ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน บางกอกน้อย, กรุงเทพมหานคร

ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ใน บางกอกน้อย, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ฌานิศา ช่วยนุกูล
ฌานิศา ช่วยนุกูล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 28 ปี
ศิริพร เพ็ชรรัตน์
ศิริพร เพ็ชรรัตน์
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

ประสบการณ์สอน (ปี) : สอนมาแล้ว3ปี ปัจจุบันสอนติวเข้ามัธยม1,4 และประถม

รายละเอียด : (ตัวอย่าง)

- คณิต ระดับอนุบาล ประถม สอบเข้าม.1

- คณิต ม.2 ม.4 สอบเข้าเตรียมทหาร

- วิทย์ ประถม และสอบเข้าม.1

- สังคม ประถม สอบเข้าม.1 และสอบเข้าม.4 เตรียมอุดม

- ภาษาไทย อนุบาล ประถม สอบเข้าม.1 และ ม.4เตรียมอุดม

- อังกฤษ อนุบาล ประถม และสอบเข้าม.1

- จีน ปูพื้นฐาน ประถม

เป็นติวเตอร์สอนตามบ้านมา3ปี เป็นติวเตอร์สถาบันสอบเข้ารร.บดินทรเดชา และเป็นติวเตอร์สถาบันสอบเข้าเตรียมทหารลานทอง

ผลงาน / รางวัล :

สอบผ่านการวัดระดับภาษาจีน HSK5

สอบชิงทุนไปเรียนจีนระดับป.ตรีผ่าน (เหตุไม่ได้ไปเพราะติดโควิด)

สอนติวนร.สอบติดม.1 รร.สวนกุหลาบนนท์ได้

สอนติวนร.สอบติดม.1ห้องกิฟต์ได้ รร.สาธิต

สอนติวนร.สอบติดม.4รร.เตรียมอุดมได้

***สามารถให้ติวเตอร์ส่งแนบรูปสอนหรือคลิปการสอนให้ได้ค่ะ***

(สามารถทดลองสอนได้ค่ะ)(มีรีวิวของผู้ปกครอง ติวเตอร์ใจดีมากค่ะสอนเด็กพิเศษได้ค่ะ ใจเย็น)

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ชื่นชมการสอนของตัวติวเตอร์มากค่ะ จากที่ลูกสาวเป็นคนไม่กล้าแสดงออกไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษไม่ว่าจะที่โรงเรียนหรือทั่วไป หลังจากจ้างติวเตอร์ภาษาอังกฤษมาช่วยสอน ลูกมีผลการเรียนวิชาภาษาอังกฤษที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและกล้าใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารมากขึ้นค่ะ
Saijai
ปาลิดา อัศวไกรภพ
3 ปีที่แล้ว
ประทับใจติวเตอร์มาก ๆ ค่ะ ครูติวเตอร์สอนดีมาก ๆ เป็นกันเองสุด ๆ เลยค่ะ เวลาหนูไม่เข้าใจตรงไหน หนูก็จะถามติวเตอร์ เพราะภาษาอังกฤษหนูค่อนข้างอ่อน แต่ตอนนี้หนูรู้สึกมั่นใจขึ้นเยอะเลยค่ะ
Saijai
มนัสนันท์ รุจิรดาภรณ์
3 ปีที่แล้ว
ประทับใจครับ ครูติวเตอร์สอนดี ให้เล่นเกมส์ฝึกภาษาอังกฤษควบคู่กับการเรียนทำให้ไม่น่าเบื่อ ส่วนตัวคิดว่าคุ้มค่ากับการจ้างมาก ๆ ครับ
Saijai
รัฐการ พูนพานิชย์
4 ปีที่แล้ว
เว็บไซต์ของใส่ใจใช้งานง่ายมาก ๆ ครับ เราลองใช้บริการติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ ขั้นตอนการจ้างไม่ยุ่งยาก อีกทั้งยังสะดวกและรวดเร็วด้วยครับ มีระบบการจ่ายเงินที่น่าเชื่อถือ โดยรวมประทับใจครับ
Saijai
ภูริทัศ จินดาโชติ
4 ปีที่แล้ว
จริงๆ ก็กังวลนะ ถึงแม้เราได้ภาษามาบ้าง เกรดก็โอเคแต่อยากเพิ่มความมั่นใจ ได้ติวเตอร์ภาษาอังกฤษจากเว็บใส่ใจ สอนเข้าใจง่าย แก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเราแน่นขึ้น จากความกังวลเรื่อง TENSE ทั้ง12 ฝึกสนทนาและฟังจริงทุกรอบ แถมสอนการบ้านด้วย ตอนนี้สบายใจละ
Saijai
ญาณิน ธาดาวริศกุล
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ

อยากพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษต้องทำอย่างไรบ้าง
ภาษาอังกฤษนั้นเรียกได้ว่าเป็นภาษาที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ ของภาษาที่ใช้สื่อสารกันบนโลกนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นภาษากลางที่ผู้คนทั่วโลกสามารถใช้ติดต่อสื่อสารกันรองมาจากภาษาแม่ของแต่ละชนชาตินั่นเอง
ดังนั้นความรู้ความเข้าใจในภาษาอังกฤษจึงจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้คนในสมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งการพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน ทั้งหมดนี้อาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับบุคคลที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เกิด แต่ถ้าเราหมั่นฝึกฝนและพัฒนาภาษาอังกฤษอยู่บ่อย ๆ จะทำให้ภาษาอังกฤษนั้นไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป

ใส่ใจขอแนะนำ 5 เคล็ดลับที่จะทำให้ทักษะภาษาอังกฤษของเราพัฒนามากยิ่งขึ้นดังนี้

1. อ่านหนังสือหรือบทความที่เป็นภาษาอังกฤษถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับหลาย ๆ คน ควรเริ่มจากบทความสั้น ๆ จากนิตยสาร หรือหนังสือที่มีภาพประกอบ เพราะหนังสือเหล่านี้จะเลือกใช้คำศัพท์ที่ไม่ยากจนเกินไป ทำให้เราสามารถจดจำและเข้าใจความหมายได้ง่ายขึ้น
2. หมั่นจดคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่เจอในแต่ละครั้ง เพราะการจดคำศัพท์พร้อมความหมายเอาไว้ในสมุดโน๊ตจะช่วยให้เราคุ้นชินกับมันบ่อย ๆ เมื่อต้องเปิดสมุดในแต่ละครั้ง และจดจำไปเองในที่สุด
3. เรียนรู้ภาษาอังกฤษจากการดูและการฟัง ไม่ว่าจะเป็นข่าว การ์ตูน ซีรีส์ภาพยนตร์ต่าง ๆ เมื่อหูเริ่มคุ้นกับประโยคและสำเนียงการพูดแล้ว ยิ่งทำให้เราเข้าใจภาษาอังกฤษได้เร็วขึ้นในยามที่ต้องพูดคุยสื่อสารกับเจ้าของภาษาจริง ๆ
4. ฝึกพูดให้บ่อย ๆ ไม่ว่าจะลองฝึกพูดกับตัวเองหน้ากระจก หรือลองพูดกับเพื่อน ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองมากขึ้น
5. อย่ากลัวที่จะลองพูดคุยกับเจ้าของภาษา เวลามีงานสังสรรค์พบปะผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ลองหาโอกาสที่จะเข้าไปพูดคุยกับเจ้าของภาษาหรือคนอื่น ๆ ดู และอย่ากลัวว่าจะพูดผิด บางครั้งหากเราพูดผิดและได้รับการแก้ไขจากคนรอบข้างจะยิ่งทำให้เรารู้ศักยภาพของตัวเองและไม่ลืมที่จะนำกลับไปพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
เรียนกับครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์ส่วนตัว ช่วยให้คุณเก่งภาษาอังกฤษขึ้นได้จริงหรือ
เรียนกับครูสอนพิเศษ หรือติวเตอร์ส่วนตัวนั้นช่วยให้คุณเก่งภาษาอังกฤษขึ้นได้จริงหรือไม่ ใส่ใจจะมาอธิบายข้อดีของการมีติวเตอร์ส่วนตัวให้คุณได้เห็นภาพยิ่งขึ้น

โดยปกติแล้วครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษหรือติวเตอร์ส่วนตัวเป็นผู้ที่มีประสบการณ์การสอนมาอย่างยาวนาน และมีความรู้เกี่ยวกับด้านภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ ติวเตอร์บางคนอาจจบการศึกษามาจากต่างประเทศ ทำให้มีความเข้าใจทั้งภาษา สำเนียง และวัฒนธรรมที่หลากหลายของประเทศเจ้าของภาษานั้น ๆ และสามารถนำความรู้ความเข้าใจเหล่านี้มาถ่ายทอดให้กับนักเรียนได้ ดังนั้นเราจึงมั่นใจได้แน่นอนว่าการเรียนพิเศษกับติวเตอร์ส่วนตัวจะช่วยให้เราได้รับความรู้ใหม่ ๆ อีกมากมาย ครูสอนพิเศษมักมีเทคนิคการสอนที่หลากหลาย เช่น เทคนิควิธีการจำคำศัพท์ วิธีการเขียนเรียงความ (Essay) รวมไปถึงเทคนิคในการเก็งข้อสอบ เป็นต้น เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับนักเรียนได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีแผนการเรียนการสอนที่น่าสนใจเช่นกิจกรรมต่าง ๆ ระหว่างคลาสเพื่อส่งเสริมทักษะภาษาอังกฤษ เพื่อให้การเรียนในแต่ละครั้งสนุกสนานยิ่งขึ้น การเรียนแบบตัวต่อตัวนั้นนักเรียนจะได้รับการใส่ใจในการสอนอย่างใกล้ชิด หากนักเรียนไม่เข้าใจเนื้อหาส่วนไหนก็สามารถให้ติวเตอร์อธิบายอย่างละเอียดจนกว่าจะเข้าใจโดยไม่ขาดตกส่วนใดส่วนส่วนหนึ่งไปเหมือนตอนเรียนในห้องเรียนหลาย ๆ คน ที่สำคัญติวเตอร์ก็สามารถสังเกตจุดอ่อนและจุดแข็งของนักเรียน ดูว่ามีความเข้าใจมากน้อยแค่ไหน และสามารถแก้ไขปัญหาของนักเรียนได้อย่างตรงจุดมากขึ้น

เห็นได้ชัดว่าการมีติวเตอร์หรือครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษมาสอนแบบตัวต่อตัวนั้นสามารถช่วยให้คุณเก่งภาษาอังกฤษขึ้นได้จริงอย่างแน่นอน ดังนั้น ลองหาครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษที่เก่ง ๆ สักคนเพื่อมาช่วยคุณดูสิ
จุดอ่อนของเด็กไทยในการเรียนภาษาอังกฤษคืออะไร และควรทำอย่างไรเพื่อพัฒนาการเรียนภาษาอังกฤษให้ดียิ่งขึ้น
อะไรคือจุดอ่อนของการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนไทย แล้วเราจะแก้ได้อย่างไร ปัจจุบันหลายโรงเรียน มีการสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่ชั้นอนุบาลและต่อเนื่องในทุกระดับชั้น แต่ทำไมภาษาอังกฤษยังคงเป็นจุดอ่อนสำหรับน้อง ๆ หลาย ๆ คน จากการค้นคว้าข้อมูลจากหลายแหล่งได้สรุปสาเหตุไว้คร่าว ๆ ดังนี้ว่า

1. ขาดการฝึกฝน ขาดคำศัพท์ เพราะส่วนใหญ่นักเรียน จะเรียนภาษาอังกฤษในห้องเรียน 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ต่อวัน แต่เวลาที่เหลือแทบจะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเลย การเรียนการสอนส่วนใหญ่เน้นไปที่ให้ทำข้อสอบได้ ดังนั้นเด็กนักเรียนไทยส่วนหนึ่งเรียนภาษาอังกฤษเพื่อจะใช้ในห้องสอบ ทักษะอื่น ๆ และคำศัพท์นอกเหนือจากที่เรียนในห้องเรียนแทบจะไม่ได้ใช้เลย ทางแก้ไขคือน้อง ๆ นักเรียน ต้องฝึกฝน เรียนรู้เพิ่มเติม และเพิ่มคำศัพท์แล้วพยายามใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน อาจมีการรวมกลุ่มหรือชมรม ห้องเรียนพิเศษที่มีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษมากกว่าในห้องเรียน
2. เป็นเหตุต่อเนื่องจากข้อแรก คือขาดความมั่นใจเพราะกลัวพูดผิด กลัวพูดออกไปแล้วสื่อสารไม่ได้เลยไม่กล้าที่จะพูด บวกกับนิสัยของคนไทยที่ขี้อาย เกรงใจ เขิน ไม่กล้าแสดงออก จนไม่กล้าพูด ทางแก้ไขคือ เมื่อมีโอกาสได้ใช้ภาษาควรแสดงความสามารถและพยายามสื่อสารทั้งด้วยคำพูด น้ำเสียงและท่าทางประกอบกัน เมื่อผ่านไปได้ครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งต่อ ๆไปจะตามมา ที่สำคัญต้องจำคำศัพท์ให้ได้มาก ๆ จะช่วยให้เราสื่อสารได้มากขึ้น
3. การเรียนการสอนที่ไม่ถูกหลัก ทำให้ไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษ อย่างที่รู้กันอยู่ว่าทุกวันนี้เด็กไทยของเราเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล และได้รับการสอนภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ มากกว่า 10 ปี แต่คนไทยเรายังไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ จากการศึกษาข้อมูลทำให้พบว่า การสอนภาษาอังกฤษที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก โดยที่เราเริ่มต้นสอนทักษะภาษาอังกฤษจากการอ่าน การเขียน ก่อนที่จะเรียนการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ จึงทำให้การเรียนรู้การพูดภาษาอังกฤษของเด็กไทยนั้นเป็นเรื่องที่ยาก เพราะเมื่อทำไม่ได้เลยรู้สึกไม่สนุก ไม่อยากเรียน ครูผู้สอนควรสร้างบรรยากาศการเรียนให้สนุก เช่นเรียนภาษาอังกฤษจากเพลง แล้วค่อย ๆ แทรกเนื้อหาหลักไวยากรณ์หรือคำศัพท์ลงไป นักเรียนจะซึมซับความรู้เหล่านั้นไปโดยไม่รู้ตัว

ปัจจัยทั้งหมดนอกจากตัวของน้อง ๆ นักเรียนเอง ยังมีเรื่องของสภาพแวดล้อม ที่ส่งผลกระทบต่อผู้เรียนโดยตรง ถ้าปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนสามารถทำให้นักเรียนได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำ และได้ช่วยพัฒนาจุดอ่อนของน้องๆนักเรียนอย่างตรงจุด จะสามารถช่วยพัฒนานักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

TOEIC, TOEFL และ IELTS มีความสำคัญอย่างไร ใส่ใจมีติวเตอร์ภาษาอังกฤษที่สอน TOEIC, TOEFL และ IELTS หรือไม่
TOEIC TOEFL IELTS มีความสำคัญต่อการทำงานอย่างไร

การทดสอบทั้ง 3 แบบนั้นเป็นการทดสอบทางด้านภาษา ในโลกการทำงานปัจจุบันหลาย ๆ บริษัทมีการติดต่อทำธุรกิจกับต่างประเทศ การรับคนเข้าทำงานจึงมีการทดสอบความสามารถด้านภาษาและผลคะแนนการสอบวัดความรู้ทางภาษาจึงมีความสำคัญ ก่อนหน้านี้หลายคนอาจมองว่าคะแนนของทั้งสามสถาบันนี้ ถูกใช้เพื่อประกอบการสมัครงานในสาย งานบริการ งานสายการบิน งานท่องเที่ยวและการโรงแรมเท่านั้น แต่ปัจจุบันผลคะแนนจะถูกแนบไปกับประวัติการทำงานเพื่อช่วยยืนยันว่าคุณมีความสามารถในการใช้ภาษา นอกจากนี้ผลการสอบวัดระดับภาษายังช่วยปรับเงินเดือน เลื่อนตำแหน่ง หรือโอกาศไปทำงานในสาขาต่างประเทศ

ทั้งนี้เกณฑ์มาตรฐานที่ได้รับการยอมรับ คะแนน TOEIC ที่ถือว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานคือ ตั้งแต่ 450 / 550 / 650 คะแนน ส่วนงานที่เกี่ยวกับธุรกิจการบินมักจะรับที่ 800 + คะแนน การสอบ TOEIC จึงเป็นที่นิยมมากในกลุ่มคนทำงาน (โดยผลสอบ TOEIC มีอายุ 2 ปี นับจากวันที่สอบ) คะแนน TOEFL ที่ถือว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานคือ 79/120 (สำหรับนักศึกษาที่ต้องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย) ส่วนคะแนน IELTS ที่ถือว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานคือ 5.5 หรือ 6.5 ขึ้นไป (สำหรับผู้ที่ต้องการไปศึกษาต่อในต่างประเทศหรือฝึกอบรม หรือฝึกอบรมในต่างประเทศ ในสหรราชอาณาจักร ออสเตรเลียหรือ นิวซีแลนด์ เป็นต้น) ที่ใส่ใจ (SAIJAI) มีติวเตอร์ภาษาอังกฤษที่สอน TOEIC, TOEFL และ IELTS เพื่อย่นระยะทางไปสู่จุดหมาย สรุปเทคนิค กลยุทธิ์และวิธีการทำข้อสอบให้เข้าใจง่ายขึ้น ช่วยให้คุณสอบได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น