ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางกอกใหญ่, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางกอกใหญ่, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Lalitta  Suttama
Lalitta Suttama
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

รักน้อง ดูแลเอาใจใส่ทุกรายละเอียด

แสดงเพิ่มเติม
ณัฐวุฒิ  ฉัตรมณี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

เป็นคนใจเย็นรักสัตว์ เลี้ยงสัตว์มาตั้งเด็กมีความเข้า

ธรรมชาติของสัตว์ ดูแลได้เป็นอย่างดีคับ

แสดงเพิ่มเติม
พรภสร ขุนด่าน
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

รักสัตว์ ซื่อสัตย์ มีวินัย ไว้ใจได้ รักษาคำพูด

แสดงเพิ่มเติม

รักสัตว์ พาเดินเล่นได้ ดูแลสัตว์เลี้ยงค้างคืน

แสดงเพิ่มเติม
อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ
อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ

รักสัตว์ ใจเย็น มีความอดทนสูง

แสดงเพิ่มเติม
รุจิระหงส์ มังคละวงศ์
รุจิระหงส์ มังคละวงศ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

รักสัตว์ ใจดี ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม

สัตวแพทย์แผนปัจจุบันมีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ถูกต้องตามกฎหมาย ประสบการณ์ทำงานทั้งทางด้านอายุกรรมและศัลยกรรมนาน 7 ปีมีทักษะพิเศษในด้านสัตวแพทย์ทางเลือกหลายแขนง ทั้งทางด้านการฝังเข็มกายภาพตามหลักสัตวแพทย์ศาสตร์จีน(ผ่านการอบรมจาก Chi University) และสมุนไพรไทย(กำลังศึกษาเภสัชกรรมไทย ร.ร.ภัทรเวชสยาม)สามารถสื่อสารได้ดีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (เคยอยู่อาศัยต่างประเทศ)ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมตัวศึกษาต่อ ยินดีให้ความช่วยเหลือสัตว์ป่วยที่มีข้อจำกัดในการออกนอกสถานที่ ทั้งในด้านการเก็บตัวอย่างเพื่อประกอบการรักษา ฝังไมโครชิพ ดำเนินการด้านสุขภาพต่างๆ การขนย้ายประสานงานการรักษากับสถานพยาบาลสัตว์ที่มีมาตรฐานใกล้เคียง จัดส่งชันสูตรซาก ฌาปนกิจตามหลักศาสนา ไปจนถึงงานจิตอาสาอื่นๆ

แสดงเพิ่มเติม

สวัสดีค่ะ ชื่อแอมมี่นะคะ เป็นคนรักสัตว์ (มีประสบการณ์ในการดูแลแมว และสุนัข) มีคุณสมบัติพื้นฐานครบถ้วน เช่น ปฏิบัติต่อสัตว์เลี้ยงด้วยความเอาใจใส่ ความเมตตา มีความอดทน มีความน่าเชื่อถือ มีความแข็งแรงและความแข็งแกร่ง สามารถรับมือกับสัตว์เลี้ยงได้หากจำเป็น และมีความรู้ในการดูแลสัตว์เลี้ยง เข้าใจพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงแต่ละประเภท มีความขยันและรับผิดชอบสูงค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ดายานา มนูญ
ดายานา มนูญ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 21 ปี
มาเรียม พรั่งเกิด
มาเรียม พรั่งเกิด
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 46 ปี

มีประสบการณ์ทำงานแม่บ้าน ดูแลสัตว์เลี้ยง ทำอาหารง่าย ๆ ได้ เช่น ข้าวผัด อาหารตามสั่ง รักสัตว์หมาแมว เคยเข้ารับการอบรมกับ life university เกี่ยวกับจิตวิทยา และการเป็นโค้ช NLP มีทัศนคติเชิงบวกสูง มีมารยาท นวดได้มีใบอนุญาตถูกต้องค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ศศิกานต์ ดอกพรม
ศศิกานต์ ดอกพรม
Saijai อายุ 23 ปี

เป็นคนที่ใจเย็น และชอบอยู่กับสัตว์เลี้ยงต่างๆ

แสดงเพิ่มเติม

ที่บ้านเลี้ยงแมวและหมาอยู่ค่ะ รักสัตว์และชอบเล่รกับสัตว์ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ณัฐกฤตา เทพสุภา
ณัฐกฤตา เทพสุภา
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ทำงานอยู่ที่ ร้าน little zoo คาเฟ่ค่ะ อยากได้รายได้เสริมเนื่องจากช่วงนี้โควิทร้านถูกปิด จึงขาดรายได้ ดูแลสัตว์ได้ทุกชนิด ทุกประเภทนะคะ

แสดงเพิ่มเติม
Chanatda  Auiyuanphok
Chanatda Auiyuanphok
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นคนรักสัตว์ ชอบอยู่กับสัตว์เลี้ยง สามารถดูแลลูกแมวหรือลูกสุนัขแรกเกิดได้

แสดงเพิ่มเติม
ปาลมิกา อ๊ะนา
ปาลมิกา อ๊ะนา
Saijai อายุ 30 ปี

เลี้ยงสัตว์มาหลายปีมีประสบการณ์ด้วยตนเองสำหรับการเลี้ยงสัตว์ ใจเย็น รักสัตว์ อัตราค่าจ้างตามผู้ว่าจ้างจะจ่าย

แสดงเพิ่มเติม
ภิรมยา หลวงไชย์
ภิรมยา หลวงไชย์
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

สวัสดีค่ะ อยากหารายได้เสริมหลังจากเลิกงาน20:00 จากงานประจำค่ะ ตอนนี้ทำงานเป็นผู้ช่วยสัตว์เเพทย์ โรงพยาบาลสัตว์ อายุงาน3-4 ปี รักสัตว์มากค่ะ ไม่รังเกียจอึ ฉี่ ป้อนยา ป้อนอาหาร เฝ้าสังเกตุอาการสัตว์ป่วย เเละอื่นๆ ( ยกเว้นตัวที่ดุร้าย ) ขอบคุณค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

สวัสดีค่ะชื่อ ปุ๊ ค่ะ ทำอาชีพค้าขายค่ะ ชอบงานอิสระที่สามารถได้มีเวลาอยู่กับคนที่เรารัก สัตว์เลี้ยง หรือสิ่งที่เราชอบ ตอนนี้ที่บ้านเลี้ยงแมว9ตัว เลี้ยงสุนัข2ตัวค่ะ มีความสุขมากๆที่ได้อยู่กับพวกเค้า เลยสนใจเลือกงานนี้เป็นอาชีพเสริมค่ะ ขอบคุณค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ศิริกานต์ จาวะลา
ศิริกานต์ จาวะลา
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 28 ปี
อนุธิดา เทศกุล
อนุธิดา เทศกุล
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 24 ปี

เป็นคนรักสัตว์ และรักเด็ก ชอบความเป๋นส่วนตัว

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
3 ปีที่แล้ว
ชอบมากเลย บริการคือดีมาก ดูแลน้องหมาเราดี ปลื้มสุด
Saijai
อรอนงค์ วาร์ด
3 ปีที่แล้ว
ลองจองพี่เลี้ยงดูแลน้องหมาผ่านเว็ปใส่ใจ รู้สึกประทับใจมากครับ เจ้าด้อบบี้เองก็ดูเหมือนจะดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อนใหม่ด้วย เห็นตามติดน้องที่มาช่วยดูแลไม่ห่างเลย
Saijai
ชิตพล เจียรเวชพรกุล
3 ปีที่แล้ว
หมดปัญหาว่าจะเอาหมาไปฝากที่ไหนเวลาต้องไปต่างจังหวัด บริการดี รายละเอียดครบ ชอบ ๆ
Saijai
เนตรศิกา วัฒนาไกร
3 ปีที่แล้ว
ลองเรียกคนดูแลน้องหมาผ่านเว็บใส่ใจ พี่เลี้ยงเขาเฟรนด์ลี่มาก พาน้องไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น รู้สึกประทับใจพี่เลี้ยงมาก ๆ เลยค่ะ
Saijai
อรัชกร แซ่ลี้
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ขอดีของการมีสัตว์เลี้ยง
เครียด เหงา เศร้า บางครั้งเราต้องการคนมาคอยรับฟังปัญหา ซึ่งนอกจากเพื่อนสนิท หรือคนในครอบครัวแล้ว อีกหนึ่งทางเลือกก็คือ การมีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว นก ปลา ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่คนนิยม สัตว์เลี้ยง สามารถช่วยเยียวยาจิตใจให้กับผู้ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะเหงาและเครียด ไปจนถึงผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี คุณทราบหรือไม่ว่าการเลี้ยงสัตว์มีประโยชน์ต่อเรามากกว่าที่คิด มาดูข้อดีกันเลยค่ะ

- การเลี้ยงสุนัขหรือแมวเพื่อบำบัดความเครียดหรือในต่างประเทศเรียกว่า Pets Therapy (สัตว์เลี้ยงบำบัด) ซึ่งมีผลการศึกษาวิจัยมานานแล้วว่า การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงนั้น สามารถช่วยเยียวยาผู้ป่วยได้จริง ทั้งยังมีคำแนะนำให้ผู้สูงอายุเลี้ยงสัตว์เพื่อบรรเทาความเหงาและป้องกันโรคซึมเศร้าอีกด้วย

- การมีสัตว์เลี้ยงช่วยลดคอเลสเตอรอลโดยผลการศึกษาพบว่าคนที่เลี้ยงสัตว์จะมีค่าคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดอย่างไตรกลีเซอร์ไรด์น้อย เนื่องจากมีกิจกรรมพาสัตว์เลี้ยงไปเดินออกกำลังกายนั่นเอง
- ช่วยลดความดันโลหิต เพราะการมีสัตว์เลี้ยงจะทำให้เราคลายเครียด ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์กพบว่า ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาโรคความดันโลหิตสูงจะมีค่าความดันโลหิตที่ต่ำลงเมื่อมีสัตว์เลี้ยง

- Rebecca A. Johnson ผู้อำนวยการศูนย์การวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์ มหาวิทยาลัยมิสซูรี ได้กล่าวว่า เพียงแค่มองสัตว์เลี้ยง สมองจะหลั่งออกซิโทซิน ทำให้มีความสุขและลดฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ทำให้เกิดความเครียด โดยมีผลการวิจัยกับทหารผ่านศึกชาวสหรัฐอเมริกา ที่ประสบภาวะผิดปกติทางจิตใจหรือ PTSD พบว่า ทหารผ่านศึกนายนั้นไม่กล้าออกจากบ้านโดยไม่มีภรรยาไปด้วย เมื่อได้ลองเลี้ยงสุนัข เพียงไม่กี่อาทิตย์เขาก็มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นและกล้าที่จะออกจากบ้านเพียงล
ทักษะที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี
การดูแลสัตว์เปรียบเสมือนการดูแลบุคคลในครอบครัว เมื่อตัดสินใจรับมาเลี้ยงแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต แต่หากเรามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือมีภาระอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ และไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงของเราได้ในบางตรั้ง และจำเป็นต้องหาคนมาดูแลสัตว์เลี้ยงชั่วคราว หรือที่เรียกว่าพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง

พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้

• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
สัญญานที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยมีอะไรบ้าง
สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยง การสังเกตพฤติกรรมในแต่ละวันของสัตว์เป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะหลายๆครั้งกว่าที่เราจะรู้ว่าสัตว์เลี้ยงที่เรารักมีอาการป่วยก็ต่อเมื่อพวกเขามีอาการหนักแล้ว ใส่ใจอยากแบ่งปันความรู้กันและวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เหมือนเป็นสัญญาณอันตรายที่เราไม่ควรมองข้าม เพื่อให้เราได้สังเกตและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่เรารักได้ทันเวลา

1. พบอาการป่วย หรือพบความผิดปกติอื่นๆที่สังเกตได้ เช่น มีขี้ตาเกรอะกรัง ตาแดง มีน้ำมูก หายใจติดขัด ขนร่วงเป็นหย่อมๆ มีสะเก็ดหรือมีกลิ่นตัวแรง เดินกะเผลก อาเจียน ถ่ายเหลว น้ำหนักลดลงในเวลาอันรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งกินน้ำมากกว่าปกติ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเรากำลังป่วยก็เป็นได้
2. มีพฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุด หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้งๆ ที่นิสัยเดิมกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจสุขภาพ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอกอื่นๆ เช่น วัยที่เปลี่ยนไป เปลี่ยนอาหารใหม่ อากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล หรือมีสิ่งมากวนใจที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงตัวน้อยกินได้ลดลง
3. มีอาการซึมไม่ร่าเริง นอนมากผิดปกติ เวลาเจ้าของเรียกจะไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่มาหาเหมือนเคย เช่นสุนัขมีอาการ หาวบ่อย หากสุนัขดูอ่อนเพลีย ง่วง อยากพักผ่อน เกิดอาการหาวบ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าน้องหมากำลังเครียด เบื่อ หรือกระวนกระวายใจ แต่หากเป็นสัตว์เลี้ยงที่อายุมากแล้ว อาจจะร่าเริงน้อยลง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้อาการซึมอาจเกิดมาจากอาการเหงา ซึมเศร้า ซึ่งนับเป็นอาการป่วยทางใจ อันอาจเป็นผลมาจากเจ้าของไม่ค่อยมีเวลาให้ก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อเรามีสัตว์เลี้ยงแล้ว การมีเวลาการเอาใจใส่ การได้สัมผัสก็ช่วยป้องกันและรักษาอาการป่วยทางใจได้
ข้อตกลงสำคัญที่ผู้จ้างควรตกลงกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
การใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงในยามที่คุณไม่ว่างนั้นจะช่วยให้คุณคลายความกังวลเรื่องความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณได้ แต่ก่อนจะทำการจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ต้องมาทำหน้าที่ดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ที่คุณกำหนด ซึ่งข้อตกลงสำคัญมีดังนี้

1. ข้อตกลงเรื่องค่าตอบแทน ในส่วนของค่าตอบแทนในการว่าจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
2. ข้อตกลงเรื่องช่วงเวลาในการทำงาน นายจ้างควรระบุเวลาที่ชัดเจนให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้ หรือบางครั้งในกรณีที่ต้องยืดหยุ่นเวลาในการทำงานเนื่องจากเหตุจำเป็น เพื่อให้เงื่อนไขได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่าย
3. แจกแจงหน้าที่ให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างชัดเจนก่อนเริ่มงาน นายจ้างจำเป็นต้องอธิบายหน้าที่ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจนว่าต้องทำอะไรบ้าง เช่น ให้อาหารและอาบน้ำสัตว์เลี้ยงเวลาไหน หรือควรพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นออกกำลังกายเวลาไหนบ้าง เป็นต้น
4. สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของบุคคลที่จะทำการว่าจ้างอีกครั้งให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผ่านการฝึกอบรมด้านการดูแลสัตว์เลี้ยงมาโดยเฉพาะจะยิ่งเพิ่มความสบายใจให้กับนายจ้างมากยิ่งขึ้น
5. อธิบายข้อตกลงสำคัญหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นกับสัตว์เลี้ยงในระหว่างที่อยู่กับพี่เลี้ยง ควรอธิบายการแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้อย่างชัดเจน
6. ลองพาพี่เลี้ยงไปพบกับสัตว์เลี้ยงคุณก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อสร้างความคุ้นเคยล่วงหน้าให้กับสัตว์เลี้ยงและไม่ให้พวกเขารู้สึกระแวงเมื่อต้องอยู่กับคนแปลกหน้า

หลังจากทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องคอยกังวลเกี่ยวกับการจ้างบริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอีกต่อไป

บางกอกใหญ่ มีอะไรกว่าที่คิด

เขตบางกอกใหญ่อยู่ในกลุ่มเขตกรุงธนบุรี ถือเป็นเขตอนุรักษ์เมืองเก่าและมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรมมากมายโดยชื่อของ บางกอกใหญ่ นั้นมีที่มาจาก “คลองบางกอกใหญ่” หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “คลองบางหลวง” แต่เดิมเคยเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาและเปลี่ยนเส้นทางกลายเป็นคลองและเขตบางกอกใหญ่เคยเป็นที่ตั้งของกรุงธนบุรีในแรกเริ่ม ซึ่งมีชื่อว่าอำเภอหงสาราม และได้เปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอบางกอกใหญ่ ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นเขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร หลังจากการปฏิวัติในปี พ.ศ. 2515 เป็นต้นมา ซึ่งเขตบางกอกใหญ่ตั้งอยู่ริมขวาของแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี อาณาเขตทิศเหนือติดกับเขตตลิ่งชันและเขตบางกอกน้อย ทิศตะวันออกติดกับเขตพระนครและเขตธนบุรี ทิศใต้ติดกับเขตธนบุรี ส่วนทิศตะวันตกติดกับเขตภาษีเจริญ สภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นที่ราบลุ่ม เป็นเกาะมีแม่น้ำและคลองล้อมรอบ ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เหมาะกับการทำสวนแต่ปัจจุบันกลายมาเป็นชุมชนเมืองมีบ้านเรือน สถานที่ราชการและอาคารพาณิชย์ต่างๆรายล้อม ซึ่งผู้คนในปัจจุบันก็ประกอบอาชีพค้าขายและงานบริการต่างๆ ซึ่งสามารถแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 2 แขวง ได้แก่แขวงวัดอรุณและแขวงวัดท่าพระ ในพื้นที่มีการคมนาคมที่สะดวกทั้งทางน้ำและทางบกทาง ทางรถยนต์ ทางเรือ มีถนนและลำคลองหลายสาย ประกอบไปด้วยลำคลองกว่า 44 คลองมีถนน 7 สาย มีท่าเรือรับส่งผู้โดยสารกว่า 11 แห่ง สถานที่สำคัญในเขตบางกอกใหญ่ ส่วนใหญ่จะเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาเต็มไปด้วยวัดวาอารามที่มีชื่อเสียงมากมายเช่น วัดอรุณราชวราราม วัดหงษ์รัตนาราม วัดโมลีโลกยาราม พระราชวังเดิมเป็นต้น



มัสยิดต้นสน มัสยิดซุนนีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพ

มัสยิดต้นสน หรือกุฎีบางกอกใหญ่ เป็นมัสยิดซุนนีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร และยังเป็นศาสนสถานที่สมเด็จพระเจ้าตากสินเสด็จ พระราชดำเนินมาประกอบพิธีทางศาสนา ฝังศพเจ้าพระยาจักรีศรีองครักษ์(หมุด)ซึ่งเป็นนายทหารคู่พระทัย โดยประวัติของมัสยิดและชุมชนบริเวณนี้สามารถย้อนไปถึงเมืองบางกอกฝั่งธนบุรี เมืองหน้าด่านริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ซึ่งในอดีตบริเวณนี้เป็นชุมชนการค้าสมัยกรุงศรีอยุธยาที่มีพ่อค้าแม่ค้าจากหลากหลายถิ่นฐานเข้ามาค้าขาย รวมถึงชาวมุสลิมหลากหลายเชื้อสาย จึงมีการก่อตั้งมัสยิดแห่งนี้ขึ้น หากใครที่แวะเวียนมาที่นี่จะพบว่าอาคารมัสยิดต้นสนปัจจุบันมีการออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมตะวันออกกลาง ซึ่งแต่เดิมแล้วมัสยิดแห่งนี้ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมไทยเหมือนกับอุโบสถในวัด ถูกสร้างจากอาคารไม้เล็กๆก่อนจะกลายมาเป็นอาคารขนาดใหญ่ ซึ่งชื่อต้นสนมาจากต้นสนคู่ที่หน้าประตูมัสยิด เพราะต้นสนสูงใหญ่นี้มองไกลๆเป็นที่สะดุดตา เป็นจุดเด่นจึงกลายมาเป็นชื่อสถานที่แห่งนี้ ภายในมัสยิดจะมีแท่นแสดงธรรม ที่มีความสวยงามมาก หลังคาโครงครึ่งวงกลมแนบตัวแกะสลักลวดลายลงรักปิดทองแกะสลักเป็นภาษาอาหรับและรูปวิหารกะบะ รวมทั้งมีผังของมัสยิดในนครมักกะอีกด้วย ซึ่งหลักฐานเหล่านี้ล้วนแต่พบในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทั้งสิ้น มัสยิดแห่งนี้เป็นสถานที่เก่าแก่ ศิลปะสวย ที่เหมาะแก่การเยี่ยมชม และถ่ายรูป ซึ่งใครที่อยากจะไปเดินแวะชมก็ต้องให้เกียรติสถานที่ ไม่ส่งเสียงดังรบกวนการทำพิธีกรรมของศาสนาและปฏิบัติตามกฎระเบียบของมัสยิดกันด้วย



