ค่าใช้จ่ายในการเรียนกับครูที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาแต่มีความรู้ความสามารถในภาษานั้น ๆ โดยเฉพาะอาจจะถูกว่าการเรียนกับเจ้าของภาษาเองโดยตรง อีกทั้งยังได้เรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ ที่เหมือนกันอีกด้วย โดยปกติจะมีค่าเรียนเฉลี่ยอยู่ที่ 450 บาทต่อคน แต่หากเรียนแบบเป็นกลุ่มค่าเรียนก็จะลดลงไปอีกเช่นกัน
เคล็ดลับง่าย ๆ ที่ทำให้การเรียนภาษาต่างประเทศได้ผล ได้แก่
1. มีความตั้งใจเรียนรู้และทบทวนอย่างสม่ำเสมอ อาจจะทบทวนเป็นระยะสั้นๆ เช่น ในระหว่างรับประทานอาหารเช้า ในขณะอาบน้ำ หรือแม้แต่ในขณะที่กำลังเดินทางนั่งอยู่ในรถโดยสารต่าง ๆ ลองสอดแทรกการใช้ภาษาต่างประเทศในการทำกิจวัตรประจำวันเพื่อให้เกิดความคุ้นเคย
2. จดจำคำศัพท์ ยิ่งรู้คำศัพท์มากเท่าไหร่จะสามารถพูดและเข้าใจได้มากและเร็วขึ้นเท่านั้น
3. ฝึกฝนอย่างจริงจัง ฝึกออกเสียงหรือลองสนทนาบ่อย ๆ เพื่อจะได้ฝึกให้เคยชินกับการออกเสียงที่ถูกต้อง
4. ขยันทำการบ้าน การทำการบ้าน คือ การฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศให้เป็นไปอย่างแม่นยำ จนกลายเป็นความชำนาญ และสามารถทำออกมาได้ด้วยตัวเอง ยิ่งฝึกมาก ยิ่งเพิ่มทักษะได้มากขึ้น
5. จับกลุ่มติวกับเพื่อน ๆ เมื่อมีเวลาว่าง เช่น หาเวลาทบทวน ทำการบ้าน หรือฝึกพูดภาษานั้น ๆ กับเพื่อน ช่วยแก้ไขข้อบกพร่องให้กันและกัน และทำให้ไม่เบื่อที่จะเรียนรู้อีกด้วย
6. หาจุดอ่อนของตัวเองให้เจอ เมื่อเรารู้ว่าอะไรคือจุดอ่อนในการเรียนของตัวเอง เราจะแก้ไขได้ตรงจุด รู้ว่าควรเรียนรู้เพิ่มในส่วนไหนและเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียน
7. หาโอกาสในการใช้ภาษาต่างประเทศเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับภาษาให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการหาโอกาสพูดคุยกับเจ้าของภาษา หรือลองดูภาพยนตร์ในระบบเสียงแบบ Soundtrack เพื่อฝึกภาษา
8. หากสงสัยให้สอบถามครูผู้สอนหรือเจ้าของภาษาทันที เพื่อทำลายกำแพงที่เป็นอุปสรรคในการเรียนไปให้เร็วที่สุด และทำให้สามารถจดจำและเรียนรู้ในสิ่งที่ถูกต้องได้มากที่สุด
แต่หากเราอยู่ในครอบครัวที่ฐานะปานกลางเราจะเก่งภาษาได้หรือไม่? แน่นอนค่ะว่าเราทำได้ เพราะมีตัวอย่างจากคนรอบ ๆ ตัวมากมาย ที่ไปเรียนเมืองนอกหรือทำงานเมืองนอกมาเป็น 10 ปี แต่กลับพูดภาษานั้น ๆ ไม่ได้มากเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่เป็นคนไทยและสื่อสารด้วยภาษาไทยมากกว่าภาษาต่างประเทศ หรือไปอยู่ต่างประเทศแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เมื่อกลับมาเมืองไทย ไม่ได้ฝึกภาษาและไม่ได้ใช้ภาษาต่างประเทศอีก ค่อย ๆ ลืมภาษานั้น ๆ ไป เพราะธรรมชาติของภาษา คือ ต้องหัด ต้องใช้บ่อย ๆ หมั่นบริหารทักษะ
หลักการง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณเก่งภาษาคือ พยายามคลุกคลีอยู่กับภาษานั้น ๆ ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่น social network ต่าง ๆ หรือแม้แต่การเรียนกับครูสอนภาษาต่างประเทศในเมืองไทย เพื่อที่เราจะได้ฝึกภาษาอยู่ตลอด ไม่ว่าจะที่เรียนหรือที่บ้านก็หมั่นฝึกฝนได้ นอกเหนือจากการทำกิจกรรมที่แนะนำไปข้างต้นแล้ว อยากแนะนำว่าอย่าอายที่จะใช้ภาษาต่างประเทศ กล้าพูด กล้าคุยกับคนต่างชาติแค่นี้ก็สามารถพัฒนาภาษาได้โดยไม่ต้องไปเมืองนอกอย่างแน่นอน
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง