วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง บริการรับจ้างพาสุนัขเดิน บริการรับจ้างฝึกสอนสัตว์เลี้ยง บริการอาบน้ำตัดขน บริการดูแลสัตว์เลี้ยงค้างคืน สัตวแพทย์นอกสถานที่บริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชัน ห้วยขวางสัตวแพทย์แผนปัจจุบันมีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ถูกต้องตามกฎหมาย ประสบการณ์ทำงานทั้งทางด้านอายุกรรมและศัลยกรรมนาน 7 ปีมีทักษะพิเศษในด้านสัตวแพทย์ทางเลือกหลายแขนง ทั้งทางด้านการฝังเข็มกายภาพตามหลักสัตวแพทย์ศาสตร์จีน(ผ่านการอบรมจาก Chi University) และสมุนไพรไทย(กำลังศึกษาเภสัชกรรมไทย ร.ร.ภัทรเวชสยาม)สามารถสื่อสารได้ดีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (เคยอยู่อาศัยต่างประเทศ)ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมตัวศึกษาต่อ ยินดีให้ความช่วยเหลือสัตว์ป่วยที่มีข้อจำกัดในการออกนอกสถานที่ ทั้งในด้านการเก็บตัวอย่างเพื่อประกอบการรักษา ฝังไมโครชิพ ดำเนินการด้านสุขภาพต่างๆ การขนย้ายประสานงานการรักษากับสถานพยาบาลสัตว์ที่มีมาตรฐานใกล้เคียง จัดส่งชันสูตรซาก ฌาปนกิจตามหลักศาสนา ไปจนถึงงานจิตอาสาอื่นๆ
แสดงผล 1 ถึง 20 จาก 25 ผลการค้นหา
1 2ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง
พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้
• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
วันนี้เรามีวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ควรมองข้ามมาแชร์ให้ทราบกันค่ะ
1 สัตว์เลี้ยงมีอาการซึมเศร้า ไม่ร่าเริง นอนมากกว่าปกติ ไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่อ้อนเหมือนเคย
2 พฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้ง ๆ ที่ปกติกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น อากาศร้อนเกินไป เปลี่ยนอาหารใหม่ ที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงกินน้อยลง
3 พบความผิดปกติ หรืออาการอื่นๆ เช่น มีขี้ตาเยอะ อาเจียน ตาแดง มีน้ำมูก มีกลิ่นตัวแรง เดินผิดปกติ ถ่ายเหลว
4 กินน้ำมากกว่าปกติ ก็เป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเราป่วยได้เช่นกัน
5 สัตว์เลี้ยงอาจมีอาการ นอนไม่หลับ ตาเหล่ ตาเอียง ไม่มีแรงเดิน ซึ่งอาการเหล่านี้อาจจะเป็นสัญญาณของความผิดปกติทางระบบประสาทในสัตว์เลี้ยง
6 สัตว์เลี้ยงเดินวนไปวนมาในเวลากลางคืน เป็นอาการที่พบบ่อยว่าเกิดจากโรคสมองเสื่อมในสัตว์วัยชรา หรืออาจจะบ่งชี้ได้ว่ามีโรคทางสมองอยู่ จนทำให้วงจรการหลับมีปัญหา นอกจากนี้โรคเบาหวาน กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ลำไส้อักเสบ ก็อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ตื่นขึ้นมากลางดึกก็เป็นได้
• ค่าตอบแทนหรือค่าจ้าง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
• ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะมีตารางการทำงานที่ไม่แน่นอนทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่านายจ้างมีธุระหรือต้องการใช้บริการในตอนไหนก็สามารถเรียกใช้บริการได้
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีหน้าที่ดูแลสัตว์ขั้นพื้นฐานทั้งหมด ตัวอย่างเช่น การให้อาหารและน้ำ หรือขนมต่าง ๆ
• หากเป็นสัตว์ เช่น สุนัข หรือแมว พี่เลี้ยงต้องรู้จักการเช็ดตัว แปรงขน และแปรงฟันให้ได้
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถพาสัตว์เลี้ยงไปทำกิจกรรม หรือเดินออกกำลังกายได้
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงต้องสนุกกับการใช้เวลาร่วมกับสัตว์และต้องรู้จักวิธีการทำให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกผ่อนคลาย และไม่เครียดเมื่อต้องอยู่โดยไม่มีเจ้าของ
• พี่เลี้ยงต้องรู้จักวิธีทำความสะอาดเมื่อสัตว์เลี้ยงมีการขับถ่าย
• พี่เลี้ยงต้องรู้จักรักษาความสะอาดของเล่น ที่นอน หรือบริเวณที่สัตว์อยู่ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสามารถช่วยให้ยาสัตว์เลี้ยงได้ หากสัตว์เลี้ยงมีอาการป่วยหรือมีโรคประจำตัว
• หากมีเหตุฉุกเฉินที่สัตว์เลี้ยงป่วยกะทันหัน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงสามารถดูแลและพาไปพบแพทย์ได้ทันที
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงควรมีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้มาก่อนและสามารถตรวจสอบประวัติก่อนทำการว่าจ้างได้
การคมนาคมในเขตบางซื่อ
ปัจจุบันย่านบางซื่อยังคงเป็นพื้นที่ที่ตั้งของหน่วยงานภาครัฐเป็นหลัก และการเติบโตยังคงกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งสถานีกลางบางซื่อ เป็นพื้นที่ต่อขยายมาจากรถไฟฟ้า MRT สถานีบางซื่อในปัจจุบันให้กลายเป็นสถานีรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ หรือเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางคมนาคม
ภาพรวมของการเดินทางในย่านบางซื่อนับว่าดีมาก คือ มีสภาพการจราจรที่คล่องตัวและมีวิธีบริการที่ดีเยี่ยม แม้คนที่ไม่เคยเดินทางเข้าไปในย่านนี้เลย ก็ไม่สับสนกับรูปแบบการเดินทางที่ให้บริการอยู่ โดยการเดินทางในย่านบางซื่อนั้นมีหลากหลายรูปแบบ
รถเมล์ มีป้ายรถประจำทางคอยให้บริการอยู่บนถนนเส้นหลักทุกสาย
รถเมล์สายสำคัญได้แก่
รถเมล์สาย 5 : สถานีขนส่ง (จตุจักร)-จักรวรรดิ์
รถเมล์สาย 16 : หมอชิต 2-สุรวงศ์
รถเมล์สาย 30 : วงกลมสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (ตลิ่งชัน)-นนทบุรี
รถเมล์สาย 50 : พระราม 7-สวนลุมพินี
รถเมล์สาย 65 : วัดปากน้ำ (นนท์)-สนามหลวง
รถเมล์สาย 66 : ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ-สายใต้ใหม่ (ตลิ่งชัน)
รถเมล์สาย 97 : กระทรวงสาธารณสุข-โรงพยาบาลสงฆ์
รถเมล์สาย 543 : บางเขน-ลำลูกกา
รถไฟ ที่มีสถานีรถไฟให้บริการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สถานีบางซื่อเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ชื่อว่า ชุมทางรถไฟบางซื่อ ส่วนใหญ่เป็นรถไฟที่วิ่งไปกลับระหว่างหัวลำโพงกับภาคเหนือ
ถึงแม้จะยังไม่เห็นว่าศูนย์กลางคมนาคมที่สมบูรณ์แบบมีหน้าตาเป็นอย่างไร และจะช่วยเพิ่มศักยภาพของการเดินทางได้มากน้อยขนาดไหน แต่ด้วยองค์ประกอบที่ย่านบางซื่อมีอยู่ตอนนี้ ถือว่าเป็นย่านที่มีจุดแข็งในด้านการเดินทางพอสมควรแล้ว ทุกพื้นที่ในย่านนี้สามารถเข้าถึงได้ง่าย การเชื่อมต่อไปยังย่านใกล้เคียงก็สะดวกสบาย ไม่ว่าจะใช้รถยนต์ส่วนตัว หรือรถโดยสารสาธารณะ
การดูแลสุนัขให้ขนนุ่มฟูดูสวยควรทำอย่างไร
การดูแลน้องหมาให้มีขนนุ่มฟูเป็นเงาสวยบ่งบอกถึงการมีสุขภาพที่ดีของน้องหมา รวมไปถึงการดูแลเอาใจใส่จากคนเลี้ยงที่ดูแลได้เป็นอย่างดีอีกด้วย สำหรับเจ้าของสุนัขมือใหม่หรือคนที่เลี้ยงสุนัขอยู่แล้วแต่ขนของสุนัขไม่นุ่มฟูสวยงาม เรามีเคล็ดไม่ลับที่จะช่วยให้สุนัขมีขนนุ่มฟูและดูสวยงาม 5 ข้อดังต่อไปนี้
1. ดูแลเรื่องอาหารการกิน สุนัขสายพันธุ์ต่างประเทศส่วนใหญ่จะหมดปัญหาในเรื่องนี้เพราะคนเลี้ยงจะฝึกให้กินอาหารเม็ดเป็นหลัก สวนสุนัขพันธุ์ทางตัวเล็กและพันธุ์ใหญ่ที่มีการผสมข้ามหลายสายพันธุ์ ผู้เลี้ยงต้องฝึกให้กินน้องกินอาหารเม็ดควบคู่กับอาหารที่ใช้เลี้ยงเป็นประจำ
2. การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลขนที่มีคุณภาพ การอาบน้ำหรือการเช็ดขนให้สุนัขควรเลือกผลิตภัณฑ์แชมพูสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ และเลือกใช้แชมพูอาบน้ำให้เหมาะสมและตรงกับลักษณะของสุนัขแต่ละสายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์เล็ก พันธุ์ขนสั้น พันธุ์ขนยาว เป็นต้น
3. อาหารเสริมบำรุงขนสำหรับสุนัข อาหารเสริมสำหรับสุนัขจะมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับสุขภาพ ช่วยทำให้ขนและผิวหนังของสุนัขมีสุขภาพดี การเลือกซื้ออาหารเสริมควรเรื่องที่มีสารอาหารประเภทโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพและทำให้ขนสุนัขนุ่มฟูสวยมากยิ่งขึ้น
4. การดูแลทำความสะอาดขน สุนัขพันธุ์ขนสั้นและขนยาวต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดด้วยการอาบน้ำและแปรงขน 1-2 ครั้ง ต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับอาการและความสกปรกของสุนัขด้วย ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นอาจใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวให้สุนัขแทนการอาบน้ำได้ ส่วนการแปรงขนอย่างสม่ำเสมอช่วยป้องกันเส้นขนพันกันและยังกระจายน้ำมันในบริเวณผิวหนังของสุนัขให้กระจายอย่างทั่วถึง
5. การกำจัดเห็บหมัดและตรวจสุขภาพผิวหนังเป็นประจำ เห็บหมัดเป็นปัญหาสุขภาพของสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสุนัข เห็บหมัดที่เกาะกินเลือดอยู่ตามผิวหนังของสุนัขนั้นเป็นสาเหตุทำให้ผิวของสุนัขเป็นแผลและเกิดโรคผิวหนังตามมาในภายหลังซึ่งเป็นผลทำให้ขนของสุนัขหลุดร่วงและไม่สวยงาม
การฝึกสุนัขให้ทำตามคำสั่งมีวิธีอย่างไรบ้าง
<สัตว์เลี้ยงที่เราเลี้ยงดูด้วยความรัก หากได้รับการฝึกฝนให้รับฟังและเข้าใจคำสั่งได้บ้าง จะทำให้สามารถแบ่งเบาภาระของผู้ดูแลในการเลี้ยงดูให้น้อยลงได้ สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ฝึกให้เข้าใจคำสั่งได้ง่ายกว่าสัตว์เลี้ยงประเภทอื่น ๆ แล้วเราจะฝึกสุนัขอย่างไรให้เข้าใจคำสั่ง
การฝึกสุนัขให้เข้าใจคำสั่งนั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการฝึกฝน โดยสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่สามารถฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งของคนเลี้ยงได้ง่ายกว่าสัตว์เลี้ยงประเภทอื่น ๆ หลายคนอาจเข้าใจว่าการฝึกสุนัขทำได้เฉพาะสุนัขสายพันธุ์ใหญ่หรือสายพันธุ์ดุ ๆ เท่านั้น และต้องส่งไปฝึกในโรงเรียนฝึกสุนัขเพียงอย่างเดียว ที่จริงแล้วการฝึกสุนัขทำได้ทุกสายพันธุ์โดยเฉพาะสุนัขเล็ก ๆ ที่เลี้ยงไว้ดูเล่นหรือเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคลายเหงา เราสามารถฝึกได้เองโดยไม่ต้องส่งไปเข้าโรงเรียนฝึกสุนัขให้สิ้นเปลืองเงิน ซึ่งการฝึกนอกจากฝึกด้วยการใช้เสียง และการใช้อุปกรณ์แล้ว ยังมีขั้นตอนการฝึกที่คนเลี้ยงสามารถเรียนรู้และทำได้ในขั้นตอนการฝึกสุนัขให้ทำตามคำสั่งด้วยตัวเอง เช่น หากเราต้องการฝึกให้สุนัขเดินตามขนานไปกับตัวเราทางด้านซ้ายมือ เริ่มจากขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
1. ใส่ปลอกคอแล้วคล้องโซ่ที่คอ จูงสุนัขให้เดินตาม
2. หากสุนัขไม่ทำตาม ให้กระตุกโซ่ที่คล้องคอให้ตึงขึ้นเพื่อรั้งให้ทำตามคำสั่ง
3. เมื่อสุนัขทำตาม ให้ปล่อยโซ่หย่อนลง เพื่อให้สุนัขเดินได้อย่างอิสระ
4. หากผู้เลี้ยงต้องการให้สุนัขหยุดเดิน กระตุกโซ่ให้รัดขึ้นพร้อมออกคำสั่ง “หยุด” เป็นการฝึกให้สุนัขรู้ว่าเรากำลังฝึกเขาอยู่
5. การฝึกมีเพียง 2 ขั้นตอน หากสุนัขไม่ทำตาม เพียงกระตุกโซ่ให้รัดหรือรั้งขึ้น เมื่อทำตามก็ปล่อยโซ่ให้หย่อนลง ทำลักษณะนี้ไปเรื่อย ๆ จะทำให้สุขเคยชินและตามคำสั่งได้เอง
6. นอกจากการฝึกตาม 2 ขั้นตอนดังกล่าว จะทำให้สุนัขเชื่อฟังคำสั่งแล้ว การฝึกควบคู่ไปกับการใช้เสียง เช่น ทำเสียงเข้มเมื่อสุนัขไม่ทำตาม หรือใช้น้ำเสียงอ่อนโยนเมื่อสุนัขเชื่อฟังและทำตามคำสั่ง จะทำให้การฝึกง่ายขึ้น
การเลี้ยงสุนัข นอกจากฝึกให้ทำตามคำสั่งของคนเลี้ยงแล้ว ควรฝึกให้สุนัขรู้อาณาเขตของตัวเองภายในบ้าน กินนอนหรือขับถ่ายอยู่ในบริเวณที่จัดไว้ให้ เพื่อช่วยให้ผู้เลี้ยงดูแลรักษาความสะอาดได้ง่ายขึ้น และควรฝึกสุนัขให้รู้จักการอยู่ในกรงของตัวเอง
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง