ช่างซ่อมบำรุง ใน เมืองนนทบุรี, นนทบุรี

ช่างซ่อมบำรุง ใน เมืองนนทบุรี, นนทบุรี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ดำรงค์ ทักวงษ์ศรี
ดำรงค์ ทักวงษ์ศรี

ช่างรับเหมาไฟฟ้า ระบบแอร์ บริการล้างแอร์ มีประสบการณ์และความชำนาญครับ

แสดงเพิ่มเติม
รุ่งโรจน์ ดาพนม
รุ่งโรจน์ ดาพนม

บริการล้างแอร์บ้าน แอร์โรงงานเปิดบริการทุกวันตรวจเช็คแอร์เสีย แอร์ไม่เย็น ล้างแอร์ราคาถูก รื้อล้างใหญ่ด้วยปั้มน้ำแรงดันสูง ตรวจเช็คสภาพพร้อมใช้งานของมอเตอร์,รีโมท,อะไหล่ทุกชิ้น,ตรวจเช็คความเย็น,น้ำยาแอร์,การทำงานของคอมเพรสเซอร์ ราคาล้างแอร์ สำหรับเครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง ( 9,000 - 13,000 บีทียู ) ( 15,000 - 20,000 บีทียู ) ( 21,000 - 36,000 บีทียู ) ( 37,000 - 60,000 บีทียู )แอร์แบบติดผนังล้างแอร์แบบติดผนังราคาล้างแอร์ สำหรับเครื่องปรับอากาศแบบตั้ง-แขวน,คอยล์เปลือย,ตู้ตั้งพื้น ( 9,000 - 13,000 บีทียู ) ( 15,000 - 20,000 บีทียู ) ( 21,000 - 36,000 บีทียู ) ( 38,000 - 60,000 บีทียู ) ( 70,000 - 100,000 บีทียู )มากกว่า 100,000 บีทียู

แสดงเพิ่มเติม
วิมล ไกรเรือง
วิมล ไกรเรือง

ผมเป็นช่างแอร์ครับ ประการณ์การทำงานด้านระบบแอร์ประมาณ 15 ปี ผมเป็นง่ายๆและจริงใจ โทรปรึกษาได้ตลอด 24 ชม(เรื่องแอร์นะครับ) มีปัญหาเรื่องแอร์ ต้องการบริการล้างแอร์ ยินดีให้บริการครับ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

รีโนเวทห้องเก็บของแล้วสภาพผนังห้องคือแย่มากก เคยได้ยินว่ามีบริการช่างทาสีจาก SAIJAI ผ่านๆ เลยลองติดต่อดู ผนังบ้านออกมาดูดีมาก ช่างเก่งจริง ๆ เก็บงานละเอียด
Saijai
ภูมินทร์ พฤกษ์
3 ปีที่แล้ว
แอร์พังกระทันหัน ติดติอช่างจากใส่ใจมาตรวจสอบรวดเร็วทันใจมาก
Saijai
จริณทร์ สมใจ
4 ปีที่แล้ว
อยากทาสีห้องใหม่แต่ไม่รู้จะหาช่างจากที่ไหน คนรู้จักเลยแนะนำให้ลองใช้บริการผ่านใส่ใจ ประทับใจมั่ก โอกาสหน้าจะมาใช้บริการอีกแน่นอนนน
Saijai
อลิสา จันดี
4 ปีที่แล้ว
ช่างที่ติดต่อผ่าน SAIJAI บริการดีมากครับ ครั้งหน้ามาใช้บริการอีกแน่นอน
Saijai
เจนภพ อรุณพิทักษ์
4 ปีที่แล้ว
จบครบที่เดียวจริง ๆ ติดต่อช่างมาปูกระเบื้องกับทาสีห้องใหม่ผ่านใส่ใจ งานเนี๊ยบ บริการดี๊ดี
Saijai
วันพร คงชนะ
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ช่างซ่อมบำรุง

ความสำคัญของการซ่อมบำรุง
การซ่อมบำรุง มาจากคำว่า ‘การซ่อม + การบำรุง’ ซึ่งหมายถึงการทำสิ่งที่ชำรุดให้คืนดีและการรักษาให้อยู่ในสภาพที่ดี ในทางการบริหารการผลิต การซ่อมบำรุง หมายถึง งานหรือกิจกรรมที่จัดให้มีขึ้นเพื่อให้เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพที่พร้อมที่จะใช้งานได้ตลอดเวลา
เราอาจจะมองว่า การซ่อมบำรุงนั้นเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่อยากจ่าย แต่ถ้าหากละเลยการซ่อมบำรุงและปล่อยให้เครื่องจักรเครื่องมือของเราเกิดปัญหาขึ้น อาจทำให้การทำงานหยุดชะงักลงหรืออาจทำให้เครื่องจักรเครื่องมือของเรานั้นเกิดความเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ค่าใช้จ่ายที่เราไม่อยากจ่ายในตอนแรกนั้นมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเราคงต้องเสียเงินค่าซ่อมบำรุงที่มากกว่าเดิมหรืออาจจะต้องซื้อเครื่องจักรเครื่องมือใหม่เพราะไม่สามารถซ่อมได้แล้ว
อันตรายที่เกิดจากใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ขาดการดูแลและ บำรุงรักษา ที่คนส่วนใหญ่มักมองข้ามได้แก่ ไฟฟ้าช็อตเนื่องจากการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ได้รับการดูแลและการซ่อมบำรุง และ การที่พัดลมเริ่มหมุนช้าเพราะมีเศษสายต่าง ๆ เข้าไปติดในตัวบูชหรือลูกปืน(บอลแบร์ริ่ง) ของพัดลมทำให้ตัวหมุนของพัดลมฝืด ไม่หมุนหรือหมุนช้ากว่าปกติ ใบพัดระบายความร้อนของมอเตอร์ไม่สามารถระบายได้ทำให้เกิดความร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิดประกายไฟที่ตัวโครง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลาสติก พีวีชี และเป็นสาเหตุที่อาจจะทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้นได้
ดังนั้นการดูแลรักษาเครื่องมือเครื่องจักรไม่ว่าจะเป็นในหน่วยงานขนาดใหญ่ เช่น ในโรงงานหรือเครื่องมือที่ใช้ในชีวิตประจำวันภายในบ้านของเราให้พร้อมใช้งานเสมอในระยะยาว จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องมือเครื่องจักร และยังเป็นการป้องกันหรือลดความเสี่ยงจากอุบัติที่เกิดจากเครื่องจักร เครื่องมือที่ชำรุดจนถึงขั้นต้องรักษาพยาบาล ในบางกรณีอาจร้ายแรงถึงชีวิต

ช่างซ่อมบำรุงที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไร
ความซื่อสัตย์และการมีความรับผิดชอบ เป็นสิ่งที่สำคัญในการทำงานทุก ๆ ประเภท การที่เราจะทำงานได้อย่างมีคุณภาพ และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ความซื่อสัตย์และการมีความรับผิดชอบนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังสุภาษิตที่ว่า “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” กล่าวคือ “ความซื่อสัตย์ทำให้คนเชื่อใจ มีคนนับถือ ไม่มีวันอดตาย มีคนคอยช่วยเหลือ แต่หากมีนิสัยคดโกง เมื่อถูกจับได้ย่อมไม่มีใครอยากช่วยเหลือหรือเกี่ยวข้องด้วย” แล้วช่างซ่อมบำรุงที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไรกันนะ
การมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จลุล่วงภายในระยะเวลาที่ได้ตกลงกับผู้ว่าจ้าง อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าการมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับนั้นเป็นสิ่งสำคัญและยังเป็นตัวชี้วัดคุณภาพในการทำงานของบุคคลนั้น ๆ ทำให้เห็นว่าบุคคลนั้น ๆ มีความใส่ใจต่องานมากน้อยเพียงใด ในระยะเวลาที่ตกลงกันไว้
ความซื่อสัตย์เป็นอีกสิ่งที่สำคัญเช่นกัน การที่เรามีความซื่อสัตย์ไม่ว่ากับเพื่อนร่วมงานหรือผู้ว่าจ้างจะทำให้ตัวเรานั้นมีความน่าเชื่อถือ แต่ไม่ได้มีแค่สองสิ่งนี้ที่เป็นคุณสมบัติของช่างซ่อมบำรุง ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ความรู้ความสามารถในงานซ่อมบำรุงและมีความรอบรู้ในเชิงช่างทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ช่างซ่อมบำรุงจะต้องมีความรู้ในเรื่องเครื่องจักร เครื่องมือ วัสดุและอุปกรณ์ และยังต้องมีความกล้าที่จะตัดสินใจ มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานให้ประสบผลสำเร็จก็เป็นคุณสมบัติที่ดีของช่างซ่อมบำรุงเช่นกัน
ทำไมการเรียกช่างซ่อมบำรุงจึงดีกว่าการซ่อมเอง
จริงอยู่ว่าปัญหาเครื่องมือเครื่องจักรเสียบางอย่างสามารถตรวจสอบและแก้ไขได้เองทันที ถึงอย่างนั้นก็มีปัญหาอีกหลายอย่างที่ต้องได้รับการซ่อมแซมจากช่างซ่อมบำรุงที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อหาสาเหตุและแก้ไขได้อย่างตรงจุด และเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการไม่รู้วิธีซ่อมของเรา หลายคนอาจจะพบเจอปัญหาเครื่องมือเครื่องจักรเสียอยู่บ่อย ๆ แม้ว่าเราจะใช้สิ่งของนั้น ๆ ตามคู่มือที่เรามีอย่างไว้อย่างละเอียด หรือข้อมูลการซ่อมแซมนั้นเราอาจจะสามารถค้นหาได้อย่างง่ายดายบนอินเทอร์เน็ต ปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นกับเครื่องจักรเครื่องมือของเรานั้นอาจดูเหมือนซ่อมแซมได้ง่ายไม่จำเป็นต้องเรียกช่างซ่อมบำรุงก็ได้ แต่ในความเป็นจริงอาจเกิดจากสาเหตุที่ซับซ้อนกว่านั้น
หากคุณได้แต่คาดการณ์สาเหตุ โดยระบุสาเหตุไม่ได้ชัดเจนแล้ว "ลอง" ลงมือซ่อมเองตามวิธีที่เราคิดว่าน่าจะใช่นั้นย่อมเสี่ยงทำให้เกิดอันตรายต่อตัวเราได้ง่าย ปัญหาเหล่านั้นอาจเป็นปัญหาที่อันตรายถึงชีวิต และการที่เรา "ลอง" ซ่อมแซมเครื่องจักรเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆเหล่านั้นด้วยตนเอง อาจจะทำให้คุณภาพของสิ่งของเหล่านั้นมีคุณภาพที่ลดลง หากคุณลองค้นหาวิธีซ่อมอุปกรณ์หรือแก้ไขมันด้วยตัวเองจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ จะพบว่าเว็บไซต์เหล่านั้นไม่แนะนำให้ซ่อมหรือแก้ไขด้วยตัวเอง แต่แนะนำให้ปรึกษาหรือเรียกช่างซ่อมบำรุงที่เป็นมืออาชีพมาดูแทน เพราะเครื่องมือเครื่องจักร อุปกรณ์ที่เราอาจจะไม่คุ้นชิน อีกทั้งยังไม่มีอุปกรณ์ซ่อมไฟพร้อมเท่ากับช่างซ่อมบำรุงมืออาชีพ
และนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงควรเรียกช่างซ่อมบำรุงมืออาชีพมากกว่าลงมือซ่อมเครื่องจักรเครื่องมือเหล่านั้นด้วยตนเอง

คุณสามามารถหาช่างซ่อมบำรุงด้านใดได้บ้าง จากแพลตฟอร์ม SAIJAI
การบำรุงรักษาสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้านของเรา นอกบ้าน หรือบริเวณพื้นที่ของบ้านนั้นจะทำให้บ้านของเราน่าอยู่มากขึ้น อีกทั้งยังสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอาศัยอยู่ให้ตัวเราเองอีกด้วย
เมื่อว่าด้วยเรื่องของการทาสีบ้านนั้น เป็นเรื่องที่ต้องยกให้มืออาชีพอย่าง “ช่างทาสี” โดยเฉพาะเพราะการทาสีบ้านนั้นเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียด ความใส่ใจ รวมถึงการเลือกสีที่มีความคงทนติดอยู่ได้นานเพื่อสร้างความสวยงามให้กับบ้านของเรา
การใช้บริการช่างจาก “ช่างปูกระเบื้อง” ที่มีความชำนาญนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อที่เราจะได้รับงานที่มีคุณภาพ มีความละเอียดอ่อนและมีความสวยงาม
สำหรับฝ้าเพดานที่หลายคนมองข้ามนั้นก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้บ้านมีความลงตัวมากยิ่งขึ้น การเลือกฝ้าเพดานจึงเป็นอีกอย่างหนึ่งสำคัญ การใช้บริการช่าง “ช่างฝ้าเพดาน” เป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างยิ่ง เพื่อจะเลือกฝ้าเพดานที่เหมาะสมกับบ้านของเรา ให้มีความทนทาน และสามารถคงอยู่ได้อย่างยาวนาน
การดูแลสวนเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนและความใส่ใจเป็นอย่างมาก การทำสวนไม่ใช่การทำแค่เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะต้องทำให้สวนนั้นสามารถอยู่ได้อย่างยาวนาน การมี “คนดูแลสวน” จึงเป็นสิ่งที่เพิ่มความสะดวกและประหยัดเวลาให้แก่ตัวเราขึ้นมาก ๆ
คุณภาพของสระว่ายน้ำจะดีได้นั้น จะต้องได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ การดูแลที่มีขั้นตอนมากมาย และยากลำบากสำหรับเจ้าของสระบางรายจึงทำให้ต้องมีการจ้าง “ช่างดูแลสระว่ายน้ำ” เพื่อการดูแลสระว่ายน้ำของเราที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

4 วิธีดูแล สนามหญ้า ให้สวยทนเหมือนปลูกใหม่ทุกวัน

สนามหญ้าหน้าบ้านของทุกคนยังเขียวเหมือนวันแรกที่ปลูกอยู่ไหม เป็นคำถามที่คนรักสวนทุกคนต้องเคยโดนถาม เพราะสนามหญ้าหน้าบ้านของคนส่วนใหญ่ ก็มักจะสวยอยู่ไม่นาน นั่นเพราะขาดการดูแลที่ถูกต้อง ทำให้สนามหญ้าที่ควรจะเขียวขจีสวยงามจะต้องแห้งเหี่ยว หรือตายเป็นหย่อม ๆ ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับสนามหญ้าของคุณแน่ ๆ ถ้าทำตาม 4 วิธีดูแลสนามหญ้าที่ SaiJai แนะนำ ไปดูกันเลย

1.เลือกหญ้าให้เหมาะกับพื้นที่

ก่อนจะเริ่มปลูกหญ้า เราต้องศึกษาพื้นที่ของเราก่อนว่า “เหมาะจะปลูกหญ้าชนิดไหน” โดยเลือกจากหญ้าทั้งหมด 3 สายพันธุ์ ที่คนนิยมปลูก

หญ้ามาเลเซีย : ชอบแดดรำไรถึงแดดจัด ถ้าจะให้เติบโตได้ดี ควรเลือกปลูกใต้ต้นไม้ใหญ่ และหมั่นรดน้ำสม่ำเสมอทุกวัน แต่ไม่ควรให้มีน้ำขัง และการถูกเหยียบบ่อย ๆ จะทำให้หญ้าช้ำและตายเร็ว

หญ้าญี่ปุ่น : เป็นหญ้าที่มีใบเล็ก เติบโตช้า แต่ขึ้นหนาแน่น ทนต่อแรงเหยียบย่ำได้ดี ต้องปลูกในพื้นที่แสงแดดรำไร และต้องการน้ำมาก เหมาะจะปลูกในช่วงฤดูหนาว

หญ้าเบอร์มิวด้า (หญ้าแพรก) : เป็นหญ้าที่ทนแล้งได้ดีที่สุด ชอบแสงแดดจ้า เหมาะสำหรับการปลูกกลางแจ้ง แต่ขึ้นเร็ว จึงต้องตัดบ่อย เป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่มีเวลาตัดหญ้า

2.รดน้ำให้เพียงพอและถูกวิธี

หลักการรดน้ำมี 2 อย่าง นั่นคือ “ช่วงเวลา” และ “วิธีรดน้ำ” ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการรดน้ำ คือ ช่วงเช้าตรู่ที่แดดไม่จัด เพราะหญ้าจะนำสารอาหารที่ได้จากการรดน้ำ มาเสริมสร้างให้หญ้าเจริญเติบโต ส่วนวิธีรดน้ำ ควรเลือกรดน้ำให้เพียงพอในแต่ละครั้ง และไม่รดน้อย แต่รดบ่อย ๆ เพราะจะทำให้รากของหญ้า เติบโตแค่บนผิวดิน และตายง่าย

3.ใส่ปุ๋ย และหมั่นกำจัดวัชพืช

ปลูกหญ้า ก็เหมือนกับปลูกต้นไม้ชนิดอื่น ที่ต้องการอาหารบำรุงดิน เพื่อการเจริญเติบโตที่สวยงาม ในแต่ละเดือนเราจึงควรใส่ปุ๋ยหญ้าเดือนละ 1 ครั้ง โดยหลังใส่ปุ๋ยทุกครั้ง จะต้องรดน้ำตามให้ชุ่มทุกครั้ง และเมื่อสนามหญ้าสวยแล้ว มักจะมีวัชพืชขึ้นแซมตามมาด้วย วิธีกำจัดก็ไม่ยาก เพียงหมั่นถอนออก หรือใช้อุปกรณ์ทำสวนที่มีปลายแหลมแซะออกก็ได้

4.ตัดหญ้าสม่ำเสมอ

ควรตัดหญ้าตอนสนามหญ้าแห้ง ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือช่วงบ่าย 3 โมง เพราะเป็นช่วงที่น้ำระเหย และสนามหญ้าแห้งสนิทดีแล้ว ในการตัดแต่ละครั้ง ควรตัดให้เหลือความสูงประมาณ 1 นิ้ว โดยเลือกตัดหญ้าในทิศทางที่สลับกันบ้าง สลับอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง จะทำให้หญ้าสวย และเติบโตได้ดี สุดท้ายนี้คือ ต้องตัดหญ้าเป็นประจำทุก ๆ อาทิตย์ เพื่อให้หญ้าไม่สูงจนเกินไป ไม่เป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์ร้าย และยังคงความเขียวขจีสวยงามดั้งเดิม



เคล็ดลับ วิธีตัดหญ้าสนาม ทำอย่างไรให้ดูมืออาชีพ

การตัดหญ้านั้น ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่เลี่ยงไปไม่ได้ หากบ้านของคุณมีสวนสนามหญ้าอยู่บริเวณบ้าน ดันงั้น คุณจึงควรหาวิธีที่จะช่วยให้สนามหญ้าคงความสวยงาม และมีสีเขียวขจีอยู่เสมอ

วันนี้ SaiJai ขอเสนอแนะวิธีการตัดหญ้าง่าย ๆ เป็นวิธีที่ถูกต้อง ทุก ๆ บ้านสามารถนำไปทำตามได้ เพื่อความสวยงามของสนามหญ้าในบ้านคุณ แถมยังดูดีเหมือนจ้างช่างมาตัดเอง ไปดูกันเลย

อุปกรณ์ที่จำเป็น

อุปกรณ์ที่จำเป็น และเป็นที่นิยมที่ใช้สำหรับการตัดหญ้า ได้แก่ เครื่องตัดหญ้าแบบน้ำมัน และไฟฟ้ากรรไกรสำหรับเล็มขอบหญ้าข้างสนาม

ทิศทางการตัดหญ้า

ควรไล่ตัดหญ้าไปเป็นแถบ ๆ เพื่อความสะดวกในการที่คุณจะต้องตามเก็บเศษหญ้า ดังนั้น หลังจากที่ตัดหญ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ควรที่จะเก็บเศษให้หมด เพื่อไม่ให้ทับถมอยู่บนหญ้า ซึ่งเศษพวกนั้น มันจะเป็นตัวที่บังแสงแดด ทำให้หญ้าของคุณตายเป็นหย่อม ๆ และดูไม่สวยงามอย่างมาก

ความสูงต่ำในการตัดหญ้า

หญ้าในแต่ละแบบ แต่ละชนิด จะมีความสูงในการตัดที่แตกต่างกันออกไป เช่น หญ้าญี่ปุ่น หญ้าเบอร์มิวดาทิฟกรีน จะตัดที่ความสูงประมาณ 0.2-0.5 นิ้ว หญ้านวลน้อย จะตัดที่ความสูงประมาณ 0.5-1.0 นิ้ว และหญ้ามาเลเซีย จะตัดที่ความสูงประมาณ 1.0-2.0 นิ้ว

ระยะเวลาในการตัด

สำหรับระยะเวลาในการตัดหญ้า หากเป็นหญ้าคนละชนิด ก็จะมีระยะเวลาในการตัดต่างกันเช่นกัน เช่น หญ้าญี่ปุ่น หญ้าเบอร์มิวดาทิฟกรีน จะตัดหญ้าในทุก ๆ 7-10 วัน หญ้านวลน้อย จะตัดหญ้าในทุก ๆ 7-14 วัน และหญ้ามาเลเซีย จะตัดหญ้าในทุก ๆ 7-14วัน

ข้อเสนอแนะไม่ควรปล่อยหญ้าทิ้งไว้เกินกำหนดที่ต้องตัดหลาย ๆ วัน เพราะจะทำให้หญ้าของคุณนั้นยาวเกินไป และเมื่อตัดใบออกหมด ต้นหญ้าจะเป็นสีน้ำตาล ทำให้สนามนั้นดูไม่สวยงาม



จัดสวนต้องใช้งบเท่าไหร่

1.ราคาต้นไม้

อันดับแรกคือต้นไม้ เพราะถือเป็นองค์ประกอบสำคัญ ควรเลือกสไตล์สวนให้ชัดเจน และศึกษาว่าต้นไม้ประเภทไหนเหมาะสมกับสไตล์สวนที่เลือกมา ไม่ว่าจะเป็นไม้ต้น ไม้พุ่ม ไม้คลุมดิน ไม้เลื้อย เพื่อความเข้าใจง่าย นักออกแบบจะแยกประเภทต้นไม้อย่างละเอียด และวาดแบบคร่าว ๆ แล้วใช้สัญลักษณ์วงกลมลงตำแหน่งในจุดที่ต้องการปลูก หลังจากนั้นนับจำนวนต้นไม้ทั้งหมดในแต่ละประเภท และนำมาคูณกับราคาต่อต้น ก็จะได้ราคาประเมินออกมา

2.วัสดุและอุปกรณ์

ความสวยงามภายในสวน จำเป็นต้องใช้เครื่องมือและของตกแต่ง วัสดุอุปกรณ์จึงเป็นส่วนหนึ่งในการประเมินราคา โดยแบ่งเป็นสองประเภท อันแรกเป็นวัสดุส่วนโครงสร้างเช่น ดินและทรายถม ดินผสม ยาฆ่าหญ้า ปุ๋ย และประเภทที่สองเป็นวัสดุตกแต่ง เก้าอี้สนาม น้ำพุ หิน แผ่นทางเท้า ตอไม้แห้ง ไม้ วิธีการประเมินราคาของวัสดุและอุปกรณ์นักออกแบบตกแต่งสวน จะยึดราคาจากตลาด และคำนวณผ่านพื้นที่สวนจริงที่ต้องนำมาใช้อย่างเหมาะสม

3.ราคาค่าแรงงาน ค่าแบบ ค่าดำเนินการ

การลงแรงทำสวนมีราคาที่ต้องประเมินเช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับงบตามกำลังของผู้อยู่อาศัยด้วย เพราะการจ้างพนักงานมาช่วยจัดสวนมีตั้งแต่เริ่มจัดไปถึงการดูแลหลังจัดสวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว หากสามารถดูแลรักษาสวนต่อเองได้ ต้องการให้จัดสวนเท่านั้น วิธีการคำนวณค่าแรงของคนงานจะอยู่ 300-500 บาทต่อวัน/คน ทำงาน 8-9 ชั่วโมงต่อวัน โดยมีพักกลางวัน 1 ชั่วโมง การจะจ้างพนักงานจัดสวนควรประเมินจำนวนคนตามพื้นที่หน้างานและระยะเวลาเป็นหลัก สำหรับผู้อยู่อาศัยที่ต้องการมีนักออกแบบสวน นักออกแบบจะคิดค่าออกแบบโดยประเมินราคาอยู่ที่ 5-10% จากการรวมค่าต้นไม้ ค่าวัสดุและอุปกรณ์และค่าแรงงาน และมีค่าดำเนินการอีก 20-25% คำนวณเช่นเดิมคือนำราคาทั้งหมดมาหักเปอร์เซ็นต์

4.เสนอราคา

มาถึงจุดสุดท้ายคือ การรวมราคาทั้งหมดตั้งแต่ค่าต้นไม้ ค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่าแรง ค่าแบบ ค่าดำเนินการ และเสนอให้กับผู้อยู่อาศัย หากราคาทั้งหมดสูงเกินงบที่ผู้อยู่อาศัยตั้งไว้ อาจลดราคาลงได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบบ เพียงแค่ลดจำนวนต้นไม้ในแต่ละตารางเมตรลง โดยปลูกให้ห่างขึ้น หรือเลือกซื้อต้นไม้ในขนาดที่เล็กลง หรือไม่ก็เปลี่ยนชนิดของต้นไม้