เรียนออนไลน์

เรียนออนไลน์

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

รีวิวล่าสุด

ส่วนตัวเราว่าค่าจ้างติวเตอร์ที่เราจองผ่านใส่ใจเป็นราคามาตรฐาน เพราะเคยเรียนกับครูติวเตอร์ข้างนอกเหมือนกัน ราคาก็ได้ ๆ กันเลยต่างกันไม่มาก แต่ส่วนตัวชอบวิธีการสอนของติวเตอร์ เพราะสอนสนุก ทำให้เราเข้าใจเนื้อหาที่เรียนจริง ๆ และยังเลือกเวลาเรียนได้เองด้วย
Saijai
คณิศร สุขถาวรรัตร์
3 ปีที่แล้ว
ค่าจ้างติวเตอร์ไม่แพงเลยค่ะ เลยตัดสินใจเรียนกับติวเตอร์หลายวิชาเลย ไว้จะมาใช้บริการของใส่ใจอีกนะคะ
Saijai
ณัฐฎา พิทักษ์จงจิต
3 ปีที่แล้ว
เราต้องการจ้างครูสอนพิเศษให้ลูก แต่อยากให้ลูกเรียนแบบออนไลน์มากกว่าเพราะกลัวโควิด ที่เว็บไซต์ใส่ใจมีครูสอนพิเศษแบบออนไลน์ด้วย เราเลือกจองผ่านทางนี้ เพราะทำจองง่ายมากไม่กี่ขั้นตอน ประทับใจมาก ๆ ค่ะ
Saijai
โสภิดา เรืองแก้ว
3 ปีที่แล้ว
มหาลัยให้เรียนแบบออนไลน์ รู้สึกไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ อาจารย์เหมือนแค่สอน ๆ ไปให้เวลาหมด เลยตัดสินใจหาติวเตอร์มาช่วยสอน แล้วก็ได้ติวเตอร์จากใส่ใจนี่แหละค่ะ สอนแบบออนไลน์เหมือนกัน แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเนื้อหามันยากเลยค่ะ เพราะพี่ติวเตอร์สอนดีมาก ๆ
Saijai
แพรไพลิน เทียนโพไชย
3 ปีที่แล้ว
มีให้เลือกรายวิชา เรียนซ้ำทบทวนได้ไม่อั้น มีครบ 3 วิชาหลัก ทั้งอังกฤษ วิทย์ คณิต ลงเรียนที่นี่ที่เดียวคุ้มเลยครับ ลงคอร์สแรกมาจะจบเทอมแล้ว เกรดเทอมนี้พุ่งแน่
Saijai
พัฒน์ พัฒนศิริสกุล
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา เรียนออนไลน์

เรียนเสริม เรียนพิเศษ แบบออนไลน์มีข้อดีอย่างไร
ในยุคที่การใช้อินเทอร์เน็ตเปรียบเสมือนปัจจัยที่ 5 ในชีวิต เพราะสามารถสร้างความสะดวกสบายให้กับคนทุกช่วงวัยได้เข้าถึงข้อมูลทุกรูปแบบทั้ง สาระ ความรู้และความบันเทิง สำหรับนักเรียนนักศึกษาแล้ว การเรียนออนไลน์ หรือ E-Learning เป็นสิ่งจึงเป็นสิ่งที่เราสามารถเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบันเช่นกัน ซึ่งข้อดีของการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเหมือนตัวกลางในการเข้าถึงสื่อการเรียนการสอนต่าง ๆ นับว่าเป็นข้อดีอย่างมาก ทั้งหมดนี้รวมถึงการเรียนเสริมหรือเรียนพิเศษแบบออนไลน์ด้วย

ข้อดีของการเรียนแบบออนไลน์นั้นมีมากมายดังนี้

1. ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับสื่อการเรียนการสอน การเรียนแบบปกติจำเป็นต้องใช้สื่อการเรียนการสอน เช่น หนังสือ ชีทเรียน เป็นต้น บางครั้งนักเรียนนักศึกษาต้องเสียเงินไปกับค่าหนังสือ ค่าถ่ายเอกสารต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ในการเรียน แต่การเรียนออนไลน์นั้นสามารถช่วยให้เข้าถึงสื่อการเรียนการสอนได้ทันทีเพียงแค่กดดาวน์โหลดไฟล์ อีกทั้งยังช่วยประหยัดเวลาได้อีกด้วยเช่นกัน
2. ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเรียนพิเศษที่สถาบันกวดวิชาต่าง ๆ เพราะในบางครั้งนักเรียนอาจต้องเจอกับอุปสรรคต่าง ๆ ระหว่างการเดินทางเช่น รถติด กลับกันการเรียนออนไลน์นั้นสามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่กระทบต่อการเดินทางและค่าใช้จ่ายด้วยเช่นกัน
3. การเรียนออนไลน์ช่วยให้ผู้เรียนทบทวนบทเรียนได้อยู่ตลอดเวลา และหากเรียนตรงไหนไม่เข้าใจผู้เรียนสามารถย้อนกลับไปทบทวนบทเรียนตรงนั้นได้ใหม่โดยไม่จำกัดครั้งเช่นกัน
4. ผู้เรียนสามารถบริหารเวลาในการเรียนได้ด้วยตนเอง โดยสามารถจัดการตารางเวลาเรียนได้เองตามความต้องการเพื่อความสะดวกของผู้เรียนเอง
5. หลักสูตรการเรียนออนไลน์นั้นมีตัวเลือกที่หลากหลาย ดังนั้นผู้เรียนสามารถเลือกเรียนหลักสูตรใดก็ได้ตามที่ตนเองสนใจ
คุณพ่อคุณแม่มีส่วนช่วยได้อย่างไรเมื่อลูกต้องเรียนพิเศษ หรือเรียนเสริมแบบออนไลน์
การเรียนการสอนแบบออนไลน์คือการเรียนผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยเป็นการใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต สมาร์ตโฟน ฯลฯ เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกในการเรียนได้มากยิ่งขึ้น เมื่อลูกของคุณต้องเรียนพิเศษหรือเรียนเสริมแบบออนไลน์ที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่มีส่วนช่วยให้การเรียนออนไลน์ของลูกตนเองเป็นไปอย่างราบรื่นตลอดคาบเรียนได้ด้วยวิธีที่เราแนะนำมีต่อไปนี้

1. ช่วยจัดเตรียมสถานที่สำหรับการเรียนออนไลน์ที่เหมาะสมให้กับลูกของคุณ และต้องมั่นใจว่าสถานที่นั้นไม่มีสิ่งรบกวนอื่น ๆ ที่สามารถเบี่ยงเบนความสนใจของลูกคุณในระหว่างเรียน เช่น ให้ลูกของคุณเรียนในห้องหรือสถานที่สงบ หลีกเลี่ยงการเรียนหน้าทีวีเพราะทำให้ลูกของคุณไม่มีสมาธิในการเรียนได้
2. พ่อแม่ควรให้ความส่วนตัวแก่ลูก และไม่ควรรบกวนในขณะที่กำลังเรียนออนไลน์อยู่ เพราะจะทำให้เด็กไม่สามารถโฟกัสกับการเรียนออนไลน์ได้อย่างเต็มที่ และจะทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนลดลงในที่สุด
3. ตรวจสอบและจัดเตรียมอุปกรณ์ตัวช่วยต่าง ๆ สำหรับการเรียนออนไลน์ให้พร้อม ก่อนเริ่มเรียน เช่น สัญญาณการเชื่อมต่อของอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดข้อผิดพลาดทางเทคนิคต่าง ๆ ในระหว่างเรียนออนไลน์
4. พ่อแม่ผู้ปกครองควรแนะนำตารางเวลาในการเรียนออนไลน์ที่เหมาะสมให้กับเด็ก โดยมีการแบ่งเวลาเรียนและเวลาพักที่สมดุลกัน เพื่อไม่ให้เด็กเครียดจนเกินไป
5. จัดเตรียมอาหารว่างที่มีประโยชน์ให้กับเด็กในขณะพัก เพื่อเป็นการเติมพลังงานในการเรียนออนไลน์ของเด็ก
6. หมั่นสอบถามเด็กถึงความเข้าใจในบทเรียน และปัญหาต่าง ๆ ระหว่างเรียน คอยให้คำแนะนำต่าง ๆ และควรนำปัญหาเหล่านั้นไปปรึกษากับคุณครูที่สอนพิเศษด้วยเช่นกัน เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนแบบยุคใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ทั้งหมดนี้คือวิธีการง่าย ๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากมีส่วนช่วยให้การเรียนพิเศษแบบออนไลน์ของลูกเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น
ช่วงเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมกับการเรียนพิเศษออนไลน์ควรเป็นอย่างไร
น้อง ๆ นักเรียน ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการเรียนพิเศษออนไลน์เราสามารถเลือกเวลาเรียนตามที่เราต้องการ แต่คงจะดีกว่าถ้าเรารู้ช่วงเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมกับการเรียนพิเศษออนไลน์ที่สุด และบรรยากาศควรเป็นอย่างไร การเรียนพิเศษแบบออนไลน์เพื่อให้ได้ผลดีน้อง ๆ นักเรียนควรเลือกเรียนในช่วง “เวลาเช้า” เพราะเป็นช่วงที่สมองของเราปลอดโปร่ง หลังจากการพักผ่อนในช่วงกลางคืนอย่างเต็มที่ สมองได้พักผ่อนและจัดระเบียบความจำในขณะที่เรานอนหลับ ซึ่งในช่วงเช้าสมองของเราพร้อมสำหรับการใช้งาน เคล็ดลับง่าย ๆ ที่ช่วยเพื่อคลายความง่วงและงัวเงีย เริ่มตั้งแต่เวลาเข้านอน เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ น้อง ๆ นักเรียนควรเข้านอนก่อนสี่ทุ่ม และมีเวลาตื่นนอนที่แน่นอน เช่นตื่นนอนตอนตี 5 เป็นประจำทุกวัน ทำให้เกิดความเคยชินและตื่นได้เองในเวลาเดิมแบบอัตโนมัติ และรู้สึกนอนเต็มอิ่มอีกด้วย หลังจากที่เรานอนมาทั้งคืน 6-8 ชั่วโมงที่ร่างกายขาดน้ำ ลองดื่มน้ำเปล่าอุ่น ๆ แก้วใหญ่ ๆ เพื่อทำสมองปลอดโปร่ง พร้อมเปิดรับข้อมูล กระตุ้นร่างกายให้ตื่นเต็มที่ ด้วยการยืดเส้นยืดสายกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอ ไหล่ แขน และฝ่ามือ ประมาณ 5-10 นาที เป็นการบอกร่างกายว่าเราพร้อมที่จะเริ่มวันใหม่แล้ว สภาพแวดล้อมมีผลเช่นเดียวกัน น้อง ๆ นักเรียนควรอาจเลือกห้องนอนที่เงียบสงบ หรือห้องที่ไม่มีเสียงรบกวนไว้สำหรับเรียนพิเศษออนไลน์ ความสงบนั้นยังช่วยให้คิดได้เร็ว และมีสมาธิสูง ขณะเดียวกันแสงสว่างเป็นสิ่งที่จำเป็น หากเป็นที่ที่แสงไฟไม่สว่างพอหรือไฟสลัว ๆ ดวงตาของเราจะทำงานหนัก และเมื่อยล้าเร็ว ดังนั้นจึงควรจัดแสงสว่างให้เพียงพอ เมื่อสมาธิและความตั้งใจมีมากพอแล้ว สมองจะสามารถจดจำเนื้อหาได้อย่างเป็นระบบ เมื่อถึงเวลาสอบ จึงไม่ยากเลยที่น้อง ๆ นักเรียนจะทำคะแนนได้ตามที่ตั้งใจไว้
คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการประเมินผลอย่างไรว่าเรียนออนไลน์ได้ผลหรือไม่
พ่อแม่ ผู้ปกครองที่ให้ลูก ๆ เรียนเสริมหรือเรียนพิเศษแบบออนไลน์ จะรู้ได้อย่างไรว่าการเรียนนั้น ๆ ได้ผลหรือไม่ เรามีหลักง่าย ๆ ที่จะช่วยให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ประเมินผลการเรียนมาแนะนำกันค่ะ

1 ก่อนเริ่มต้นเรียนออนไลน์ ควรมีการทดสอบและวัดผลประเมินความรู้ ความเข้าใจของนักเรียนเอาไว้ก่อน เพื่อที่จะได้นำมาเปรียบเทียบเมื่อนักเรียนเรียนจบในแต่ละครั้งว่ามีความรู้เพิ่มเติมมากขึ้นหรือไม่ อย่างไร
2 ผู้สอนช่วยทำการประเมิน และส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน เช่น อธิบายเพิ่มเติม ทั้งยังมีการทดสอบย่อยๆระหว่างเรียน และเมื่อจบการเรียนออนไลน์แต่ละครั้งควรมีการทดสอบและส่งผลคะแนนต่างๆ ให้กับทางผู้ปกครองได้ทราบ ทำให้ผู้ปกครองสามารถทราบถึงพัฒนาการของบุตรหลานได้
3 คุณพ่อและคุณแม่ สามารถให้บุตรหลานทำแบบฝึกหัดท้ายบท และตรวจคำตอบจากเฉลย ซึ่งแบบทดสอบนั้นอาจเป็นได้ทั้งปรนัยและอัตนัย การทำแบบทดสอบแบบอัตนัยจะทำให้ผู้เรียนได้ใช้กระบวนการคิดมากขึ้น และเรียนรู้ที่จะทบทวนความรู้ด้วยตนเองหลังจากการเรียนออนไลน์จบไปในแต่ละครั้ง
4 ผู้ปกครองลองทดสอบคำถามด้วยปากเปล่า เพื่อทดสอบคร่าวๆว่าบุตรหลานสามารถอธิบายได้หรือไม่ หลังการเรียนออนไลน์ผ่านไปแล้วสักระยะหนึ่ง
5 ผู้ปกครองลองสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะเรียนออนไลน์ว่ามีความตั้งใจ เข้าใจ และสามารถตอบคำถามต่างๆ ได้หรือไม่ เพื่อจะได้ทราบว่าการเรียนสัมฤทธิผลมากน้อยแค่ไหน
6 สอบถามจากผู้สอนว่า นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจในการเรียนออนไลน์หรือไม่ หรือมีปัญหาในการเรียนด้านใด และต้องพัฒนาในด้านใดบ้าง เพื่อจะได้ทราบว่าการเรียนได้ผลหรือไม่