วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง บริการรับจ้างพาสุนัขเดิน บริการรับจ้างฝึกสอนสัตว์เลี้ยง บริการอาบน้ำตัดขน บริการดูแลสัตว์เลี้ยงค้างคืน สัตวแพทย์นอกสถานที่บริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชัน ห้วยขวางสัตวแพทย์แผนปัจจุบันมีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ถูกต้องตามกฎหมาย ประสบการณ์ทำงานทั้งทางด้านอายุกรรมและศัลยกรรมนาน 7 ปีมีทักษะพิเศษในด้านสัตวแพทย์ทางเลือกหลายแขนง ทั้งทางด้านการฝังเข็มกายภาพตามหลักสัตวแพทย์ศาสตร์จีน(ผ่านการอบรมจาก Chi University) และสมุนไพรไทย(กำลังศึกษาเภสัชกรรมไทย ร.ร.ภัทรเวชสยาม)สามารถสื่อสารได้ดีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (เคยอยู่อาศัยต่างประเทศ)ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมตัวศึกษาต่อ ยินดีให้ความช่วยเหลือสัตว์ป่วยที่มีข้อจำกัดในการออกนอกสถานที่ ทั้งในด้านการเก็บตัวอย่างเพื่อประกอบการรักษา ฝังไมโครชิพ ดำเนินการด้านสุขภาพต่างๆ การขนย้ายประสานงานการรักษากับสถานพยาบาลสัตว์ที่มีมาตรฐานใกล้เคียง จัดส่งชันสูตรซาก ฌาปนกิจตามหลักศาสนา ไปจนถึงงานจิตอาสาอื่นๆ
แสดงผล 1 ถึง 20 จาก 27 ผลการค้นหา
1 2ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง
พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้
• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
วันนี้เรามีวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ควรมองข้ามมาแชร์ให้ทราบกันค่ะ
1 สัตว์เลี้ยงมีอาการซึมเศร้า ไม่ร่าเริง นอนมากกว่าปกติ ไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่อ้อนเหมือนเคย
2 พฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้ง ๆ ที่ปกติกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น อากาศร้อนเกินไป เปลี่ยนอาหารใหม่ ที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงกินน้อยลง
3 พบความผิดปกติ หรืออาการอื่นๆ เช่น มีขี้ตาเยอะ อาเจียน ตาแดง มีน้ำมูก มีกลิ่นตัวแรง เดินผิดปกติ ถ่ายเหลว
4 กินน้ำมากกว่าปกติ ก็เป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเราป่วยได้เช่นกัน
5 สัตว์เลี้ยงอาจมีอาการ นอนไม่หลับ ตาเหล่ ตาเอียง ไม่มีแรงเดิน ซึ่งอาการเหล่านี้อาจจะเป็นสัญญาณของความผิดปกติทางระบบประสาทในสัตว์เลี้ยง
6 สัตว์เลี้ยงเดินวนไปวนมาในเวลากลางคืน เป็นอาการที่พบบ่อยว่าเกิดจากโรคสมองเสื่อมในสัตว์วัยชรา หรืออาจจะบ่งชี้ได้ว่ามีโรคทางสมองอยู่ จนทำให้วงจรการหลับมีปัญหา นอกจากนี้โรคเบาหวาน กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ลำไส้อักเสบ ก็อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ตื่นขึ้นมากลางดึกก็เป็นได้
1. ข้อตกลงเรื่องค่าตอบแทน ในส่วนของค่าตอบแทนในการว่าจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
2. ข้อตกลงเรื่องช่วงเวลาในการทำงาน นายจ้างควรระบุเวลาที่ชัดเจนให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้ หรือบางครั้งในกรณีที่ต้องยืดหยุ่นเวลาในการทำงานเนื่องจากเหตุจำเป็น เพื่อให้เงื่อนไขได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่าย
3. แจกแจงหน้าที่ให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างชัดเจนก่อนเริ่มงาน นายจ้างจำเป็นต้องอธิบายหน้าที่ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจนว่าต้องทำอะไรบ้าง เช่น ให้อาหารและอาบน้ำสัตว์เลี้ยงเวลาไหน หรือควรพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นออกกำลังกายเวลาไหนบ้าง เป็นต้น
4. สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของบุคคลที่จะทำการว่าจ้างอีกครั้งให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผ่านการฝึกอบรมด้านการดูแลสัตว์เลี้ยงมาโดยเฉพาะจะยิ่งเพิ่มความสบายใจให้กับนายจ้างมากยิ่งขึ้น
5. อธิบายข้อตกลงสำคัญหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นกับสัตว์เลี้ยงในระหว่างที่อยู่กับพี่เลี้ยง ควรอธิบายการแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้อย่างชัดเจน
6. ลองพาพี่เลี้ยงไปพบกับสัตว์เลี้ยงคุณก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อสร้างความคุ้นเคยล่วงหน้าให้กับสัตว์เลี้ยงและไม่ให้พวกเขารู้สึกระแวงเมื่อต้องอยู่กับคนแปลกหน้า
หลังจากทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องคอยกังวลเกี่ยวกับการจ้างบริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอีกต่อไป
ที่มาของเขตราษฎร์บูรณะ
เขตราษฎร์บูรณะเป็นพื้นที่หนึ่งของเขตกรุงเทพมหานคร ที่มาของชื่อเขตนั้นเกิดจากคำว่า "ราษฎร์" + "บูรณะ" มาเป็น "ราษฎร์บูรณะ" ซึ่งความหมายของ "ราษฎร์" แปลว่า "พลเมืองของประเทศ" หรือ "แว่นแคว้นบ้านเมือง" "บูรณะ" แปลว่า "ทำให้เต็ม ปฏิสังขรณ์ซ่อมแซม" เมื่อนำมารวมกันเป็น "ราษฎร์บูรณะ" ทำให้มีความหมายได้เป็นสองอย่าง คือ พลเมืองของประเทศช่วยกันสร้างขึ้นหรือรวบรวมกันตั้งขึ้นเป็นหมู่บ้าน อำเภอหนึ่ง และอีกความหมายคือ เป็นเมืองที่ราษฎรช่วยกันส่งเสริม และบำรุงรักษาให้เป็นเมืองที่มีความเจริญยิ่งๆ ขึ้นให้มีความเจริญเท่าเทียมกับเขตอื่น เดิม เขตราษฎร์บูรณะมีฐานะเป็นอำเภออยู่ในเขตการปกครองของจังหวัดธนบุรี และถูกย้ายไปอยู่ในเขตการปกครองของนครเขื่อนขันธ์ หรือ จังหวัดพระประแดงที่ต่อมาถูกยุบเป็นอำเภอและไปขึ้นกับจังหวัดสมุทรปราการแทน ทำให้อำเภอราษฎร์บูรณะกลับมาขึ้นกับจังหวัดธนบุรีอีกครั้ง
อำเภอราษฎร์บูรณะได้รับการเปลี่ยนแปลงฐานะเป็น เขตราษฎร์บูรณะ ภายหลังที่มีการยุบรวมจังหวัดธนบุรีและจังหวัดพระนคร เปลี่ยนฐานะเป็นนครหลวงกรุงเทพธนบุรีและกรุงเทพมหานคร ซึ่งปัจจุบันเป็นเขตการปกครองขึ้นกับกรุงเทพมหานคร อดีตมีพื้นที่ถึง 42.87 ตารางกิโลเมตร แต่มีการขยายเมืองในกรุงเทพมหานคร ทำให้เกิดการกระจายตัวของประชากรจึงเกิดการปรับเปลี่ยนแบ่งพื้นที่บางส่วนไปขึ้นกับเขตธนบุรี เขตจอมทอง เขตราษฎร์บูรณะ และตั้งเขตทุ่งครุ ทำให้ปัจจุบันมีพื้นที่เพียง15.782 ตารางกิโลเมตร
ปัจจุบันมีสถานที่สำคัญ ๆ อยู่หลายแห่ง เช่น สะพานพระราม 9, วัดเกียรติประดิษฐ์, วัดแจงร้อน, วัดบางปะกอก, วัดประเสริฐสุทธาวาส, วัดราษฎร์บูรณะ, วัดสน, วัดสารอด,โรงพยาบาลบางปะกอก, โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ, ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ อาคารราษฎร์บูรณะ วิทยาลัยพณิชยการเชตุพน และโรงเรียนอีกหลายแห่งด้วยกัน
สะพานสำคัญในเขตราษฎร์บูรณะ
สะพานพระราม 9 ตั้งอยู่ที่ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร นับเป็นสะพานขึงแห่งแรกของประเทศไทยที่ใช้ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเชื่อมพื้นที่สองฝั่งในกรุงเทพมหานครคือ ฝั่งธนบุรี และฝั่งพระนคร ให้สามารถเดินทางไปมาสะดวก โดยใช้สายเคเบิลขึงเป็นแนวยาวยึดกับเสาแกนกลางที่สูงใหญ่เพื่อรองรับน้ำหนักของสะพานและรถยนต์ที่วิ่งอยู่บนสะพาน ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่9 (พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร) ใน ปี พ.ศ. 2530 เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 60 พรรษา
มีราคาค่าก่อสร้าง 1,418,100,000 บาท ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี จากวันที่ 1 ต.ค. 2527 ถึงวันที่ 22 พ.ย. 2530 เป็นสะพานที่มีความแข็งแรงมาก เพราะตัวโครงสร้างฐานรากสะพาน ประกอบด้วย เสาตอม่อ แท่นหัวเข็ม เสาเข็ม ทั้งหมดล้วนแต่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 41 เมตร โดยมีความกว้างสะพาน 33 เมตร ความยาวรวมทั้งหมด 2,716 เมตร แบ่งเป็นความยาวของตัวสะพาน ถึง 782 เมตรซึ่งช่วงกลางยาวเป็นอันดับที่ 2 ของโลกในยุคนั้น เชิงลาดสะพาน ฝั่งพระนคร 1,127 เมตร และเชิงลาดสะพาน ฝั่งธนบุรี 807 เมตร มีจำนวนช่องทางจราจร 6 ช่อง นอกจากความแข็งแรงแล้วจุดเด่นอีกข้อของตัวสะพานคือ บนยอดเสาขึงเคเบิลของสะพานพระราม 9 ทางฝั่งพระนคร มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ ซึ่งเป็นพระอัฐิของพระพุทธเจ้าที่ชาวพุทธเชื่อว่าเป็นวัตถุแทนพระองค์ที่ทรงคุณค่าสูงสุด นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง ที่ดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติให้มาชมความงามยิ่งใหญ่ ของเขตนี้ อีกทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งช้อปปิ้ง บริเวณใกล้เคียงสะพานหลายแห่ง เช่น
-เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าแนวราบริมแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีทัศนียภาพสวยงาม จุดเด่นคือชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ ที่มีความสูง 60 เมตร สามารถมองเห็นทัศนียภาพโดยรอบกรุงเทพมหานครในมุมสูงได้รอบตัว
-เซ็นทรัลพระราม 3 ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่ครบวงจรที่สุดในย่าน
พาสุนัขเดินออกกำลังกาย ดีอย่างไร
การออกกำลังกาย ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมที่จำเป็นสำหรับมนุษย์ทุกคน เพราะจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ไม่แก่เร็ว เสริมสร้างกล้ามเนื้อให้อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย และยังช่วยเรื่องระบบไหลเวียนของเลือด การได้ทำกิจกรรมนี้อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันและช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคหัวใจ ฯลฯ อีกทั้งยังช่วยลดความเครียดและสร้างเสริมสุขภาพจิตได้ด้วย
กล่าวถึงสัตว์เลี้ยงสี่ขาชนิดหนึ่ง ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันนี้นั้นคือ สุนัข ที่มีฐานลูกค้าทั้งวัยผู้สูงอายุ วัยเด็ก วัยกลางคน ต่างให้ความสนใจในการเลี้ยงสัตว์ชนิดนี้ เพราะมันสามารถใช้งานได้หลายจุดประสงค์ ไม่ว่าจะเฝ้าบ้าน เป็นเพื่อนคลายเหงา ออกงานทำรายได้ ฯลฯ ซึ่งมันก็เหมือนมนุษย์ ที่มีความรู้สึก เศร้า ดีใจ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ดังนั้นการออกกำลังกายนั้นก็สำคัญกับพวกมันเหมือนกัน เพราะมีข้อดีหลายอย่างตามมาแน่นอน ทั้งสัตว์เจ็บป่วยน้อยลง สุขภาพดี แข็งแรง อารมณ์ดีส่งผลให้เจ้าของลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลลง อีกทั้งยังเป็นการลดพฤติกรรมก้าวร้าวของพวกมันได้อีกด้วย เพราะสุนัขบางชนิด หากขังไว้แต่ในกรง ก็ยิ่งทำให้เกิดอาการเครียด ดุร้าย และยากต่อการควบคุมได้ หากได้ออกกำลังกายกับเจ้าของด้วยแล้วนั้น จะส่งผลดีอีกข้อคือ กระชับความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์และเจ้าของ ซึ่งกิจกรรมการออกกำลังกายที่สามารถร่วมกันทำได้คือ การพาสุนัขเดินไปต่างสถานที่กว้าง ๆ เสมือนคนเราที่ไม่ชอบถูกขังไว้ในที่แคบเหมือนกัน แต่หากอยากให้ทั้งสุนัขและเจ้าของต่างได้ประโยชน์จากการออกกำลังกาย ก็ควรเดินให้ได้ทุกวัน วันละ 30 นาที หรืออย่างน้อยให้ได้ 5 วันต่อสัปดาห์ หรือสัปดาห์ละ 150 นาที
แต่ปัจจุบันผู้คนมักใช้เวลาทำงานและทำกิจกรรมอย่างอื่นแทน โดยเฉพาะคนชาวกรุงที่มีวิถีชีวิตที่ต้องเผชิญกับรถติด ต้องทำงานเช้า กลับเย็นค่ำกัน จึงเป็นที่มาของอาชีพ บริการรับจ้างพาสุนัขเดิน เกิดขึ้น ซึ่งอัตราค่าจ้างเฉลี่ยในเมืองไทยประมาณ 100-120 บาท ต่อชั่วโมง หรืออาจมากกว่านั้น ขึ้นกับการต่อรองกับเจ้าของสุนัข จึงเป็นอาชีพที่น่าจับตามองสำหรับคนที่มีใจรักสุนัขเลยก็ว่าได้
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง