เสริมสวย ใน บางพลัด, กรุงเทพมหานคร

เสริมสวย ใน บางพลัด, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา เสริมสวย

ความงาม คือ อะไร
สำนวนสุภาษิตไทยที่ว่า "ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง" ยังคงใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ครีมบำรุง เครื่องสำอาง วิตามิน อาหารเสริม แพ็คเกจทำสวย สปา นวดหน้า ไปจนถึงการทำศัลยกรรม ถูกนำมาใช้เสริมเติมและปรุงแต่งความสวยงามกันอย่างแพร่หลาย แทบจะเรียกได้ว่า “สวยสั่งได้” หรือ “สวยเสกได้” กันเลยทีเดียว
ในท้องตลาดทั้งภายในประเทศไทยและต่างประเทศ สินค้าและบริการเกี่ยวกับความสวย ความงาม ถือเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมแบบไม่ตกยุค ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยินดีลงทุนตามกำลังทรัพย์เพื่อให้ตัวเองดูดี ใช้ครีมบำรุงเพราะอยากมีหน้าใส ผิวดูมีสุขภาพดี รูปร่างสมส่วน(แบบที่ตัวเองชอบ) ทั้งออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือใช้ทางลัดเพื่อให้ตัวเองสวย หล่อ ดูดีตามต้องการ
ปัจจุบันการเสริมความงามไม่จำกัดอยู่แต่เฉพาะคุณผู้หญิงเท่านั้น แต่คุณผู้ชายอีกจำนวนมากที่ทุ่มทุนเสริมหล่อกันแบบไม่ยอมแพ้สาวเลย หลายให้ความสำคัญกับความงามและรูปลักษณ์ภายนอก จนดูเหมือนว่าต่างคนต่างพยายามปรุงแต่งตัวเองเพื่อให้สวยตามมาตรฐานและค่านิยมของสังคม จนบางครั้งลดทอนคุณค่าของตัวเอง ขาดความมั่นใจ หรือบางคนถึงขั้นกลายเป็นปัญหากระทบจิตใจจนกลายเป็นความทุกข์ไปเลย
แล้วแบบไหนหรืออย่างไรจึงเรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานของความสวย ความหล่อ เพราะค่านิยมความงามในแต่ละยุคย่อมแตกต่างกันออกไปตามช่วงเวลานั้น ๆ หรือแตกต่างกันไปตามพื้นที่ เฉพาะมุมมองความงามของคนไทยเองแค่ประเทศเดียวก็ใช้ว่าจะเหมือนกันหมดทั้งประเทศ เพราะต่างคนต่างมีรสนิยมและความชอบที่แตกต่างกันออกไป คนไทยอาจจะมองว่า แบบฝรั่ง แบบเกาหลี นั้นสวย แต่ถ้าข้ามไปฝั่งยุโรป อเมริกา ผู้คนแถบประเทศนั้น กลับมองว่าสไตล์ไทยนี่แหละสวย
หรือที่จริงแล้วความสวย ความหล่อไม่สามารถวัดได้ด้วยมาตรฐานที่ตายตัว เพราะแต่ละคนก็มีรสนิยม ความชอบที่ต่างกันออกไป เอาเป็นว่าสวยกันคนละแบบ ดูดีกันคนละสไตล์ พูดง่าย ๆ ก็คือเอาที่สบายใจดีกว่า
อยากดูหน้าเด็กควรทำผมทรงไหน
อายุเป็นเพียงตัวเลข สาว ๆ ไม่ควรปล่อยให้อายุที่มากขึ้นมาหยุดความสดใสของคุณ เพราะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยที่ใคร ๆ จะชอบดูอ่อนเยาว์ นอกจากครีมลดริ้วรอย เลเซอร์ หรือ Facial Treatment จะเป็นทางออกให้คุณมีใบหน้าที่ดูอ่อนกว่าวัย ทรงผมเป็นอีกตัวแปรที่จะช่วยกระชากวัย เรียกได้ว่าแค่เปลี่ยนทรงผมชีวิตก็เปลี่ยน ต่อไปนี้ทรงผมที่จะทำให้คุณดูเด็กลง
1. สำหรับคนที่หน้าผากกว้าง เหมาะผมหน้าม้าปัดข้างปิดหน้าผากและการดัดปลายผมให้มีวอลลุ่มไม่ลีบแบน
