ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางซื่อ, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางซื่อ, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ที่บ้านมีสถานที่ ให้น้องวิ่งเล่น มีไซ เพศเมียอายุ 1 ปี น้องน่ารักนิสัยดีค่ะ มีโกลเด้น 1 ตัว น้องชอบเล่นมาก ที่บ้านมีอาหาร ห้องแอร์ ของเล่น ขนม พร้อมให้น้องๆค่ะ ที่รับเลี้ยงเพราะน้องไซที่บ้านจะได้มีเพื่อนใหม่ๆด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อารยา หนูทอง
อารยา หนูทอง
Saijai อายุ 23 ปี

เคยมีประสบการณ์ทำงานเเม่บ้านมาก่อน สามารถทำความสะอาดได้ โดยส่วนตัวเป็นคนใจเย็นกับสถานการณ์ต่างๆพร้อมรับมือ

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ นอนกับสุนัข์ทุกวัน

แสดงเพิ่มเติม
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 25 ปี
ศตวรรษ ทับทิม
ศตวรรษ ทับทิม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ผมรักสัตว์เคยทำงานเป็นผช.สัตว์แพทย์​ มีความอดทนสูง​

แสดงเพิ่มเติม
เทพทัต กะโปงทอง
เทพทัต กะโปงทอง
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 19 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ มีความอดทนอดกลั้น เคยเลี้ยงสัตว์

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

มองหาพี่เลี้ยงสัตว์ที่มีความรู้ด้านนี้มาช่วยดูแลเค้าที่บ้าน เจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดูรายละเอียดและสามารถสอบถามราคาได้อย่างชัดเจน ก่อนที่เราจะตัดสินใจจ้าง แถมราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด เยี่ยมไปเลยค่ะ
Saijai
ปัทมา เลิศชนะ
3 ปีที่แล้ว
ลองจองพี่เลี้ยงดูแลน้องหมาผ่านเว็ปใส่ใจ รู้สึกประทับใจมากครับ เจ้าด้อบบี้เองก็ดูเหมือนจะดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อนใหม่ด้วย เห็นตามติดน้องที่มาช่วยดูแลไม่ห่างเลย
Saijai
ชิตพล เจียรเวชพรกุล
3 ปีที่แล้ว
หมดปัญหาว่าจะเอาหมาไปฝากที่ไหนเวลาต้องไปต่างจังหวัด บริการดี รายละเอียดครบ ชอบ ๆ
Saijai
เนตรศิกา วัฒนาไกร
3 ปีที่แล้ว
เว็บใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ใช้ครั้งแรกชอบเลย ได้พี่เลี้ยงมาดูแลน้องแมวให้ถึงบ้าน สบายใจทาสแมวอย่างเราไปเลยค่ะ
Saijai
ณัฐฐา แก้วดี
3 ปีที่แล้ว
สะดวกมากเลยค่ะ นัดพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่เราต้องการมาดูแลน้องหมาที่บ้านได้เลย ไม่ยุ่งยาก ระบบใช้งานง่าย สะดวกสุด ๆ ค่ะ ชอบ ๆ
Saijai
ธีรศักดิ์ เหมศักดิ์
1 วินาทีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ขอดีของการมีสัตว์เลี้ยง
เครียด เหงา เศร้า บางครั้งเราต้องการคนมาคอยรับฟังปัญหา ซึ่งนอกจากเพื่อนสนิท หรือคนในครอบครัวแล้ว อีกหนึ่งทางเลือกก็คือ การมีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว นก ปลา ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่คนนิยม สัตว์เลี้ยง สามารถช่วยเยียวยาจิตใจให้กับผู้ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะเหงาและเครียด ไปจนถึงผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี คุณทราบหรือไม่ว่าการเลี้ยงสัตว์มีประโยชน์ต่อเรามากกว่าที่คิด มาดูข้อดีกันเลยค่ะ

- การเลี้ยงสุนัขหรือแมวเพื่อบำบัดความเครียดหรือในต่างประเทศเรียกว่า Pets Therapy (สัตว์เลี้ยงบำบัด) ซึ่งมีผลการศึกษาวิจัยมานานแล้วว่า การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงนั้น สามารถช่วยเยียวยาผู้ป่วยได้จริง ทั้งยังมีคำแนะนำให้ผู้สูงอายุเลี้ยงสัตว์เพื่อบรรเทาความเหงาและป้องกันโรคซึมเศร้าอีกด้วย

- การมีสัตว์เลี้ยงช่วยลดคอเลสเตอรอลโดยผลการศึกษาพบว่าคนที่เลี้ยงสัตว์จะมีค่าคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดอย่างไตรกลีเซอร์ไรด์น้อย เนื่องจากมีกิจกรรมพาสัตว์เลี้ยงไปเดินออกกำลังกายนั่นเอง
- ช่วยลดความดันโลหิต เพราะการมีสัตว์เลี้ยงจะทำให้เราคลายเครียด ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์กพบว่า ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาโรคความดันโลหิตสูงจะมีค่าความดันโลหิตที่ต่ำลงเมื่อมีสัตว์เลี้ยง

- Rebecca A. Johnson ผู้อำนวยการศูนย์การวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์ มหาวิทยาลัยมิสซูรี ได้กล่าวว่า เพียงแค่มองสัตว์เลี้ยง สมองจะหลั่งออกซิโทซิน ทำให้มีความสุขและลดฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ทำให้เกิดความเครียด โดยมีผลการวิจัยกับทหารผ่านศึกชาวสหรัฐอเมริกา ที่ประสบภาวะผิดปกติทางจิตใจหรือ PTSD พบว่า ทหารผ่านศึกนายนั้นไม่กล้าออกจากบ้านโดยไม่มีภรรยาไปด้วย เมื่อได้ลองเลี้ยงสุนัข เพียงไม่กี่อาทิตย์เขาก็มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นและกล้าที่จะออกจากบ้านเพียงล
ทักษะสำคัญในการดูแลสัตว์เลี้ยงมีอะไรบ้าง
หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพื่อที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณ นี่คือลักษณะและทักษะที่สำคัญ 4 ประการที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี

1. สุขุมและเข้าใจสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงน้องหมา น้องแมวทุกคนรู้ดีว่าการดูแลน้องเหล่านี้มักไม่เป็นไปตามแผนที่เราคิดไว้เสมอไป ดังนั้นพี่เลี้ยงต้องอดทนเวลาที่น้องหมา น้องแมว ดื้อและไม่ปฏิบัติตามที่คาดหวังไว้ ควรสงบสติอารมณ์เพื่อไม่ให้พวกเขารู้สึกกลัวและตอบสนองต่อความวิตกกังวล จะทำให้สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้ดี
2. อ่อนโยน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีตระหนักถึงความต้องการของสัตว์เลี้ยงของเราและตอบสนองต่อความต้องการนั้นมองสัตว์เลี้ยงของเราด้วยความรักใคร่และไม่ใช้กำลังหรือการลงโทษทางร่างกาย เช่นตี หรือ ลากสายจูงสุนัขของคุณระหว่างเดินเล่น
3. มีประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัตว์เลี้ยงของเรามีความต้องการดูแลเป็นพิเศษ การจ้างพี่เลี้ยงสัตว์ดูแลสัตว์เลี้ยง ควรจ้างผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์มากเช่น หากเรามีสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ด(German Shepherd)ตัวใหญ่ เราต้องการคนที่เคยดูแลสุนัขขนาดใหญ่มาก่อน ถ้าคนคนนั้นสามารถแสดงใบรับรองเกียรติบัตรที่แสดงถึงประสบการณ์ในการดูแลสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดตัวใหญ่จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าของสุนัขยิ่งขึ้น หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการป่วยหรือต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เราต้องมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์และน่าเชื่อถือได้ในด้านนั้น ๆ มาดูแลสัตว์เลี้ยงของเรา
4. มีความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยง ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง ๆ ) ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ หรือถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน - คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาให้คุณฟัง การพูดคุยแบบนี้คุณสามารถวัดความรักของพวกเขาที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว
ข้อสังเกตุว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจจะมีอาการป่วย
หลาย ๆ คนที่เคยมีสัตว์เลี้ยงย่อมเคยผ่านเหตุการณ์ที่สัตว์เลี้ยงป่วย การสังเกตพฤติกรรมในแต่ละวันเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามแม้อาจจะเป็นเพียงความเปลี่ยนแปลงเพียงเล็ก ๆ น้อย เพราะหลายครั้งกว่าที่เราจะรู้ว่าสัตว์เลี้ยงป่วยก็ต่อเมื่อพวกเขามีอาการหนักแล้ว

วันนี้เรามีวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ควรมองข้ามมาแชร์ให้ทราบกันค่ะ

1 สัตว์เลี้ยงมีอาการซึมเศร้า ไม่ร่าเริง นอนมากกว่าปกติ ไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่อ้อนเหมือนเคย
2 พฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้ง ๆ ที่ปกติกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น อากาศร้อนเกินไป เปลี่ยนอาหารใหม่ ที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงกินน้อยลง
3 พบความผิดปกติ หรืออาการอื่นๆ เช่น มีขี้ตาเยอะ อาเจียน ตาแดง มีน้ำมูก มีกลิ่นตัวแรง เดินผิดปกติ ถ่ายเหลว
4 กินน้ำมากกว่าปกติ ก็เป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเราป่วยได้เช่นกัน
5 สัตว์เลี้ยงอาจมีอาการ นอนไม่หลับ ตาเหล่ ตาเอียง ไม่มีแรงเดิน ซึ่งอาการเหล่านี้อาจจะเป็นสัญญาณของความผิดปกติทางระบบประสาทในสัตว์เลี้ยง
6 สัตว์เลี้ยงเดินวนไปวนมาในเวลากลางคืน เป็นอาการที่พบบ่อยว่าเกิดจากโรคสมองเสื่อมในสัตว์วัยชรา หรืออาจจะบ่งชี้ได้ว่ามีโรคทางสมองอยู่ จนทำให้วงจรการหลับมีปัญหา นอกจากนี้โรคเบาหวาน กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ลำไส้อักเสบ ก็อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ตื่นขึ้นมากลางดึกก็เป็นได้
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เป็นห่วงและต้องการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและมาดูแลสัตว์เลี้ยงในช่วงเวลาที่ไม่อยู่บ้านหรือไม่มีเวลาพาน้อง ๆ ไปเดินเล่น มักมองหาผู้ช่วยงานในส่วนนี้และก่อนที่จะเริ่มงานกันต้องมีข้อตกลงกัน เพื่อให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและผู้ว่าจ้างรู้สึกสบายใจกันทั้งสองฝ่าย

1. สอบถามประสบการณ์ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงทุกคนรู้ดีว่าการเลี้ยงสัตว์ แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันตามสายพันธุ์ ต้องมีความรู้ความเข้าใจเป็นพิเศษที่จะดูแลสัตว์นั้นๆ เพราะมีหน้าที่มากกว่าการให้อาหาร หรือ พาสัตว์เข้านอน การชวนสัตว์เลี้ยงเล่นหรือทำกิจกรรม หรือเคยดูแลสัตว์ชนิดไหน สายพันธุ์อะไรมาก่อน
2. ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะไม่ต้องตลอดทั้งวันหรือเป็นบางช่วงเวลา การพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น ไปทำกิจกรรมในเวลาเช้า หรือเวลาเย็น หรือต้องดูแลตลอดทั้งวันในช่วงที่เจ้าของต้องไปทำงาน
3. ค่าจ้างในการทำงานของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ขึ้นอยู่กับประเภทของสัตว์เลี้ยง หน้าที่ความรับผิดชอบ เช่น ต้องให้อาหารกี่ครั้ง ต้องพาไปเดินเล่นหรือไม่ ต้องทำความสะอาดด้วยหรือเปล่า และความยากง่ายในการดูแลตามชนิดและสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงนั้น ๆ
4. ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์ตัวหนึ่ง ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ ถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของตนเองให้คุณฟัง จากการพูดคุยในลักษณะนี้คุณสามารถวัดความรักที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว

จะดีหรือไม่ถ้ามีใครที่เชื่อถือได้พร้อมให้คำแนะนำและพร้อมทำตามข้อตกลง ด้วยใจรักต่อสัตว์เลี้ยงจากใจจริงที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงให้กับท่านทุกความกังวลก็จะหมดไป

การคมนาคมในเขตบางซื่อ

ปัจจุบันย่านบางซื่อยังคงเป็นพื้นที่ที่ตั้งของหน่วยงานภาครัฐเป็นหลัก และการเติบโตยังคงกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งสถานีกลางบางซื่อ เป็นพื้นที่ต่อขยายมาจากรถไฟฟ้า MRT สถานีบางซื่อในปัจจุบันให้กลายเป็นสถานีรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ หรือเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางคมนาคม

ภาพรวมของการเดินทางในย่านบางซื่อนับว่าดีมาก คือ มีสภาพการจราจรที่คล่องตัวและมีวิธีบริการที่ดีเยี่ยม แม้คนที่ไม่เคยเดินทางเข้าไปในย่านนี้เลย ก็ไม่สับสนกับรูปแบบการเดินทางที่ให้บริการอยู่ โดยการเดินทางในย่านบางซื่อนั้นมีหลากหลายรูปแบบ

รถเมล์ มีป้ายรถประจำทางคอยให้บริการอยู่บนถนนเส้นหลักทุกสาย

รถเมล์สายสำคัญได้แก่

รถเมล์สาย 5 : สถานีขนส่ง (จตุจักร)-จักรวรรดิ์

รถเมล์สาย 16 : หมอชิต 2-สุรวงศ์

รถเมล์สาย 30 : วงกลมสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (ตลิ่งชัน)-นนทบุรี

รถเมล์สาย 50 : พระราม 7-สวนลุมพินี

รถเมล์สาย 65 : วัดปากน้ำ (นนท์)-สนามหลวง

รถเมล์สาย 66 : ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ-สายใต้ใหม่ (ตลิ่งชัน)

รถเมล์สาย 97 : กระทรวงสาธารณสุข-โรงพยาบาลสงฆ์

รถเมล์สาย 543 : บางเขน-ลำลูกกา

รถไฟ ที่มีสถานีรถไฟให้บริการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สถานีบางซื่อเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ชื่อว่า ชุมทางรถไฟบางซื่อ ส่วนใหญ่เป็นรถไฟที่วิ่งไปกลับระหว่างหัวลำโพงกับภาคเหนือ

ถึงแม้จะยังไม่เห็นว่าศูนย์กลางคมนาคมที่สมบูรณ์แบบมีหน้าตาเป็นอย่างไร และจะช่วยเพิ่มศักยภาพของการเดินทางได้มากน้อยขนาดไหน แต่ด้วยองค์ประกอบที่ย่านบางซื่อมีอยู่ตอนนี้ ถือว่าเป็นย่านที่มีจุดแข็งในด้านการเดินทางพอสมควรแล้ว ทุกพื้นที่ในย่านนี้สามารถเข้าถึงได้ง่าย การเชื่อมต่อไปยังย่านใกล้เคียงก็สะดวกสบาย ไม่ว่าจะใช้รถยนต์ส่วนตัว หรือรถโดยสารสาธารณะ



การดูแลสุนัขให้ขนนุ่มฟูดูสวยควรทำอย่างไร

การดูแลน้องหมาให้มีขนนุ่มฟูเป็นเงาสวยบ่งบอกถึงการมีสุขภาพที่ดีของน้องหมา รวมไปถึงการดูแลเอาใจใส่จากคนเลี้ยงที่ดูแลได้เป็นอย่างดีอีกด้วย สำหรับเจ้าของสุนัขมือใหม่หรือคนที่เลี้ยงสุนัขอยู่แล้วแต่ขนของสุนัขไม่นุ่มฟูสวยงาม เรามีเคล็ดไม่ลับที่จะช่วยให้สุนัขมีขนนุ่มฟูและดูสวยงาม 5 ข้อดังต่อไปนี้

1. ดูแลเรื่องอาหารการกิน สุนัขสายพันธุ์ต่างประเทศส่วนใหญ่จะหมดปัญหาในเรื่องนี้เพราะคนเลี้ยงจะฝึกให้กินอาหารเม็ดเป็นหลัก สวนสุนัขพันธุ์ทางตัวเล็กและพันธุ์ใหญ่ที่มีการผสมข้ามหลายสายพันธุ์ ผู้เลี้ยงต้องฝึกให้กินน้องกินอาหารเม็ดควบคู่กับอาหารที่ใช้เลี้ยงเป็นประจำ

2. การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลขนที่มีคุณภาพ การอาบน้ำหรือการเช็ดขนให้สุนัขควรเลือกผลิตภัณฑ์แชมพูสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ และเลือกใช้แชมพูอาบน้ำให้เหมาะสมและตรงกับลักษณะของสุนัขแต่ละสายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์เล็ก พันธุ์ขนสั้น พันธุ์ขนยาว เป็นต้น

3. อาหารเสริมบำรุงขนสำหรับสุนัข อาหารเสริมสำหรับสุนัขจะมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับสุขภาพ ช่วยทำให้ขนและผิวหนังของสุนัขมีสุขภาพดี การเลือกซื้ออาหารเสริมควรเรื่องที่มีสารอาหารประเภทโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพและทำให้ขนสุนัขนุ่มฟูสวยมากยิ่งขึ้น

4. การดูแลทำความสะอาดขน สุนัขพันธุ์ขนสั้นและขนยาวต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดด้วยการอาบน้ำและแปรงขน 1-2 ครั้ง ต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับอาการและความสกปรกของสุนัขด้วย ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นอาจใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวให้สุนัขแทนการอาบน้ำได้ ส่วนการแปรงขนอย่างสม่ำเสมอช่วยป้องกันเส้นขนพันกันและยังกระจายน้ำมันในบริเวณผิวหนังของสุนัขให้กระจายอย่างทั่วถึง

5. การกำจัดเห็บหมัดและตรวจสุขภาพผิวหนังเป็นประจำ เห็บหมัดเป็นปัญหาสุขภาพของสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสุนัข เห็บหมัดที่เกาะกินเลือดอยู่ตามผิวหนังของสุนัขนั้นเป็นสาเหตุทำให้ผิวของสุนัขเป็นแผลและเกิดโรคผิวหนังตามมาในภายหลังซึ่งเป็นผลทำให้ขนของสุนัขหลุดร่วงและไม่สวยงาม



การฝึกสุนัขให้ทำตามคำสั่งมีวิธีอย่างไรบ้าง

<สัตว์เลี้ยงที่เราเลี้ยงดูด้วยความรัก หากได้รับการฝึกฝนให้รับฟังและเข้าใจคำสั่งได้บ้าง จะทำให้สามารถแบ่งเบาภาระของผู้ดูแลในการเลี้ยงดูให้น้อยลงได้ สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ฝึกให้เข้าใจคำสั่งได้ง่ายกว่าสัตว์เลี้ยงประเภทอื่น ๆ แล้วเราจะฝึกสุนัขอย่างไรให้เข้าใจคำสั่ง

การฝึกสุนัขให้เข้าใจคำสั่งนั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการฝึกฝน โดยสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่สามารถฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งของคนเลี้ยงได้ง่ายกว่าสัตว์เลี้ยงประเภทอื่น ๆ หลายคนอาจเข้าใจว่าการฝึกสุนัขทำได้เฉพาะสุนัขสายพันธุ์ใหญ่หรือสายพันธุ์ดุ ๆ เท่านั้น และต้องส่งไปฝึกในโรงเรียนฝึกสุนัขเพียงอย่างเดียว ที่จริงแล้วการฝึกสุนัขทำได้ทุกสายพันธุ์โดยเฉพาะสุนัขเล็ก ๆ ที่เลี้ยงไว้ดูเล่นหรือเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคลายเหงา เราสามารถฝึกได้เองโดยไม่ต้องส่งไปเข้าโรงเรียนฝึกสุนัขให้สิ้นเปลืองเงิน ซึ่งการฝึกนอกจากฝึกด้วยการใช้เสียง และการใช้อุปกรณ์แล้ว ยังมีขั้นตอนการฝึกที่คนเลี้ยงสามารถเรียนรู้และทำได้ในขั้นตอนการฝึกสุนัขให้ทำตามคำสั่งด้วยตัวเอง เช่น หากเราต้องการฝึกให้สุนัขเดินตามขนานไปกับตัวเราทางด้านซ้ายมือ เริ่มจากขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

1. ใส่ปลอกคอแล้วคล้องโซ่ที่คอ จูงสุนัขให้เดินตาม

2. หากสุนัขไม่ทำตาม ให้กระตุกโซ่ที่คล้องคอให้ตึงขึ้นเพื่อรั้งให้ทำตามคำสั่ง

3. เมื่อสุนัขทำตาม ให้ปล่อยโซ่หย่อนลง เพื่อให้สุนัขเดินได้อย่างอิสระ

4. หากผู้เลี้ยงต้องการให้สุนัขหยุดเดิน กระตุกโซ่ให้รัดขึ้นพร้อมออกคำสั่ง “หยุด” เป็นการฝึกให้สุนัขรู้ว่าเรากำลังฝึกเขาอยู่

5. การฝึกมีเพียง 2 ขั้นตอน หากสุนัขไม่ทำตาม เพียงกระตุกโซ่ให้รัดหรือรั้งขึ้น เมื่อทำตามก็ปล่อยโซ่ให้หย่อนลง ทำลักษณะนี้ไปเรื่อย ๆ จะทำให้สุขเคยชินและตามคำสั่งได้เอง

6. นอกจากการฝึกตาม 2 ขั้นตอนดังกล่าว จะทำให้สุนัขเชื่อฟังคำสั่งแล้ว การฝึกควบคู่ไปกับการใช้เสียง เช่น ทำเสียงเข้มเมื่อสุนัขไม่ทำตาม หรือใช้น้ำเสียงอ่อนโยนเมื่อสุนัขเชื่อฟังและทำตามคำสั่ง จะทำให้การฝึกง่ายขึ้น

การเลี้ยงสุนัข นอกจากฝึกให้ทำตามคำสั่งของคนเลี้ยงแล้ว ควรฝึกให้สุนัขรู้อาณาเขตของตัวเองภายในบ้าน กินนอนหรือขับถ่ายอยู่ในบริเวณที่จัดไว้ให้ เพื่อช่วยให้ผู้เลี้ยงดูแลรักษาความสะอาดได้ง่ายขึ้น และควรฝึกสุนัขให้รู้จักการอยู่ในกรงของตัวเอง