เสริมสวย ใน สะเดา, สงขลา

เสริมสวย ใน สะเดา, สงขลา

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา เสริมสวย

แบบไหนที่เรียกว่า "ความงาม"
“Beauty Standard” ในปัจจุบันสื่อโฆษณาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทีวี สื่อโซเชียลมีเดียพยายามสร้างมาตรฐานความงามไปในทิศทางเดียวกัน ให้ผู้หญิงต้องมีรูปร่างผอมเพรียวหรือแทบจะผอมแห้ง ผิวขาว หน้าใส ผู้ชายต้องตัวสูง ขายาว มีกล้ามเนื้อสวยงาม ดูดี ดูสมบูรณ์แบบในสายตาของคนส่วนใหญ่ จนสิ่งเหล่านี้ส่งอิทธิพลให้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกไม่พอใจกับรูปลักษณ์ภายนอกตนเอง อ้วนไป ขาใหญ่ไป พุงใหญ่ไป หน้าอกเล็กไป ฯลฯ
วัยรุ่นส่วนหนึ่งมีปัญหาการรับประทานอาหารที่ผิดปกติ เพราะกังวลเรื่องน้ำหนักตัว เด็กวัยนี้มากกว่าครึ่งงดอาหาร อดอาหาร สูบบุหรี่ อาเจียน และกินยาระบายเพื่อควบคุมน้ำหนัก โดยมีพฤติกรรมเหล่านี้ตั้งแต่อายุยังน้อย จนอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือเป็นตลอดชีวิต การพยายามไปให้ถึงมาตรฐานความงามและรูปร่างดีอาจนำไปสู่ความผิดปกติของการกินและปัญหาสุขภาพจิต จนกลายเป็นนิสัย ส่งผลเสี่ยงต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความเสียหายให้กับอวัยวะ พัฒนาการล่าช้า หรืออาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ด้านจิตใจ คนที่เป็นโรคเหล่าก็มีโอกาสฆ่าตัวตายสูง เพราะติดอยู่กับความคิดด้านลบ
ที่จริงแล้วคำว่า “Beauty Standard” หรือ มาตรฐานความงาน ไม่สามารถนำอะไรมาวัดหรือกำหนดได้ตายตัว ดังนั้นสิ่งที่ควรปลูกฝังให้กับทุกคนคือความเข้าใจถึงความแตกต่าง ความหลากหลายของคน ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น พอใจกับสิ่งที่ตัวเองมี รักตัวเองไม่ว่าเราจะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร เปิดใจรับและยอมรับให้มากขึ้น ความสุขสร้างเองได้
ทรงผมที่ช่วยให้คุณดูเด็กลง
ทรงผมมีผลต่อภาพรวมต่อบุคลิกและหน้าตาอย่างไม่หน้าเชื่อ SAIJAI ขอเอาใจคุณผู้หญิงที่อยากดูสดใส ดูเด็กกว่าอายุจริง ด้วยเทคนิคการจัดทรงผมที่คุณสามารถใช้ได้จริงให้การปรับลุคให้ดูเด็กลง
1. ผมหน้าม้าปัดข้างปิดหน้าผากและการดัดปลายผมให้มีวอลลุ่มไม่ลีบแบน ดูเหมาะสำหรับคนที่หน้าผากกว้าง
2. ผมตรง ๆ ลีบ ๆ อาจดูน่าเบื่อ ลองดัดผมลอนใหญ่เพื่อเพิ่มวอลลุ่ม และยังเพิ่มความสดใสได้อีกด้วย เลือกช่างทำผมหรือร้านซาลอนที่ทันสมัยและเข้าใจเทรนด์ เพราะการดัดผมบางแบบอาจจะทำให้คุณกลายเป็นป้า แทนที่จะปัง
3. ใครผมสั้น ลองไดร์ผมแบบยกโคนจะทำให้ผมไม่ลีบแบนติดหนังศรีษะ ไดร์ปลายผมให้งุ้มเข้าเล็กน้อย
4. อย่าปล่อยให้ผมยาวเกินไป หมั่นตัดแต่งให้เข้าทรงอยู่เสมอ เล็มปลายผมที่แห้งเสียแตกปลายออก ทรงผมที่ยุ่งเหยิงและผมแห้งทำให้คุณดูโทรม
5. ถ้าคุณไม่ใช่คนที่หน้าเล็กจริง ๆ พยายามหลีกเลี่ยงทรงผมแสกกลาง ผมแสกข้างกับหน้าม้าจะช่วงพรางให้หน้าคุณดูเล็กลง
6. หากคุณมีลำคอที่ยาวจนเกินงาม การตัดผมให้ยาวประบ่าพอดี ๆ จะช่วยอำพรางลำคอที่ยาวของคุณได้
7. ผมหน้าม้า บ็อบสั้น ถือเป็นทรงผมที่ไม่เคยล้าสมัย ไม่มีเชย ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี
8. การแต่งทรงผมมากเกินไปจะทำให้ดูหน้าแก่เกินวัย ลองปล่อยผมเป็นธรรมชาติ เน้นผมสุขภาพดี สะอาด ไม่มันเยิ้ม
9. สาวผมยาว การผูกผมหางม้าหรือลองถักผมเปียแบบหลวม ๆ พาดไหล่ลุคนี้ก็ทำให้คุณดูอ่อนวัยได้
10. การทำสีผม ทำไฮไลท์ให้ผมมี 2 เฉดสี ช่วยให้คุณดูสดใส
สิ่งจำเป็นในการดูแลผิวหน้าสำหรับผู้หญิงวัย 40+
30 ยังแจ๋ว หรือต่อให้ปาไป 40 แล้วก็ยังสวยได้ถ้าดูแลตัวเองดี ๆ อาจฟังดูน่าตกใจเล็กน้อยเมื่อกล่าวถึงอายุช่วง 40 ปี ที่ถือว่าเป็น “วัยกลางคน” (midlife) ซึ่งมักจะมาพร้อมกับ Midlife Crisis ที่ทำให้เราได้มองย้อนกลับไป ในช่วงชีวิตเราผ่านมานี่ครึ่งทางแล้วเหรอ แล้วต่อไปจะเอาอย่างไรกับชีวิตดี แล้วเราจะสามารถเตรียมตัวเตรียมใจตัวเองให้พร้อมกับก้าวเข้าสู่วัย 40 อย่างมีความสุขอย่างไร
สิ่งที่ควรเตรียมตัวเพื่อให้คุณก้าวเข้าสู่วัย 40 อย่างมีความสุข
1. สุขภาพที่ดี “อโรคยา ปรมาลาภา” ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
เรื่องสุขภาพต้องมาก่อน การมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์ แข็งแรง ถือเป็นต้นทุนของทุกสิ่ง เมื่อคุณมีสุขภาพดี คุณจะสามารถทำอะไรที่อยากทำโดยไม่ต้องกังวลถึงข้อจำกัดด้านสุขภาพ หลักพื้นฐานที่สามารถทำให้คุณเป็นคนที่มีสุขภาพดีคือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้เบิกบานไม่คิดลบ ไม่เครียด และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทั้งหมดดูเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย ๆ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ สิ่งเหล่านี้ที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วกลับไม่ได้ทำง่ายอย่างที่คิด ด้วยข้อจำกัดของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป และการสร้างสุขภาพที่ดีไม่ใช่สิ่งที่สามารถสร้างได้ภายในวันเดียวหรือสองวัน ดังนั้นหากคุณอยากเป็นคนวัยสี่สิบที่สุขภาพดี คุณต้องเริ่มต้นดูแลและไม่ทำสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพตั้งแต่เนิ่น ๆ
2. ความมั่นคงทางการเงิน การทำงานในบริษัทเอกชนแม้จะมีรายได้หรือเงินเดือนสูงกว่างานราชการ แต่ความเสี่ยงเรื่องความมั่นคงดูเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เลยหากคุณตกงานในวัย 40 ยิ่งหางานใหม่ยากเข้าไปอีก โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนจากปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด หรือภาวะสงคราม คุณควรมีแผนสำรองหรืออาชีพเสริมตั้งแต่เนิ่น ๆ ระลึกไว้เสมอว่ารายรับไม่สำคัญเท่าเงินเหลือ ออมเงินตั้งแต่เริ่มทำงาน ลงทุนเพื่อให้มีรายได้พิเศษนอกจากงานหลัก สร้างความมั่นคงทางการเงินเพื่อลดความกังวลเมื่ออายุมากขึ้น
3. ปรับปรุงและเปลี่ยนตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความรู้ด้านเทคโนโลยี ติดตามข่าวสาร รู้ทันโลก ทำในสิ่งที่ชอบ และปล่อยวางในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ยิ่งอายุมากขึ้น คุณต้องยิ่งเข้าใจในธรรมชาติของคน ไม่มีอะไรที่จะถูกใจเราทั้งหมด คุณไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงใครให้เป็นไปในแบบที่คุณต้องการได้ แต่สิ่งที่คุณทำได้คือปรับจิตใจตัวเองให้ยอมรับในความแตกต่างและความเป็นไปรอบข้าง สิ่งที่ควรมีมากขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้นคือ สติ
ปัญการผิวแพ้ง่ายและการดูแลที่ถูกวิธี
ปัญหาผิวแพ้ง่ายมักเกิดจากปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดภาวะระคายเคือง ซึ่งมีทั้งปัจจัยภายใน เช่น พันธุกรรม หรือโรคความผิดปกติของผิวหนัง และปัจจัยภายนอก เช่น สิ่งแวดล้อม แสงแดด มลพิษทางอากาศ สารเคมีจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ทำให้ผิวแพ้ง่ายกลายเป็นเรื่องยากที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่เราสามารถหลีกเลี่ยงและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการได้ ดังนั้นการดูแลจึงต้องเน้นการบำรุงให้ผิวแข็งแรง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังได้แนะนำแนวทางการดูแลผิวหน้าที่แพ้ง่าย ดังนี้
1. ทำความสะอาดผิวหน้า : น้ำร้อนจะทำให้ไขมันที่จำเป็นบนชั้นผิวถูกชะล้างออกมากเกินไป จึงควรล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ 2 ครั้งต่อวัน เช้า-เย็น ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ไม่มีสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ที่เน้นสูตรอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ และควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดหน้าแรงๆ เพราะจะทำให้เกิดการเสียดสีและเกิดการระคายเคือง
2. เกราะปกป้องผิวหน้า : เกราะปกป้องผิวที่อ่อนแอเป็นสาเหตุของผิวหน้าแห้งและผิวไวต่อสิ่งกระตุ้น สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย ควรใช้สกินแคร์ที่ช่วยลดการระคายเคืองลดปัญหาผิวแห้ง ควบคู่ไปกับการให้ความชุ่มชื้น และฟื้นบำรุงเกราะปกป้องผิวให้ดีขึ้น
3. หลีกเลี่ยงและปกป้องผิวแสงแดด ต้องใช้ครีมกันแดดทุกวันทาก่อนออกแดด 15-20 นาที เพราะผิวแพ้ง่ายจะไวต่อแสงแดดมาก ควรใช้สารกันแดดธรรมชาติ (Physical sunscreen) ที่ช่วยป้องกันแสงแดดโดยการสะท้อนออก ไม่ใช่การดูดซับเข้ามาที่ผิวเหมือนสารกันแดดเคมี ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้ และสารกันแดดเคมียังเป็นอันตรายสามารถดูดซึมสู่เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังเข้าร่างกายได้อีกด้วย