วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
พี่เลี้ยงเด็ก พี่เลี้ยงเด็กชั่วคราว รับเลี้ยงเด็กที่บ้านตัวเอง พี่เลี้ยงสองภาษา พี่เลี้ยงวันหยุดบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันHi my name is Sunee. I have an experince of babysitting for more than 2 years as well as raising my own kids. I was an exchange student and stay with a family in Canada in 1988. After graduated bechalor degree from Ramkhamhang University, I worked as a Thai Language Tutor for foreigners. I can communicate in English.
ชื่อ รสิตา พิมพกร ชื่อเล่น ปูสถานะภาพ มีครอบครัวแล้วเบอร์โทร 098-9954465ว-ด-ป เกิด 5ธันวาคม 2527สัญชาติ ไทยตำแหน่งที่ต้องการสมัคร พี่เลี้ยงน้องค่ะการสื่อสารภาษา อังกฤษ พออ่านออกเขียนได้ค่ะไทย ดีมากค่ะปัจจุบันพักอยู่ที่ สระแก้วประสบการณ์ทำงาน -เลี้ยงน้อง1ขวบถึง4ขวบลาดพร้าว-เลี้ยงน้อง2ขวบถึง4ขวบทองหล่อ-เลี้ยงน้อง3เดือนถึง3ขวบ7เดือนชิดลมได้รับวัคซีนมาแล้ว ....3... เข็ม
สวัสดีค่ะ ชื่อจอยนะคะ อายุ 22 ปีค่ะ เพิ่งจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลันหอการค้าไทย สาขาภาษาอังกฤษและการแปลค่ะ เคยช่วยพี่เลี้ยงหลานตอนช่วงปิดเทอมค่ะ และตอนนี้อยากหาประสบการณ์เลี้ยงเด็กเพิ่มค่ะ เพื่อที่จะสมัครเป็นออแพร์ที่ต่างประเทศค่ะ เป็นคนใจเย็นและใจดีค่ะ สามารถสอนภาษาอังกฤษน้องและสอนการบ้านน้องได้ค่ะ เข้ากับเด็กได้ดีและชอบอยู่กับเด็กค่ะ
สวัสดีค่ะ พี่ชื่อ พัชรี อ่อนศรีค่ะ
เคยผ่านการทำงานเลี้ยงเด็กมา10ปีค่ะตั้งแต่แรกเกิดถึงเข้าโรงเรียนค่ะพี่ดูแลทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กค่ะ
ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กแต่ระช่วงวัยดูแลความปลอดภัยขั้นสูงสุดในแต่ระช่วงวัยค่ะ
ทำอาหารได้ทุกช่วงวัยของเด็กค่ะเน้นความสะอาด ใจเย็น มีสติในการทำงานตลอดเวลาค่ะ
เลี้ยงเด็กตามความประสงของพ่อและแม่ค่ะแต่ระบ้านจะมีวิธีการเลี้ยงแตกต่างกันค่ะ ใส่ใจรายระเอียดทุกอย่างค่ะ ขอบคุณมากๆๆค่ะ
สวัสดีคะ ชื่อป่าน นะคะ อายุ 27 ปี เป็นคนรักเด็ก ประสบการณ์ครูผู้ช่วยสอนศิลปะเด็กเล็ก และโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษค่ะ สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้คะ Line ID: Phn.rati
Sawasdee Ka! ( It's Hello in Thai language :D) My name is Ratikorn, but please call me for shorten name Phannie. I am 27 years old. I am generous, patient, friendly, easy going, gentle,warmth, reasonable, honest, has a sense of responsibility. Moreover I am open- minded girl who try to learn new things around me. I also enjoy learning new things to develope myself in the future.About experience with kids, I worked at the school for kids for 1 year, there were 20children, aged about 3-12 years old.
Helloo, My name is noon and i'm 27 years old. graduated from kasetsart university, i very love the kid from my background and just want to have a good experience, wanna play with your kid!! my personality is always smile, happy girl with a kindness. I have been in USA about 4 months and have experience to play with kid of my host.
สวัสดีค่ะ ชื่อนุ่น อายุ 27ปี จบป.ตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นคนรักเด็กมากๆและชอบเล่นกับเด็กๆ พื้นฐานเคยเลี้ยงน้องๆมา2คน และอยากมาหาประสบการณ์วันว่างเสาร์อาทิตย์
สวัสดีค่ะชื่อแพ็คนะคะเป็นคนซื่อสัตย์ค่ะเต็มที่กับงานสามารถแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับการทำงานได้มีความรับผิดชอบ ชอบเล่นกับเด็กรักเด็กชอบทำอาหารขับรถได้ค่ะเรียนจบมหาวิทยาลัยรามคำแหงคณะรัฐศาสตร์
การทำงาน ทำงานกับเด็กมาตลอดชีวิตเลยถนัดในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กทำแล้วมีความสุขค่ะอยากช่วยปลูกฝั่งเด็กๆทุกคนให้โตมาเเบบมีศักยภาพ
1.ชื่อ-นามสกุล (ไทย) : นิศาชล ช่วยขุน(อังกฤษ) : nisachon chuaykhunสถานะ : โสด2.อายุ : 31 3.ตำแหน่งงานที่สมัคร : ครูผู้ช่วย พี่เลี้ยงเด็กส่วนสูง : 165 ซ.มน้ำหนัก : 44ก.ก.ไม่มีรอยสักไม่ใส่เหล็กดัดฟันไม่สูบบุหรี่กินเหล้านิสัยส่วนตัว ใจดีมีเมตตาชอบเด็กๆเป็นอย่างมาก เรียบร้อย พูดเพราะไม่พูดคำหยาบ ชอบดูแลคนอื่น ชอบให้คำปรึกษา ชอบให้แรงจูงใจให้ความรักพร้อมความรู้พร้อมกัน ชีวิตและการทำงานทุกทางผูกพันธ์กับเด็ก เป็นพี่สาวคนโตเลี้ยงๆน้องที่บ้านเกิด ขยันชอบเอนเตอร์เทรน ประวิติการทำงานสายอีเว้นท์ช่วงว่างงานหรือวันหยุด-MC โฟนของเล่นเด็ก บ.คิดส์โด-MC โฟนงานวัคซีน ม.ไทย-ญี่ปุ่น- Staff แจกใบปลิว งานโบกป้าย เอกตร้า-ครูสอนเสริม สอนการบ้านบ้านเด็กกำพร้างานประจำที่เคยผ่าน-ฝึกงาน สถาบันคอม ม.ราม-พี่เลี้ยงสถานสงเคราะห์ บ.มหาเมฆ กรมเด็ก-ปัจจุบัน ครูผู้ช่วยโรงเรียนเด็กก่อนเรียนรามคำแหง 7.ระดับการศึกษา :ป.ตรี คณะมนุษยศาสตร์ ม.รามคำแหง8.ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลงลูกทุ่ง โฟนMC เต้น นำกิจกรรมเอนเตอร์เทน9.สื่อสารภาษาอังกฤษ : พอได้บ้าง10.รอยสัก : ไม่มี11. ที่อยู่ : รามคำแหงมหาดไทย12. สถานะการฉีดวัคซีนโควิด : ฉีดแล้ว2เข็ม
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก
1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา
ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ
ชุมชนกุฎีจีน
ฝั่งธนบุรี มีชุมชน มากมาย ตลอดริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีชุมชนหนึ่งชื่อ ชุมชนกุฎีจีน ชื่อของชุมชนกุฎีจีน เริ่มเกิดขึ้นจากการที่พ่อค้าชาวจีนที่มาค้าขายในสมัยอยุธยา ได้แวะหยุดตรวจสภาพเรือและสินค้า ก่อนจะเดินทางต่อเข้าไปยังกรุงศรีอยุธยา ระหว่างแวะพักจึงได้มาสร้างศาลเจ้าไว้ ต่อมาในศาลเจ้าได้มีพระภิกษุจีนมาพำนักอยู่จึงเป็นที่มาของชื่อกุฎีจีน ขณะเดียวกันพ่อค้าฝรั่งและมุสลิม เมื่อต้องมาพักแรมที่นี่ ก็นำเงินที่ได้จากการค้าขายมาสร้างศาสนสถานของตน ในชุมชนแห่งนี้ ทำให้ชุมชนนี้ จึงมีทั้งวัด ศาลเจ้า โบสถ์คริสต์ และมัสยิดอยู่ในที่เดียวกัน เป็นที่มาของชื่อชุมชน 3 ศาสนา 4 ต่อมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2310 ชุมชนของชาวไทยเชื้อสายโปรตุเกสที่อพยพมาจากกรุงศรีอยุธยาก็มาตั้งชุมชนที่นี่ แต่ปัจจุบันชาวไทยเชื้อสายโปรตุเกสเหล่านั้น แทบไม่เหลือเค้าลางของรูปร่างหน้าตาแบบตะวันตกแล้ว ชุมชนแห่งนี้มีโบสถ์ซางตาครู้ส (วัดซางตาครู้สเป็นศาสนสถานที่สำคัญที่อยู่คู่กับชุมชนกุฎีจีนเก่าแก่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยบริเวณที่ตั้งของวัดอยู่ใกล้กับพระราชวังเดิม สมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพระราชทานที่ดินให้แก่ชาวโปรตุเกสซึ่งร่วมทำการศึกเคียงบ่าเคียงไหล่ต่อต้านพม่าจนได้รับชัยชนะ นักบวชชาวโปรตุเกสจึงได้เริ่มก่อสร้างอาคารวัดหลังแรกที่สร้างด้วยไม้ทั้งหมดแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2313 ต่อมาได้เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในชุมชนในปี พ.ศ. 2376 ทำให้อาคารวัดพังเสียหายทั้งหมด จึงต้องก่อสร้างใหม่ด้วยอิฐถือปูน และได้ก่อสร้างใหม่อีกครั้งในปี พ.ศ. 2459 ซึ่งคืออาคารวัดหลังที่เห็นในปัจจุบัน) เป็นศูนย์กลางของชุมชน ชุมชนแห่งนี้มีขนมฝรั่งกุฎีจีน ขนมฝรั่งกุฎีจีน เป็นขนมที่ได้รับอิทธิพลมาจากขนมโปรตุเกส โดยใช้วัตถุดิบสามอย่าง คือ แป้งสาลี ไข่เป็ด และน้ำตาลทราย ตีให้ส่วนผสมเข้ากันจนขึ้นฟูและเทลงแม่พิมพ์ จากนั้นโรยด้วยลูกเกด ลูกพลับอบแห้ง ฟักเชื่อม และน้ำตาลทราย ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากขนมของจีน โดยชาวจีนเชื่อว่าเมื่อรับประทานฟักเชื่อมแล้วจะก่อให้เกิดความร่มเย็น ส่วนน้ำตาลทรายจะเกิดความมั่งคั่งไม่รู้จบเหมือนกับน้ำตาลทรายที่นับเม็ดไม่ได้ ส่วนลูกพลับอบแห้งและลูกเกด ก็เป็นผลไม้ที่มีราคาและมีคุณค่าทางอาหารอีกด้วย แล้วจึงนำไปเทใส่แม่พิมพ์แล้วอบจนสุกโดยใช้วิธีอบแบบโบราณด้วยเตาถ่าน รสชาติมีความกรอบนอก นุ่มใน ชุมชนกุฎีจีนตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ที่ถนนเทศบาลสาย 1 แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร เป็นย่านชุมชนที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนาและวัฒนธรรมอย่างมากแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ทั้งชาวไทย จีน ฝรั่ง ญวน มอญ ฯลฯ เป็นแหล่งที่ตั้งศาสนสถานที่สำคัญหลายศาสนาทั้ง วัดประยุรวงศาวาส วัดซางตาครู้ส วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร มัสยิดบางหลวง และศาลเจ้าเกียนอันเกง ตลอดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับปากคลองตลาดในฝั่งพระนคร
วัดกัลยาณมิตรที่มีหลวงพ่อโต
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2368 และน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหารตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ฝั่งใต้ โดยมีประวัติอยู่ว่าเจ้าพระยานิกรบดินทร์มหินทรมหากัลยาณมิตร (โต) ต้นสกุลกัลยาณมิตร ได้อุทิศบ้านและที่ดินบริเวณใกล้เคียง ซึ่งแต่เดิมเป็นศาลเจ้าเกียนอันเกง และเรียกกันต่อมาว่า "หมู่บ้านกุฎีจีน" พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 พระราชทานนามว่า "วัดกัลยาณมิตร" ทรงสร้างพระวิหารหลวงและ พระประธานพระราชทาน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ชื่อ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต (เรียกชื่อแบบจีนว่า "ซำปอฮุดกง" หรือ "ซำปอกง") ด้วยมีพระประสงค์จะให้เหมือนกรุงเก่า คือมีพระโตอยู่นอกกำแพงเมือง อย่างเช่นวัดพนัญเชิง เป็นศูนย์กลางจิตใจของชาวบ้านที่นับถือศาสนาพุทธ และศาสนาคริสต์ในละแวกนั้น หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 5 วา 3 ศอกคืบ สูง 7 วา 2 ศอกคืบ 10 นิ้ว อยู่ภายในพระวิหารขนาดใหญ่อยู่กลางวัด ตรงกลางระหว่างวิหารเล็กและพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชทานช่วยเจ้าพระยานิกรบดินทร์ เสด็จก่อพระฤกษ์เมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2380 มีหอมณเฑียรธรรมเถลิงพระเกียรติ เป็นที่เก็บประไตรปิฎกสมัยรัชกาลที่ ๔ หน้าพระวิหารหลวงยังมีหอระฆังสำหรับไว้ระฆังยักษ์ มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทางเข้าวัดมีเจดีย์หินทำมาจากเมืองจีน เรียกว่า ถะ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหารเป็นวัดที่มีการผสมผสานของศิลปะไทย-จีนอย่างลงตัวและงดงาม คือ พระอุโบสถจะไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ที่สวยงามแบบพระวิหารหลวง แต่งดงามด้วยหน้าบันปั้นลายดอกไม้ประดับ ประดับกระเบื้องเคลือบสลับสีลายจีน นอกจากนี้แล้ว ยังมี พระพุทธไตรรัตนนายก ภายในยังมีพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ประดิษฐานเป็นองค์ประธาน ซึ่งถือเป็นวันเดียวในประเทศไทยมีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์
ลูกของคุณพร้อมสำหรับไปโรงเรียนเด็กก่อนวัยเรียนหรือไม่
ลูการเริ่มต้นก่อนวัยเรียนเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นและสำคัญยิ่ง! เมื่อลูกอายุ 2 ขวบครึ่ง หรือ 3 ขวบพวกเขาไม่ใช่เด็กวัยเตาะแตะอีกต่อไป พวกเขาเป็น "เด็กโต" พร้อมที่จะเริ่มเรียนก่อนวัยเรียน ในฐานะพ่อแม่เราสามารถช่วยลูกเตรียมความพร้อมสำหรับก้าวที่ยิ่งใหญ่ต่อไปนี้ได้
4 ข้อที่พ่อแม่ควรทำเพื่อเตรียมความพร้อมให้ลูกก่อนวัยเรียน
1.การอ่านหนังสือ การอ่านหนังสือ ให้ลูกฟังทุกวัน เป็นการสร้างสิ่งมหัศจรรย์ที่มีค่าให้แก่เด็กๆ เพราะการอ่าน ไม่ใช่แค่เพียงอ่านแล้วผ่านพ้นไป แต่เป็นการเปิดประตูบานใหญ่ออกสู่โลกแห่งจินตนาการที่น่าค้นหาแก่เด็กๆ อ่านหนังสือเล่มโปรดบ่อย ๆ จนคุณและลูกจำได้ ตาของลูกจะได้มองภาพสวยๆ ไปพร้อมกับเรื่องราวที่ได้ฟังจากที่พ่อแม่เล่าหรืออ่าน ทำให้เด็กจะได้เรียนรู้ว่าภาพที่เห็นคืออะไร เรียกว่าอะไร มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร
2.พูดคุย การพัฒนาทักษะภาษาปากของบุตรหลานเป็นส่วนสำคัญในการเตรียมความพร้อมสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน ให้ลูกของคุณสนทนาเกี่ยวกับโลกรอบตัวเธอ ถามคำถาม พูดคุยเกี่ยวกับธรรมชาติสีและตัวอักษรและความรู้สึก ฟังเมื่อลูกคุยกับคุณ กระตุ้นให้ลูกของคุณสบตาและทักทายผู้อื่นด้วยคำ “สวัสดี” และ “ลาก่อน” แม้ว่าลูกจะยังไม่สามารถพูดเป็นคำๆ ได้แต่เขาก็จะเริ่มเรียนรู้ว่า ในบทสนทนาต้องประกอบด้วยการถามและการตอบ เมื่อคนหนึ่งพูด คู่สนทนาจะหยุดฟัง ดังนั้นเมื่อพูดคุยกับลูก ควรหยุดรอให้เขาตอบ นอกจากนี้การได้มีบทสนทนาระหว่างพ่อแม่และลูกนั้นยังเป็นการทำให้เขาได้เรียนรู้การเป็นผู้ฟังที่ดีอีกด้วย เพราะการฟังและการพูดเป็นทักษะที่สำคัญอย่างหนึ่งในการเข้าสังคมเมื่อเขาเติบโตขึ้น
3.เล่นกับลูก อย่าคิดว่าเรื่องเล่นเป็นเรื่องเหลวไหล เพราะงานวิจัยมากมายยืนยันได้ว่า การเล่นนั้นจำเป็นต่อพัฒนาการของเด็กทั้งด้านสติปัญญา ร่างกาย จิตใจ สังคม และอารมณ์ การเล่นทำให้เด็กได้ใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ การเล่นช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางสมองโดยเฉพาะในช่วงปีแรกๆ ของชีวิตที่เด็กกำลังทำความรู้จักกับโลกรอบตัว
4.สอนลูกให้ช่วยเหลือตัวเอง คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกได้รู้จักดูแลตัวเองบ้าง เช่น แต่งกายด้วยเอง ไม่ว่าจะเป็นการติดกระดุมเสื้อผ้า หรือการใส่ถุงเท้า รองเท้าเอง จัดกระเป๋าเอง สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะช่วยพัฒนาต่อยอดให้ลูกได้รู้จักการใช้ประสาทสัมผัส ร่วมกับกล้ามเนื้อมัดเล็ก โดยให้สมองเป็นตัวนำในการคิด ทำให้ลูกได้คิดเป็นระบบ เข้าใจอะไรควรทำก่อนหรือหลัง เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้และ มีความพร้อมที่จะเรียนรู้ในสิ่งใหม่ และควรฝึกให้ลูกทำทุกๆ วัน จนกลายเป็นหน้าที่เขาต้องรับผิดชอบ
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง