ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางกอกใหญ่, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางกอกใหญ่, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ที่บ้านมีสถานที่ ให้น้องวิ่งเล่น มีไซ เพศเมียอายุ 1 ปี น้องน่ารักนิสัยดีค่ะ มีโกลเด้น 1 ตัว น้องชอบเล่นมาก ที่บ้านมีอาหาร ห้องแอร์ ของเล่น ขนม พร้อมให้น้องๆค่ะ ที่รับเลี้ยงเพราะน้องไซที่บ้านจะได้มีเพื่อนใหม่ๆด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อารยา หนูทอง
อารยา หนูทอง
Saijai อายุ 23 ปี

เคยมีประสบการณ์ทำงานเเม่บ้านมาก่อน สามารถทำความสะอาดได้ โดยส่วนตัวเป็นคนใจเย็นกับสถานการณ์ต่างๆพร้อมรับมือ

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ นอนกับสุนัข์ทุกวัน

แสดงเพิ่มเติม
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 25 ปี
ศตวรรษ ทับทิม
ศตวรรษ ทับทิม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ผมรักสัตว์เคยทำงานเป็นผช.สัตว์แพทย์​ มีความอดทนสูง​

แสดงเพิ่มเติม
เทพทัต กะโปงทอง
เทพทัต กะโปงทอง
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 19 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ มีความอดทนอดกลั้น เคยเลี้ยงสัตว์

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
3 ปีที่แล้ว
หมดปัญหาว่าจะเอาหมาไปฝากที่ไหนเวลาต้องไปต่างจังหวัด บริการดี รายละเอียดครบ ชอบ ๆ
Saijai
เนตรศิกา วัฒนาไกร
3 ปีที่แล้ว
เว็บใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ใช้ครั้งแรกชอบเลย ได้พี่เลี้ยงมาดูแลน้องแมวให้ถึงบ้าน สบายใจทาสแมวอย่างเราไปเลยค่ะ
Saijai
ณัฐฐา แก้วดี
3 ปีที่แล้ว
ลองเรียกคนดูแลน้องหมาผ่านเว็บใส่ใจ พี่เลี้ยงเขาเฟรนด์ลี่มาก พาน้องไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น รู้สึกประทับใจพี่เลี้ยงมาก ๆ เลยค่ะ
Saijai
อรัชกร แซ่ลี้
3 ปีที่แล้ว
โชคดีที่ได้มาเจอเว็บไซต์ของใส่ใจเพราะมีบริการคนดูแลสัตว์เลี้ยงหลากหลายรูปแบบ ประทับใจมาก ๆ ครับ นอกจากจะมีพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแล้ว ยังมีบริการฝึกสอนสัตว์เลี้ยง อาบน้ำตัดขน อีกทั้งยังมีบริการสัตว์แพทย์นอกสถานที่ บอกได้เลยว่าครบวงจรจริง ๆ
Saijai
ศราวุติ ชัยเกตุ
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

การดูแลสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างไร
สัตว์เลี้ยง (Pets) หมายถึง สัตว์ที่คนเรานำมาดูแล ตั้งแต่ การให้อาหาร ที่อยู่ รักษายามเจ็บป่วย และ การผสมพันธุ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้งาน เป็นอาหาร หรือเป็นเพื่อน คนจึงมีความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงด้วยความรักและการเป็นมิตรต่อกัน ส่วนการเลี้ยงสัตว์ หมายถึง การบำรุงสัตว์เลี้ยงให้เจริญเติบโต ด้วยการให้ความรัก ให้อาหาร ให้ที่อยู่ และรักษายามเจ็บป่วย ด้วยกันนั้นสัตว์แต่ละชนิดมีพฤติกรรมและสภาพความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน การดูแลสัตว์เลี้ยงที่เหมาะทำให้สัตว์ที่เราเลี้ยงมีความสุข เติบโต และใช้ชีวิตไปตามธรรมชาติของสัตว์เลี้ยง จึงสำคัญ เพราะสัตว์เลี้ยงก็มีชีวิต มีหัวใจ และสิ่งที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคนสามารถสัมผัสได้ คือ ความรักที่แท้จริงที่เราได้จากสัตว์เลี้ยง เราจะมีความสำคัญสำหรับพวกเขาเสมอ

ดังนั้นเราและสัตว์เลี้ยงเลยมีคุณค่าทางจิตใจซึ่งกันและกัน ในปัจจุบันสัตว์เลี้ยงที่เป็นที่นิยมอย่างมาก ได้แก่ สุนัข แมว และปลา บางคนเลี้ยงสัตว์โดยไม่ได้คำถึงประโยชน์ของการเลี้ยงสัตว์มากนัก เพราะคิดว่าการเลี้ยงสัตว์ทำให้เรามีความสุขเพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วการเลี้ยงสัตว์นั้นมีประโยชน์มากมายหลายข้อเลย มาดูกันค่ะ

1. การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงช่วยลดความเครียดได้
2. ช่วยลดปัญหาด้านจิตใจห่อเหี่ยวสำหรับผู้สูงอายุ
3. ช่วยทำให้มีจิตใจที่โอบอ้อมอารี
4. การเลี้ยงสุนัขทำให้เจ้าของนั้นได้ออกกำลังกายมากขึ้นเนื่องจากเจ้าของหมั่นต้องพาน้องหมาไปเดินออกกำลังกายเป็นประจำ
5. ช่วยลดค่าความดันโลหิตสูง มีผลวิจัยมาว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นช่วยลดความเครียด คอเลสเตอรอลต่ำ และความดันโลหิตลดลงอีกด้วย
ทักษะที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี
การดูแลสัตว์เปรียบเสมือนการดูแลบุคคลในครอบครัว เมื่อตัดสินใจรับมาเลี้ยงแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต แต่หากเรามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือมีภาระอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ และไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงของเราได้ในบางตรั้ง และจำเป็นต้องหาคนมาดูแลสัตว์เลี้ยงชั่วคราว หรือที่เรียกว่าพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง

พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้

• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
วิธีการสังเกตุสัตว์เลี้ยงเมื่อมีอาการป่วย
เพราะสัตว์เลี้ยงไม่สามารถบอกเราได้เมื่อรู้สึกไม่สบาย หากเราไม่สังเกตเห็นว่าพวกเขาเริ่มมีอาการผิดปกติ มารู้อีกทีเขาก็ป่วยหนักจนอาจทำให้ไม่สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที หรืออาจจะต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษามากกว่าเดิมก็เป็นได้

วิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยมีดังนี้

1. พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสัตว์เลี้ยง เมื่อสัตว์เลี้ยงของคุณเอาแต่นอนอยู่นิ่ง ๆ บางครั้งก็หลบอยู่ตามซอกหลืบมืด ๆ ในบ้าน หรือมีอาการซึม และไม่ร่าเริงเหมือนปกติแม้ว่าคุณจะเอาของเล่นไปล่อแล้วก็ตาม สาเหตุที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขากำลังรู้สึกไม่สบายตัว
2. มีอาการเบื่ออาหาร หากสัตว์เลี้ยงของคุณที่เคยกินเยอะเป็นปกติ จู่ ๆ กลับกินอาหารได้น้อยลง หรือไม่กินอาหารเลย อาจจะเป็นเพราะว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยอยู่ก็เป็นได้
3. มีความผิดปกติอื่น ๆ ตามร่างกาย เช่น มีน้ำมูก มีขี้ตาเกรอะกรัง หายใจติดขัด จนไปถึงอาเจียน และถ่ายเหลว อาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยอยู่ไม่มากก็น้อย ทางที่ดีควรรีบหาทางรักษาสัตว์เลี้ยงของคุณให้เร็วที่สุด
4. เอาแต่ร้องหรือคร่ำครวญมากผิดปกติ บางครั้งเวลาที่คุณเผลอไปจับหรือลูบส่วนใดของสัตว์เลี้ยงแล้วจู่ ๆ เขาขู่หรือเผลอกัดคุณขึ้นมานั้น อาจเป็นเพราะเขากำลังเจ็บตรงอวัยวะส่วนที่คุณเผลอไปโดนโดยไม่รู้ตัวอยู่ก็ได้
5. สัตว์เลี้ยงขนหยาบกระด้าง และขนร่วงมากกว่าปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจขาดสารอาหารบางอย่าง หรืออาจมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับผิวหนังอยู่นั่นเอง

หากคุณหมั่นเอาใจใส่และสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงคุณบ่อย ๆ จะทำให้พวกเขาห่างไกลจากโรคต่าง ๆ และมีชีวิตอยู่กับคุณไปอีกนานเลยทีเดียว
ข้อตกลงสำคัญที่ผู้จ้างควรตกลงกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
การใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงในยามที่คุณไม่ว่างนั้นจะช่วยให้คุณคลายความกังวลเรื่องความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณได้ แต่ก่อนจะทำการจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ต้องมาทำหน้าที่ดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ที่คุณกำหนด ซึ่งข้อตกลงสำคัญมีดังนี้

1. ข้อตกลงเรื่องค่าตอบแทน ในส่วนของค่าตอบแทนในการว่าจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
2. ข้อตกลงเรื่องช่วงเวลาในการทำงาน นายจ้างควรระบุเวลาที่ชัดเจนให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้ หรือบางครั้งในกรณีที่ต้องยืดหยุ่นเวลาในการทำงานเนื่องจากเหตุจำเป็น เพื่อให้เงื่อนไขได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่าย
3. แจกแจงหน้าที่ให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างชัดเจนก่อนเริ่มงาน นายจ้างจำเป็นต้องอธิบายหน้าที่ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจนว่าต้องทำอะไรบ้าง เช่น ให้อาหารและอาบน้ำสัตว์เลี้ยงเวลาไหน หรือควรพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นออกกำลังกายเวลาไหนบ้าง เป็นต้น
4. สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของบุคคลที่จะทำการว่าจ้างอีกครั้งให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผ่านการฝึกอบรมด้านการดูแลสัตว์เลี้ยงมาโดยเฉพาะจะยิ่งเพิ่มความสบายใจให้กับนายจ้างมากยิ่งขึ้น
5. อธิบายข้อตกลงสำคัญหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นกับสัตว์เลี้ยงในระหว่างที่อยู่กับพี่เลี้ยง ควรอธิบายการแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้อย่างชัดเจน
6. ลองพาพี่เลี้ยงไปพบกับสัตว์เลี้ยงคุณก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อสร้างความคุ้นเคยล่วงหน้าให้กับสัตว์เลี้ยงและไม่ให้พวกเขารู้สึกระแวงเมื่อต้องอยู่กับคนแปลกหน้า

หลังจากทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องคอยกังวลเกี่ยวกับการจ้างบริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอีกต่อไป

บางกอกใหญ่ มีอะไรกว่าที่คิด

เขตบางกอกใหญ่อยู่ในกลุ่มเขตกรุงธนบุรี ถือเป็นเขตอนุรักษ์เมืองเก่าและมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรมมากมายโดยชื่อของ บางกอกใหญ่ นั้นมีที่มาจาก “คลองบางกอกใหญ่” หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “คลองบางหลวง” แต่เดิมเคยเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาและเปลี่ยนเส้นทางกลายเป็นคลองและเขตบางกอกใหญ่เคยเป็นที่ตั้งของกรุงธนบุรีในแรกเริ่ม ซึ่งมีชื่อว่าอำเภอหงสาราม และได้เปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอบางกอกใหญ่ ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นเขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร หลังจากการปฏิวัติในปี พ.ศ. 2515 เป็นต้นมา ซึ่งเขตบางกอกใหญ่ตั้งอยู่ริมขวาของแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี อาณาเขตทิศเหนือติดกับเขตตลิ่งชันและเขตบางกอกน้อย ทิศตะวันออกติดกับเขตพระนครและเขตธนบุรี ทิศใต้ติดกับเขตธนบุรี ส่วนทิศตะวันตกติดกับเขตภาษีเจริญ สภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นที่ราบลุ่ม เป็นเกาะมีแม่น้ำและคลองล้อมรอบ ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เหมาะกับการทำสวนแต่ปัจจุบันกลายมาเป็นชุมชนเมืองมีบ้านเรือน สถานที่ราชการและอาคารพาณิชย์ต่างๆรายล้อม ซึ่งผู้คนในปัจจุบันก็ประกอบอาชีพค้าขายและงานบริการต่างๆ ซึ่งสามารถแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 2 แขวง ได้แก่แขวงวัดอรุณและแขวงวัดท่าพระ ในพื้นที่มีการคมนาคมที่สะดวกทั้งทางน้ำและทางบกทาง ทางรถยนต์ ทางเรือ มีถนนและลำคลองหลายสาย ประกอบไปด้วยลำคลองกว่า 44 คลองมีถนน 7 สาย มีท่าเรือรับส่งผู้โดยสารกว่า 11 แห่ง สถานที่สำคัญในเขตบางกอกใหญ่ ส่วนใหญ่จะเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาเต็มไปด้วยวัดวาอารามที่มีชื่อเสียงมากมายเช่น วัดอรุณราชวราราม วัดหงษ์รัตนาราม วัดโมลีโลกยาราม พระราชวังเดิมเป็นต้น



มัสยิดต้นสน มัสยิดซุนนีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพ

มัสยิดต้นสน หรือกุฎีบางกอกใหญ่ เป็นมัสยิดซุนนีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร และยังเป็นศาสนสถานที่สมเด็จพระเจ้าตากสินเสด็จ พระราชดำเนินมาประกอบพิธีทางศาสนา ฝังศพเจ้าพระยาจักรีศรีองครักษ์(หมุด)ซึ่งเป็นนายทหารคู่พระทัย โดยประวัติของมัสยิดและชุมชนบริเวณนี้สามารถย้อนไปถึงเมืองบางกอกฝั่งธนบุรี เมืองหน้าด่านริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ซึ่งในอดีตบริเวณนี้เป็นชุมชนการค้าสมัยกรุงศรีอยุธยาที่มีพ่อค้าแม่ค้าจากหลากหลายถิ่นฐานเข้ามาค้าขาย รวมถึงชาวมุสลิมหลากหลายเชื้อสาย จึงมีการก่อตั้งมัสยิดแห่งนี้ขึ้น หากใครที่แวะเวียนมาที่นี่จะพบว่าอาคารมัสยิดต้นสนปัจจุบันมีการออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมตะวันออกกลาง ซึ่งแต่เดิมแล้วมัสยิดแห่งนี้ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมไทยเหมือนกับอุโบสถในวัด ถูกสร้างจากอาคารไม้เล็กๆก่อนจะกลายมาเป็นอาคารขนาดใหญ่ ซึ่งชื่อต้นสนมาจากต้นสนคู่ที่หน้าประตูมัสยิด เพราะต้นสนสูงใหญ่นี้มองไกลๆเป็นที่สะดุดตา เป็นจุดเด่นจึงกลายมาเป็นชื่อสถานที่แห่งนี้ ภายในมัสยิดจะมีแท่นแสดงธรรม ที่มีความสวยงามมาก หลังคาโครงครึ่งวงกลมแนบตัวแกะสลักลวดลายลงรักปิดทองแกะสลักเป็นภาษาอาหรับและรูปวิหารกะบะ รวมทั้งมีผังของมัสยิดในนครมักกะอีกด้วย ซึ่งหลักฐานเหล่านี้ล้วนแต่พบในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทั้งสิ้น มัสยิดแห่งนี้เป็นสถานที่เก่าแก่ ศิลปะสวย ที่เหมาะแก่การเยี่ยมชม และถ่ายรูป ซึ่งใครที่อยากจะไปเดินแวะชมก็ต้องให้เกียรติสถานที่ ไม่ส่งเสียงดังรบกวนการทำพิธีกรรมของศาสนาและปฏิบัติตามกฎระเบียบของมัสยิดกันด้วย



เลี้ยงสุนัขแบบผิดๆ ยิ่งกระตุ้นให้สุนัขดุขึ้นแบบไม่รู้ตัว

เมื่อพูดถึงความดุของสุนัข เราอาจจะเคยเห็นพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งที่สุนัขสัตว์เลี้ยงแสนซื่อของเราได้ทำร้ายคนจนได้รับบาดเจ็บหรือรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตในหลายๆ ครั้ง ซึ่งการได้ยินข่าวแบบนี้ผู้คนส่วนใหญ่จะมุ่งประเด็นไปที่สายพันธุ์สุนัข ว่าเป็นสุนัขสายพันธุ์อะไร พันธุ์ดุหรือเปล่า หากเป็นสุนัขที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุที่เป็นข่าวกันบ่อยอย่างเช่น พิทบูล ร็อตไวเลอร์ คนทั่วไปจะบอกว่าสุนัขพันธ์เหล่านี้มีนิสัยที่ดุร้ายอยู่แล้ว ไม่เหมาะกับการนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงใกล้คนเพราะอาจจะทำอันตรายได้ทุกเมื่อ แต่ความจริงแล้วความดุของสุนัขนั้นส่วนหนึ่งมาจากสายพันธุ์และลักษณะการเลี้ยงดูเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสุนัขสายพันธุ์ไหนก็ดุได้ถ้าเลี้ยงผิดวิธี อย่างเช่น สุนัขตัวใหญ่สายพันธุ์ดุ หลายคนจะคิดว่าไม่เหมาะกับการพาออกไปเข้าสังคม เนื่องจากยากต่อการควบคุม เกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อผู้อื่น จึงเลือกที่จะขังหรือกักบริเวณเอาไว้ เพื่อความปลอดภัย แต่วิธีเหล่านี้เสี่ยงต่อการทำให้สุนัขมีนิสัยดุและก้าวร้าวมากขึ้น จากความกดดันที่ ไม่ได้พบปะผู้คน ระแวงต่อสิ่งรอบตัวตลอดเวลา ทำสุนัขให้เกิดความเครียด ซึ่งรู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมการเลี้ยงสุนัขแบบนี้เป็นเหตุที่ทำให้สุนัขมีนิสัยดุร้ายและก้าวร้าวเนื่องจากสุนัขเป็นสัตว์สังคม การเลี้ยงสุนัขโดยไม่ให้เขารู้จักการเข้าสังคม จะทำให้สุนัขขาดการเรียนรู้และการใช้สัญชาตญาณต่างๆ เพื่อการอยู่ร่วมกันกับสุนัขตัวอื่นๆ จึงทำให้ไม่สามารถแยกได้ว่าตัวไหนเป็นมิตรหรือศัตรู จึงก้าวร้าวกับทุกอย่างเพื่อป้องกันตัว ด้วยเหตุนี้การเข้าสังคมจึงเป็นสิ่งสำคัญกับสุนัขทุกตัวและทุกสายพันธุ์ หรือในกรณีที่มีการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เล็กเหมือนกัน เจ้าของชอบโอ๋ ชอบตามใจ เวลาสุนัขเห่าหรือส่งเสียงดังโวยวาย ไม่ดุหรือไม่ห้าม เพราะคิดว่าเป็นสุนัขพันธุ์เล็กไม่สามารถทำอันตรายใครได้ ซึ่งการปล่อยให้สุนัขมีนิสัยแบบนี้ ไปเรื่อยๆโดยผู้ดูแลไม่หาวิธีควบคุม จะทำให้สุนัขเคยตัวและคิดว่าถูกต้องในระยะยาวอาจทำให้สุนัขตัวเล็กๆเหล่านี้มีนิสัยที่ก้าวร้าวได้ นอกจากนี้การเล่น กับสุนัขแบบผิดวิธีก็ทำให้สุนัขมีนิสัยก้าวร้าวได้เช่นกันโดยที่ผู้เลี้ยงอาจไม่รู้ตัวเช่น ชอบยั่วให้สุนัขโมโห ให้กัดสิ่งของต่างๆ การเล่นในลักษณะนี้จะเป็นการกระตุ้นการใช้ความรุนแรงด้วยขาดการควบคุม ซึ่งหากใช้วิธีการนี้เป็นประจำจะทำให้สุนัขก้าวร้าวติดตัวตลอดไปและในระยะยาวก็ยากต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม