ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางซื่อ, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางซื่อ, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ศตวรรษ ทับทิม
ศตวรรษ ทับทิม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ผมรักสัตว์เคยทำงานเป็นผช.สัตว์แพทย์​ มีความอดทนสูง​

แสดงเพิ่มเติม
ศิริกานต์ จาวะลา
ศิริกานต์ จาวะลา
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 28 ปี
ศศิกานต์ ดอกพรม
ศศิกานต์ ดอกพรม
Saijai อายุ 23 ปี

เป็นคนที่ใจเย็น และชอบอยู่กับสัตว์เลี้ยงต่างๆ

แสดงเพิ่มเติม
ดายานา มนูญ
ดายานา มนูญ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 22 ปี
อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ
อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ

รักสัตว์ ใจเย็น มีความอดทนสูง

แสดงเพิ่มเติม
รุจิระหงส์ มังคละวงศ์
รุจิระหงส์ มังคละวงศ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

รักสัตว์ ใจดี ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
ณัฐวุฒิ  ฉัตรมณี
ณัฐวุฒิ ฉัตรมณี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

เป็นคนใจเย็นรักสัตว์ เลี้ยงสัตว์มาตั้งเด็กมีความเข้า

ธรรมชาติของสัตว์ ดูแลได้เป็นอย่างดีคับ

แสดงเพิ่มเติม

ที่บ้านเลี้ยงแมวและหมาอยู่ค่ะ รักสัตว์และชอบเล่รกับสัตว์ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
มาเรียม พรั่งเกิด
มาเรียม พรั่งเกิด
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 46 ปี

มีประสบการณ์ทำงานแม่บ้าน ดูแลสัตว์เลี้ยง ทำอาหารง่าย ๆ ได้ เช่น ข้าวผัด อาหารตามสั่ง รักสัตว์หมาแมว เคยเข้ารับการอบรมกับ life university เกี่ยวกับจิตวิทยา และการเป็นโค้ช NLP มีทัศนคติเชิงบวกสูง มีมารยาท นวดได้มีใบอนุญาตถูกต้องค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
พรภสร ขุนด่าน
พรภสร ขุนด่าน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

รักสัตว์ ซื่อสัตย์ มีวินัย ไว้ใจได้ รักษาคำพูด

แสดงเพิ่มเติม
ภิรมยา หลวงไชย์
ภิรมยา หลวงไชย์
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

สวัสดีค่ะ อยากหารายได้เสริมหลังจากเลิกงาน20:00 จากงานประจำค่ะ ตอนนี้ทำงานเป็นผู้ช่วยสัตว์เเพทย์ โรงพยาบาลสัตว์ อายุงาน3-4 ปี รักสัตว์มากค่ะ ไม่รังเกียจอึ ฉี่ ป้อนยา ป้อนอาหาร เฝ้าสังเกตุอาการสัตว์ป่วย เเละอื่นๆ ( ยกเว้นตัวที่ดุร้าย ) ขอบคุณค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ภาษร ภูผา
ภาษร ภูผา
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

สัตวแพทย์แผนปัจจุบันมีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ถูกต้องตามกฎหมาย ประสบการณ์ทำงานทั้งทางด้านอายุกรรมและศัลยกรรมนาน 7 ปีมีทักษะพิเศษในด้านสัตวแพทย์ทางเลือกหลายแขนง ทั้งทางด้านการฝังเข็มกายภาพตามหลักสัตวแพทย์ศาสตร์จีน(ผ่านการอบรมจาก Chi University) และสมุนไพรไทย(กำลังศึกษาเภสัชกรรมไทย ร.ร.ภัทรเวชสยาม)สามารถสื่อสารได้ดีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (เคยอยู่อาศัยต่างประเทศ)ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมตัวศึกษาต่อ ยินดีให้ความช่วยเหลือสัตว์ป่วยที่มีข้อจำกัดในการออกนอกสถานที่ ทั้งในด้านการเก็บตัวอย่างเพื่อประกอบการรักษา ฝังไมโครชิพ ดำเนินการด้านสุขภาพต่างๆ การขนย้ายประสานงานการรักษากับสถานพยาบาลสัตว์ที่มีมาตรฐานใกล้เคียง จัดส่งชันสูตรซาก ฌาปนกิจตามหลักศาสนา ไปจนถึงงานจิตอาสาอื่นๆ

แสดงเพิ่มเติม
ปาลมิกา อ๊ะนา
ปาลมิกา อ๊ะนา
Saijai อายุ 31 ปี

เลี้ยงสัตว์มาหลายปีมีประสบการณ์ด้วยตนเองสำหรับการเลี้ยงสัตว์ ใจเย็น รักสัตว์ อัตราค่าจ้างตามผู้ว่าจ้างจะจ่าย

แสดงเพิ่มเติม
มูฮัมหมัดอาซีซี ใบกาเด็ม
มูฮัมหมัดอาซีซี ใบกาเด็ม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี
ณัฐกฤตา เทพสุภา
ณัฐกฤตา เทพสุภา
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ทำงานอยู่ที่ ร้าน little zoo คาเฟ่ค่ะ อยากได้รายได้เสริมเนื่องจากช่วงนี้โควิทร้านถูกปิด จึงขาดรายได้ ดูแลสัตว์ได้ทุกชนิด ทุกประเภทนะคะ

แสดงเพิ่มเติม
Chanatda  Auiyuanphok
Chanatda Auiyuanphok
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นคนรักสัตว์ ชอบอยู่กับสัตว์เลี้ยง สามารถดูแลลูกแมวหรือลูกสุนัขแรกเกิดได้

แสดงเพิ่มเติม
จิณณภัสร์ กิตตินันท์ทยากร
จิณณภัสร์ กิตตินันท์ทยากร
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 40 ปี

สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ชอบพบปะผู้คน พร้อมที่จะเป็นมิตร

แสดงเพิ่มเติม

รักสัตว์ พาเดินเล่นได้ ดูแลสัตว์เลี้ยงค้างคืน

แสดงเพิ่มเติม
Lalitta  Suttama
Lalitta Suttama
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

รักน้อง ดูแลเอาใจใส่ทุกรายละเอียด

แสดงเพิ่มเติม
เทพทัต กะโปงทอง
เทพทัต กะโปงทอง
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 20 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ มีความอดทนอดกลั้น เคยเลี้ยงสัตว์

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ราคาไม่แพง มีการบอกรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆให้ด้วย ซึ่งตอนนี้ใช้บริการมา 4ครั้งแล้วครับ บริการดีทุกครั้งเลยครับ
Saijai
ศิลา ใจอารีย์
4 ปีที่แล้ว
มองหาพี่เลี้ยงสัตว์ที่มีความรู้ด้านนี้มาช่วยดูแลเค้าที่บ้าน เจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดูรายละเอียดและสามารถสอบถามราคาได้อย่างชัดเจน ก่อนที่เราจะตัดสินใจจ้าง แถมราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด เยี่ยมไปเลยค่ะ
Saijai
ปัทมา เลิศชนะ
4 ปีที่แล้ว
ลองจองพี่เลี้ยงดูแลน้องหมาผ่านเว็ปใส่ใจ รู้สึกประทับใจมากครับ เจ้าด้อบบี้เองก็ดูเหมือนจะดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อนใหม่ด้วย เห็นตามติดน้องที่มาช่วยดูแลไม่ห่างเลย
Saijai
ชิตพล เจียรเวชพรกุล
4 ปีที่แล้ว
โชคดีที่ได้มาเจอเว็บไซต์ของใส่ใจเพราะมีบริการคนดูแลสัตว์เลี้ยงหลากหลายรูปแบบ ประทับใจมาก ๆ ครับ นอกจากจะมีพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแล้ว ยังมีบริการฝึกสอนสัตว์เลี้ยง อาบน้ำตัดขน อีกทั้งยังมีบริการสัตว์แพทย์นอกสถานที่ บอกได้เลยว่าครบวงจรจริง ๆ
Saijai
ศราวุติ ชัยเกตุ
4 ปีที่แล้ว
สะดวกมากเลยค่ะ นัดพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่เราต้องการมาดูแลน้องหมาที่บ้านได้เลย ไม่ยุ่งยาก ระบบใช้งานง่าย สะดวกสุด ๆ ค่ะ ชอบ ๆ
Saijai
ธีรศักดิ์ เหมศักดิ์
1 วินาทีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

การดูแลสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างไร
สัตว์เลี้ยง (Pets) หมายถึง สัตว์ที่คนเรานำมาดูแล ตั้งแต่ การให้อาหาร ที่อยู่ รักษายามเจ็บป่วย และ การผสมพันธุ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้งาน เป็นอาหาร หรือเป็นเพื่อน คนจึงมีความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงด้วยความรักและการเป็นมิตรต่อกัน ส่วนการเลี้ยงสัตว์ หมายถึง การบำรุงสัตว์เลี้ยงให้เจริญเติบโต ด้วยการให้ความรัก ให้อาหาร ให้ที่อยู่ และรักษายามเจ็บป่วย ด้วยกันนั้นสัตว์แต่ละชนิดมีพฤติกรรมและสภาพความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน การดูแลสัตว์เลี้ยงที่เหมาะทำให้สัตว์ที่เราเลี้ยงมีความสุข เติบโต และใช้ชีวิตไปตามธรรมชาติของสัตว์เลี้ยง จึงสำคัญ เพราะสัตว์เลี้ยงก็มีชีวิต มีหัวใจ และสิ่งที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคนสามารถสัมผัสได้ คือ ความรักที่แท้จริงที่เราได้จากสัตว์เลี้ยง เราจะมีความสำคัญสำหรับพวกเขาเสมอ

ดังนั้นเราและสัตว์เลี้ยงเลยมีคุณค่าทางจิตใจซึ่งกันและกัน ในปัจจุบันสัตว์เลี้ยงที่เป็นที่นิยมอย่างมาก ได้แก่ สุนัข แมว และปลา บางคนเลี้ยงสัตว์โดยไม่ได้คำถึงประโยชน์ของการเลี้ยงสัตว์มากนัก เพราะคิดว่าการเลี้ยงสัตว์ทำให้เรามีความสุขเพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วการเลี้ยงสัตว์นั้นมีประโยชน์มากมายหลายข้อเลย มาดูกันค่ะ

1. การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงช่วยลดความเครียดได้
2. ช่วยลดปัญหาด้านจิตใจห่อเหี่ยวสำหรับผู้สูงอายุ
3. ช่วยทำให้มีจิตใจที่โอบอ้อมอารี
4. การเลี้ยงสุนัขทำให้เจ้าของนั้นได้ออกกำลังกายมากขึ้นเนื่องจากเจ้าของหมั่นต้องพาน้องหมาไปเดินออกกำลังกายเป็นประจำ
5. ช่วยลดค่าความดันโลหิตสูง มีผลวิจัยมาว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นช่วยลดความเครียด คอเลสเตอรอลต่ำ และความดันโลหิตลดลงอีกด้วย
ทักษะที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี
การดูแลสัตว์เปรียบเสมือนการดูแลบุคคลในครอบครัว เมื่อตัดสินใจรับมาเลี้ยงแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต แต่หากเรามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือมีภาระอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ และไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงของเราได้ในบางตรั้ง และจำเป็นต้องหาคนมาดูแลสัตว์เลี้ยงชั่วคราว หรือที่เรียกว่าพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง

พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้

• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
วิธีการสังเกตุสัตว์เลี้ยงเมื่อมีอาการป่วย
เพราะสัตว์เลี้ยงไม่สามารถบอกเราได้เมื่อรู้สึกไม่สบาย หากเราไม่สังเกตเห็นว่าพวกเขาเริ่มมีอาการผิดปกติ มารู้อีกทีเขาก็ป่วยหนักจนอาจทำให้ไม่สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที หรืออาจจะต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษามากกว่าเดิมก็เป็นได้

วิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยมีดังนี้

1. พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสัตว์เลี้ยง เมื่อสัตว์เลี้ยงของคุณเอาแต่นอนอยู่นิ่ง ๆ บางครั้งก็หลบอยู่ตามซอกหลืบมืด ๆ ในบ้าน หรือมีอาการซึม และไม่ร่าเริงเหมือนปกติแม้ว่าคุณจะเอาของเล่นไปล่อแล้วก็ตาม สาเหตุที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขากำลังรู้สึกไม่สบายตัว
2. มีอาการเบื่ออาหาร หากสัตว์เลี้ยงของคุณที่เคยกินเยอะเป็นปกติ จู่ ๆ กลับกินอาหารได้น้อยลง หรือไม่กินอาหารเลย อาจจะเป็นเพราะว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยอยู่ก็เป็นได้
3. มีความผิดปกติอื่น ๆ ตามร่างกาย เช่น มีน้ำมูก มีขี้ตาเกรอะกรัง หายใจติดขัด จนไปถึงอาเจียน และถ่ายเหลว อาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยอยู่ไม่มากก็น้อย ทางที่ดีควรรีบหาทางรักษาสัตว์เลี้ยงของคุณให้เร็วที่สุด
4. เอาแต่ร้องหรือคร่ำครวญมากผิดปกติ บางครั้งเวลาที่คุณเผลอไปจับหรือลูบส่วนใดของสัตว์เลี้ยงแล้วจู่ ๆ เขาขู่หรือเผลอกัดคุณขึ้นมานั้น อาจเป็นเพราะเขากำลังเจ็บตรงอวัยวะส่วนที่คุณเผลอไปโดนโดยไม่รู้ตัวอยู่ก็ได้
5. สัตว์เลี้ยงขนหยาบกระด้าง และขนร่วงมากกว่าปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจขาดสารอาหารบางอย่าง หรืออาจมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับผิวหนังอยู่นั่นเอง

หากคุณหมั่นเอาใจใส่และสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงคุณบ่อย ๆ จะทำให้พวกเขาห่างไกลจากโรคต่าง ๆ และมีชีวิตอยู่กับคุณไปอีกนานเลยทีเดียว
ก่อนจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผู้ว่าจ้างจะต้องทำข้อตกลงดังนี้?
ทุกคนที่มีสัตว์เลี้ยงย่อมเข้าใจถึงความห่วงใยเมื่อเราต้องอยู่ห่างไกลจากสัตว์เลี้ยงของเราไม่ว่าจะในระยะสั้นหรือระยะยาว ดังนั้น การเลือกพี่เลี้ยงสัตว์มาอยู่ที่บ้านจึงมีเงื่อนไขและข้อตกลงที่ต้องพูดคุยกันก่อนการจ้างงานดังนี้

• ค่าตอบแทนหรือค่าจ้าง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
• ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะมีตารางการทำงานที่ไม่แน่นอนทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่านายจ้างมีธุระหรือต้องการใช้บริการในตอนไหนก็สามารถเรียกใช้บริการได้
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีหน้าที่ดูแลสัตว์ขั้นพื้นฐานทั้งหมด ตัวอย่างเช่น การให้อาหารและน้ำ หรือขนมต่าง ๆ
• หากเป็นสัตว์ เช่น สุนัข หรือแมว พี่เลี้ยงต้องรู้จักการเช็ดตัว แปรงขน และแปรงฟันให้ได้
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถพาสัตว์เลี้ยงไปทำกิจกรรม หรือเดินออกกำลังกายได้
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงต้องสนุกกับการใช้เวลาร่วมกับสัตว์และต้องรู้จักวิธีการทำให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกผ่อนคลาย และไม่เครียดเมื่อต้องอยู่โดยไม่มีเจ้าของ
• พี่เลี้ยงต้องรู้จักวิธีทำความสะอาดเมื่อสัตว์เลี้ยงมีการขับถ่าย
• พี่เลี้ยงต้องรู้จักรักษาความสะอาดของเล่น ที่นอน หรือบริเวณที่สัตว์อยู่ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสามารถช่วยให้ยาสัตว์เลี้ยงได้ หากสัตว์เลี้ยงมีอาการป่วยหรือมีโรคประจำตัว
• หากมีเหตุฉุกเฉินที่สัตว์เลี้ยงป่วยกะทันหัน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงสามารถดูแลและพาไปพบแพทย์ได้ทันที
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงควรมีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้มาก่อนและสามารถตรวจสอบประวัติก่อนทำการว่าจ้างได้

การคมนาคมในเขตบางซื่อ

ปัจจุบันย่านบางซื่อยังคงเป็นพื้นที่ที่ตั้งของหน่วยงานภาครัฐเป็นหลัก และการเติบโตยังคงกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งสถานีกลางบางซื่อ เป็นพื้นที่ต่อขยายมาจากรถไฟฟ้า MRT สถานีบางซื่อในปัจจุบันให้กลายเป็นสถานีรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ หรือเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางคมนาคม

ภาพรวมของการเดินทางในย่านบางซื่อนับว่าดีมาก คือ มีสภาพการจราจรที่คล่องตัวและมีวิธีบริการที่ดีเยี่ยม แม้คนที่ไม่เคยเดินทางเข้าไปในย่านนี้เลย ก็ไม่สับสนกับรูปแบบการเดินทางที่ให้บริการอยู่ โดยการเดินทางในย่านบางซื่อนั้นมีหลากหลายรูปแบบ

รถเมล์ มีป้ายรถประจำทางคอยให้บริการอยู่บนถนนเส้นหลักทุกสาย

รถเมล์สายสำคัญได้แก่

รถเมล์สาย 5 : สถานีขนส่ง (จตุจักร)-จักรวรรดิ์

รถเมล์สาย 16 : หมอชิต 2-สุรวงศ์

รถเมล์สาย 30 : วงกลมสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (ตลิ่งชัน)-นนทบุรี

รถเมล์สาย 50 : พระราม 7-สวนลุมพินี

รถเมล์สาย 65 : วัดปากน้ำ (นนท์)-สนามหลวง

รถเมล์สาย 66 : ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ-สายใต้ใหม่ (ตลิ่งชัน)

รถเมล์สาย 97 : กระทรวงสาธารณสุข-โรงพยาบาลสงฆ์

รถเมล์สาย 543 : บางเขน-ลำลูกกา

รถไฟ ที่มีสถานีรถไฟให้บริการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สถานีบางซื่อเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ชื่อว่า ชุมทางรถไฟบางซื่อ ส่วนใหญ่เป็นรถไฟที่วิ่งไปกลับระหว่างหัวลำโพงกับภาคเหนือ

ถึงแม้จะยังไม่เห็นว่าศูนย์กลางคมนาคมที่สมบูรณ์แบบมีหน้าตาเป็นอย่างไร และจะช่วยเพิ่มศักยภาพของการเดินทางได้มากน้อยขนาดไหน แต่ด้วยองค์ประกอบที่ย่านบางซื่อมีอยู่ตอนนี้ ถือว่าเป็นย่านที่มีจุดแข็งในด้านการเดินทางพอสมควรแล้ว ทุกพื้นที่ในย่านนี้สามารถเข้าถึงได้ง่าย การเชื่อมต่อไปยังย่านใกล้เคียงก็สะดวกสบาย ไม่ว่าจะใช้รถยนต์ส่วนตัว หรือรถโดยสารสาธารณะ



การดูแลสุนัขให้ขนนุ่มฟูดูสวยควรทำอย่างไร

การดูแลน้องหมาให้มีขนนุ่มฟูเป็นเงาสวยบ่งบอกถึงการมีสุขภาพที่ดีของน้องหมา รวมไปถึงการดูแลเอาใจใส่จากคนเลี้ยงที่ดูแลได้เป็นอย่างดีอีกด้วย สำหรับเจ้าของสุนัขมือใหม่หรือคนที่เลี้ยงสุนัขอยู่แล้วแต่ขนของสุนัขไม่นุ่มฟูสวยงาม เรามีเคล็ดไม่ลับที่จะช่วยให้สุนัขมีขนนุ่มฟูและดูสวยงาม 5 ข้อดังต่อไปนี้

1. ดูแลเรื่องอาหารการกิน สุนัขสายพันธุ์ต่างประเทศส่วนใหญ่จะหมดปัญหาในเรื่องนี้เพราะคนเลี้ยงจะฝึกให้กินอาหารเม็ดเป็นหลัก สวนสุนัขพันธุ์ทางตัวเล็กและพันธุ์ใหญ่ที่มีการผสมข้ามหลายสายพันธุ์ ผู้เลี้ยงต้องฝึกให้กินน้องกินอาหารเม็ดควบคู่กับอาหารที่ใช้เลี้ยงเป็นประจำ

2. การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลขนที่มีคุณภาพ การอาบน้ำหรือการเช็ดขนให้สุนัขควรเลือกผลิตภัณฑ์แชมพูสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ และเลือกใช้แชมพูอาบน้ำให้เหมาะสมและตรงกับลักษณะของสุนัขแต่ละสายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์เล็ก พันธุ์ขนสั้น พันธุ์ขนยาว เป็นต้น

3. อาหารเสริมบำรุงขนสำหรับสุนัข อาหารเสริมสำหรับสุนัขจะมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับสุขภาพ ช่วยทำให้ขนและผิวหนังของสุนัขมีสุขภาพดี การเลือกซื้ออาหารเสริมควรเรื่องที่มีสารอาหารประเภทโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพและทำให้ขนสุนัขนุ่มฟูสวยมากยิ่งขึ้น

4. การดูแลทำความสะอาดขน สุนัขพันธุ์ขนสั้นและขนยาวต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดด้วยการอาบน้ำและแปรงขน 1-2 ครั้ง ต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับอาการและความสกปรกของสุนัขด้วย ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นอาจใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวให้สุนัขแทนการอาบน้ำได้ ส่วนการแปรงขนอย่างสม่ำเสมอช่วยป้องกันเส้นขนพันกันและยังกระจายน้ำมันในบริเวณผิวหนังของสุนัขให้กระจายอย่างทั่วถึง

5. การกำจัดเห็บหมัดและตรวจสุขภาพผิวหนังเป็นประจำ เห็บหมัดเป็นปัญหาสุขภาพของสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสุนัข เห็บหมัดที่เกาะกินเลือดอยู่ตามผิวหนังของสุนัขนั้นเป็นสาเหตุทำให้ผิวของสุนัขเป็นแผลและเกิดโรคผิวหนังตามมาในภายหลังซึ่งเป็นผลทำให้ขนของสุนัขหลุดร่วงและไม่สวยงาม



การฝึกสุนัขให้ทำตามคำสั่งมีวิธีอย่างไรบ้าง

<สัตว์เลี้ยงที่เราเลี้ยงดูด้วยความรัก หากได้รับการฝึกฝนให้รับฟังและเข้าใจคำสั่งได้บ้าง จะทำให้สามารถแบ่งเบาภาระของผู้ดูแลในการเลี้ยงดูให้น้อยลงได้ สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ฝึกให้เข้าใจคำสั่งได้ง่ายกว่าสัตว์เลี้ยงประเภทอื่น ๆ แล้วเราจะฝึกสุนัขอย่างไรให้เข้าใจคำสั่ง

การฝึกสุนัขให้เข้าใจคำสั่งนั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการฝึกฝน โดยสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่สามารถฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งของคนเลี้ยงได้ง่ายกว่าสัตว์เลี้ยงประเภทอื่น ๆ หลายคนอาจเข้าใจว่าการฝึกสุนัขทำได้เฉพาะสุนัขสายพันธุ์ใหญ่หรือสายพันธุ์ดุ ๆ เท่านั้น และต้องส่งไปฝึกในโรงเรียนฝึกสุนัขเพียงอย่างเดียว ที่จริงแล้วการฝึกสุนัขทำได้ทุกสายพันธุ์โดยเฉพาะสุนัขเล็ก ๆ ที่เลี้ยงไว้ดูเล่นหรือเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคลายเหงา เราสามารถฝึกได้เองโดยไม่ต้องส่งไปเข้าโรงเรียนฝึกสุนัขให้สิ้นเปลืองเงิน ซึ่งการฝึกนอกจากฝึกด้วยการใช้เสียง และการใช้อุปกรณ์แล้ว ยังมีขั้นตอนการฝึกที่คนเลี้ยงสามารถเรียนรู้และทำได้ในขั้นตอนการฝึกสุนัขให้ทำตามคำสั่งด้วยตัวเอง เช่น หากเราต้องการฝึกให้สุนัขเดินตามขนานไปกับตัวเราทางด้านซ้ายมือ เริ่มจากขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

1. ใส่ปลอกคอแล้วคล้องโซ่ที่คอ จูงสุนัขให้เดินตาม

2. หากสุนัขไม่ทำตาม ให้กระตุกโซ่ที่คล้องคอให้ตึงขึ้นเพื่อรั้งให้ทำตามคำสั่ง

3. เมื่อสุนัขทำตาม ให้ปล่อยโซ่หย่อนลง เพื่อให้สุนัขเดินได้อย่างอิสระ

4. หากผู้เลี้ยงต้องการให้สุนัขหยุดเดิน กระตุกโซ่ให้รัดขึ้นพร้อมออกคำสั่ง “หยุด” เป็นการฝึกให้สุนัขรู้ว่าเรากำลังฝึกเขาอยู่

5. การฝึกมีเพียง 2 ขั้นตอน หากสุนัขไม่ทำตาม เพียงกระตุกโซ่ให้รัดหรือรั้งขึ้น เมื่อทำตามก็ปล่อยโซ่ให้หย่อนลง ทำลักษณะนี้ไปเรื่อย ๆ จะทำให้สุขเคยชินและตามคำสั่งได้เอง

6. นอกจากการฝึกตาม 2 ขั้นตอนดังกล่าว จะทำให้สุนัขเชื่อฟังคำสั่งแล้ว การฝึกควบคู่ไปกับการใช้เสียง เช่น ทำเสียงเข้มเมื่อสุนัขไม่ทำตาม หรือใช้น้ำเสียงอ่อนโยนเมื่อสุนัขเชื่อฟังและทำตามคำสั่ง จะทำให้การฝึกง่ายขึ้น

การเลี้ยงสุนัข นอกจากฝึกให้ทำตามคำสั่งของคนเลี้ยงแล้ว ควรฝึกให้สุนัขรู้อาณาเขตของตัวเองภายในบ้าน กินนอนหรือขับถ่ายอยู่ในบริเวณที่จัดไว้ให้ เพื่อช่วยให้ผู้เลี้ยงดูแลรักษาความสะอาดได้ง่ายขึ้น และควรฝึกสุนัขให้รู้จักการอยู่ในกรงของตัวเอง