เลี้ยงสุนัขแบบผิดๆ ยิ่งกระตุ้นให้สุนัขดุขึ้นแบบไม่รู้ตัว

เมื่อพูดถึงความดุของสุนัข เราอาจจะเคยเห็นพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งที่สุนัขสัตว์เลี้ยงแสนซื่อของเราได้ทำร้ายคนจนได้รับบาดเจ็บหรือรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตในหลายๆ ครั้ง ซึ่งการได้ยินข่าวแบบนี้ผู้คนส่วนใหญ่จะมุ่งประเด็นไปที่สายพันธุ์สุนัข ว่าเป็นสุนัขสายพันธุ์อะไร พันธุ์ดุหรือเปล่า หากเป็นสุนัขที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุที่เป็นข่าวกันบ่อยอย่างเช่น พิทบูล ร็อตไวเลอร์ คนทั่วไปจะบอกว่าสุนัขพันธ์เหล่านี้มีนิสัยที่ดุร้ายอยู่แล้ว ไม่เหมาะกับการนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงใกล้คนเพราะอาจจะทำอันตรายได้ทุกเมื่อ แต่ความจริงแล้วความดุของสุนัขนั้นส่วนหนึ่งมาจากสายพันธุ์และลักษณะการเลี้ยงดูเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสุนัขสายพันธุ์ไหนก็ดุได้ถ้าเลี้ยงผิดวิธี อย่างเช่น สุนัขตัวใหญ่สายพันธุ์ดุ หลายคนจะคิดว่าไม่เหมาะกับการพาออกไปเข้าสังคม เนื่องจากยากต่อการควบคุม เกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อผู้อื่น จึงเลือกที่จะขังหรือกักบริเวณเอาไว้ เพื่อความปลอดภัย แต่วิธีเหล่านี้เสี่ยงต่อการทำให้สุนัขมีนิสัยดุและก้าวร้าวมากขึ้น จากความกดดันที่ ไม่ได้พบปะผู้คน ระแวงต่อสิ่งรอบตัวตลอดเวลา ทำสุนัขให้เกิดความเครียด ซึ่งรู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมการเลี้ยงสุนัขแบบนี้เป็นเหตุที่ทำให้สุนัขมีนิสัยดุร้ายและก้าวร้าวเนื่องจากสุนัขเป็นสัตว์สังคม การเลี้ยงสุนัขโดยไม่ให้เขารู้จักการเข้าสังคม จะทำให้สุนัขขาดการเรียนรู้และการใช้สัญชาตญาณต่างๆ เพื่อการอยู่ร่วมกันกับสุนัขตัวอื่นๆ จึงทำให้ไม่สามารถแยกได้ว่าตัวไหนเป็นมิตรหรือศัตรู จึงก้าวร้าวกับทุกอย่างเพื่อป้องกันตัว ด้วยเหตุนี้การเข้าสังคมจึงเป็นสิ่งสำคัญกับสุนัขทุกตัวและทุกสายพันธุ์ หรือในกรณีที่มีการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เล็กเหมือนกัน เจ้าของชอบโอ๋ ชอบตามใจ เวลาสุนัขเห่าหรือส่งเสียงดังโวยวาย ไม่ดุหรือไม่ห้าม เพราะคิดว่าเป็นสุนัขพันธุ์เล็กไม่สามารถทำอันตรายใครได้ ซึ่งการปล่อยให้สุนัขมีนิสัยแบบนี้ ไปเรื่อยๆโดยผู้ดูแลไม่หาวิธีควบคุม จะทำให้สุนัขเคยตัวและคิดว่าถูกต้องในระยะยาวอาจทำให้สุนัขตัวเล็กๆเหล่านี้มีนิสัยที่ก้าวร้าวได้ นอกจากนี้การเล่น กับสุนัขแบบผิดวิธีก็ทำให้สุนัขมีนิสัยก้าวร้าวได้เช่นกันโดยที่ผู้เลี้ยงอาจไม่รู้ตัวเช่น ชอบยั่วให้สุนัขโมโห ให้กัดสิ่งของต่างๆ การเล่นในลักษณะนี้จะเป็นการกระตุ้นการใช้ความรุนแรงด้วยขาดการควบคุม ซึ่งหากใช้วิธีการนี้เป็นประจำจะทำให้สุนัขก้าวร้าวติดตัวตลอดไปและในระยะยาวก็ยากต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม