เสริมสวย ใน กระบี่

เสริมสวย ใน กระบี่

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ทิพย์ณฐา ธนบุณยจิตต์
ทิพย์ณฐา ธนบุณยจิตต์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ยินดีให้คำปรึกษาเรื่องการดูแลสุขภาพ กินอย่างไรไม่อ้วน กินให้สวย หน้าใส ไร้พุง ให้บริการนวดหน้า ดูแลผิวหน้า ด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชั้นดี นวดหน้าคลายเครียด นวดหน้าใส

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา เสริมสวย

ความหมายของ "ความงาม" ที่แท้จริง
เกิดมาหน้ากลม ก็อยากมีหน้าวีเชพ จมูกที่แม่ให้มาดูจะบี้ ๆ แบน ๆ ก็อยากเสริมดั้งให้โด่ง มองกระจกแล้วยังไม่ค่อยพอใจกับหน้านี้ หุ่นนี้ อยากสวย อยากดูดีกว่าที่เป็นอยู่ พยายาม เสริม เพิ่ม เติมแต่งให้ได้ในแบบที่ตนพอใจ ผลิตภัณฑ์และวิทยาการเสริมความงาม ครีมบำรุง เครื่องสำอาง วิตามิน อาหารเสริม แพ็คเกจทำสวย สปา นวดหน้า การทำศัลยกรรม สิ่งเหล่านี้กลายเป็นหนทางที่จะนำพาให้หนุ่ม ๆ สาว ๆ ทั้งหลายก้าวไปสู่ความงามที่ตัวเองใฝ่ฝัน เรียกว่ามีร้อยทุ่มไปร้อย มีหมื่นก็ทุ่มกันไปทั้งหมื่น จนมีคำถามที่หลายคนอยากรู้ว่า มาตรฐานความสวย ความหล่อ เราจะสามารถวัดได้จากอะไร หรือวัดกันได้อย่างไร เพราะนิยามความสวยของแต่ละคน แต่ละพื้นที่ ภูมิภาค แต่ละประเทศย่อมไม่เหมือนกัน ถ้านับรวมเรื่องค่านิยมความงามในแต่ละยุคสมัยเข้าไปด้วย ยิ่งไม่สามารถนำมาวัดหรือเปรียบเทียบได้เลยว่าแบบไหนคือสวย แบบไหนคือไม่สวย
สาวไทยผิวสีแทน ผิวสีน้ำผึ้ง ที่คนไทยส่วนหนึ่งไม่ปลื้มสักเท่าไหร่ กลับเป็นที่นิยมและชื่นชอบของประเทศฝั่งตะวันตก อย่างอเมริกาและยุโรป เพราะคนแถบนั้นจะมองว่าผิวสีแทนบ่งบอกถึงความมีสุขภาพดี เป็นคนที่ได้ออกไปทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬากลางแจ้ง ในขณะที่คนไทยพยายามหลบเลี่ยงแดดเพราะกลัวดำ กลัวผิวเสีย ใช้ครีมบำรุงผิวที่เน้นทำให้ผิวขาวขึ้น (Whitening) แต่ฝรั่งกลับชอบอาบแดดเพราะอยากมีผิวสีเข้มขึ้น

เอาเป็นว่าเรื่องความสวย ความหล่อ ขึ้นอยู่กับความพอใจของเจ้าตัวเป็นหลัก ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรที่ตายตัว หากการพยายามไปถึงความสวยที่ต้องการ โดยไม่ได้ทำให้ตัวเองหรือคนรอบข้างเดือดร้อน สวยขึ้น (ในแบบที่ตัวเองชอบ) แล้วรู้สึกมั่นใจมากขึ้น ทำแล้วเพิ่มโอกาสในหน้าที่การงาน เมื่อการเสริมสวยเสริมหล่อสามารถสร้างพลังงานด้านบวกให้กับตัวเอง
ทรงผมที่ช่วยให้คุณดูเด็กลง
ทรงผมมีผลต่อภาพรวมต่อบุคลิกและหน้าตาอย่างไม่หน้าเชื่อ SAIJAI ขอเอาใจคุณผู้หญิงที่อยากดูสดใส ดูเด็กกว่าอายุจริง ด้วยเทคนิคการจัดทรงผมที่คุณสามารถใช้ได้จริงให้การปรับลุคให้ดูเด็กลง
1. ผมหน้าม้าปัดข้างปิดหน้าผากและการดัดปลายผมให้มีวอลลุ่มไม่ลีบแบน ดูเหมาะสำหรับคนที่หน้าผากกว้าง
2. ผมตรง ๆ ลีบ ๆ อาจดูน่าเบื่อ ลองดัดผมลอนใหญ่เพื่อเพิ่มวอลลุ่ม และยังเพิ่มความสดใสได้อีกด้วย เลือกช่างทำผมหรือร้านซาลอนที่ทันสมัยและเข้าใจเทรนด์ เพราะการดัดผมบางแบบอาจจะทำให้คุณกลายเป็นป้า แทนที่จะปัง
3. ใครผมสั้น ลองไดร์ผมแบบยกโคนจะทำให้ผมไม่ลีบแบนติดหนังศรีษะ ไดร์ปลายผมให้งุ้มเข้าเล็กน้อย
4. อย่าปล่อยให้ผมยาวเกินไป หมั่นตัดแต่งให้เข้าทรงอยู่เสมอ เล็มปลายผมที่แห้งเสียแตกปลายออก ทรงผมที่ยุ่งเหยิงและผมแห้งทำให้คุณดูโทรม
5. ถ้าคุณไม่ใช่คนที่หน้าเล็กจริง ๆ พยายามหลีกเลี่ยงทรงผมแสกกลาง ผมแสกข้างกับหน้าม้าจะช่วงพรางให้หน้าคุณดูเล็กลง
6. หากคุณมีลำคอที่ยาวจนเกินงาม การตัดผมให้ยาวประบ่าพอดี ๆ จะช่วยอำพรางลำคอที่ยาวของคุณได้
7. ผมหน้าม้า บ็อบสั้น ถือเป็นทรงผมที่ไม่เคยล้าสมัย ไม่มีเชย ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี
8. การแต่งทรงผมมากเกินไปจะทำให้ดูหน้าแก่เกินวัย ลองปล่อยผมเป็นธรรมชาติ เน้นผมสุขภาพดี สะอาด ไม่มันเยิ้ม
9. สาวผมยาว การผูกผมหางม้าหรือลองถักผมเปียแบบหลวม ๆ พาดไหล่ลุคนี้ก็ทำให้คุณดูอ่อนวัยได้
10. การทำสีผม ทำไฮไลท์ให้ผมมี 2 เฉดสี ช่วยให้คุณดูสดใส
การดูแลผิวหน้าของผู้หญิง วัย 40+
เมื่ออายุย่างเข้าเลข 4 ปัญหาที่พบเห็นได้บ่อย สำหรับผู้หญิงวัยนี้ก็คือ เรื่องของผิวพรรณ เช่น ผิวขาดน้ำ ดูไม่ชุ่มชื้น มีริ้วรอยเหี่ยวย่น ฝ้า กระ ที่เห็นได้ชัดเจนขึ้น ทำให้ผู้หญิงวัย 40 รู้สึกถึงความไม่สดชื่น สดใส เพราะมีความกังวลในเรื่องของผิวพรรณ ในปัจจุบันผู้หญิงวัย 40 ก็จะมีวิธีดูแลตัวเองได้ทั้งภายนอก และภายใน ซึ่งจะช่วยให้ดูสาว ดูสวย ดูอ่อนวัย แถมยังเป็นสาวอายุ 40 ที่มีสุขภาพดีอีกด้วย วันนี้ลองมาดูเคล็ดลับง่ายๆ ในการรักษาความสวยของสาววัย 40 กันค่ะ รับรองว่าสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง และยังได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจอย่างแน่นอน
- การมองโลกในแง่บวก เชื่อหรือไม่ว่าการมีทัศนคติที่ดี เป็นการดูแลตัวเองที่สำคัญและมีผลกับร่างกายและจิตใจของเราเป็นอย่างมาก เพราะหากคุณมองโลกในแง่ร้าย ย่อมส่งที่ไม่ดีทั้งต่อร่างกายและจิตใจอย่างแน่นอน แต่หากคุณมองโลกในแง่ดี คิดบวก จะทำให้ตัวเองไม่เครียดจนเกินไป ส่งผลให้ไม่ดูแก่ก่อนวัยอันควรนั่นเอง
- การออกกำลังกาย สำหรับสาวๆ วัย 40 ปี นอกจากจะได้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ยังส่งผลให้ผิวพรรณดูผุดผ่อง มีน้ำมีนวล ผิวไม่เหี่ยวและย่อนคล้อยก่อนวัย เพียงแค่แบ่งเวลาอย่างน้อยวันละ 30 นาที เพื่อออกกำลังงกายแบบง่ายๆ อยู่ที่บ้าน หรือแค่มีเสื่อโยคะติดบ้านไว้ซักผืนแล้วก็ลองหาคลิปออกกำลังกายตามยูทูป แค่นี้ก็สามารถออกกำลังกายได้เช่นกัน
- การดูแลร่างกายและจิตใจจากภายใน แน่นอนว่าการดูแลตัวเองหากเริ่มจากภายในแล้ว การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะสาวๆ ไม่ว่าจะวัยไหนก็ตามต่างก็มีความสุขเมื่อได้กินของอร่อยๆ การได้ทานของที่ชอบไม่ใช่เรื่องผิดเสมอไป เพราะถึงจะสวย แต่ไม่มีความสุขก็คงไม่ดี ดังนั้นพยายามควบคุมการรับประทานอาหารให้พอดีกับความต้องการของร่างกายก็พอ
ปัญการผิวแพ้ง่ายและการดูแลที่ถูกวิธี
ปัญหาผิวแพ้ง่ายมักเกิดจากปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดภาวะระคายเคือง ซึ่งมีทั้งปัจจัยภายใน เช่น พันธุกรรม หรือโรคความผิดปกติของผิวหนัง และปัจจัยภายนอก เช่น สิ่งแวดล้อม แสงแดด มลพิษทางอากาศ สารเคมีจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ทำให้ผิวแพ้ง่ายกลายเป็นเรื่องยากที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่เราสามารถหลีกเลี่ยงและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการได้ ดังนั้นการดูแลจึงต้องเน้นการบำรุงให้ผิวแข็งแรง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังได้แนะนำแนวทางการดูแลผิวหน้าที่แพ้ง่าย ดังนี้
1. ทำความสะอาดผิวหน้า : น้ำร้อนจะทำให้ไขมันที่จำเป็นบนชั้นผิวถูกชะล้างออกมากเกินไป จึงควรล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ 2 ครั้งต่อวัน เช้า-เย็น ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ไม่มีสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ที่เน้นสูตรอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ และควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดหน้าแรงๆ เพราะจะทำให้เกิดการเสียดสีและเกิดการระคายเคือง
2. เกราะปกป้องผิวหน้า : เกราะปกป้องผิวที่อ่อนแอเป็นสาเหตุของผิวหน้าแห้งและผิวไวต่อสิ่งกระตุ้น สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย ควรใช้สกินแคร์ที่ช่วยลดการระคายเคืองลดปัญหาผิวแห้ง ควบคู่ไปกับการให้ความชุ่มชื้น และฟื้นบำรุงเกราะปกป้องผิวให้ดีขึ้น
3. หลีกเลี่ยงและปกป้องผิวแสงแดด ต้องใช้ครีมกันแดดทุกวันทาก่อนออกแดด 15-20 นาที เพราะผิวแพ้ง่ายจะไวต่อแสงแดดมาก ควรใช้สารกันแดดธรรมชาติ (Physical sunscreen) ที่ช่วยป้องกันแสงแดดโดยการสะท้อนออก ไม่ใช่การดูดซับเข้ามาที่ผิวเหมือนสารกันแดดเคมี ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้ และสารกันแดดเคมียังเป็นอันตรายสามารถดูดซึมสู่เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังเข้าร่างกายได้อีกด้วย