ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางกอกใหญ่, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางกอกใหญ่, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 43 ปี

ที่บ้านมีสถานที่ ให้น้องวิ่งเล่น มีไซ เพศเมียอายุ 1 ปี น้องน่ารักนิสัยดีค่ะ มีโกลเด้น 1 ตัว น้องชอบเล่นมาก ที่บ้านมีอาหาร ห้องแอร์ ของเล่น ขนม พร้อมให้น้องๆค่ะ ที่รับเลี้ยงเพราะน้องไซที่บ้านจะได้มีเพื่อนใหม่ๆด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 27 ปี
อารยา หนูทอง
อารยา หนูทอง
Saijai อายุ 25 ปี

เคยมีประสบการณ์ทำงานเเม่บ้านมาก่อน สามารถทำความสะอาดได้ โดยส่วนตัวเป็นคนใจเย็นกับสถานการณ์ต่างๆพร้อมรับมือ

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 42 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ นอนกับสุนัข์ทุกวัน

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ราคาไม่แพง มีการบอกรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆให้ด้วย ซึ่งตอนนี้ใช้บริการมา 4ครั้งแล้วครับ บริการดีทุกครั้งเลยครับ
Saijai
ศิลา ใจอารีย์
4 ปีที่แล้ว
หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
4 ปีที่แล้ว
ลองจองพี่เลี้ยงดูแลน้องหมาผ่านเว็ปใส่ใจ รู้สึกประทับใจมากครับ เจ้าด้อบบี้เองก็ดูเหมือนจะดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อนใหม่ด้วย เห็นตามติดน้องที่มาช่วยดูแลไม่ห่างเลย
Saijai
ชิตพล เจียรเวชพรกุล
5 ปีที่แล้ว
เว็บใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ใช้ครั้งแรกชอบเลย ได้พี่เลี้ยงมาดูแลน้องแมวให้ถึงบ้าน สบายใจทาสแมวอย่างเราไปเลยค่ะ
Saijai
ณัฐฐา แก้วดี
5 ปีที่แล้ว
ลองเรียกคนดูแลน้องหมาผ่านเว็บใส่ใจ พี่เลี้ยงเขาเฟรนด์ลี่มาก พาน้องไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น รู้สึกประทับใจพี่เลี้ยงมาก ๆ เลยค่ะ
Saijai
อรัชกร แซ่ลี้
5 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ขอดีของการมีสัตว์เลี้ยง
เครียด เหงา เศร้า บางครั้งเราต้องการคนมาคอยรับฟังปัญหา ซึ่งนอกจากเพื่อนสนิท หรือคนในครอบครัวแล้ว อีกหนึ่งทางเลือกก็คือ การมีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว นก ปลา ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่คนนิยม สัตว์เลี้ยง สามารถช่วยเยียวยาจิตใจให้กับผู้ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะเหงาและเครียด ไปจนถึงผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี คุณทราบหรือไม่ว่าการเลี้ยงสัตว์มีประโยชน์ต่อเรามากกว่าที่คิด มาดูข้อดีกันเลยค่ะ

- การเลี้ยงสุนัขหรือแมวเพื่อบำบัดความเครียดหรือในต่างประเทศเรียกว่า Pets Therapy (สัตว์เลี้ยงบำบัด) ซึ่งมีผลการศึกษาวิจัยมานานแล้วว่า การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงนั้น สามารถช่วยเยียวยาผู้ป่วยได้จริง ทั้งยังมีคำแนะนำให้ผู้สูงอายุเลี้ยงสัตว์เพื่อบรรเทาความเหงาและป้องกันโรคซึมเศร้าอีกด้วย

- การมีสัตว์เลี้ยงช่วยลดคอเลสเตอรอลโดยผลการศึกษาพบว่าคนที่เลี้ยงสัตว์จะมีค่าคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดอย่างไตรกลีเซอร์ไรด์น้อย เนื่องจากมีกิจกรรมพาสัตว์เลี้ยงไปเดินออกกำลังกายนั่นเอง
- ช่วยลดความดันโลหิต เพราะการมีสัตว์เลี้ยงจะทำให้เราคลายเครียด ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์กพบว่า ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาโรคความดันโลหิตสูงจะมีค่าความดันโลหิตที่ต่ำลงเมื่อมีสัตว์เลี้ยง

- Rebecca A. Johnson ผู้อำนวยการศูนย์การวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์ มหาวิทยาลัยมิสซูรี ได้กล่าวว่า เพียงแค่มองสัตว์เลี้ยง สมองจะหลั่งออกซิโทซิน ทำให้มีความสุขและลดฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ทำให้เกิดความเครียด โดยมีผลการวิจัยกับทหารผ่านศึกชาวสหรัฐอเมริกา ที่ประสบภาวะผิดปกติทางจิตใจหรือ PTSD พบว่า ทหารผ่านศึกนายนั้นไม่กล้าออกจากบ้านโดยไม่มีภรรยาไปด้วย เมื่อได้ลองเลี้ยงสุนัข เพียงไม่กี่อาทิตย์เขาก็มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นและกล้าที่จะออกจากบ้านเพียงล
ทักษะสำคัญในการดูแลสัตว์เลี้ยงมีอะไรบ้าง
หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพื่อที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณ นี่คือลักษณะและทักษะที่สำคัญ 4 ประการที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี

1. สุขุมและเข้าใจสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงน้องหมา น้องแมวทุกคนรู้ดีว่าการดูแลน้องเหล่านี้มักไม่เป็นไปตามแผนที่เราคิดไว้เสมอไป ดังนั้นพี่เลี้ยงต้องอดทนเวลาที่น้องหมา น้องแมว ดื้อและไม่ปฏิบัติตามที่คาดหวังไว้ ควรสงบสติอารมณ์เพื่อไม่ให้พวกเขารู้สึกกลัวและตอบสนองต่อความวิตกกังวล จะทำให้สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้ดี
2. อ่อนโยน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีตระหนักถึงความต้องการของสัตว์เลี้ยงของเราและตอบสนองต่อความต้องการนั้นมองสัตว์เลี้ยงของเราด้วยความรักใคร่และไม่ใช้กำลังหรือการลงโทษทางร่างกาย เช่นตี หรือ ลากสายจูงสุนัขของคุณระหว่างเดินเล่น
3. มีประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัตว์เลี้ยงของเรามีความต้องการดูแลเป็นพิเศษ การจ้างพี่เลี้ยงสัตว์ดูแลสัตว์เลี้ยง ควรจ้างผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์มากเช่น หากเรามีสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ด(German Shepherd)ตัวใหญ่ เราต้องการคนที่เคยดูแลสุนัขขนาดใหญ่มาก่อน ถ้าคนคนนั้นสามารถแสดงใบรับรองเกียรติบัตรที่แสดงถึงประสบการณ์ในการดูแลสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดตัวใหญ่จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าของสุนัขยิ่งขึ้น หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการป่วยหรือต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เราต้องมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์และน่าเชื่อถือได้ในด้านนั้น ๆ มาดูแลสัตว์เลี้ยงของเรา
4. มีความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยง ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง ๆ ) ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ หรือถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน - คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาให้คุณฟัง การพูดคุยแบบนี้คุณสามารถวัดความรักของพวกเขาที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว
วิธีการสังเกตุสัตว์เลี้ยงเมื่อมีอาการป่วย
เพราะสัตว์เลี้ยงไม่สามารถบอกเราได้เมื่อรู้สึกไม่สบาย หากเราไม่สังเกตเห็นว่าพวกเขาเริ่มมีอาการผิดปกติ มารู้อีกทีเขาก็ป่วยหนักจนอาจทำให้ไม่สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที หรืออาจจะต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษามากกว่าเดิมก็เป็นได้

วิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยมีดังนี้

1. พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสัตว์เลี้ยง เมื่อสัตว์เลี้ยงของคุณเอาแต่นอนอยู่นิ่ง ๆ บางครั้งก็หลบอยู่ตามซอกหลืบมืด ๆ ในบ้าน หรือมีอาการซึม และไม่ร่าเริงเหมือนปกติแม้ว่าคุณจะเอาของเล่นไปล่อแล้วก็ตาม สาเหตุที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขากำลังรู้สึกไม่สบายตัว
2. มีอาการเบื่ออาหาร หากสัตว์เลี้ยงของคุณที่เคยกินเยอะเป็นปกติ จู่ ๆ กลับกินอาหารได้น้อยลง หรือไม่กินอาหารเลย อาจจะเป็นเพราะว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยอยู่ก็เป็นได้
3. มีความผิดปกติอื่น ๆ ตามร่างกาย เช่น มีน้ำมูก มีขี้ตาเกรอะกรัง หายใจติดขัด จนไปถึงอาเจียน และถ่ายเหลว อาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยอยู่ไม่มากก็น้อย ทางที่ดีควรรีบหาทางรักษาสัตว์เลี้ยงของคุณให้เร็วที่สุด
4. เอาแต่ร้องหรือคร่ำครวญมากผิดปกติ บางครั้งเวลาที่คุณเผลอไปจับหรือลูบส่วนใดของสัตว์เลี้ยงแล้วจู่ ๆ เขาขู่หรือเผลอกัดคุณขึ้นมานั้น อาจเป็นเพราะเขากำลังเจ็บตรงอวัยวะส่วนที่คุณเผลอไปโดนโดยไม่รู้ตัวอยู่ก็ได้
5. สัตว์เลี้ยงขนหยาบกระด้าง และขนร่วงมากกว่าปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจขาดสารอาหารบางอย่าง หรืออาจมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับผิวหนังอยู่นั่นเอง

หากคุณหมั่นเอาใจใส่และสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงคุณบ่อย ๆ จะทำให้พวกเขาห่างไกลจากโรคต่าง ๆ และมีชีวิตอยู่กับคุณไปอีกนานเลยทีเดียว
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เป็นห่วงและต้องการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและมาดูแลสัตว์เลี้ยงในช่วงเวลาที่ไม่อยู่บ้านหรือไม่มีเวลาพาน้อง ๆ ไปเดินเล่น มักมองหาผู้ช่วยงานในส่วนนี้และก่อนที่จะเริ่มงานกันต้องมีข้อตกลงกัน เพื่อให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและผู้ว่าจ้างรู้สึกสบายใจกันทั้งสองฝ่าย

1. สอบถามประสบการณ์ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงทุกคนรู้ดีว่าการเลี้ยงสัตว์ แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันตามสายพันธุ์ ต้องมีความรู้ความเข้าใจเป็นพิเศษที่จะดูแลสัตว์นั้นๆ เพราะมีหน้าที่มากกว่าการให้อาหาร หรือ พาสัตว์เข้านอน การชวนสัตว์เลี้ยงเล่นหรือทำกิจกรรม หรือเคยดูแลสัตว์ชนิดไหน สายพันธุ์อะไรมาก่อน
2. ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะไม่ต้องตลอดทั้งวันหรือเป็นบางช่วงเวลา การพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น ไปทำกิจกรรมในเวลาเช้า หรือเวลาเย็น หรือต้องดูแลตลอดทั้งวันในช่วงที่เจ้าของต้องไปทำงาน
3. ค่าจ้างในการทำงานของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ขึ้นอยู่กับประเภทของสัตว์เลี้ยง หน้าที่ความรับผิดชอบ เช่น ต้องให้อาหารกี่ครั้ง ต้องพาไปเดินเล่นหรือไม่ ต้องทำความสะอาดด้วยหรือเปล่า และความยากง่ายในการดูแลตามชนิดและสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงนั้น ๆ
4. ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์ตัวหนึ่ง ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ ถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของตนเองให้คุณฟัง จากการพูดคุยในลักษณะนี้คุณสามารถวัดความรักที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว

จะดีหรือไม่ถ้ามีใครที่เชื่อถือได้พร้อมให้คำแนะนำและพร้อมทำตามข้อตกลง ด้วยใจรักต่อสัตว์เลี้ยงจากใจจริงที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงให้กับท่านทุกความกังวลก็จะหมดไป

บางกอกใหญ่ มีอะไรกว่าที่คิด

เขตบางกอกใหญ่อยู่ในกลุ่มเขตกรุงธนบุรี ถือเป็นเขตอนุรักษ์เมืองเก่าและมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรมมากมายโดยชื่อของ บางกอกใหญ่ นั้นมีที่มาจาก “คลองบางกอกใหญ่” หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “คลองบางหลวง” แต่เดิมเคยเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาและเปลี่ยนเส้นทางกลายเป็นคลองและเขตบางกอกใหญ่เคยเป็นที่ตั้งของกรุงธนบุรีในแรกเริ่ม ซึ่งมีชื่อว่าอำเภอหงสาราม และได้เปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอบางกอกใหญ่ ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นเขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร หลังจากการปฏิวัติในปี พ.ศ. 2515 เป็นต้นมา ซึ่งเขตบางกอกใหญ่ตั้งอยู่ริมขวาของแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี อาณาเขตทิศเหนือติดกับเขตตลิ่งชันและเขตบางกอกน้อย ทิศตะวันออกติดกับเขตพระนครและเขตธนบุรี ทิศใต้ติดกับเขตธนบุรี ส่วนทิศตะวันตกติดกับเขตภาษีเจริญ สภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นที่ราบลุ่ม เป็นเกาะมีแม่น้ำและคลองล้อมรอบ ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เหมาะกับการทำสวนแต่ปัจจุบันกลายมาเป็นชุมชนเมืองมีบ้านเรือน สถานที่ราชการและอาคารพาณิชย์ต่างๆรายล้อม ซึ่งผู้คนในปัจจุบันก็ประกอบอาชีพค้าขายและงานบริการต่างๆ ซึ่งสามารถแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 2 แขวง ได้แก่แขวงวัดอรุณและแขวงวัดท่าพระ ในพื้นที่มีการคมนาคมที่สะดวกทั้งทางน้ำและทางบกทาง ทางรถยนต์ ทางเรือ มีถนนและลำคลองหลายสาย ประกอบไปด้วยลำคลองกว่า 44 คลองมีถนน 7 สาย มีท่าเรือรับส่งผู้โดยสารกว่า 11 แห่ง สถานที่สำคัญในเขตบางกอกใหญ่ ส่วนใหญ่จะเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาเต็มไปด้วยวัดวาอารามที่มีชื่อเสียงมากมายเช่น วัดอรุณราชวราราม วัดหงษ์รัตนาราม วัดโมลีโลกยาราม พระราชวังเดิมเป็นต้น



มัสยิดต้นสน มัสยิดซุนนีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพ

มัสยิดต้นสน หรือกุฎีบางกอกใหญ่ เป็นมัสยิดซุนนีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร และยังเป็นศาสนสถานที่สมเด็จพระเจ้าตากสินเสด็จ พระราชดำเนินมาประกอบพิธีทางศาสนา ฝังศพเจ้าพระยาจักรีศรีองครักษ์(หมุด)ซึ่งเป็นนายทหารคู่พระทัย โดยประวัติของมัสยิดและชุมชนบริเวณนี้สามารถย้อนไปถึงเมืองบางกอกฝั่งธนบุรี เมืองหน้าด่านริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ซึ่งในอดีตบริเวณนี้เป็นชุมชนการค้าสมัยกรุงศรีอยุธยาที่มีพ่อค้าแม่ค้าจากหลากหลายถิ่นฐานเข้ามาค้าขาย รวมถึงชาวมุสลิมหลากหลายเชื้อสาย จึงมีการก่อตั้งมัสยิดแห่งนี้ขึ้น หากใครที่แวะเวียนมาที่นี่จะพบว่าอาคารมัสยิดต้นสนปัจจุบันมีการออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมตะวันออกกลาง ซึ่งแต่เดิมแล้วมัสยิดแห่งนี้ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมไทยเหมือนกับอุโบสถในวัด ถูกสร้างจากอาคารไม้เล็กๆก่อนจะกลายมาเป็นอาคารขนาดใหญ่ ซึ่งชื่อต้นสนมาจากต้นสนคู่ที่หน้าประตูมัสยิด เพราะต้นสนสูงใหญ่นี้มองไกลๆเป็นที่สะดุดตา เป็นจุดเด่นจึงกลายมาเป็นชื่อสถานที่แห่งนี้ ภายในมัสยิดจะมีแท่นแสดงธรรม ที่มีความสวยงามมาก หลังคาโครงครึ่งวงกลมแนบตัวแกะสลักลวดลายลงรักปิดทองแกะสลักเป็นภาษาอาหรับและรูปวิหารกะบะ รวมทั้งมีผังของมัสยิดในนครมักกะอีกด้วย ซึ่งหลักฐานเหล่านี้ล้วนแต่พบในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทั้งสิ้น มัสยิดแห่งนี้เป็นสถานที่เก่าแก่ ศิลปะสวย ที่เหมาะแก่การเยี่ยมชม และถ่ายรูป ซึ่งใครที่อยากจะไปเดินแวะชมก็ต้องให้เกียรติสถานที่ ไม่ส่งเสียงดังรบกวนการทำพิธีกรรมของศาสนาและปฏิบัติตามกฎระเบียบของมัสยิดกันด้วย



เลี้ยงสุนัขแบบผิดๆ ยิ่งกระตุ้นให้สุนัขดุขึ้นแบบไม่รู้ตัว

เมื่อพูดถึงความดุของสุนัข เราอาจจะเคยเห็นพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งที่สุนัขสัตว์เลี้ยงแสนซื่อของเราได้ทำร้ายคนจนได้รับบาดเจ็บหรือรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตในหลายๆ ครั้ง ซึ่งการได้ยินข่าวแบบนี้ผู้คนส่วนใหญ่จะมุ่งประเด็นไปที่สายพันธุ์สุนัข ว่าเป็นสุนัขสายพันธุ์อะไร พันธุ์ดุหรือเปล่า หากเป็นสุนัขที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุที่เป็นข่าวกันบ่อยอย่างเช่น พิทบูล ร็อตไวเลอร์ คนทั่วไปจะบอกว่าสุนัขพันธ์เหล่านี้มีนิสัยที่ดุร้ายอยู่แล้ว ไม่เหมาะกับการนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงใกล้คนเพราะอาจจะทำอันตรายได้ทุกเมื่อ แต่ความจริงแล้วความดุของสุนัขนั้นส่วนหนึ่งมาจากสายพันธุ์และลักษณะการเลี้ยงดูเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสุนัขสายพันธุ์ไหนก็ดุได้ถ้าเลี้ยงผิดวิธี อย่างเช่น สุนัขตัวใหญ่สายพันธุ์ดุ หลายคนจะคิดว่าไม่เหมาะกับการพาออกไปเข้าสังคม เนื่องจากยากต่อการควบคุม เกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อผู้อื่น จึงเลือกที่จะขังหรือกักบริเวณเอาไว้ เพื่อความปลอดภัย แต่วิธีเหล่านี้เสี่ยงต่อการทำให้สุนัขมีนิสัยดุและก้าวร้าวมากขึ้น จากความกดดันที่ ไม่ได้พบปะผู้คน ระแวงต่อสิ่งรอบตัวตลอดเวลา ทำสุนัขให้เกิดความเครียด ซึ่งรู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมการเลี้ยงสุนัขแบบนี้เป็นเหตุที่ทำให้สุนัขมีนิสัยดุร้ายและก้าวร้าวเนื่องจากสุนัขเป็นสัตว์สังคม การเลี้ยงสุนัขโดยไม่ให้เขารู้จักการเข้าสังคม จะทำให้สุนัขขาดการเรียนรู้และการใช้สัญชาตญาณต่างๆ เพื่อการอยู่ร่วมกันกับสุนัขตัวอื่นๆ จึงทำให้ไม่สามารถแยกได้ว่าตัวไหนเป็นมิตรหรือศัตรู จึงก้าวร้าวกับทุกอย่างเพื่อป้องกันตัว ด้วยเหตุนี้การเข้าสังคมจึงเป็นสิ่งสำคัญกับสุนัขทุกตัวและทุกสายพันธุ์ หรือในกรณีที่มีการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เล็กเหมือนกัน เจ้าของชอบโอ๋ ชอบตามใจ เวลาสุนัขเห่าหรือส่งเสียงดังโวยวาย ไม่ดุหรือไม่ห้าม เพราะคิดว่าเป็นสุนัขพันธุ์เล็กไม่สามารถทำอันตรายใครได้ ซึ่งการปล่อยให้สุนัขมีนิสัยแบบนี้ ไปเรื่อยๆโดยผู้ดูแลไม่หาวิธีควบคุม จะทำให้สุนัขเคยตัวและคิดว่าถูกต้องในระยะยาวอาจทำให้สุนัขตัวเล็กๆเหล่านี้มีนิสัยที่ก้าวร้าวได้ นอกจากนี้การเล่น กับสุนัขแบบผิดวิธีก็ทำให้สุนัขมีนิสัยก้าวร้าวได้เช่นกันโดยที่ผู้เลี้ยงอาจไม่รู้ตัวเช่น ชอบยั่วให้สุนัขโมโห ให้กัดสิ่งของต่างๆ การเล่นในลักษณะนี้จะเป็นการกระตุ้นการใช้ความรุนแรงด้วยขาดการควบคุม ซึ่งหากใช้วิธีการนี้เป็นประจำจะทำให้สุนัขก้าวร้าวติดตัวตลอดไปและในระยะยาวก็ยากต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม