ดูแลผู้สูงอายุ ใน เมืองสมุทรสาคร, สมุทรสาคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน เมืองสมุทรสาคร, สมุทรสาคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ธมลวรรณ สังข์แก้ว
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจ เข้าใจ สะอาด ดูแลเปรียญเสมือนญาติ

แสดงเพิ่มเติม
อธิวุฒิ สมัครการ
อธิวุฒิ สมัครการ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 35 ปี

เป็นคนใจเย็น รักการช่วยเหลือผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หากมีที่พักให้เช่าใกล้สถานที่ทำงานจะดีมาก หรือจะให้อยู่บ้านเฝ้า 24 ชั่วโมงเลยก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
4 ปีที่แล้ว
หาข้อมูล เจอเว็บใส่ใจ ที่มีพี่เลี้ยงดูแลผู้สูงอายุ ลองอ่านประสบการณ์เลย เจอจิต (พี่เลี้ยงดูแลพ่อ) ทุกอย่างเป็นไปตามข้อมูลในเว็บทำให้พวกเราไม่ยากที่จะตัดสินใจ จิตทำงานดีมากเข้ากับคุณพ่อได้ดี ขอบคุณใส่ใจค่ะ
Saijai
พชร ต้นไกลสุทธฺ์
4 ปีที่แล้ว
สะดวก ง่าย เพียงไม่กี่ขั้นตอนเราก็สามารถหาคนดูแลผู้สูงอายุได้ อีกอย่างในเว็บไซต์มีข้อมูลต่าง ๆ ที่ให้เราได้ศึกษาก่อนทำการจ้างอีกด้วย พอได้อ่านข้อมูลทำให้เราได้รู้วิธีการเตรียมตัวก่อนจ้างคนดูแลมาดูแลคุณแม่ เป็นข้อแนะนำที่ดีมาก ๆเลยค่ะ ประทับใจมาก ๆ ค่ะ
Saijai
วิกานดา ทองดี
4 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเว็บไซต์ใส่ใจมาให้ เลยลองเข้าไปดู จ้างน้องมาดูแลแม่ น้องเขาทั้งสุภาพ เรียบร้อย ทำอาหารอร่อย แถมยังเคยฝึกอบรมการปฐมบาลเบื้องต้นมาด้วย คุณแม่ก็ดูจะชื่นชอบน้องเขามาก ๆ ค่ะ เราเลยรู้สึกสบายใจไปด้วย โดยรวมแล้วถือว่าน่าพอใจมากค่ะ
Saijai
อภิสรา ประภาสกุล
4 ปีที่แล้ว
ย้ายตามสามีมาอยู่กรุงเทพ แล้วยังต้องดูแลแม่สามีที่สูงอายุ และมีโรคประจำตัวด้วย ตอนแรก ๆ ลำบากมาก เพราะต้องวุ่นวายเรื่องย้ายงานและหาคนดูแลผู้สูงอายุอีก จนมาเจอเว็บไซต์ใส่ใจ โชคดีมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากจะได้คนดูแลผู้สูงอายุที่ราคาไม่แพงมากแล้ว ยังได้คนมีประสบการณ์ ไว้ใจได้ ทำงานคล่องแถมมาช่วยทำงานบ้านอีก ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ณฐาสัณห์ ถาวร
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุหรือคนชรา คุณควรเลือกผู้ดูแลที่มีคุณสมบัติอะไรบ้าง
การเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุหรือคนชราถือเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณสมบัติของผู้ดูแลที่มีความเป็นมืออาชีพนั้นมีดังนี้

1. ผู้ดูแลควรผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ที่สำคัญต้องมีประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรง และควรมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้สูงอายุความปลอดภัยตลอดระยะเวลาการดูแ
2. ผู้ดูแลต้องมีใจรักไม่ว่าจะเป็นงานการบริบาล และบริการ มีจิตใจชอบช่วยเหลือและปรารถนาดีต่อผู้อื่น และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
3. มีความอดทนและสามารถเข้าอกเข้าใจผู้สูงอายุเป็นอย่างดีว่าต้องการอะไร เนื่องจากผู้สูงอายุหรือคนชรานั้นเป็นช่วงอายุที่ค่อนข้างมีความละเอียดอ่อนในหลาย ๆ เรื่อง ผู้ดูแลควรรู้ว่าจะต้องดูแลและบริการอย่างไรให้ผู้สูงอายุมีความพึงพอใจ
4. มีความดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุ สามารถดูแลและช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นการดูแลเรื่องอาหาร สุขอนามัย และกิจวัตรประจำวันอื่น ๆ ไปจนถึงการดูแลเรื่องสภาพจิตใจ ผู้ดูแลที่สามารถอยู่เป็นเพื่อนคุยและทำกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกับผู้สูงอายุได้เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุรู้สึกโดดเดี่ยว
5. สามารถสื่อสารและรายงานข้อมูลระหว่างการดูแลให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุได้ตลอดเวลา เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่ได้ทำการว่าจ้างผู้ดูแลมาทำหน้าที่ในส่วนนี้
คุณสมบัติที่กล่าวมาข้างตนนั้นสามารถบ่งบอกได้ถึงความเป็นมืออาชีพของผู้ดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี หากคุณต้องการให้ผู้สูงอายุในบ้านซึ่งเปรียบเสมือนบุคคลที่คุณรักและเคารพนับถือนั้นมีความสุข โปรดอย่ามองข้ามคุณสมบัติเหล่านี้ไปก่อนเลือกใช้บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านคุณ
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล
เมื่อเราได้พิจารณาคุณสมบัติและตัดสินใจจ้างผู้ดูแลมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของเราแล้ว เราอาจจะมีความกังวลด้านอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นควรจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราวแบบไป-กลับ หรือผู้ดูแลแบบที่อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะการที่ต้องให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเรา ในระยะแรกอาจจะต้องมีการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน หากว่าเราอยู่ที่บ้านตลอดก็อาจช่วยลดความกังวลในด้านความปลอดภัยลงไปได้ แต่ถ้าสมาชิกในบ้านต้องออกไปทำงานนอกบ้านและต้องทิ้งผู้สูงอายุไว้เพียงลำพังกับผู้ดูแล ความกังวลย่อมเพิ่มมากขึ้นทั้งกับคนที่เรารักและทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แนวทางที่ช่วยลดความกังวลของผู้ว่าจ้างจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่

1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
ข้อตกลงที่สำคัญในการดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
เมื่อตัดสินใจจ้างคนดูแลผู้สูงอายุแล้ว ควรทำข้อตกลงสำคัญระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ดูแลที่คุณทำการได้จ้างมา เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุตลอดระยะเวลาการดูแล ซึ่งข้อตกลงที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจระหว่างสองฝ่ายมีดังนี้

1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน

การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย

ดูแลผู้สูงอายุช่วงหน้าฝน

ผู้สูงอายุ คนแก่ หรือคนชรา เป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาสุขภาพเมื่อเจอกับสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะสภาพอากาศที่ชื้นและเย็นของหน้าฝน ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ เพราะการละเลยไม่ป้องกันเอาไว้ก่อน อาจจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงตามมาเรามาดูวิธีดูแลผู้สูงอายุช่วงหน้าฝนกันค่ะ

- เนื่องจากผู้สูงอายุจะมีผิวที่แห้งและขาดความชุ่มชื้นอยู่แล้ว เมื่อถึงฤดูฝนจะทำให้ผิวซึ่งแห้งอยู่แล้วเกิดอาการคันเพิ่มขึ้นมาได้ ดังนั้น ควรแนะนำผู้สูงอายุให้ทาครีมเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ ที่สำคัญแนะนำให้ผู้สูงอายุอย่าเกาหากมีอาการคัน เพราะอาจจะทำให้เป็นแผลเปื่อยและหายยาก แต่หากว่าคันมากจริงๆ ก็ควรพาผู้สูงอายุไปพบแพทย์เพื่อที่จะได้รับครีมทาแก้ผื่นคันมาใช้

- โรคที่มากับหน้าฝน แน่นอนต้องเป็นโรคไข้เลือดออก นอกจากเด็กเล็กแล้ว ผู้สูงอายุก็เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลและระวังการเกิดโรคนี้ด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อฝนตกและมีน้ำท่วมขังก็จะทำให้มียุงเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงให้คนที่ถูกกัดอย่างแน่นอน เบื้องต้นคือควรป้องกันและดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย คอยทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายรอบๆบ้านอย่างสม่ำเสมอ

- ควรแนะนำให้ผู้สูงอายุหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำ โดยเฉพาะบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง เพราะการเดินลุยน้ำอาจจะเป็นสาเหตุของโรคเท้าเปื่อย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวาน จะมีความเสี่ยงติดเชื้อและลุกลามทำให้แผลเปื่อยนั้นหายได้ยาก ดังนั้นหลังจากเดินลุยน้ำควรรีบล้างเท้าให้สะอาดและเช็ดให้แห้งทันที

- ผู้สูงอายุควรระมัดระวังการลื่นล้ม เพราะฝนตกมักจะทำให้พื้นลื่นและอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาที่ร้ายแรง เช่น กระดูกหัก หรือศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนได้ วิธีป้องกันเบื้องต้นคือ ควรให้ผู้สูงอายุเลือกรองเท้าที่มีดอกยางที่ยึดเกาะพื้นได้ดี สวมใส่กระชับ หรือมีอุปกรณ์ช่วยพยุงขณะเดิน



สะพานแดง

สถานที่ถ่ายรูปชิคๆ ที่ใครๆ ก็อยากไป เพราะที่นี่จะมีสะพานไม้สีแดง ความยาว 700 เมตร ที่ทอดยาวไปในทะเล ใครมาที่นี่ก็จะได้รูปถ่ายสวยๆ กลับไปอย่างแน่นอน หากใครกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุด ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก แนะนำว่าให้มาที่นี่รับรองว่าคุ้มค่าในการเดินทางอย่างแน่นอน

สะพานแดง หรือที่ใครๆ รู้จักกันในชื่อ จุดชมวิวโลมา ซึ่งเป็น Landmark ใหม่ของจังหวัดสมุทรสาคร เพราะบรรยากาศสุดโรแมนติก พร้อมทัศนียภาพชายฝั่งทะเลที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน - มกราคม จะมีลมหนาวพัดพาเอาฝูงโลมาเข้ามาบริเวณนี้ จึงเป็นจุดชมโลมาแห่งเดียวที่มีความเป็นธรรมชาติและอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ อีกด้วย ถึงแม้ปัจจุบันจะมีโอกาสได้เห็นปลาโลมาน้อยลง แต่จุดชมวิวแห่งนี้ก็ยังคงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาถ่ายรูปกับสะพานสีแดงสดใสไว้เป็นที่ระลึก

จากที่เล่าต่อกันมา สาเหตุที่สะพานแห่งนี้ทาสีแดงก็เพราะว่ามีหมู่บ้านที่มีชื่อว่า หมู่บ้านแดง โดย สะพานแดง จะสร้างด้วยไม้และปูน มีความยาวประมาณ 700 เมตร โดยบริเวณรอบๆ สะพานจะมีการสร้าง ไม้ไผ่ชะลอคลื่น เอาไว้ตามแนวสะพาน ซึ่งสาเหตุของการสร้างสิ่งนี้เพราะเป็นภูมิปัญญาของชาวบ้าน เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและฟื้นฟูคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับธรรมชาติ โดยการนำเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นจากการสังเกตบริเวณเพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่ที่เกิดการรวมตัวกันของดินเลน มาประยุกต์ใช้และทดลองปักแนวไม้ไผ่ชะลอคลื่น เพื่อแก้ไขปัญหาการพังทลายของชายฝั่งและเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนให้มากขึ้น

ที่สำคัญบนสะพานแห่งนี้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของชายฝั่งที่สวยงาม สามารถชมบรรยากาศของพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน และปัจจุบันมีการปรับปรุงทางเดินบริเวณสะพานไม้แดงใหม่เป็นแบบพื้นปูนทำให้มีความมั่นคงและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

ที่อยู่ ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร



ศาลพันท้ายนรสิงห์

เชื่อว่าคนไทยเกือบทุกคนจะต้องรู้จักชื่อของ พันท้ายนรสิงห์ ผู้ซึ่งมีชื่อเป็นที่จดจำในหน้าประวัติศาสตร์ของชาติไทย ซึ่งทั้งในละครและภาพยนตร์ก็ได้มีการสร้างเรื่องราวของ พันท้ายนรสิงห์ เอาไว้อย่างมากมาย

ซึ่งปัจจุบันยังมี ศาลพันท้ายนรสิงห์ ให้รุ่นลูกรุ่นหลานของเราได้สักการบูชาที่จังหวัดสมุทรสาครนั่นเอง

ศาลพันท้ายนรสิงห์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความซื่อสัตย์ของ พันท้ายนรสิงห์ ผู้ซึ่งเป็นนายท้ายเรือที่จงรักภักดีซึ่งยอมรับโทษประหารชีวิตเพื่อรักษาระเบียบแบบแผนราชประเพณีตามกฎมณเฑียรบาล ซึ่งเชื่อกันว่าสถานที่ตั้งศาลคือ สถานที่ที่ พันท้ายนรสิงห์ ถูกประหารชีวิต แต่ปัจจุบันตัวศาลเดิมได้ผุพังไปตามกาลเวลารวมทั้งถูกน้ำกัดเซาะตลิ่ง จึงได้มีการสร้างศาลขึ้นมาใหม่โดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล เมื่อปี พ.ศ. 2493 โดยได้มีการสร้างภาพยนตร์เรื่อง พันท้ายนรสิงห์ ขึ้นอีกครั้งในปีเดียวกัน

รูป พันท้ายนรสิงห์ ในศาลแห่งนี้ สร้างขึ้นจากไม้จันทน์หอม ขนาดเท่าคนจริงอยู่ในท่าถือท้ายคัดเรือ เป็นที่พึ่งทางจิตใจและเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก เพราะชาวบ้านนิยมมาขอพรจากที่นี่และประสบความสำเร็จกันเป็นส่วนมาก ดังนั้นชาวบ้านจะนิยมซื้อของมาแก้บนเป็น นวมชกมวย, ไม้พายเรือ หรือรูปปั้นไก่แก้ว เพราะตามประวัติที่เล่าต่อกันมานั้น พันท้ายนรสิงห์ ชอบการชกมวยและตีไก่นั่นเอง

นอกจากนี้ บริเวณ ศาลพันท้ายนรสิงห์ ยังมีซากเรือโบราณสร้างจากไม้ตะเคียนต้นเดียวที่มีขนาดใหญ่ คาดว่ามีอายุถึงราว 300 ปี ชาวบ้านในละแวกนี้เชื่อกันว่าเป็นซากเรือในขบวนเสด็จหรืออาจเป็นเรือลำเลียงทหารในสมัยของ พันท้ายนรสิงห์

การเดินทางไปยัง ศาลพันท้ายนรสิงห์ สามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ไปตามถนนพระราม 2 บริเวณกิโลเมตรที่ 16-17 เข้าซอยข้างวัดพันท้าย จะมีป้ายบอกทางไปยัง ศาลพันท้ายนรสิงห์

ที่ตั้ง บริเวณปากคลองโคกขาม ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร