ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน พญาไท, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน พญาไท, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Lalitta  Suttama
Lalitta Suttama
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

รักน้อง ดูแลเอาใจใส่ทุกรายละเอียด

แสดงเพิ่มเติม
พรภสร ขุนด่าน
พรภสร ขุนด่าน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

รักสัตว์ ซื่อสัตย์ มีวินัย ไว้ใจได้ รักษาคำพูด

แสดงเพิ่มเติม
ณัฐวุฒิ  ฉัตรมณี
ณัฐวุฒิ ฉัตรมณี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

เป็นคนใจเย็นรักสัตว์ เลี้ยงสัตว์มาตั้งเด็กมีความเข้า

ธรรมชาติของสัตว์ ดูแลได้เป็นอย่างดีคับ

แสดงเพิ่มเติม
ภาษร ภูผา
ภาษร ภูผา
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

สัตวแพทย์แผนปัจจุบันมีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ถูกต้องตามกฎหมาย ประสบการณ์ทำงานทั้งทางด้านอายุกรรมและศัลยกรรมนาน 7 ปีมีทักษะพิเศษในด้านสัตวแพทย์ทางเลือกหลายแขนง ทั้งทางด้านการฝังเข็มกายภาพตามหลักสัตวแพทย์ศาสตร์จีน(ผ่านการอบรมจาก Chi University) และสมุนไพรไทย(กำลังศึกษาเภสัชกรรมไทย ร.ร.ภัทรเวชสยาม)สามารถสื่อสารได้ดีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (เคยอยู่อาศัยต่างประเทศ)ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมตัวศึกษาต่อ ยินดีให้ความช่วยเหลือสัตว์ป่วยที่มีข้อจำกัดในการออกนอกสถานที่ ทั้งในด้านการเก็บตัวอย่างเพื่อประกอบการรักษา ฝังไมโครชิพ ดำเนินการด้านสุขภาพต่างๆ การขนย้ายประสานงานการรักษากับสถานพยาบาลสัตว์ที่มีมาตรฐานใกล้เคียง จัดส่งชันสูตรซาก ฌาปนกิจตามหลักศาสนา ไปจนถึงงานจิตอาสาอื่นๆ

แสดงเพิ่มเติม
รุจิระหงส์ มังคละวงศ์
รุจิระหงส์ มังคละวงศ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

รักสัตว์ ใจดี ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
ปาลมิกา อ๊ะนา
ปาลมิกา อ๊ะนา
Saijai อายุ 30 ปี

เลี้ยงสัตว์มาหลายปีมีประสบการณ์ด้วยตนเองสำหรับการเลี้ยงสัตว์ ใจเย็น รักสัตว์ อัตราค่าจ้างตามผู้ว่าจ้างจะจ่าย

แสดงเพิ่มเติม
ศศิกานต์ ดอกพรม
ศศิกานต์ ดอกพรม
Saijai อายุ 22 ปี

เป็นคนที่ใจเย็น และชอบอยู่กับสัตว์เลี้ยงต่างๆ

แสดงเพิ่มเติม
มาเรียม พรั่งเกิด
มาเรียม พรั่งเกิด
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 45 ปี

มีประสบการณ์ทำงานแม่บ้าน ดูแลสัตว์เลี้ยง ทำอาหารง่าย ๆ ได้ เช่น ข้าวผัด อาหารตามสั่ง รักสัตว์หมาแมว เคยเข้ารับการอบรมกับ life university เกี่ยวกับจิตวิทยา และการเป็นโค้ช NLP มีทัศนคติเชิงบวกสูง มีมารยาท นวดได้มีใบอนุญาตถูกต้องค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Rapatr Matinrat
Rapatr Matinrat
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

สวัสดีค่ะ ชื่อแอมมี่นะคะ เป็นคนรักสัตว์ (มีประสบการณ์ในการดูแลแมว และสุนัข) มีคุณสมบัติพื้นฐานครบถ้วน เช่น ปฏิบัติต่อสัตว์เลี้ยงด้วยความเอาใจใส่ ความเมตตา มีความอดทน มีความน่าเชื่อถือ มีความแข็งแรงและความแข็งแกร่ง สามารถรับมือกับสัตว์เลี้ยงได้หากจำเป็น และมีความรู้ในการดูแลสัตว์เลี้ยง เข้าใจพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงแต่ละประเภท มีความขยันและรับผิดชอบสูงค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ณัฐกฤตา เทพสุภา
ณัฐกฤตา เทพสุภา
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ทำงานอยู่ที่ ร้าน little zoo คาเฟ่ค่ะ อยากได้รายได้เสริมเนื่องจากช่วงนี้โควิทร้านถูกปิด จึงขาดรายได้ ดูแลสัตว์ได้ทุกชนิด ทุกประเภทนะคะ

แสดงเพิ่มเติม

ที่บ้านเลี้ยงแมวและหมาอยู่ค่ะ รักสัตว์และชอบเล่รกับสัตว์ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Chanatda  Auiyuanphok
Chanatda Auiyuanphok
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นคนรักสัตว์ ชอบอยู่กับสัตว์เลี้ยง สามารถดูแลลูกแมวหรือลูกสุนัขแรกเกิดได้

แสดงเพิ่มเติม
ดายานา มนูญ
ดายานา มนูญ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 21 ปี
ธีรวุฒิ หูประโคน
ธีรวุฒิ หูประโคน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

รักสัตว์ พาเดินเล่นได้ ดูแลสัตว์เลี้ยงค้างคืน

แสดงเพิ่มเติม

เป็นคนรักสัตว์ ปัจจุบันเลี้ยงน้องแมวอยู่ 4 ตัวค่ะ สามารถเข้ากับสัตว์เลี้ยงได้เป็นอย่างดี สังเกตุความผิดปกติของสัตว์เลี้ยงได้ดี

แสดงเพิ่มเติม
ภิรมยา หลวงไชย์
ภิรมยา หลวงไชย์
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

สวัสดีค่ะ อยากหารายได้เสริมหลังจากเลิกงาน20:00 จากงานประจำค่ะ ตอนนี้ทำงานเป็นผู้ช่วยสัตว์เเพทย์ โรงพยาบาลสัตว์ อายุงาน3-4 ปี รักสัตว์มากค่ะ ไม่รังเกียจอึ ฉี่ ป้อนยา ป้อนอาหาร เฝ้าสังเกตุอาการสัตว์ป่วย เเละอื่นๆ ( ยกเว้นตัวที่ดุร้าย ) ขอบคุณค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

สุภาพ ใจเย็น มีความสุขกับการดูแลสัตว์เลี้ยง เคยเลี้ยงสุนัข 3-4 ปี และรับดูแลสัตว์เลี้ยงของคนอื่น เช่น แมว หนูแฮมสเตอร์ เม่นแคระ

แสดงเพิ่มเติม
อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ
อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ

รักสัตว์ ใจเย็น มีความอดทนสูง

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
3 ปีที่แล้ว
ชอบมากเลย บริการคือดีมาก ดูแลน้องหมาเราดี ปลื้มสุด
Saijai
อรอนงค์ วาร์ด
3 ปีที่แล้ว
หมดปัญหาว่าจะเอาหมาไปฝากที่ไหนเวลาต้องไปต่างจังหวัด บริการดี รายละเอียดครบ ชอบ ๆ
Saijai
เนตรศิกา วัฒนาไกร
3 ปีที่แล้ว
เว็บใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ใช้ครั้งแรกชอบเลย ได้พี่เลี้ยงมาดูแลน้องแมวให้ถึงบ้าน สบายใจทาสแมวอย่างเราไปเลยค่ะ
Saijai
ณัฐฐา แก้วดี
3 ปีที่แล้ว
โชคดีที่ได้มาเจอเว็บไซต์ของใส่ใจเพราะมีบริการคนดูแลสัตว์เลี้ยงหลากหลายรูปแบบ ประทับใจมาก ๆ ครับ นอกจากจะมีพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแล้ว ยังมีบริการฝึกสอนสัตว์เลี้ยง อาบน้ำตัดขน อีกทั้งยังมีบริการสัตว์แพทย์นอกสถานที่ บอกได้เลยว่าครบวงจรจริง ๆ
Saijai
ศราวุติ ชัยเกตุ
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ความสำคัญของการมีสัตว์เลี้ยง
การมีสัตว์เลี้ยงเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในงานอดิเรกของหลาย ๆ คนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ซึ่งสัตว์เลี้ยงที่คนนิยมเลี้ยงกันก็มีมากมายหลายชนิด แน่นอนว่านั่นหมายถึงการที่เราต้องใช้เวลาไปกับการดูแลเอาใจใส่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นทั้งการดูแลเรื่องอาหารการกิน ที่อยู่อาศัย สุขภาพ รวมไปถึงสภาพจิตใจของสัตว์เหล่านี้ด้วย

การดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงในทุก ๆ ด้านที่กล่าวมาข้างต้นนั้นนับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะมันส่งผลดีให้กับทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยง ในมุมมองของเจ้าของ การได้ให้อาหาร หรือการเล่นกับสัตว์เลี้ยงนั้นเปรียบเสมือนความสุขอย่างหนึ่ง ในวันที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน หากได้กลับมาเจอสัตว์เลี้ยงนั่งรออยู่ที่หน้าประตู เพียงเท่านี้ก็ช่วยคลายความเหนื่อยไปได้เยอะเลยทีเดียว กลับกันในมุมของสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างครบถ้วนนั้นจะส่งผลดีให้กับพวกเขาเช่นกัน สัตว์เลี้ยงสัมผัสได้ถึงความรักที่ได้รับจากเจ้าของ ในขณะเดียวกันพวกเขาจะมอบความรักกลับคืนให้เจ้าของเช่นเดียวกัน

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการมีสัตว์เลี้ยงในบ้านคือ สามารถเยียวยาสภาพจิตใจของผู้เลี้ยงได้ ซึ่งการได้ใช้เวลาทำกิจกรรมดี ๆ ร่วมกันระหว่างคนและสัตว์เลี้ยงช่วยลดอาการตึงเครียดและภาวะซึมเศร้าได้ ทั้งยังช่วยให้ทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงมีสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย เช่นการพาสัตว์เลี้ยงออกไปเดินเล่นทำให้ผู้เลี้ยงเองได้ออกกำลังกายไปด้วย

เห็นได้ชัดว่าการมีสัตว์เลี้ยงนั้นมีประโยชน์ต่อคนมากมาย ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะฉะนั้น ก่อนเลี้ยงต้องมั่นใจว่าคุณจะมีความรับผิดชอบมากพอที่จะดูแลเขา เพราะสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนมนุษย์เช่นกัน หากคุณอยากมีสัตว์เลี้ยงไว้ที่บ้าน แต่ไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของคุณ การใช้บริการรับดูแลสัตว์เลี้ยงก็นับว่าเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว
คุณสมบัติของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีอะไรบ้าง
หากคุณกำลังมองหาคนช่วยดูแลบรรดาสัตว์เลี้ยงแสนรักที่บ้านในยามที่คุณไม่มีเวลา สิ่งเหล่านี้คือลักษณะและคุณสมบัติสำคัญของผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี

1. มีใจรักงานบริการด้านนี้ และมีความรักที่แท้จริงต่อบรรดาสัตว์เลี้ยง ไม่รังเกียจที่จะต้องเก็บกวาดกรงหรือทำความสะอาดบริเวณที่สัตว์เลี้ยงอยู่ บางครั้งเจ้าสัตว์เลี้ยงเหล่านี้อาจเล่นซนจนทำให้บ้านสกปรก ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงจะต้องทำความเข้าใจและหาทางแก้ไข โดยไม่แสดงอารมณ์หงุดหงิดต่อสัตว์เลี้ยงเหล่านั้น
2. มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เนื่องจากบรรดาสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ต้องได้รับการดูแลอย่างเสมอต้นเสมอปลาย พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจำเป็นต้องบริหารเวลาในการดูแลอย่างมืออาชีพ เช่น เวลาให้อาหาร อาบน้ำ ออกกำลังกาย ฯลฯ เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีสุขอนามัยและสภาพจิตใจที่ดี
3. มีความรู้ในเรื่องของสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดี สัตว์เลี้ยงแต่ละชนิดมีวิธีการเลี้ยงดูที่แตกต่างกันไป เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสุนัขและแมว สุนัขค่อนข้างเป็นสัตว์สังคม ชอบอยู่กับผู้คน จึงสามารถพาออกไปเดินเล่นในที่สาธารณะได้ กลับกันแมวค่อนข้างเป็นสัตว์ที่รักสันโดษ หากเจอผู้คนมาก ๆ อาจทำให้ตื่นคนและอาจส่งผลให้เกิดความเครียดตามมา ดังนั้นพี่เลี้ยงสัตว์ที่ดีจำเป็นต้องรู้ว่าสัตว์ชนิดไหนเหมาะกับการเลี้ยงแบบใด
4. มีประสบการณ์ในการดูแลสัตว์เลี้ยง การอยู่กับสัตว์เหล่านี้มาเป็นเวลานานจะทำให้เกิดความเคยชิน และสามารถรับมือกับสถานการณ์คับขันได้เป็นอย่างดี เช่น ยามสัตว์เลี้ยงป่วยและจำเป็นจะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ผู้ดูแลที่มีความรู้ในการปฐมพยาบาลสัตว์สามารถสร้างความไว้วางใจให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยงได้

คุณสมบัติทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมานั้นนับว่าเป็นคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีเลยก็ว่าได้ อย่าลังเลที่จะเลือกใช้บริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงในทันที เพื่อความสบายใจของคุณ ลำพัง
สัญญานที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยมีอะไรบ้าง
สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยง การสังเกตพฤติกรรมในแต่ละวันของสัตว์เป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะหลายๆครั้งกว่าที่เราจะรู้ว่าสัตว์เลี้ยงที่เรารักมีอาการป่วยก็ต่อเมื่อพวกเขามีอาการหนักแล้ว ใส่ใจอยากแบ่งปันความรู้กันและวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เหมือนเป็นสัญญาณอันตรายที่เราไม่ควรมองข้าม เพื่อให้เราได้สังเกตและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่เรารักได้ทันเวลา

1. พบอาการป่วย หรือพบความผิดปกติอื่นๆที่สังเกตได้ เช่น มีขี้ตาเกรอะกรัง ตาแดง มีน้ำมูก หายใจติดขัด ขนร่วงเป็นหย่อมๆ มีสะเก็ดหรือมีกลิ่นตัวแรง เดินกะเผลก อาเจียน ถ่ายเหลว น้ำหนักลดลงในเวลาอันรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งกินน้ำมากกว่าปกติ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเรากำลังป่วยก็เป็นได้
2. มีพฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุด หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้งๆ ที่นิสัยเดิมกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจสุขภาพ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอกอื่นๆ เช่น วัยที่เปลี่ยนไป เปลี่ยนอาหารใหม่ อากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล หรือมีสิ่งมากวนใจที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงตัวน้อยกินได้ลดลง
3. มีอาการซึมไม่ร่าเริง นอนมากผิดปกติ เวลาเจ้าของเรียกจะไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่มาหาเหมือนเคย เช่นสุนัขมีอาการ หาวบ่อย หากสุนัขดูอ่อนเพลีย ง่วง อยากพักผ่อน เกิดอาการหาวบ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าน้องหมากำลังเครียด เบื่อ หรือกระวนกระวายใจ แต่หากเป็นสัตว์เลี้ยงที่อายุมากแล้ว อาจจะร่าเริงน้อยลง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้อาการซึมอาจเกิดมาจากอาการเหงา ซึมเศร้า ซึ่งนับเป็นอาการป่วยทางใจ อันอาจเป็นผลมาจากเจ้าของไม่ค่อยมีเวลาให้ก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อเรามีสัตว์เลี้ยงแล้ว การมีเวลาการเอาใจใส่ การได้สัมผัสก็ช่วยป้องกันและรักษาอาการป่วยทางใจได้
ข้อตกลงสำคัญที่ผู้จ้างควรตกลงกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
การใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงในยามที่คุณไม่ว่างนั้นจะช่วยให้คุณคลายความกังวลเรื่องความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณได้ แต่ก่อนจะทำการจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ต้องมาทำหน้าที่ดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ที่คุณกำหนด ซึ่งข้อตกลงสำคัญมีดังนี้

1. ข้อตกลงเรื่องค่าตอบแทน ในส่วนของค่าตอบแทนในการว่าจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
2. ข้อตกลงเรื่องช่วงเวลาในการทำงาน นายจ้างควรระบุเวลาที่ชัดเจนให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้ หรือบางครั้งในกรณีที่ต้องยืดหยุ่นเวลาในการทำงานเนื่องจากเหตุจำเป็น เพื่อให้เงื่อนไขได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่าย
3. แจกแจงหน้าที่ให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างชัดเจนก่อนเริ่มงาน นายจ้างจำเป็นต้องอธิบายหน้าที่ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจนว่าต้องทำอะไรบ้าง เช่น ให้อาหารและอาบน้ำสัตว์เลี้ยงเวลาไหน หรือควรพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นออกกำลังกายเวลาไหนบ้าง เป็นต้น
4. สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของบุคคลที่จะทำการว่าจ้างอีกครั้งให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผ่านการฝึกอบรมด้านการดูแลสัตว์เลี้ยงมาโดยเฉพาะจะยิ่งเพิ่มความสบายใจให้กับนายจ้างมากยิ่งขึ้น
5. อธิบายข้อตกลงสำคัญหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นกับสัตว์เลี้ยงในระหว่างที่อยู่กับพี่เลี้ยง ควรอธิบายการแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้อย่างชัดเจน
6. ลองพาพี่เลี้ยงไปพบกับสัตว์เลี้ยงคุณก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อสร้างความคุ้นเคยล่วงหน้าให้กับสัตว์เลี้ยงและไม่ให้พวกเขารู้สึกระแวงเมื่อต้องอยู่กับคนแปลกหน้า

หลังจากทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องคอยกังวลเกี่ยวกับการจ้างบริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอีกต่อไป

เขตพญาไท..ไม่ไกลแค่กลางเมือง

เขตพญาไท เป็นเหมือนรอยต่อของกรุงเทพชั้นใน กับชั้นนอกยังคงเป็นที่ตั้งของ ศูนย์ราชการ ถึง 2 กระทรวงหลัก อีกทั้งกรมทหาร สถานศึกษา นอกจากนี้ถ้าหากพูดถึงย่านพญาไท อีกภาพที่คนส่วนใหญ่คิดถึงคือ ย่านของแหล่งสถาบันการศึกษา สถานที่กวดวิชา ที่มีชื่อเสียงมากมาย เนื่องด้วย มีเส้นทางการเดินทางที่สะดวกสบายถือเป็นศูนย์รวมของระบบขนส่งมวลชนที่สำคัญอีกจุดหนึ่งของกรุงเทพมหานครการที่มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น ประมาณปี พ.ศ. 2548 ที่กลุ่มสถาบันกวดวิชาชื่อดังเริ่มย้ายจากย่านสยามสแควร์มายังย่านพญาไท ทำให้พญาไทมีความเจริญไม่แพ้ สยาม หรือ สีลม ในปัจจุบันย่าน ‘พญาไท’ มีอาคารสำนักงานเกิดใหม่และกำลังจะมี มากขึ้นกว่าในปีที่ผ่านๆ มา ภาพของย่านพญาไทเด่นชัดในความเป็นย่านอยู่อาศัยชั้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนของคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ จับกลุ่มทั้งคนไทยกำลังซื้อสูง ต่างชาติ และกลุ่มนักลงทุนซื้อเพื่อปล่อยให้ผู้มีกำลังซื้อได้เช่า

เชื่อหรือไม่ว่า พญาไท ปัจจุบันเป็นพื้นที่ที่มีความโดดเด่นด้านการแพทย์และเศรษฐกิจสุขภาพ นับได้ว่าเป็นพื้นที่หนาแน่นด้านกิจกรรมการแพทย์สูงสุดของกรุงเทพมหานคร มีพื้นที่ 9.34 ตารางกิโลเมตร ทิศเหนือจดถนนประดิพัทธ์ ทิศตะวันออกจดถนนวิภาวดี ถนนดินแดงและถนนราชปรารภ ทิศตะวันตกจดถนนพระรามหก ส่วนทิศใต้จดถนนเพชรบุรี ชุมชนและเขตพญาไท 16 ชุมชน ประชากรรวม 67,388 คน สถานพยาบาลและหน่วยบริการการแพทย์รวม 74 แห่ง แบ่งเป็น ศูนย์การแพทย์ 6 แห่ง โรงพยาบาล 11 แห่ง คลินิกอีก 38 แห่ง มีองค์กรการแพทย์ 9 แห่ง สถาบันศึกษาด้านการแพทย์ 2 แห่ง ศูนย์จำหน่ายเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ 5 แห่ง และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ 3 แห่ง หน่วยบริการพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย ประกอบด้วย โรงแรมที่พัก 96 แห่ง ร้านอาหารและค่าเฟ่ 711 แห่ง ที่อยู่อาศัย 63 แห่ง (บางสถานที่คาบเกี่ยวกับเขตราชเทวี)

อีกมุมหนึ่งของเขตพญาไท ที่ไม่อาจมองข้ามได้ คือ ซอยอารีย์ เสน่ห์ของถนนสายนี้คงเป็นเรื่องของการออกแบบอาคาร ร้านอาหาร และ คาเฟ่ ที่ออกแบบมาแข่งขันกัน เชื่อมต่อยุคสมัย ต่างไปจากมุมอื่นๆ ของกรุงเทพมหานคร จนกลายเป็นศูนย์กลาง ของการพักผ่อน ทานอาหาร ดื่มกาแฟ มีมุมถ่ายรูปสวยๆ ถนนสายนี้ได้ตอบโจทย์ของคนที่มีความหลากหลาย ทั้งคนที่ทำงานในศูนย์ราชการ พนักงานออฟฟิศ สำนักงาน รวมถึงกลุ่มนักเรียนผู้ปกครองที่มาเรียนกวดวิชาในย่านนี้

พญาไทมีขนาดเพียงแค่ 9.5 ตารางกิโลเมตร แต่เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญๆ กับเขตอื่นๆ และเป็นเขตผสมระหว่าง โลกเก่าและโลกปัจจุบัน ข้าราชการและเอกชน



ทบทวนอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบสัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญ

เราอาจได้ยินเสียงอ้อนวอน ของเด็กๆ คุณพ่อครับ น้าครับ ผมอยากเลี้ยงแมว หนูอยากเลี้ยงหมา หรือผมขอหนูแฮมส์เตอร์ เป็นรางวัลได้ไหมครับ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกหรือมีข้อห้ามอะไรเพราะสัตว์เลี้ยงสามารถนำความสุข ความรักมาให้ ทั้งผู้ให้และผู้รับ แต่เมื่อเวลาผ่านไปการรับผิดชอบที่ต้องใช้เวลา อยู่ด้วยกันไป เติบโตไปด้วยกัน เช่น แมวที่มีอายุยืนยาวถึง 20 ปี หรือสุนัขที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ระหว่าง 10 ถึง 20 ปี ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ เมื่อพิจารณาถึงระยะเวลาดังกล่าว บางคนอาจยังไม่พร้อมที่ต้องดูแลระยะยาว ทำให้การมีสัตว์เลี้ยง ไม่เหมือนกับที่จินตนาการไว้ อาจมีปัญหาจากการที่ปรับตัวเข้ากันไม่ได้ กลายเป็นปัญหาอย่างที่คาดไม่ถึง ข้อคิดเล็กๆ น้อยๆ ก่อนที่จะมอบสัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญ

เรามาทบทวนกันดูอีกครั้ง ก่อนจะมอบสัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญหรือรางวัล โดยตั้งคำถามแล้วหาคำตอบในใจไปทีละข้อ

1. คนที่เราจะมอบสัตว์เลี้ยงให้นี้ต้องการสัตว์เลี้ยงจริงหรือเปล่า ลองหาเวลาพูดคุยหาข้อมูลด้วยกัน ว่าชอบไม่ชอบอะไร เพราะสัตว์เลี้ยงมีหลายสายพันธุ์ วิธีการเลี้ยงก็ต่างกันออกไป หากรับมาตอนเป็นสัตว์เลี้ยงเป็นเด็กเล็กๆ โตขึ้นยังจะชอบไหม

2. เด็กๆ จะมีอาการแพ้สัตว์เลี้ยงหรือไม่ บางคนมีอาการขนสัตว์ และขนสัตว์บางชนิดนำมาซึ่งภูมิแพ้ได้ ข้อนี้ควรสอบถามก่อนพิจารณาซื้อ

3. เด็กๆ หรือ ผู้ใหญ่วัยเกษียณมีเวลาให้สุนัขหรือแมวหรือไม่ ต้องสอบถามผู้เลี้ยงก่อนว่ามีความพร้อมหรือไม่ในการที่ต้องเริ่มต้นดูแลชีวิตใหม่ เพราะการเลี้ยงนั้นสิ่งสำคัญคือเวลาและการดูแลเอาใจใส่จากผู้เลี้ยง อย่างสุนัขต้องการเดินและวิ่งเล่น อาจจะไม่เหมาะกับผู้สูงอายุวัยเกษียณ

4. สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงรวมทั้งค่ารักษาพยาบาลได้หรือไม่ การต้องพบสัตวแพทย์เป็นประจำเพื่อรับวัคซีน ตามช่วงอายุเวลา การที่ต้องรักษาตามอาการไม่สบายล้วนเป็นรายจ่ายที่แฝงอยู่ เมื่อพูดถึงค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาตามมา แบ่งออกเป็น ค่าใช้จ่ายประจำวัน อาหารของสัตว์เลี้ยง ค่าใช้จ่ายตามขวบเวลาที่ต้องพบสัตวแพทย์ ผู้ให้ อาจลองคิดดูว่าผู้เลี้ยงมีความสะดวกและสามารถรับผิดชอบได้ไหม การเลี้ยงสัตว์ประเภทนั้นๆ กระทบต่อการใช้จ่ายส่วนตัวหรือไม่ เช่น การเลี้ยงสุนัขบางสายพันธุ์ ซึ่งต้องการอาหารปริมาณมาก ค่าใช้จ่ายต่อเดือนย่อมสูงตามไปด้วย

หากที่สุดแล้วคำตอบของเราและของผู้รับคือ “ใช่” สำหรับคำถามเหล่านี้ทั้งหมด เราอาจพิจารณาให้เพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นของรางวัลได้ การทำเช่นนั้นเท่ากับเราให้เพื่อนที่ดีที่สุดไปตลอดชีวิตและมอบสัญญาของชีวิตใหม่ให้กับสัตว์ที่พักพิงที่สมควรได้รับอีกด้วย



ซอยอารีย์ คือดอกไม้แซมผมของพญาไท

วันนี้หากนึกถึงเขตพญาไท อาจนึกถึงสถานที่ราชการ กระทรวงสำคัญๆ ที่ตั้งอยู่ในเขตนี้ หากจะกล่าวถึงย่าน ‘พญาไท’ สำหรับใครหลายๆ คนคงจะนึกถึง เขต เขตหนึ่งที่สามารถเดินทางได้สะดวกรวดเร็ว อาจจะกล่าวได้ว่าเขตพญาไทนี้ เป็นเขตรอยต่อระหว่างกรุงเทพฯ ชั้นในกับกรุงเทพฯ ชั้นนอก จึงทำให้เขตพญาไทเป็นแหล่งทำงานขนาดใหญ่ ทั้งส่วนราชการและเอกชน รวมถึงการเป็นทำเลในอนาคต ความสะดวก ความเพรียบพร้อมเหมือนความงามของหญิงสาว หากได้ดอกไม้มาแซมผมความงดงามก็มากยิ่งขึ้น อาคารที่ดูเคร่งขรึมบน ซอยอารีย์ถูกประดับด้วยความหลากหลายของ คาเฟ่ (Cafe) ร้านอาหาร แซมไรผมให้สวยงามมากขึ้น

หากเราพูดถึงเขตพญาไทก็ไม่อาจเลี่ยงที่จะกล่าวถึงถนนอีกสายที่ขับเคลื่อนเขตพญาไท ซอยอารีย์ ซอยอารีย์มีอายุมากว่า 80 ปี เหมือนเช่นกับทุกๆ เขตของกรุงเทพฯ ที่เมืองขยายจากศูนย์กลางออกมา เริ่มจากปี พ.ศ.2498 เริ่มมีตึกแถวแห่งแรกปรากฏบนถนนสายนี้ หลังจากที่มีการสร้างถนนจากอนุสาวรีย์ชัยไปยังสนามบินดอนเมือง สถานที่ราชการก็ตามมาก่อสร้างในปี พ.ศ.2516 เช่น กระทรวงการคลัง จึงทำให้บริเวณนี้มีความคึกคักขึ้น ด้วยเหตุบ้านพักอาศัยส่วนใหญ่เป็นข้าราชการชั้นสูง จึงทำให้บ้านบริเวณนี้มีลักษณะเคร่งขึม โดยเฉพาะ ซอยราชครู ซึ่งเป็นศูนย์รวมของกลุ่มชนชั้นนำที่มีบทบาทในช่วงหลังปี พ.ศ.2490 เวลาผ่านไปความเคร่งขรึมของสถาปัตยกรรมยังคงอยู่ และได้ผสมผสานกับเมืองธุรกิจใหม่ จนเป็นที่น่าสนใจ ปัจจุบันย่านอารีย์เป็นหนึ่งในพื้นที่ ที่ได้รับความนิยมจากทั้งผู้อยู่อาศัยและกลุ่มนักพัฒนาที่ดิน โดยมีโครงการติดถนนพหลโยธิน และใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีอารีย์จำนวนมาก เพราะในอนาคตโครงข่ายรถไฟฟ้าจะเชื่อมโยงไปทั้งกรุงเทพฯ นอกจากนี้แล้ว อารีย์ได้เป็นย่านที่มีศักยภาพการ ‘เดินได้’ ดีเป็นอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ โดยสามารถมีจุดที่มี Good Walk Score สูงสุดถึง 85 จาก 100 คะแนน (อ้างอิงจาก https://www.walkscore.com/score/soi-ari-bangkok) โดยมีความหมายว่าเราสามารถเดินเข้าถึงสถานที่ ที่ดึงดูดการเดินทั้งหกประเภทด้วยการเดินได้ดีมากๆ ได้แก่ 1.ที่ทำงาน 2.สถานศึกษา 3.แหล่งช็อปปิ้ง 4.พื้นที่นันทนาการ 5.สถานที่บริการสาธารณะ 6.ธุรกรรม และระบบขนส่งสาธารณะ การเดินหาร้าน ที่ถูกใจ ณ ซอยอารีย์นี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องยากเลย การผสมผสานระหว่างยุคสองยุค หรือการถวิลหาอาคารที่ยังคงมีเสน่ห์แบบวันเก่าก่อน ที่ตั้งอยู่บนถนนแห่งนี้ อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นเ มื่อระบบ สาธารณูปโภค พร้อม การขนส่งพร้อม ซอยอารีย์จึงเป็นศูนย์กลางแห่งหนึ่ง ของเขตพญาไท