2. เลือกช่างทำผมหรือร้านซาลอนที่ทันสมัย และเป็นมืออาชีพ เพื่อเปลี่ยน ผมตรง ๆ ลีบ ๆ เป็นผมดัดเพิ่มวอลลุ่มลอนใหญ่ เพิ่มความสดใสดูอ่อนวัยลงได้อีกด้วย
3. ผมสั้นลีบแบนติดหนังศรีษะ ลองใช้เทคนิดไดร์ผมแบบยกโคน ไดร์ปลายผมให้งุ้มเข้าเล็กน้อย เพิ่มความน่ารัก
4. อย่าปล่อยให้ผมเสีย แห้ง แตกปลาย ดูแลและบำรุงเส้นผมให้สุขภาพดี ตัดแต่งทรงอยู่เสมอ เล็มปลายผมที่แห้งเสียแตกปลายออก ทรงผมที่ยุ่งเหยิงและผมแห้งทำให้คุณดูโทรม
5. พยายามหลีกเลี่ยงทรงผมแสกกลาง หากคุณไม่ได้มีใบหน้าที่เล็กจริง ๆ ผมแสกข้างกับหน้าม้าจะช่วยพรางให้หน้าดูเล็กลง
6. อยากอำพรางลำคอที่ดูยาวจนเกินงาม การตัดผมให้ยาวประบ่าพอดี ๆ จะช่วยอำพรางลำคอที่ยาวของคุณได้
7. ทรงผมอมตะที่อยู่คู่ผู้หญิงมาทุกยุคทุกสมัย ไม่มีเชย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่คือ ผมหน้าม้า บ็อบสั้น หรือผมทรงนักเรียน
8. การปล่อยผมเป็นธรรมชาติ ไม่จัดแต่งทรงผมมากเกินไป ไม่สวมวิก แค่ดูแลให้ผมสุขภาพดี สะอาด ไม่มันเยิ้ม จะช่วยลดอายุได้
9. ลุคผมเปีย หรือผูกผมหางม้า เป็นอีกสไตล์สำหรับสาวผมยาวที่อยากดูอ่อนกว่าวัย
10. เพิ่มความสดใสด้วยการทำสีผมทั้งหัว หรือทำไฮไลท์ให้ผมมี 2 เฉดสี
สิ่งจำเป็นในการดูแลผิวหน้าสำหรับผู้หญิงวัย 40+
30 ยังแจ๋ว หรือต่อให้ปาไป 40 แล้วก็ยังสวยได้ถ้าดูแลตัวเองดี ๆ อาจฟังดูน่าตกใจเล็กน้อยเมื่อกล่าวถึงอายุช่วง 40 ปี ที่ถือว่าเป็น “วัยกลางคน” (midlife) ซึ่งมักจะมาพร้อมกับ Midlife Crisis ที่ทำให้เราได้มองย้อนกลับไป ในช่วงชีวิตเราผ่านมานี่ครึ่งทางแล้วเหรอ แล้วต่อไปจะเอาอย่างไรกับชีวิตดี แล้วเราจะสามารถเตรียมตัวเตรียมใจตัวเองให้พร้อมกับก้าวเข้าสู่วัย 40 อย่างมีความสุขอย่างไร
สิ่งที่ควรเตรียมตัวเพื่อให้คุณก้าวเข้าสู่วัย 40 อย่างมีความสุข
1. สุขภาพที่ดี “อโรคยา ปรมาลาภา” ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
เรื่องสุขภาพต้องมาก่อน การมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์ แข็งแรง ถือเป็นต้นทุนของทุกสิ่ง เมื่อคุณมีสุขภาพดี คุณจะสามารถทำอะไรที่อยากทำโดยไม่ต้องกังวลถึงข้อจำกัดด้านสุขภาพ หลักพื้นฐานที่สามารถทำให้คุณเป็นคนที่มีสุขภาพดีคือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้เบิกบานไม่คิดลบ ไม่เครียด และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทั้งหมดดูเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย ๆ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ สิ่งเหล่านี้ที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วกลับไม่ได้ทำง่ายอย่างที่คิด ด้วยข้อจำกัดของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป และการสร้างสุขภาพที่ดีไม่ใช่สิ่งที่สามารถสร้างได้ภายในวันเดียวหรือสองวัน ดังนั้นหากคุณอยากเป็นคนวัยสี่สิบที่สุขภาพดี คุณต้องเริ่มต้นดูแลและไม่ทำสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพตั้งแต่เนิ่น ๆ
2. ความมั่นคงทางการเงิน การทำงานในบริษัทเอกชนแม้จะมีรายได้หรือเงินเดือนสูงกว่างานราชการ แต่ความเสี่ยงเรื่องความมั่นคงดูเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เลยหากคุณตกงานในวัย 40 ยิ่งหางานใหม่ยากเข้าไปอีก โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนจากปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด หรือภาวะสงคราม คุณควรมีแผนสำรองหรืออาชีพเสริมตั้งแต่เนิ่น ๆ ระลึกไว้เสมอว่ารายรับไม่สำคัญเท่าเงินเหลือ ออมเงินตั้งแต่เริ่มทำงาน ลงทุนเพื่อให้มีรายได้พิเศษนอกจากงานหลัก สร้างความมั่นคงทางการเงินเพื่อลดความกังวลเมื่ออายุมากขึ้น
3. ปรับปรุงและเปลี่ยนตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความรู้ด้านเทคโนโลยี ติดตามข่าวสาร รู้ทันโลก ทำในสิ่งที่ชอบ และปล่อยวางในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ยิ่งอายุมากขึ้น คุณต้องยิ่งเข้าใจในธรรมชาติของคน ไม่มีอะไรที่จะถูกใจเราทั้งหมด คุณไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงใครให้เป็นไปในแบบที่คุณต้องการได้ แต่สิ่งที่คุณทำได้คือปรับจิตใจตัวเองให้ยอมรับในความแตกต่างและความเป็นไปรอบข้าง สิ่งที่ควรมีมากขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้นคือ สติ
แก้ปัญหาผิวแพ้ง่ายให้แข็งแรงอีกครั้ง
สิ่งที่ผู้มีปัญหาผิวแพ้ง่ายควรใส่ใจมากเป็นพิเศษคือ การทำความสะอาดผิวหน้าและการดูแลรักษาความสะอาดของของใช้ส่วนตัวที่มีโอกาสสัมผัสกับผิว เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองหรืออักเสบ ตามด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังว่ามีความอ่อนโยนต่อผิว ที่สำคัญต้องหลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เป็นการรบกวนผิว
คำแนะนำสำหรับการดูแลผิวแพ้ง่าย
ล้างและเช็ดหน้าเบา ๆ
เบามือในทุกขั้นตอนของการทำความสะอาดผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นการเช็ดเครื่องสำอาง การล้างและการเช็ดหน้า ควรทำแต่เพียงเบา ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคือง การถู แคะ แกะ เกาหน้าแรง ๆ นอกจากจะทำให้เกิดการระคายเคืองหรืออักเสบแล้ว ยังทำให้เกิดปัญหาริ้วรอยอีกด้วย
ไม่รบกวนผิวหน้า
บรรดาผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีเม็ดบีดสครับ รวมถึงการขัด พอก ลอก กรอ หรือทำเลเซอร์ผิว เป็นการรบกวนผิวหน้า และจะไปกระตุ้นให้ผิวหน้าแพ้ง่ายกว่าเดิม
ดูแลไม่ให้ผิวแห้ง
ดูแลผิวด้วยการใช้ครีมบำรุงที่มีความอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย หากคุณมีผิวแห้งมากควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเป็นน้ำมันเคลือบผิว ทาหลังอาบน้ำและซับผิวภายในระยะเวลาประมาณ 5 นาที เพื่อให้ผิวยังคงชุ่มชื้น
เพียงแค่นี้ก็ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแพ้ง่ายเผชิญกับปัญหาสิวหรือผิวบอบบางได้แล้ว

อวดผิวหน้าร้อนให้สวยมั่นใจ

บางพลัดเป็นเขตหนึ่งของกรุงเทพ บริเวณรอบนอก ซึ่งปัจจุบันมีความเจริญสูงขึ้น เป็นแหล่งค้าขายและมีผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมตั้งอยู่ด้วยเช่นกัน เมื่อฤดูร้อนมาถึงเขตบางพลัดจะร้อนมาก สภาพอากาศที่ร้อนจะทำให้ผิวพรรณของสาวๆคล้ำเสียได้ง่ายทั้งผิวหน้าและผิวกาย ใส่ใจมีวิธีดูแลผิวหน้าในหน้าร้อนมาฝากหากใครที่อยากมีผิวหน้าร้อนสวยสดใสต้องทำอย่างนี้ค่ะ

1.หมั่นทำความสะอาดผิว ช่วงหน้าร้อนผิวหน้า ผิวกายของเรามีเหงื่อออกตามรูขุมขนได้ง่าย บวกกับสภาพแวดล้อมของเมืองกรุงที่มีทั้งฝุ่นและควันพิษ ตัวเหล่านี้เป็นตัวที่ทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย หากไม่ใส่ใจในการความสะอาดผิวจะก่อให้เกิดโรคตามมาได้ง่าย ทุกครั้งเมื่อกลับมาถึงบ้านควรล้างหน้าให้สะอาด โดยเฉพาะสาวๆที่แต่งหน้าควรเช็ดเครื่องสำอางออกให้หมด จากนั้นล้างหน้าให้สะอาด ผิวกายก็ควรฟอกด้วยสบู่สูตรอ่อนโยนต่อผิว

2.เลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่เหมาะสม ในหน้าร้อนควรเลือกใช้ครีมบำรุงที่มีคุณสมบัติเหมาะกับสภาพผิว โดยเฉพาะคนที่มีผิวมัน ผิวของคุณจะเสี่ยงต่อการมันเยิ้มได้ อีกเรื่องคือไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันซึ่งอาจก่อให้เกิดความมันและสิวได้

3.ถ้าครีมกันแดดเป็นประจำ ครีมกันแดดเป็นไอเท็มหลักที่ขาดไม่ได้ในหน้าร้อน ซึ่งปัจจุบันอุณหภูมิความร้อนทะยานสูงขึ้นและรังสีจากแสงแดดก็เป็นตัวทำลายผิวของสาวๆให้หมองคล้ำ เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังได้ ทุกวันควรทาครีมกันแดดที่มีค่าSPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำ

3.เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอกจากการบำรุงผิวภายนอกแล้วการดูแลจากภายในก็สำคัญควรกินผักผลไม้ให้มากเพราะเป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ

4.อย่าลืมดื่มน้ำให้มากๆเพราะผิวของเราจะมีการระเหยของน้ำ ซึ่งเมื่อน้ำระเหยออก ก็เสี่ยงต่อการขาดน้ำทำให้ผิวแห้งกร้านหมองคล้ำได้ง่าย



เตรียมผิวยังไง เมื่อต้องเดินทางไกล

ช่วงวันหยุดยาวนี้หลายคนคงเลือกการท่องเที่ยวหรือการเดินทางใกล้ๆบ้านเป็นการเฉลิมฉลอง แต่การเดินทางไปเที่ยวในที่ที่อยากไป สูดอากาศบริสุทธิ์ของต่างจังหวัด ก็เป็นความสุขที่หลายคนรอคอย เมื่อผู้คนพร้อมจะออกการเดินทางทำให้ถนนทุกสายเกิดการติดขัด ซึ่งการเดินทางด้วยรถยนต์ หรือรถโดยสารมักจะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด ไม่นับการเดินทางด้วยเครื่องบิน แต่ก็มีการเดินทางอีกแบบที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงมากนักนั่นคือการเดินทางด้วย “รถไฟ” เป็นการเดินทางที่ปลอดภัยเป็นอันดับต้นๆ สามารถเห็นวิวทิวทัศน์ได้สวยตลอดเส้นทาง สถานีรถไฟบางบำหรุเป็นสถานีรถไฟทางไกล ในเส้นทางสายใต้อยู่ในเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร สาวๆคนไหนอยากนั่งรถไฟชิลๆไปเที่ยวทางใต้ก็สามารถขึ้นที่สถานีบางบำหรุได้ โดยเส้นทางรถไฟที่ยาวที่สุดที่จะผ่านสถานีนี้และเป็นเส้นทางที่ยาวที่สุดในประเทศไทยนั่นคือขบวนรถเร็ว 171 กรุงเทพ-สุไหงโกลก ซึ่งใช้เวลาเดินทาง20กว่าชั่วโมง สาวๆคนไหนที่ใช้บริการเดินทางด้วยรถไฟจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมยังไงบ้าง มาดูกันค่ะ

1.เคลียร์ผิวก่อนเดินทาง หากต้องเดินทางไกล ก่อนเดินทางควรให้ผิวพักหายใจกันบ้าง ควรลบรองพื้น เครื่องสำอางให้หมดจด และควรเติมมอยเจอร์ไรเซอร์ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว

2.ใช้สลิปปิ้งมาสก์ ผิวต้องการพักผ่อนระหว่างเดินทาง หากใครสะดวกก็ใช้แผ่นมาสก์หน้าระหว่างเดินทางได้ แต่หากไม่สะดวกก็สามารถทาเจลหรือครีมสำหรับกลางคืน ตื่นมาจะได้เช็ดออกได้อย่างง่ายดาย เพียงเท่านี้ผิวของเราก็สามารถกักเก็บความชื้นได้แล้ว

3.ดื่มน้ำเยอะๆ การดื่มน้ำบ่อยๆจะช่วยบรรเทาความสูญเสียน้ำของผิวได้มากและยังปรับสมดุลในร่างกายให้ไม่เหนื่อยล้าได้อีกด้วย

4.ทานวิตามินบำรุงร่างกาย วิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายเช่นวิตามินซี วิตามินดี วิตามินอี ควรมีการทานเสริมเนื่องจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปในการเดินทางได้

5.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ในการเดินทางหากเราพักผ่อนไม่เพียงพอ เมื่อถึงเป้าหมายผิวพรรณของเราจะไม่สดใส ซึ่งการนอนหลับเป็นเหมือนการชาร์จแบตที่ดี ช่วยฟื้นฟูผิวได้มาก เมื่อถึงจุดหมายเราสามารถที่จะสนุกสนานไปกับการเที่ยวได้เต็มที่



ทำไมราคาการแต่งหน้าแต่ละงานถึงไม่เท่ากัน

หลายคนอาจมีความสงสัยว่าทำไมราคาของการแต่งหน้าถึงไม่เท่ากันเช่น การแต่งหน้ารับปริญญาก็อีกราคา การแต่งหน้าออกงานก็อีกราคา และค่าแต่งหน้าเจ้าสาวก็อีกราคา ทั้งที่เป็นช่างคนเดียวกันแต่ราคากับต่างกันลิบลิ่ว ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นข้อถกเถียงกันเรื่อยมา ในมุมของลูกค้าเองพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแม้การบริการแต่งหน้าในแต่ละงานจะต่างกัน แต่ก็ไม่น่าจะต่างกันเป็นหลักหมื่น แต่สำหรับลูกค้าบางคนที่เคยรับบริการแต่งหน้ามาหลากหลายรูปแบบก็เข้าใจได้ถึงสาเหตุว่าทำไมการแต่งหน้าถึงราคาต่างกันขนาดนี้ โดยสามารถสรุปประเด็นได้ดังนี้

- ระยะเวลาในการแต่งหน้าที่ไม่เท่ากัน วัตถุประสงค์ของการแต่งหน้าทำให้ระยะเวลาต่างกันไปด้วยเช่น บางงานก็แต่งเสร็จภายใน 2- 3 ชั่วโมงเท่านั้น แต่บางงานก็ต้องการความสวยละเอียดเป็นพิเศษให้สามารถอยู่ได้ทั้งวัน ก็จะต้องมีช่างพร้อมอยู่กับลูกค้าตลอดทั้งวันเพื่อแก้ปัญหาหน้าผมของลูกค้า

- อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ หากเป็นการแต่งหน้าที่ต้องการความดูดีเป็นพิเศษหรือผลลัพธ์ที่ออกมาสวยโดนใจ เครื่องสำอางมีความสำคัญมาก ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มั่นใจได้ว่าจะทำให้การแต่งหน้าของคุณออกมาได้ตรงใจ ซึ่งมีราคาเหยียบหมื่นเลยทีเดียว ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าการแต่งหน้าในงานทั่วไปคุณจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ดี เพียงแต่อาจจะไม่จำเป็นในการใช้เยอะชิ้นเท่ากับการแต่งหน้าบางงาน

-ความละเอียดของขั้นตอน การแต่งหน้าไม่ได้มีเพียงสองสามขั้นตอนเท่านั้น ในการแต่งหน้าช่างจะต้องเริ่มต้นด้วยการลงผิวให้ธรรมชาติ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะผิวหน้าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผิวกาย ผม บางคนอาจไม่ทราบว่าขั้นตอนนี้บางครั้งใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมงและยังต้องคอยแก้จุดบกพร่องในใบหน้าของลูกค้าให้ทุกอย่างออกมาดูดีที่สุด