วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง บริการรับจ้างพาสุนัขเดิน บริการรับจ้างฝึกสอนสัตว์เลี้ยง บริการอาบน้ำตัดขน บริการดูแลสัตว์เลี้ยงค้างคืน สัตวแพทย์นอกสถานที่บริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชัน ห้วยขวางสัตวแพทย์แผนปัจจุบันมีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ถูกต้องตามกฎหมาย ประสบการณ์ทำงานทั้งทางด้านอายุกรรมและศัลยกรรมนาน 7 ปีมีทักษะพิเศษในด้านสัตวแพทย์ทางเลือกหลายแขนง ทั้งทางด้านการฝังเข็มกายภาพตามหลักสัตวแพทย์ศาสตร์จีน(ผ่านการอบรมจาก Chi University) และสมุนไพรไทย(กำลังศึกษาเภสัชกรรมไทย ร.ร.ภัทรเวชสยาม)สามารถสื่อสารได้ดีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (เคยอยู่อาศัยต่างประเทศ)ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมตัวศึกษาต่อ ยินดีให้ความช่วยเหลือสัตว์ป่วยที่มีข้อจำกัดในการออกนอกสถานที่ ทั้งในด้านการเก็บตัวอย่างเพื่อประกอบการรักษา ฝังไมโครชิพ ดำเนินการด้านสุขภาพต่างๆ การขนย้ายประสานงานการรักษากับสถานพยาบาลสัตว์ที่มีมาตรฐานใกล้เคียง จัดส่งชันสูตรซาก ฌาปนกิจตามหลักศาสนา ไปจนถึงงานจิตอาสาอื่นๆ
แสดงผล 1 ถึง 20 จาก 29 ผลการค้นหา
1 2ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง
1. มีใจรักงานบริการด้านนี้ และมีความรักที่แท้จริงต่อบรรดาสัตว์เลี้ยง ไม่รังเกียจที่จะต้องเก็บกวาดกรงหรือทำความสะอาดบริเวณที่สัตว์เลี้ยงอยู่ บางครั้งเจ้าสัตว์เลี้ยงเหล่านี้อาจเล่นซนจนทำให้บ้านสกปรก ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงจะต้องทำความเข้าใจและหาทางแก้ไข โดยไม่แสดงอารมณ์หงุดหงิดต่อสัตว์เลี้ยงเหล่านั้น
2. มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เนื่องจากบรรดาสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ต้องได้รับการดูแลอย่างเสมอต้นเสมอปลาย พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจำเป็นต้องบริหารเวลาในการดูแลอย่างมืออาชีพ เช่น เวลาให้อาหาร อาบน้ำ ออกกำลังกาย ฯลฯ เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีสุขอนามัยและสภาพจิตใจที่ดี
3. มีความรู้ในเรื่องของสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดี สัตว์เลี้ยงแต่ละชนิดมีวิธีการเลี้ยงดูที่แตกต่างกันไป เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสุนัขและแมว สุนัขค่อนข้างเป็นสัตว์สังคม ชอบอยู่กับผู้คน จึงสามารถพาออกไปเดินเล่นในที่สาธารณะได้ กลับกันแมวค่อนข้างเป็นสัตว์ที่รักสันโดษ หากเจอผู้คนมาก ๆ อาจทำให้ตื่นคนและอาจส่งผลให้เกิดความเครียดตามมา ดังนั้นพี่เลี้ยงสัตว์ที่ดีจำเป็นต้องรู้ว่าสัตว์ชนิดไหนเหมาะกับการเลี้ยงแบบใด
4. มีประสบการณ์ในการดูแลสัตว์เลี้ยง การอยู่กับสัตว์เหล่านี้มาเป็นเวลานานจะทำให้เกิดความเคยชิน และสามารถรับมือกับสถานการณ์คับขันได้เป็นอย่างดี เช่น ยามสัตว์เลี้ยงป่วยและจำเป็นจะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ผู้ดูแลที่มีความรู้ในการปฐมพยาบาลสัตว์สามารถสร้างความไว้วางใจให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยงได้
คุณสมบัติทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมานั้นนับว่าเป็นคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีเลยก็ว่าได้ อย่าลังเลที่จะเลือกใช้บริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงในทันที เพื่อความสบายใจของคุณ ลำพัง
วันนี้เรามีวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ควรมองข้ามมาแชร์ให้ทราบกันค่ะ
1 สัตว์เลี้ยงมีอาการซึมเศร้า ไม่ร่าเริง นอนมากกว่าปกติ ไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่อ้อนเหมือนเคย
2 พฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้ง ๆ ที่ปกติกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น อากาศร้อนเกินไป เปลี่ยนอาหารใหม่ ที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงกินน้อยลง
3 พบความผิดปกติ หรืออาการอื่นๆ เช่น มีขี้ตาเยอะ อาเจียน ตาแดง มีน้ำมูก มีกลิ่นตัวแรง เดินผิดปกติ ถ่ายเหลว
4 กินน้ำมากกว่าปกติ ก็เป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเราป่วยได้เช่นกัน
5 สัตว์เลี้ยงอาจมีอาการ นอนไม่หลับ ตาเหล่ ตาเอียง ไม่มีแรงเดิน ซึ่งอาการเหล่านี้อาจจะเป็นสัญญาณของความผิดปกติทางระบบประสาทในสัตว์เลี้ยง
6 สัตว์เลี้ยงเดินวนไปวนมาในเวลากลางคืน เป็นอาการที่พบบ่อยว่าเกิดจากโรคสมองเสื่อมในสัตว์วัยชรา หรืออาจจะบ่งชี้ได้ว่ามีโรคทางสมองอยู่ จนทำให้วงจรการหลับมีปัญหา นอกจากนี้โรคเบาหวาน กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ลำไส้อักเสบ ก็อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ตื่นขึ้นมากลางดึกก็เป็นได้
• ค่าตอบแทนหรือค่าจ้าง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
• ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะมีตารางการทำงานที่ไม่แน่นอนทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่านายจ้างมีธุระหรือต้องการใช้บริการในตอนไหนก็สามารถเรียกใช้บริการได้
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีหน้าที่ดูแลสัตว์ขั้นพื้นฐานทั้งหมด ตัวอย่างเช่น การให้อาหารและน้ำ หรือขนมต่าง ๆ
• หากเป็นสัตว์ เช่น สุนัข หรือแมว พี่เลี้ยงต้องรู้จักการเช็ดตัว แปรงขน และแปรงฟันให้ได้
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถพาสัตว์เลี้ยงไปทำกิจกรรม หรือเดินออกกำลังกายได้
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงต้องสนุกกับการใช้เวลาร่วมกับสัตว์และต้องรู้จักวิธีการทำให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกผ่อนคลาย และไม่เครียดเมื่อต้องอยู่โดยไม่มีเจ้าของ
• พี่เลี้ยงต้องรู้จักวิธีทำความสะอาดเมื่อสัตว์เลี้ยงมีการขับถ่าย
• พี่เลี้ยงต้องรู้จักรักษาความสะอาดของเล่น ที่นอน หรือบริเวณที่สัตว์อยู่ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสามารถช่วยให้ยาสัตว์เลี้ยงได้ หากสัตว์เลี้ยงมีอาการป่วยหรือมีโรคประจำตัว
• หากมีเหตุฉุกเฉินที่สัตว์เลี้ยงป่วยกะทันหัน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงสามารถดูแลและพาไปพบแพทย์ได้ทันที
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงควรมีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้มาก่อนและสามารถตรวจสอบประวัติก่อนทำการว่าจ้างได้
ความต้องการพื้นฐานของสัตว์เลี้ยงที่ผู้ดูแลควรรู้
มันไม่ง่ายเลยสำหรับคนที่ต้องการมีสัตว์เลี้ยง เพราะคนทุกคนไม่ได้เหมาะที่จะเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง การมีสัตว์เลี้ยงต้องมีความรับผิดชอบ ทั้งผู้ดูแลและเจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องเข้าใจก่อนว่าสัตว์เลี้ยงแต่ละประเภทย่อมมีความต้องการพื้นฐานที่แตกต่างกันไป ผู้ดูแลและเจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องสามารถดูแลความต้องการขั้นพื้นฐานของสัตว์เลี้ยงได้ และนี่คือความต้องการพื้นฐานของสัตว์เลี้ยงที่ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงหรือเจ้าของสัตว์เลี้ยงควรพิจารณา
1. อาหาร
สัตว์เลี้ยงต้องการอาหารเหมือนมนุษย์เพราะมันให้พลังงาน อาหารมีความสำคัญสำหรับสัตว์เลี้ยงทุกชนิด แต่ควรคำนึงด้วยสัตว์เลี้ยงของคุณได้รับอาหารที่เหมาะสมและในปริมาณที่เพียงพอ จำไว้ว่าการให้อาหารน้อยเกินไปหรือมากเกินไปเป็นการปฏิบัติที่ผิด เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีปัญหาด้านสุขภาพมากขึ้น อย่าลืมว่าต้องให้อาหารสดทุกวันและเพื่อให้ชามอาหารสะอาดอยู่เสมอ ไม่ก่อให้เกิดโรคและปัญหาสุขภาพ นอกจากนี้ต้องรู้ว่าอะไรไม่ดีสำหรับสัตว์เลี้ยง อาหารบางชนิดที่ดูเป็นอาหารปกติสำหรับคนแต่อาจทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ การขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์เกี่ยวกับอาหารที่จะให้สัตว์เลี้ยงเป็นวิธีที่ปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยงที่สุด
2. น้ำ
นอกจากอาหารสัตว์เลี้ยงต้องการน้ำดื่มด้วย พวกเขาสามารถรอดชีวิตได้หากต้องอดอาหารหนึ่งวัน แต่การอดน้ำอาจสร้างผลเสียอย่างร้ายแรงต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง ให้สัตว์เลี้ยงของคุณได้ดื่มน้ำจากภาชนะที่สะอาดและควรเปลี่ยนน้ำในภาชนะทุกวัน
3. ที่พักอาศัย
ที่พักอาศัยก็เป็นความต้องการขั้นพื้นฐานเช่นกัน อย่าปล่อยให้สัตว์เลี้ยงของคุณนอนที่ใดก็ได้ภายใต้ความร้อนที่แผดเผาของดวงอาทิตย์หรือความหนาวเย็นในตอนกลางคืน ในฐานะสัตว์เลี้ยงพวกเขามีสิทธิ์อยู่ในสถานที่ที่สะดวกสบายปลอดภัยและปกป้องพวกเขาจากอันตรายใด ๆ สัตว์เลี้ยงต้องรู้สึกปลอดภัยเหมือนมนุษย์ สัตว์เลี้ยงของคุณอาจอาศัยอยู่กลางแจ้งหรือในร่มแล้วแต่ประเภทของสัตว์เลี้ยง
4. ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายไม่ได้จำเป็นเฉพาะเจ้าของสัตว์เลี้ยงเท่านั้น สัตว์เลี้ยงของคุณก็ต้องการเช่นกัน สัตว์เลี้ยงจำเป็นต้องออกกำลังกายเพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรงและตื่นตัว เช่นเดียวกับมนุษย์
สารอาหารจำเป็นเสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ผู้ดูแลควรรู้
แมวต้องการสารอาหารที่แตกต่างจากสุนัขหรือไม่ ส่วนผสมในอาหารของสัตว์เลี้ยงต้องมีอะไรบ้าง เจ้าของสัตว์เลี้ยงหรือผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงรู้หรือไม่ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณจำเป็นต้องได้รับวิตามินเสริมหรือไม่ คุณอาจมีคำถามมากมายเกี่ยวกับการให้อาหารสัตว์เลี้ยงอย่างถูกต้อง วิธีที่ดีที่สุดในการหาคำตอบให้กับคำถามเหล่านี้คือการเริ่มเรียนรู้พื้นฐานของโภชนาการสัตว์เลี้ยง
1. สัตว์เลี้ยงทุกตัวต้องการโปรตีนจากอาหาร โปรตีนเกิดจากกรดอะมิโน ทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานที่ช่วยให้ร่างกายสัตว์เลี้ยงของคุณดำรงชีวิตได้ตามปกติ จากกรดอะมิโน 20 ชนิดหรือมากกว่านั้น มี 10 ชนิดที่จำเป็นสำหรับสุนัข ในขณะที่ 11 ชนิดจำเป็นสำหรับแมว เพราะสัตว์เลี้ยงไม่สามารถผลิตกรดอะมิโนได้ในร่างกายของตัวเองหรือไม่สามารถสร้างได้เพียงพอ กรดอะมิโนที่จำเป็นคือกรดอะมิโนที่จำเป็นต้องได้รับในอาหาร โปรตีนในอาหารมาจากส่วนผสมต่างๆ เช่น เนื้อสัตว์ ปลา และสัตว์ปีก
2. ไขมันเป็นแหล่งพลังงานที่เข้มข้นที่สุด ไขมันในอาหารมักมาจากไขมันสัตว์และน้ำมันจากเมล็ดพืช และจำเป็นสำหรับโครงสร้างร่างกายและการทำงานของเซลล์ ไขมันให้กรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายผลิตได้ไม่เพียงพอ และไขมันยังช่วยเพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัสของอาหาร ซึ่งช่วยกระตุ้นให้สัตว์เลี้ยงที่ป่วยอยากอาหาร แม้ว่าในสุนัขและแมวจะไม่มีความเสี่ยงเรื่องไขมันอุดตันหลอดเลือดแดงแบบคน แต่การบริโภคไขมันมากเกินไปอาจส่งผลเสียได้ ไม่ควรให้สัตว์เลี้ยงกินอาหารที่มีไขมันสูง เพราะการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงอย่างกะทันหันอาจทำให้ตับอ่อนอักเสบได้ ผลเสียอีกอย่างของการให้สัตว์เลี้ยงกินอาหารที่มีไขมันสูง คือโรคอ้วน
3. คาร์โบไฮเดรตช่วยส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหาร คาร์โบไฮเดรตรวมถึงแป้ง น้ำตาล และไฟเบอร์จากแหล่งที่รู้จักกันดี เช่น มันเทศ มันฝรั่ง และถั่ว นอกจากการให้พลังงานแล้ว คาร์โบไฮเดรต เช่น ไฟเบอร์ ยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างถูกต้อง ใยอาหารบางชนิดถูกเพิ่มเข้าไปในอาหารเพื่อช่วยให้สัตว์เลี้ยงที่มีน้ำหนักเกินรู้สึกอิ่ม สัตวแพทย์อาจแนะนำเส้นใยเสริมสำหรับสัตว์เลี้ยงของคุณเพื่อช่วยรักษาระบบขับถ่ายให้สมบูรณ์
4. กรดอะมิโน 2 อย่างที่สำคัญสำหรับแมวคือทอรีนและอาร์จินีน แมวที่ขาดทอรีนอาจทำให้ตาบอด หัวใจล้มเหลว หูหนวก และพิการแต่กำเนิด หากแมวไม่ได้รับอาร์จินีนที่เพียงพอ แมวจะมีปัญหาในการขจัดแอมโมเนียออกจากร่างกาย ส่งผลให้น้ำลายไหล อาเจียน ชัก และถึงกับเสียชีวิต เนื่องจากพืชไม่สามารถให้กรดอะมิโนที่จำเป็นสำหรับแมวได้เพียงพอ แมวจะไม่สามารถอยู่รอดได้ด้วยอาหารมังสวิรัติหากไม่มีการเสริมกรดอะมิโนเพิ่มเติม อันที่จริงอาหารแมวสำหรับผู้ใหญ่ต้องมีโปรตีนอย่างน้อย 26 เปอร์เซ็นต์ (ในทางตรงกันข้าม สุนัขต้องการโปรตีน 18 เปอร์เซ็นต์) และความต้องการกรดอะมิโนบางอย่างสำหรับแมวนั้นเป็นสองเท่าของความต้องการสำหรับสุนัข นี่คือเหตุผลที่ไม่ควรให้แมวกินอาหารสุนัข
5. แมวมักจะแพ้แลคโตส นมวัวอาจเป็นอาหารที่ย่อยยากสำหรับลูกแมวส่วนใหญ่ โดยทั่วไปแล้วแมวไม่มีแลคเตสซึ่งเป็นเอ็นไซม์ที่ช่วยให้ย่อยนมในปริมาณที่เพียงพอ แม้ว่าแมวบางตัวอาจจะกินนมได้ แต่แมวบางตัวอาจอาเจียนหรือท้องเสียเมื่อกินนม
6. โปรตีนเป็นสาเหตุของการแพ้อาหารส่วนใหญ่การศึกษาในปี 2559 โดยการวิจัยทางสัตวแพทย์ พบว่า 1- 2% ของอาการคันในสัตว์เลี้ยงไม่ได้มาจากเห็บหมัดหรือแพ้สภาพแวดล้อม แต่เกิดจากการแพ้อาหารมากกว่า
7. สัตว์เลี้ยงมักไม่ต้องการวิตามินเสริม หากฉลากอาหารสัตว์เลี้ยงระบุว่าอาหารนั้นจัดทำขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านโภชนาการ สำหรับช่วงอายุของสัตว์เลี้ยงของคุณ หรือว่ามันได้ผ่านการทดลองให้อาหารสัตว์แล้ว การควบคุมอาหารควรครบถ้วนและสมดุลกับสารอาหารทั้งหมด วิตามินและแร่ธาตุที่สัตว์เลี้ยงของคุณต้องการ จึงไม่จำเป็นที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงหรือผู้ดูแลสัตว์ต้องให้วิตามินเสริมแก่สัตว์เลี้ยงอีก
ข้อมูลทั่วไป
เมื่อเอ่ยชื่อคำนี้ว่าเชื่อว่ากว่า 90% ของคนที่ได้ยินชื่อนี้จะนึกถึงแหล่งชุมชนแออัด ก่อนที่จะคิดถึงท่าเรือที่เป็นท่าเรือหลักของประเทศ เขตคลองเตย เป็นเขตในใจกลางกรุงเทพฯ ที่รู้จักกันมานานสำหรับสลัม ล้อมรอบด้วยแม่น้ำเจ้าพระยาและมีท่าเรือที่สำคัญ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของตลาดหลักอย่างตลาดคลองเตยอีกด้วย ด้วยกันนั้นมีพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ (ตามเข็มนาฬิกาจากทิศเหนือ): เขตวัฒนา เขตพระโขนง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ (ข้ามเจ้าพระยา) เขตยานนาวา เขตสาทร และเขตปทุมวัน เขตคลองเตยพื้นที่มีประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปถึง 80 ปีที่แล้ว คลองเตยเป็นท่าเรือไปยังเมืองต้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น ปากน้ำพระประแดง (ตรงข้ามกับอำเภอพระประแดงในปัจจุบัน) ที่สร้างขึ้นในพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก คลองถนนตรงเป็นคลองและเป็นถนนคู่ขนานที่สร้างโดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประมาณ พ.ศ. 2500 ต่อมาส่วนต่างๆ ของคลองกลายเป็นที่รู้จักในชื่อคลองเตยและคลองหัวลำโพง คลองเตย หมายถึง 'คลองใบเตย' เนื่องจากพืชเติบโตตามริมฝั่งด้านใต้ของคลอง ถนนพระราม 4 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นถนนพระราม 4 โดยพระเจ้าวชิราวุธในปี 2462 ในปี พ.ศ. 2490 คลองเตยส่วนใหญ่ถูกเติมเต็มเพื่อขยายผิวถนนพระราม 4 พื้นที่นี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอพระโขนง แต่เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 ได้แยกตัวเป็นอำเภอคลองเตยใหม่ เดิมทีคลองเตยประกอบด้วย 6 ตำบล สามตำบลซึ่งต่อมาได้ก่อตั้งอำเภอวัฒนาแห่งใหม่ (ประกาศเมื่อ 14 ตุลาคม 2540 มีผล 6 มีนาคม 2541) การตั้งถิ่นฐานนอกระบบสัมโนประชากรในพื้นที่ชุมชนแออัดได้รับการสำรวจในปี พ.ศ. 2514 และเป็นหนึ่งในสลัมที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ในปี 2549 คาดว่ามีผู้คนอาศัยอยู่ที่นั่นระหว่าง 80,000 ถึง 100,000 คน ท่าเรือคลองเตย หรือที่รู้จักในชื่อ ท่าเรือกรุงเทพ เดิมเป็นท่าเรือหลักเพียงแห่งเดียวของประเทศไทยในการขนส่งสินค้าทางทะเล การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2481 และแล้วเสร็จหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ท่าเรืออยู่บนแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอ่าวไทย เนื่องจากความจุที่จำกัดและปัญหาการจราจรที่เกิดจากรถบรรทุกกึ่งพ่วง การดำเนินงานหลายแห่งได้ย้ายไปที่ท่าเรือแหลมฉบังในจังหวัดชลบุรีตั้งแต่เปิดทำการในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2524 เขตคลองเตยถือเป็นเขตเศรษฐกิจใหม่และการพัฒนาตามแนววงแหวนอุตสาหกรรมของกรุงเทพมหานคร
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง