ดูแลเด็ก ใน ปทุมวัน, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน ปทุมวัน, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

เอกนารี ดาบาง
เอกนารี ดาบาง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 28 ปี

เป็นคนรักเด็กมีความใส่ใจในการเจริญเติบโตเเละพัฒนาของเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
กุลวาณีย์ พันธ์สน
กุลวาณีย์ พันธ์สน
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เข้ากับคนได้ง่าย มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ รักเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 46 ปี

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
3 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
3 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
3 ปีที่แล้ว
ลองค้นหาบริการพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายที่ จนได้มาเจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดู รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้เลือกพี่เลี้ยง ขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ รายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ พี่เลี้ยงที่ได้มาก็ตรงตามความต้องการสุด ๆ รู้สึกประทับใจมาก
Saijai
ณัฐณิชา ทิวาสวัสดิ์
3 ปีที่แล้ว
เมื่อก่อนไม่กล้าจ้างพี่เลี้ยงเด็ก แต่ลองจ้างผ่านทางใส่ใจดู พี่เลี้ยงทำงานได้น่าพอใจมาก ๆ พูดเพราะมาก จนลูกเราติดคำพูดเลยค่ะ ราคาก็ที่ไม่สูงเกินไป จับต้องได้สำหรับคนที่มีรายได้ไม่เยอะอย่ามากต่อเดือน คุณแม่คนไหนอยากหาพี่เลี้ยงเด็ก แนะนำเลยค่ะ
Saijai
ชื่นนภา วัฒนพันธ์
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยควรเลือกใช้บริการการเลี้ยงเด็กแบบใด พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว หรือเนอสเซอรี่
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก วันนี้เรามาดูข้อดีขอเสียของพี่เลี้ยงเด็กกันค่ะ ทำไมต้องเลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็ก

1) พี่เลี้ยงช่วยแบ่งเบาภาระของคุณพ่อคุณแม่ได้ หากคุณไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยเนื่องจากต้องทำงานนั้น พี่เลี้ยงเด็กคือทางออกของคุณค่ะ
2) หากคุณเลือกพี่เลี้ยงที่มีคุณสมบัติที่ดีสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกของคุณได้ค่ะ
3) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณแบบใกล้ชิดมากกว่าส่งลูกเข้าศูนย์เลี้ยงเด็ก เพราะศูนย์เลี้ยงเด็กนั้นไม่สามารถดูแลเด็ก ๆ แบบใกล้ชิดได้
4) พี่เลี้ยงสามารถยืดหยุ่นเวลาทำงานให้สอดคล้องกับการทำงานของคุณได้
5) คุณไม่ต้องเสียเวลาไปรับไปส่งลูกน้อยที่ศูนย์หากคุณจ้างพี่เลี้ยงมาที่บ้านเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณ
6) ลูกของคุณจะไม่ป่วยบ่อยเหมือนเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่มีเด็กมากกว่า20คน อาจจะเกิดความเสี่ยงติดโรคจากเพื่อน ๆ ได้
7) พี่เลี้ยงสามารถอยู่ดูแลลูกของคุณและเฝ้าบ้านของคุณได้หากในกรณีคุณกลับบ้านดึก
8) คุณสามารถบอกพี่เลี้ยงเด็กได้หากคุณต้องการให้พี่เลี้ยงมุ่งเน้นพัฒนาการของลูกคุณในด้านไหนเพราะพี่เลี้ยงของคุณจะดูแลเด็กแบบใกล้ชิด และมุ่งเน้นความสนใจให้ลูกของคุณ ต่างจากเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่ต้องเฉลี่ยดูแลอย่างเท่าเทียมกัน

ข้อเสียของพี่เลี้ยงเด็ก

1) ลูกของคุณอาจจะติดพี่เลี้ยงมากเกินไป
2) ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงหากเทียบกับศูนย์เลี้ยงเด็ก
3) คุณอาจจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวภายในครอบครัว

อย่างไรก็ดีข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กนั้นจะช่วยแบ่งเบาหน้าที่ของคุณไปได้เยอะเลยทีเดียว หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็กสักคน ใส่ใจมีบริการด้านนี้ค่ะ
ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีคืออะไร
6 ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี

1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา

ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังกับพี่เลี้ยง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะไว้วางใจให้ลูก ๆ ของคุณอยู่ในความดูแลพี่เลี้ยงเด็ก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเด็กอาจเกิดความรู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ ใส่ใจมีวิธีการที่จะช่วยลดความกังวลของทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ดังนี้ค่ะ

1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
ข้อตกลงสำคัญที่พ่อแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
สัญญาหรือข้อตกลงในการทำงานเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กต้องตกลงร่วมกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในขอบเขตการทำงานและค่าตอบแทน การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป แต่การร่างหรือการบันทึกรายการช่วยให้ทั้งสองฝ่ายจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น มีอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กควรตกลงกันก่อนเริ่มงาน

1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

ปทุมวัน วันก่อน จน วันนี้

ปทุมวัน วันก่อน จน วันนี้

ก่อนเขตปทุมวันจะมาเป็นศูนย์กลาง ทางธุรกิจย่านหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ย้อนกลับไปประมาณสองร้อยปีก่อน ในพื้นที่เขตปทุมวันมีลักษณะเป็นทุ่งนา มีสภาพเป็นชนบทชานเมือง การไปมาหาสู่ใช้เส้นทางคมนาคม เพียงทางเดียวคือทางเรือโดยมีคลองแสนแสบ เป็นเส้นทางคมนาคม เชื่อมกับคลองผดุงกรุงเกษม ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้เสด็จทอดพระเนตรบริเวณคลองแสนแสบ ด้านทิศตะวันออกซึ่งเป็นเขตนาหลวง มีบัวพันธุ์ขึ้นตามหนองบึงอยู่มากจึงมีพระราชประสงค์ จัดทำเป็นสระบัวชานกรุงขึ้นไว้สำหรับเป็นที่ประทับพักผ่อน จึงได้ทรงนิมนต์พระสงฆ์มารับบิณฑบาตโดยสม่ำเสมอ ต่อมาได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระอารามหลวงขึ้น และพระราชทานพระอารามหลวงนั้น ว่า "วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร" ซึ่งมีความหมายว่า"ป่าบัว" บริเวณ ดังกล่าวจึงมีชื่อเรียกว่า "ตำบลปทุมวัน" ซึ่งได้แก่วัดปทุมวนารามและบริเวณใกล้เคียง ส่วนที่ประทับยามเสด็จประพาสสวนสระบัวก็คือ "พระราชตำหนักวังสระปทุม" ซึ่งในปัจจุบันเป็นวังสระปทุม (วังที่ประทับของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี) บริเวณดังกล่าวจึงมีชื่อเรียกว่า ปทุมวัน

ปัจจุบันเขตปทุมวันเป็นเขตเศรษฐกิจหลักแห่งหนึ่งของกรุงเทพ และจัดเป็นศูนย์กลางพาณิชยกรรม โดยทั้งหมดจะตั้งอยู่ ตลอดแนวถนนสายหลัก ได้แก่ ถนนพญาไท ถนนพระรามที่ 1 ถนนพระรามที่ 4 และถนนเพลินจิต อาคารสำนักงานต่างๆ นอกจากนั้นเขตปทุมวัน เป็นพื้นที่ที่มีย่านพาณิชยกรรมหลักของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ย่านสยาม-ปทุมวัน และย่านราชประสงค์ ซึ่งประกอบด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เช่น เซ็นทรัลเวิลด์ สยามพารากอน และมีย่านพาณิชยกรรมสำนักงานสำคัญ ได้แก่ ย่านถนนวิทยุ อยู่ในพื้นที่ จึงมีค่าคะแนนเฉลี่ยประเภทแหล่งจับจ่ายใช้สอย สถานที่บริการสาธารณะ และธุรกรรม อยู่ในเกณฑ์สูง เป็นแหล่งท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานคร มีร้านค้า ร้านอาหารนานาชาติ สถานประกอบการ จำนวนมาก จากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ความเคลื่อนไหวด้านมูลค่ารวมด้านเงินฝากและเงินให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ ซึ่งแยกเป็นรายเขตในกรุงเทพฯ จำนวน 50 เขต พบว่า เขตที่ครองแชมป์มียอดเงินฝากสูงสุด 5 อันดับในเดือนสิงหาคม 2557 ได้แก่ 1.เขตปทุมวัน มียอดเงินฝาก 424,998 ล้านบาท 2.เขตคลองเตย 323,858 ล้านบาท 3.เขตพญาไท 306,787 ล้านบาท ซึ่งประชาชนกว่า 80 % ในเขตปทุมวัน ประกอบอาชีพการค้า การธนาคารและการพาณิชย์ อยู่ในพื้นที่ของเขตปทุมวันนั้น ที่มีเนื้อที่ โดยประมาณ 8.369 ตารางกิโลเมตร และได้ แบ่งพื้นที่การปกครองเป็น 4 แขวง ได้แก่ แขวงปทุมวัน แขวงวังใหม่ แขวงรองเมือง และแขวงลุมพินี



สักการะ 6 ศาลเทพเจ้าทางศาสนาฮินดู แยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน

สักการะ 6 ศาลเทพเจ้าทางศาสนาฮินดู แยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน

เมื่อมีโอกาสเดินทางมาถึงเขตปทุมวันแล้ว ลองหาโอกาสไหว้สักการะ 6 ศาลเทพเจ้า ทางศาสนาฮินดู แยกราชประสงค์ ความเชื่อที่อยู่ควบคู่กับสังคมไทยบนแยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน 6 องค์เทพที่ขึ้นชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่เคารพบูชาจากนักท่องเที่ยวที่มีจุดหมายมาสักการะ เทพเจ้าตามความเชื่อ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต

ศาลท่านท้าวมหาพรหม หน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ณ ศาลท้าวมหาพรหมแห่งนี้ มีความเชื่อในด้านทรงประทานโชคลาภ โดยที่องค์ท้าวมหาพรหมจะมีพระพักตร์ 4 พระพักตร์ และในแต่ละพักตร์แทนทิศทั้ง 4 ซึ่งมีความหมายที่แตกต่างกัน โดยมีความเชื่อว่า ทิศเหนือ-ขอพรเรื่องหน้าที่การงาน ทิศใต้-ขอพรเรื่องเกียรติยศ ชื่อเสียง ทิศตะวันตก-ขอพรเรื่องอนาคต และทิศตะวันออก-ขอพรเรื่องครอบครัว อีกทั้งยังมีความเชื่อที่ว่า พระพักตร์ สี่พระพักตร์ ทำให้พระองค์สามารถมองเห็นและปกปักรักษาได้ทั้งโลกมนุษย์และสวรรค์ พระองค์ช่วยปัดเป่าความขัดข้อง อุปสรรค และส่งเสริมโชคและความสำเร็จ

ศาลพระตรีมูรติ หน้าห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลเวิลด์ (ส่วนห้างอิเซตัน) เดิมศาลพระตรีมูรติตั้งอยู่บริเวณหัวมุมแยกราชประสงค์ แต่เมื่อเซ็นทรัลพัฒนาเข้าปรับปรุงศูนย์การค้าและเปลี่ยนชื่อจาก "เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์" เป็น "เซ็นทรัลเวิลด์" ได้ย้ายศาลดังกล่าวไปอยู่คู่กับศาลพระพิฆเนศวร โดย พระตรีมูรติเป็นรูปเคารพหนึ่งที่รวมเทพทั้ง 3 ไว้ในรูปเดียวกัน อันได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้ปกป้อง) และพระศิวะ (ทำลาย) ด้วยการรวมตัวกันของ “พลังทั้งสาม” ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดไว้ในรูปเดียว จะมีความหมายที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ทั้งในชีวิต ความรัก และการงาน พระตรีมูรติเป็นที่นิยมบูชาในหมู่หนุ่มสาวในฐานะ “เทพแห่งความรัก”

พระนารายณ์ทรงสุบรรณ หน้าโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ด้วยความเชื่อมาสักการะบูชาเพื่อความเจริญทางด้านธุรกิจ ซึ่งพระนารายณ์นั้น ถือเป็นเทพ ที่ทำหน้าที่คุ้มครองและรักษาโลก และด้วยความเชื่อที่มีต่อองค์พระนารายณ์ว่าเป็นเทพที่คอยรักษาปัดเป่าสิ่งไม่ดี เคราะห์ ภยันตราย โชคร้าย และมารทั้งปวง

พระพิฆเนศวร หน้า ห้างสรรพสินค้า อิเซตัน ด้วยความเชื่อว่า พระองค์ทรงเป็นที่นับถือในฐานะเทพแห่งศิลปวิทยาการ เทพผู้ขจัดอุปสรรค อีกทั้งทรงเป็นเทพผู้ทรงบันดาลความสำเร็จและพระผู้ปกป้องคุ้มครองจากภยันตรายและเป็นยอดกตัญญู

พระแม่ลักษมี บนชั้น 4 ของศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ หลายคน เข้ามาสักการะเพื่อขอเรื่องโชคลาภและความรัก พระแม่ลักษมีเป็นมเหสีคู่ทุกข์คู่ยากของพระนารายณ์ และพระนารายณ์มีชายาเพียงองค์เดียว และ พระแม่ลักษมีเป็นมารดาพระกามเทพ

ศาลพระอินทร์ หรือท้าวอัมรินทราธิราชศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า เป็นเทพเจ้าองค์แรกสุดของศาสนาพราหมณ์ฮินดู องค์อัมรินทราธิราชที่มีพระวรกายสีเขียวหยกเข้มมีพระเนตรถึงพันดวงนี้ คือเทวดาผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงค์ มอบความสุข ความสมบูรณ์ เกษตรมักมาขอพรเพราะพระอินทร์เป็นราชาแห่งเทพ บันดาลฟ้าฝนได้

ไม่ว่าวันเวลาจะเปลี่ยนไปเท่าใด คนทุกคนต่างหาสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ยังคงรักษาไว้ซึ่งความเชื่อ และการปฏิบัติ สักการบูชาเมื่อมีโอกาส และจะยังคงอยู่คู่ สี่แยกเศรษฐกิจนี้ต่อๆ ไป ณ แยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน



เขตปทุมวัน ศูนย์กลางโรงเรียนกวดวิชาในตำนาน

เขตปทุมวัน ศูนย์กลางโรงเรียนกวดวิชาในตำนาน

เชื่อหรือไม่ว่าการกวดวิชา ไม่ใช่เรื่องใหม่เลยสำหรับประเทศไทย ย้อนกลับไปในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ชาวจีนที่มีฐานะดีได้มีการจ้างครูจีนเข้ามาสอนภาษาจีนให้แก่ลูกหลาน และบุคคลที่จะไปเรียนต่อในประเทศจีน และจากในเอกสารโครงการวิจัยโดยสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ ได้บันทึกไว้ว่า ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ราชการส่งนักเรียนไทยจำนวน 206 คน ไปศึกษาต่างประเทศตามความต้องการของกระทรวงต่างๆ มีการสอบชิงทุน มีการเรียนภาษาเพื่อเตรียมตัวไปต่างประเทศในยุคนี้ด้วย ต่อมามีการระบุถึง "โรงเรียนกลางคืน" ในสมัยรัชกาลที่ 6 เปิดสอนในเวลาหนึ่งทุ่มจนถึงสามทุ่ม ส่วนใหญ่เปิดสอนภาษาอังกฤษ นักเรียนที่มาเรียนเพื่อเตรียมตัวสอบชิงทุนคิง (King’ s Scholarship) เพื่อไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ

หลังยุคฟองสบู่แตก หรือต้มยำกุ้ง พ.ศ. 2540 ศูนย์กลางของโรงเรียนกวดวิชาจะอยู่ที่ สยามสแควร์ เขตปทุมวัน เพราะมีการเดินทางมาที่สะดวก มีรถไฟฟ้า มีห้างสรรพสินค้า มีร้านค้า ร้านอาหาร ให้ผู้ปกครองที่มาเฝ้ารอลูกหลาน ทุกๆ วันจะมีภาพ เด็กนักเรียนในชุดเครื่องแบบ แทบทุกสถาบัน มีทั้งเสื้อแขนยาว เสื้อแขนสั้น กางเกงขาสั้น หรือมาจากรั้วคอนแวนต์ และโรงเรียนดังๆ ของรัฐ เดินกันขวักไขว่อยู่บริเวณสยามสแควร์ ตลอดเวลา 10 ปี ด้วยเหตุที่จำนวนที่นั่งในโรงเรียนดังๆ มีจำกัด และต่อเนื่องไปยังคณะดังๆ ในมหาวิทยาลัยที่ต้องแข่งขัน นักเรียนจึงต้องมาหาความรู้เพิ่มเติม ทบทวน เพิ่มเทคนิคในการเรียนพิเศษ ทำให้เด็กนักเรียนจำนวนมากมาเรียนเพิ่มเติมที่สยามสแควร์ หลายๆ คนเมื่อมาถึงก็ตรงไปสมัครที่เรียนกวดวิชา ในวิชาที่ต้องการ ทำให้อุตสาหกรรมนี้เติบโต จนมีการคาดคะเนว่า น่าจะมีโรงเรียนกวดวิชา ที่มีรวมกันอยู่กว่า 30 โรงเรียน เด็กบางคนมาเพื่อที่จะเรียนเพียง 1 รอบ แต่หลายคนใช้เวลาวนเวียนหลายวิชาอยู่ในบริเวณนั้น โดยปรกติวันหนึ่งๆ จะมีนักเรียนประมาณ 10,000 – 20,000 คน หากเป็นวันเสาร์อาทิตย์ก็จะเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว ใน 1 สัปดาห์จะมีนักเรียนหมุนเวียนมากวดวิชาในย่านนี้ ประมาณ 100,000 คน และกว่า 80 เปอร์เซ็นต์หลังจากเลิกเรียนแล้ว จะไม่กลับบ้าน มักจะเดินเลือกซื้อของ หาขนมอร่อยๆ ทาน เป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อน สยามสแควร์ จนเป็นตำนาน เป็นภาพจำ เป็นบทบันทึก ของคนรุ่นหนึ่ง ที่ผ่านการกวดวิชา แถวสยามสแควร์ แม้วันนี้ระบบ วิธีการเรียนรู้เปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่เรื่องราวของสยามสแควร์ยังดำเนินต่อไป เพื่อให้คนรุ่นใหม่กลับมาสร้างตำนานอีกครั้ง