วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ช่างซ่อมบำรุง
ในการประกอบอาชีพช่างทุกสาขานั้น หัวใจสำคัญของการทำงานคือ ความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่เราอาจจะลืมไปว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยคือคนที่จะทำงานนั้น ๆ จะต้องมีความรอบรู้ในงานที่ตัวเองทำ ช่างซ่อมบำรุงที่ดีก็เช่นกัน จะต้องมีความรู้ มีความเข้าใจ
ในงานของตนเป็นอย่างดี ต้องมีทักษะและมีไหวพริบในการทำงาน มีทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ดี มีความรับผิดชอบต่อลูกค้า ยอมรับการปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องหรือข้อผิดพลาดในการผลิตหรือการบริการด้วยความเต็มใจ มีบุคลิกภาพและมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีอัธยาศัยที่เป็นมิตรไมตรีกับทุกคน สิ่งนี้จะทำให้เพื่อนร่วมงานเต็มใจทำงานด้วย และทำให้การดำเนินการธุรกิจร่วมกันได้เป็นอย่างดี ทำให้การประกอบอาชีพมีโอกาสสำเร็จมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญเลยคือผู้ใช้บริการก็จะประทับใจและจะกลับมาใช้บริการซ้ำในครั้งถัดไป
การนำความรู้ความสามารถไปใช้แก้ปัญหาต่าง ๆ ที่พบ ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับชีวิตประจำวันอย่างถูกต้อง ถูกวิธี ประหยัด และปลอดภัย
หากคุณได้แต่คาดการณ์สาเหตุ โดยระบุสาเหตุไม่ได้ชัดเจนแล้ว "ลอง" ลงมือซ่อมเองตามวิธีที่เราคิดว่าน่าจะใช่นั้นย่อมเสี่ยงทำให้เกิดอันตรายต่อตัวเราได้ง่าย ปัญหาเหล่านั้นอาจเป็นปัญหาที่อันตรายถึงชีวิต และการที่เรา "ลอง" ซ่อมแซมเครื่องจักรเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆเหล่านั้นด้วยตนเอง อาจจะทำให้คุณภาพของสิ่งของเหล่านั้นมีคุณภาพที่ลดลง หากคุณลองค้นหาวิธีซ่อมอุปกรณ์หรือแก้ไขมันด้วยตัวเองจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ จะพบว่าเว็บไซต์เหล่านั้นไม่แนะนำให้ซ่อมหรือแก้ไขด้วยตัวเอง แต่แนะนำให้ปรึกษาหรือเรียกช่างซ่อมบำรุงที่เป็นมืออาชีพมาดูแทน เพราะเครื่องมือเครื่องจักร อุปกรณ์ที่เราอาจจะไม่คุ้นชิน อีกทั้งยังไม่มีอุปกรณ์ซ่อมไฟพร้อมเท่ากับช่างซ่อมบำรุงมืออาชีพ
และนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงควรเรียกช่างซ่อมบำรุงมืออาชีพมากกว่าลงมือซ่อมเครื่องจักรเครื่องมือเหล่านั้นด้วยตนเอง
- ช่างทาสี การทาสีนั้นอาจจะดูเหมือนง่ายแต่ก็ไม่ง่ายไปซะทีเดียว การทาสีผนังบ้านใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จกับการทาสีผนังบ้านเก่านั้นมีการเตรียมพื้นผิวในการทาสีและมีการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทาสีที่ต่างกัน ดังนั้นจึงจำเป็นในการที่เราจะให้ผู้ที่มีประสบการณ์ในการทาสีเพื่อความสวยงามของบ้านที่เรารักและจะอาศัยอยู่ไปอีกนาน
- ช่างปูกระเบื้อง การใช้บริการช่างจากช่างปูกระเบื้องที่มีความชำนาญนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อที่เราจะได้รับงานที่มีคุณภาพ มีความละเอียดอ่อนและมีความสวยงาม
- ช่างฝ้าเพดาน เพื่อป้องกัน ในแสงแดดที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวของเราและ เพื่อเก็บโครงสร้างใต้หลังคาให้บ้านดูสวยงาม โดยฝ้าเพดานนั้นก็มีให้เลือกหลากหลายประเภท มีความสวยงามเหมาะกับการแต่งบ้านแต่ละแบบต่างกันออกไป
- คนดูแลสวน การดูแลสวนเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนและความใส่ใจเป็นอย่างมาก การทำสวนไม่ใช่การทำแค่เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะต้องให้สวนนั้นสามารถอยู่ได้อย่างยาวนาน
- ช่างดูแลสระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำของเราจะสะอาดได้นั้น ต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เราอาจจะคิดว่าเราสามารถที่จะดูสระว่ายน้ำด้วยตัวเองได้ แต่ในความเป็นจริงมีรายละเอียดปลีกย่อยในการดูแลและบำรุงรักษาสระว่ายน้ำอีกมากพอสมควรที่เราอาจจะยังไม่รู้ ดังนั้นการเรียงช่างที่เป็นดูแลสระว่ายน้ำนั้นจะช่วยให้เราสะดวกในการดูแลมากกว่าเดิม เพราะสระว่ายน้ำเป็นสิ่งก่อสร้างที่ถาวรเหมือนกับบ้านและตึกที่เราอาศัย การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก
วิธีเปลี่ยนลูกบิดประตู ง่าย ๆ ทำเองได้
ในการเปลี่ยนลูกบิดประตูใหม่ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการเอาลูกบิดประตูอันเก่าออก วิธีการถอดลูกบิดประตูสามารถทำได้ ดังนี้
1. ให้มองหารูบริเวณมือจับด้านที่เป็นปุ่มกดล็อค จากนั้นให้ใช้อุปกรณ์เล็ก ๆ เช่น คลิปหนีบกระดาษ หรือไขควง แทงเข้าไปเพื่อปลดแกนล็อคออกแล้วถอดหัวลูกบิดออก
2. ถอดลูกบิดออกและใช้ไขควงปากแบนแคะฝาครอบแผ่นประกบออก หรืออาจใช้การหมุนเพื่อคลายออก
3. ใช้ไขควงขันฝาประกบที่ใช้ยึดลูกบิดเข้ากับบานประตูออก โดยปกติจะมีสกรูอยู่สองตัว ในตำแหน่งบนและล่างอย่างละตัว เมื่อถอดฝาประกบออกแล้วให้ดึงลูกบิดออกทางฝั่งตรงกันข้าม
5. ถอดลิ้นหรือเดือยล็อคที่ติดอยู่ที่สันบานประตูออก
หลังจากถอดลูกบิดประตูอันเก่าออกแล้วสิ่งต่อไปที่จะต้องคือใส่ลูกบิดประตูอันใหม่ การใส่ลูกบิดประตูมีวิธีการอย่างไร มาดูกันเลยค่ะ
1.ลูกบิดอันใหม่ที่เราซื้อมานั้นจะประกอบอยู่เหมือนกับตอนที่ติดอยู่ตรงประตูให้เราถอดลูกบิดออกจากกันก่อน โดยใช้วิธีการเดียวกับการถอดลูกบิดออกจากประตู
2. ติดตั้งตัวลิ้นลูกบิดเข้าไปที่สันบานประตูก่อนแล้วจึงใช้สกรูยึงเพื่อยึดให้แน่น
3. สอดลูกบิดเข้าไปในช่อง ให้ร่องสำหรับยึดกับเดือยล็อคบนตัวลูกบิดสวมเข้าไปที่เดือยล็อค แล้วลองหมุนลูกบิดเพื่อทดสอบดูว่าเดือยล็อคเข้าตรงตำแหน่งแล้วหรือยัง ให้สังเกตว่าเดือยล็อคตรงตำแหน่งหรือไม่ คือ เมื่อเราหมุนลูกบิดตัวเดือยล็อคจะหดเข้าพอปล่อยลูกบิดเดือยล็อคจะเด้งออก หากเป็นแบบนี้ถือว่าประกอบอย่างได้ถูกต้อง
4. ใส่ฝาประกบขันสกรูทั้งบนและล่าง เพื่อยึดให้ลูกบิดเข้ากับบานประตู ใช้มือดันลูกบิดทั้งสองด้านให้ประกบเข้ากับตัวบานประตูให้สนิท
5. ตรวจสอบว่าใส่แน่นดีแล้วหรือยัง จากนั้นใส่ฝาครอบแผ่นประกบปิดเข้าไปโดยการกดฝาครอบเข้าไปแล้วหมุนเล็กน้อยให้ฝาครอบแน่น
6. ใส่หัวลูกบิดเข้าไปโดยให้สังเกตดูบริเวณที่จะสวมลูกบิดเข้าไปกับแกนลูกบิด เอาหัวลูกบิดด้านที่มีเดือยนั้นสวมเข้าไปในร่องที่แกนลูกบิด สวมเข้าไปจนสุดแล้วหมุนให้หัวลูกบิดเข้าล็อค
เชื้อราบนฝาผนังเกิดจากอะไร
สาเหตุที่ทำให้ผนังบ้านชื้นและเกิดเชื้อรา
- เกิดการรั่วของท่อน้ำภายในบ้านหรือท่อน้ำที่ซ่อนอยู่ในผนัง ส่งผลให้ผนังบ้านเกิดความชื้น เมื่อปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานไม่ได้รับการแก้ไข อาจทำให้ผนังเกิดเชื้อราได้
- ในช่วงฤดูฝน อาจเกิดเชื้อราขึ้นเพราะฝนตกหนัก ฝนกระเด็นหรือสาดเข้าไปในบ้านจนทำให้ผนังชื้น แม้ฝนจะหยุดตกไปแล้วแต่ความชื้นยังคงสะสมอยู่ในผนังบ้าน โดยเฉพาะผนังบ้านที่ไม่มีกันซึม จะยิ่งทำให้ความชื้นสะสมตัวในผนังและเกิดเชื้อราขึ้นในที่สุด
- ผนังบ้านอาจอยู่ใกล้กับสิ่งที่ทำให้เกิดความชื้น เช่น ผนังที่อยู่ใกล้กับถังรองน้ำ ผนังที่ติดเครื่องปรับอากาศหรือคอมเพรสเซอร์ หรือแม้แต่ผนังห้องน้ำ เมื่อผนังมีความชื้นสะสมเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย และเกิดเชื้อราขึ้นในที่สุด
การป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราบนผนัง
- ใช้เครื่องปรับอากาศหรือเครื่องลดความชื้น
- การเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศทำให้มีอากาศเข้าและออกอยู่ตลอด จะสามารถช่วยลดความชื้นได้
- ไม่ควรตากเสื้อผ้าไว้ภายในบ้าน เพราะจะเป็นการทำให้ความชื้นเพิ่มสูงขึ้น และไม่ควรเก็บผ้าที่ยังไม่แห้งเข้าบ้านเพราะนอกจากมีความชื้นแล้วยังอาจเกิดกลิ่นอับได้
- ติดตั้งพัดลมระบายอากาศในห้องน้ำ ห้องครัว เพื่อช่วยให้อากาศสามารถถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้น และยังสามารถลดความชื้นได้อีกด้วย
เชื้อราบนฝาผนังปัญหาที่ควรแก้ไขก่อนบานปลาย
- การใช้แอลกอฮอล์ในการกำจัดเชื้อราบนผนัง หากเราต้องการกำจัดเชื้อราที่เพิ่งเกิดขึ้นบนฝาผนัง หรือเป็นเชื้อราที่ได้ฝังลึกแอลกอฮอล์เป็นทางเลือกที่ดี ในการขจัดคราบให้เราใช้แปรงสีฟันขัดเชื้อราดำออกให้หมดเสียก่อน แล้วจึงนำผ้าชุบแอลกอฮอล์มาเช็ดตรงบริเวณที่เกิดเชื้อรา การนำแอลกอฮอล์มาเช็ดนั้นก็เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรา
- การใช้ผงซักฟอกในการกำจัดเชื้อราบนผนัง การขจัดเชื้อราบนผนังด้วยวิธีนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้ผลในระยะยาว ด้วยการนำผงซักฟอกมาผสมกับน้ำเปล่า ใช้ผ้าชุบน้ำแล้วเช็ดลงบนผนังเบา ๆ ไม่ควรเช็ดแรงจนเกินไปเพราะอาจทำให้สีผนังหลุดล่อนได้ เมื่อจนเชื้อราออกทั้งหมดแล้วให้เราใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดบริเวณที่มีเชื้อราอีกครั้งก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
- การใช้น้ำยาฟอกขาวในการกำจัดเชื้อราบนผนัง โดยการนำน้ำยาฟอกขาวมาผสมกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:99 จากนั้นนำมาใส่ขวดสเปรย์ ฉีดให้ทั่วบริเวณที่มีเชื้อราบนผนัง เช็ดด้วยน้ำสะอาด และขัดด้วยแปรงสีฟันอีกรอบหนึ่ง การขจัดเชื้อราด้วยน้ำยาฟอกขาวนั้นมีส่วนผสมของคลอรีน ซึ่งสามารถกำจัดได้ทั้งเชื้อรา ราดำ และตะไคร่น้ำ
- การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อรา ราดำ และตะไคร่น้ำ ก่อนทาสีใหม่ หากต้องการทาสีหลังจากที่ผนังเกิดเชื้อรา ควรเลือกใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราที่มีมาตรฐาน เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราอีกครั้งในอนาคต
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง