ติว PAT ใน เชียงดาว, เชียงใหม่

ติว PAT ใน เชียงดาว, เชียงใหม่

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

หลังจากติวไปสักพัก ผมรู้สึกมีความมั่นใจในการทำโจทย์มากขึ้น ตัวของพี่ติวเตอร์นอกจากจะหาโจทย์มาให้ทดลองทำแล้วยังคอยอธิบายเหตุผลและสาเหตุที่ผมตอบผิดหรือจุดที่ผมพลาดไปให้ด้วยครับ
Saijai
ศิวกร อุดมภักดี
3 ปีที่แล้ว
ติวเตอร์สอนดีครับ ให้ฝึกทำข้อสอบเก่า ๆ บอกทริคในการทำข้อสอบGAT PAT ให้ด้วย สุดยอดครับ
Saijai
ปริญญา ทองนำดี
4 ปีที่แล้ว
PAT2 วิชาวิทยาศาสตร์ ตัวเดียวเน้นๆ คลื่นแสง, อะตอมนิวเคลียร์ ปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมี ฯลฯ พี่ติวเตอร์สอนดี พี่เขาสรุปตรงประเด็นเน้น ๆ เข้าใจ สร้างความมั่นใจได้มาก ๆ ค่ะ
Saijai
นทีนาถ วิวัฒน์ไพศาล
4 ปีที่แล้ว
ที่เลือกจ้างติวเตอร์ PAT เพราะติวเตอร์คนนี้ได้รับรีวิวดีมาก ครบจบในที่เดียว คุ้มค่ามากค่ะ
Saijai
ชลชนก ทองคำ
4 ปีที่แล้ว
ติวเตอร์ทำให้หนูเข้าใจในเนื้อหาที่ยาก ๆ ได้ แถมมีวิธีคิดแบบลัด ๆ หนูชอบมาก ทำให้หนูรู้สึกว่าเรียนง่ายขึ้น หนูต้องสอบเข้าคณะที่อยากเรียนให้ได้ค่ะ
Saijai
กรณ์ภัชรมล ตระการ
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติว PAT

PAT คืออะไร สำคัญต่อเด็กไทยหรือไม่
PAT คืออะไร

PAT เป็นการทดสอบวิชาความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ (Professional and Academic Aptitude Test) คือ การวัดความรู้ที่เป็นพื้นฐาน กับศักยภาพที่จะเรียนในวิชาชีพนั้น ๆ ให้ประสบความสำเร็จมี 7 วิชา คือ
PAT 1 คือ ความถนัดทางคณิตศาสตร์
PAT 2 คือ ความถนัดทางวิทยาศาสตร์
PAT 3 คือ ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
PAT 4 คือ ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์
PAT 5 คือ ความถนัดทางวิชาชีพครู
PAT 6 คือ ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
PAT 7 คือ ความถนัดทางภาษาต่างประเทศ ประกอบด้วย
PAT 7.1 ความถนัดทางภาษาฝรั่งเศส
PAT 7.2 ความถนัดทางภาษาเยอรมัน
PAT 7.3 ความถนัดทางภาษาญี่ปุ่น
PAT 7.4 ความถนัดทางภาษาจีน
PAT 7.5 ความถนัดทางภาษาอาหรับ
PAT 7.6 ความถนัดทางภาษาบาลี

PAT เป็นการสอบเพื่อประเมินว่านักเรียนคนหนึ่งมีแววเข้าสู่เส้นทางอาชีพในคณะที่เลือกหรือไม่ ข้อสอบในส่วนนี้แต่ละคณะสามารถเลือกได้ว่าจะใช้วิชาไหนในการยื่นคะแนนบ้าง แบ่งออกย่อยๆ เป็นข้อสอบทั้งหมด 7 วิชาครับ แต่ละวิชามีคะแนนเต็ม 300 คะแนน ใช้เวลาในการสอบ 3 ชั่วโมงเต็ม ทั้งหมดเป็นข้อสอบที่ยากที่สุดในระบบแอดมิชชั่น เช่น ข้อสอบ PAT ที่2 ซึ่งรวมเอาสามวิชาคือ ฟิสิกส์ เคมี และชีวะ รวมเข้าในวิชาวิทยาศาสตร์วิชาเดียว สอบ 3 ชั่วโมง ที่เราเรียนกันในโรงเรียนแยกเป็นสามวิชา แต่ละวิชาหน่วยกิตหนักๆ ทั้งนั้น แต่ตอนสอบเอามารวมกันเป็นวิชาเดียว ข้อสอบ PAT ถือเป็นข้อสอบที่ยาก ถ้าใครคิดว่าอ่านหนังสือแล้วจะไปสอบได้ต้องคิดใหม่แล้ว สมมุติว่ามีเวลา 4 เดือนในการเตรียมตัวสอบ PAT ลองแบ่งเวลา 1 เดือนแรกในการให้ติวเตอร์ ติวทบทวนเนื้อหาให้หมด และให้ความสำคัญกับ 3 เดือนที่เหลือในการเน้นทำข้อสอบ PAT ปีเก่าๆ ให้หมด ทำหลายๆ รอบจนกว่าจะเห็นข้อสอบปุ๊บบอกได้ปั๊บเลยว่าข้อนี้ใช้เนื้อหาอะไรบ้าง ต้องคิดอย่างไร สับขาหลอกตรงไหน ซึ่งตรงนี้แหละที่ติวเตอร์มีส่วนช่วยเพราะถ้าเราลองทำเองแล้วทำไม่ได้เอามาก ๆ เกิดความท้อไม่อยากไปต่อ แต่หากมีคนคอยแนะแนวทางให้แก้ข้อสงสัยให้ เรื่องยากกลายเป็นเรื่องง่าย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เราจะสามารถทำคะแนน PAT ได้สูงแน่นอน
สอบเข้ามหาวิทยาลัยต้องเตรียมสอบ PAT หรือไม่
PAT สำคัญอย่างไร? ทำไมต้องสอบ?

การสอบ GAT และ PAT เป็นระบบการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยด้วยระบบกลาง (Admissions) รูปแบบใหม่ที่เปิดใช้ในปี พ.ศ. 2553 โดยกำหนดขึ้นมาใช้แทนรูปแบบการสอบ A-net แบบเก่า
PAT ย่อมมาจาก Professional and Academic Aptitude Test เป็นการทดสอบความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ ซึ่งเป็นความรู้พื้นฐานเฉพาะด้านในสาขาที่ต้องการเข้าศึกษาต่อ ซึ่งข้อสอบ GAT และ PAT มีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในคณะที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเป็นผู้ออกข้อสอบ ลักษณะข้อสอบ PAT เน้นความซับซ้อนมากกว่าความยาก มีทั้งแบบปรนัยและอัตนัยขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละวิชา ในการสอบ PAT มีข้อกำหนดคือ ผู้ที่เข้าสอบต้องเป็นนักเรียนในชั้น ม.5 – ม.6 หรือเทียบเท่า หรือจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าแล้ว โดยจะมีการเปิดสอบ 3 ครั้งต่อปี คะแนนเต็ม 300 คะแนน ใช้เวลาในการสอบ 3 ชั่วโมง และสามารถเก็บคะแนนสอบได้นานถึง 2 ปี
PAT เป็นการสอบวัดระดับความรู้ทางวิชาการเฉพาะด้านของแต่ละสาขาวิชา ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการเข้าศึกษาต่อในแต่ละคณะที่มหาวิทยาลัยกำหนด เช่น คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ต้องใช้คะแนนใน PAT 4 เพื่อเข้าศึกษาต่อ หรือคณะวิศวกรรมศาสตร์ต้องใช้คะแนนใน PAT 3 เพื่อเข้าศึกษาต่อ เป็นต้น ซึ่งผลคะแนนที่ได้นั้นจะใช้ยื่นสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยทั้งในแบบรับตรงและระบบกลาง (Admissions) เพื่อเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย
ดังนั้น PAT เป็นรูปแบบการสอบเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย โดยเป็นการสอบความรู้ทางวิชาการและวิชาชีพเฉพาะด้านที่มีให้เลือกสอบถึง 7 สาขาวิชาด้วยกัน ซึ่งผู้ที่จะสอบนั้นต้องเป็นผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อในบางคณะและบางสาขาวิชาตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด แล้วจึงใช้ผลคะแนนสอบยื่นสมัครเพื่อเป็นเกณฑ์การพิจารณาเข้าศึกษาต่อ
รายชื่อคณะที่ต้องใช้คะแนน PAT มีคณะอะไรบ้าง และคณะนั้นใช้PAT วิชาอะไรบ้าง
รายชื่อคณะที่ต้องใช้คะแนน PAT มีคณะอะไรบ้าง และคณะนั้น ๆ จำเป็นต้องใช้ PAT วิชาอะไรบ้าง

1. กลุ่มวิทยาศาสตร์กายภาพและเทคโนโลยี เช่น คณะวิทยาศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ และคณะวิทยาศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้จำเป็นต้องสอบ GAT PAT 1 และ PAT 2 ซึ่งก็คือวิชาความถนัดทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์นั่นเอง
2. กลุ่มวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ GAT PAT1 PAT2 และ PAT3 ในการยื่นเข้าคณะ
3. กลุ่มสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรม จำเป็นต้องสอบ GAT และ PAT4
4. กลุ่มเกษตรศาสตร์ เช่น คณะเกษตรศาสตร์ คณะประมง คณะเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการเกษตร เป็นต้น โดยทั้งหมดนี้จำเป็นต้องสอบ GAT และวิชา PAT1 และ PAT2
5. กลุ่มมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ได้แก่ คณะนิเทศศาสตร์ คณะวารสารศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ คณะสังคมสงเคราะห์ คณะนิติศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ คณะมานุษยวิทยา เป็นต้น คะแนนที่ต้องใช้ยื่นคือคะแนนสอบ GAT PAT1 และ PAT7 โดยเลือกประเภทของภาษาที่ต้องการเรียนในสาขานั้น ๆ
6. กลุ่มศิลปกรรมศาสตร์ ได้แก่ คณะวิจิตรศิลป์ คณะศิลปะประยุกต์ คณะดุริยางคศิลป์ คณะนาฏศิลป์ เป็นต้น ใช้คะแนนสอบ GAT PAT4 และ PAT6
7. กลุ่มบริหาร ได้แก่ คณะบริหารธุรกิจ คณะเศรษฐศาสตร์ คณะการท่องเที่ยวและโรงแรม คณะการบัญชี เป็นต้น ใช้คะแนนสอบ GAT PAT1 และ PAT7
ค่าสมัครสอบ PAT เท่าไหร่
ก่อนอื่นน้อง ๆ นักเรียนต้องดูว่าในคณะที่เราเลือกใช้คะแนน PAT อะไร จากทั้งหมด 7 วิชา การวัดจากคณะที่เราเลือก และระเบียบการของคณะในแต่ละมหาวิทยาลัยจะเป็นตัวกำหนดเองว่า ใช้คะแนนอะไรในการพิจารณา ถ้ามีระบุว่าใช้ GAT/PAT ด้วย เราต้องสมัครสอบในวิชา GAT/PAT นั้น ๆ เช่น ถ้าน้อง ๆ ต้องการเข้าคณะ วิทยาศาสตร์ คะแนน GAT/PAT ที่ต้องใช้คือ GAT + PAT1 + PAT2 เท่ากับว่าน้องๆ นักเรียน ต้อง สอบ GAT และ PAT 1 คือ ความถนัดทางคณิตศาสตร์ และ PAT 2 คือ ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ นั่นหมายความว่า ถ้าน้องต้องการคณะนี้ก็สอบ PAT เพียง 2 วิชานี้พอ อีกตัวอย่างหนึ่ง การสอบเข้า คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มี 3 รูปแบบ รูปแบบที่ 1 GAT ,รูปแบบที่ 2 GAT + PAT4 (ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์) และ รูปแบบที่ 3 GAT + PAT1 (ความถนัดทางคณิตศาสตร์) + PAT2 ( ความถนัดทางวิทยาศาสตร์) + PAT4 (ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์) นั้นหมายความว่า แต่ละมหาวิทยาลัย มีแนวการรับที่แตกต่างกัน น้องๆ นักเรียน ต้องศึกษาระเบียบการให้ละเอียดถี่ถ้วนเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด จากตัวอย่างสองคณะที่แสดงให้เห็นจะเห็นได้ว่า น้องๆ นักเรียนไม่ต้องสมัคร PAT ทั้งหมด เพราะเราสอบไปคะแนนที่ได้มาก็ไม่ได้ใช้ แถมเปลืองเงินค่าสมัครอีกด้วย ค่าสมัครสอนนั้นอยู่ที่วิชาละ 140 บาท อีกทั้งเราได้มีเวลาเตรียมตัวในการทำข้อสอบเฉพาะวิชาที่ต้องใช้ ได้อย่างเต็มที่ ส่วนการสมัครสอบ สามารถเข้าไปสมัครในเว็บไซต์ของหน่วยงานที่ดูแลเรื่องข้อสอบและการสอบ คือ สทศ “GAT/PAT ย้ำต้องสมัครที่เว็บไซต์ สทศ.” คือ