เรียนภาษาต่างประเทศ ใน ลาดพร้าว, กรุงเทพมหานคร

เรียนภาษาต่างประเทศ ใน ลาดพร้าว, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Supavita Leewiwatwong
Supavita Leewiwatwong
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

มีประสบการณ์ล่ามและแปลตั้งแต่อยู่ในมหาวิทยาลัย เคยไปอยู่ที่ประเทศแคนาดาและประเทศญี่ปุ่น ทั้งภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษอยู่ในระดับ advance ค่ะ ส่วนตัวชอบภาษาและพูดได้มากกว่า 4 ภาษา แต่ก็สามารถสอนวิชาอื่นๆได้เช่นกัน เพราะเคยสอนทั้งคนไทยและคนต่างชาติค่ะ ไม่จำกัดแค่วิชาภาษาต่างประเทศเท่านั้น ใครที่ชอบเรียนและพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้โดยเฉพาะเกี่ยวกับต่างประเทศ ติดต่อได้เลยค่า

แสดงเพิ่มเติม
ธีรกานต์ อาจสอน
ธีรกานต์ อาจสอน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นติวเตอร์ที่รับผิดชอบ ตรงต่อเวลา สอนสนุกค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ชอบซีรี่ย์เกาหลี จนอยากพูดภาษาเกาหลีได้ ตอนนี้เรียนแบบออนไลน์กับครูที่่ได้จากเว็บไซต์ใส่ใจ ดีงามมากแม่
Saijai
ธนัฏฐา พัฒนปรีชากุล
3 ปีที่แล้ว
เว็บใช้งานง่ายมาก ๆ อยากได้ติวเตอร์ภาษาฝรั่งเศส เข้ามาจองในเว็บแป้บเดียวได้เลยค่ะ แถมได้คนสอนแบบที่เราต้องการเลย
Saijai
อารียา เพ็ญพุ่ม
3 ปีที่แล้ว
แพลตฟอร์มใส่ใจใช้ง่ายมาก ๆ เลือกติวเตอร์ตามคุณสมบัติที่อยากได้ เลือกเรทราคาที่ต้องการ ประทับใจสุด ๆ
Saijai
นนนพัทร วิเศษศิลป์
3 ปีที่แล้ว
ที่บริษัทจะส่งเราไปดูงานที่เกาหลีกลางปีหน้า แต่เราไม่มีพื้นฐานภาษาเกาหลีเลย ลองเรียนจากยูทูบเองก็ไม่ค่อยเข้าใจ เลยลองหาครูสอนพิเศษภาษาเกาหลีจากอินเตอร์เนต เจอครูที่ถูกใจในเว็บใส่ใจ ครูสอนเข้าใจง่าย สอนสนุกไม่น่าเบื่อ แต่เจอโควิทแบบนี้คงไปใหนไม่ได้ เรายังเรียนต่อนะ เพราะตอนนี้กลายเป็นว่าเราชอบภาษาเกาหลีไปซะแล้ว หมดโควิทเมื่อไหร่เจอกันนะเกาหลี อันยอง!
Saijai
นัชชา สุดสม
4 ปีที่แล้ว
ตั้งใจหาที่ติวภาษาฝรั่งเศส ตอนนี้หาที่เรียนมาหลายเดือนแล้ว ในที่สุดก็เจอกลุ่มเล็กๆ เรียนเข้าใจง่ายเพลิดเพลิน ติวเข้มสัปดาห์ละ 4 ชม. ปิดเทอมนี้สู้ขาดใจ ตั้งใจทำให้ได้คะแนนสอบ PAT7.1ให้ดีที่สุด จากที่ลงเรียนคอร์สแรก เรามีพัฒนาการดีขึ้น มารีวิว หากเพื่อนๆมองหาที่ติวอยู่ ลองดูที่นี่ได้เลย
Saijai
ขนิษฐา พัฒนาวรวงศ์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา เรียนภาษาต่างประเทศ

ข้อดีของการเรียนภาษาต่างประเทศอื่น ๆ นอกจากภาษาอังกฤษ
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้แรงงานไทยเสียเปรียบแรงงานจากประเทศอื่น เช่น ฟิลิปปินส์ คือแรงงานไทยยังขาดทักษะด้านภาษา โดยเฉพาะแรงงานที่ส่งออกไปยังต่างประเทศที่ต้องการแรงงานที่มีทักษะสูงด้านภาษา พูดง่าย ๆ ว่าใครที่มีคุณสมบัติพิเศษด้านนี้ย่อมได้เปรียบกว่าคนที่ไม่มีอย่างแน่นอน

ข้อดีของการรู้ภาษาที่สามมีอะไรบ้าง

1. การเรียนภาษาที่สาม เป็นการช่วยเพิ่มโอกาสในด้านต่าง ๆ มากมาย ทั้งในการทำงาน ไปจนถึงประโยชน์ทางด้านธุรกิจ ทำให้หลายองค์กรออกนโยบายมาเพื่อส่งเสริมให้แรงงานฝึกทักษะภาษาที่สามและมีโอกาสจะได้รับเลือกเข้าทำงานมากขึ้น
2. การพัฒนาทักษะในด้านภาษาที่สาม นอกจากจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้มีศักยภาพสูงขึ้นแล้ว ยังเพิ่มโอกาสในการเลื่อนระดับตำแหน่งงาน การปรับเงินเดือน ทำให้มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในตำแหน่งหน้าที่การงานมากขึ้น
3. ภาษาที่สามช่วยให้เราได้เปรียบในด้านการทำงานมากกว่าผู้ที่ได้เพียงแค่ 1 หรือ 2 ภาษา เพราะทำให้เกิดความสะดวกในการเจรจาต่อรองในเรื่องต่าง ๆ หากเราพูดภาษาของชาตินั้น ๆ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ
4. ในด้านการท่องเที่ยว ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก แม้ว่าภาษาอังกฤษจะเป็นภาษากลางที่สามารถสื่อสารเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังมีนักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ เช่น ชาวจีน รัสเซีย อีกเป็นจำนวนมากที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวเหล่านี้ไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ภาษาจีนจึงเป็นภาษาที่สามที่มาแรงมากเพราะเป็นตลาดแรงงานที่ใหญ่ รวมถึงกลุ่มคนชาติอื่นที่มีแนวคิดแบบชาตินิยมและไม่นิยมพูดภาษาอังกฤษ เช่น ประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นการพูดภาษาที่สาม ได้จึงเป็นการเปิดโอกาสในการทำงานด้านการท่องเที่ยวอีกทาง

จ้างติวเตอร์สอนภาษาต่างประเทศแพงจริงหรือไม่
ในยุคสมัยที่ภาษาต่างประเทศมีความสำคัญมากในแทบทุกด้าน ทั้งการสื่อสาร การเรียน หรือการทำธุรกิจ จึงทำให้การเรียนภาษาต่างประเทศได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มีตัวเลือกมากมายเกิดขึ้นเพื่อรองรับความต้องการด้านการเรียนภาษา ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนสอนภาษา ติวเตอร์ส่วนตัว หรือครูสอนพิเศษ อัตราค่าเรียนภาษาต่างประเทศย่อมแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้

1. เรียนกับครูเจ้าของภาษา หรือ Native Speaker ซึ่งเป็นที่นิยมเพราะผู้เรียนจะได้เรียนรู้สำเนียงเจ้าของภาษาด้วย อัตราค่าเรียนกับติวเตอร์เจ้าของภาษาโดยเฉพาะเป็นติวเตอร์ที่มีประสบการณ์และคุณวุฒิด้านการสอนจะมีราคาค่อนข้างสูง ยิ่งเรียนแบบตัวต่อตัว (Private) ที่จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาภาษาได้อย่างรวดเร็ว ราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 500 บาทขึ้นไปต่อคน ต่อชั่วโมง หากเรียนแบบกลุ่มราคาอาจจะลดลงตามขนาดกลุ่มของผู้เรียนคือยิ่งเรียนกลุ่มใหญ่ราคายิ่งลดลง
2. เรียนกับครู Non-Native Speaker อาจจะเป็นครูชาวไทยหรือชาวต่างชาติที่มีความรู้ในภาษานั้น ๆ อัตราค่าเรียนในกรณีที่เรียนแบบตัวต่อตัวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 450 บาทขึ้นไปต่อคน ค่าเรียนจะลดลงเมื่อเรียนแบบกลุ่ม
3. การเรียนแบบเรียนตามระดับชั้นรียน เช่น
- ระดับอนุบาล
- ระดับประถม
- ระดับมัธยมต้น
- ระดับมัธยมปลาย
- ระดับมหาวิทยาลัย
- บุคคลทั่วไป
ราคาเริ่มต้นโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 200 บาทขึ้นไปต่อคน ซึ่งค่าเรียนขึ้นอยู่กับความยากง่ายของเนื้อหา ยิ่งเรียนในระดับสูงที่มีความซับซ้อนด้านไวยากรณ์และคำศัพท์ค่าเรียนจะยิ่งสูงขึ้นด้วย
4. รูปแบบและสื่อที่ใช้ในการเรียนการสอน เช่นการเรียนแบบออนไลน์หรือต้องการให้ครูผู้สอนไปสอนที่บ้าน ซึ่งหากให้ผู้สอนไปสอนนอกสถานที่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนของค่าเดินทางเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

อยากเก่งภาษาคงไม่สามารถทำได้ภายในหนึ่งหรือสองวัน ต้องอาศัยความพยายามและการฝึกฝนอย่าง ตราบใดที่มีความพยายามและวิธีการเรียนรู้ที่ถูกต้อง เชื่อว่าคุณจะประสบความสำเร็จด้านภาษาอย่างแน่นอน
วิธีการเรียนภาษาต่างประเทศที่ดีควรเป็นอย่างไร
อยากเป็นผู้นำในตลาดแรงงานที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน เราจำเป็นต้องพัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศให้ล้ำหน้ากว่าคนอื่น ๆ

เคล็ดลับง่าย ๆ ที่ทำให้การเรียนภาษาต่างประเทศได้ผล ได้แก่

1. มีความตั้งใจเรียนรู้และทบทวนอย่างสม่ำเสมอ อาจจะทบทวนเป็นระยะสั้นๆ เช่น ในระหว่างรับประทานอาหารเช้า ในขณะอาบน้ำ หรือแม้แต่ในขณะที่กำลังเดินทางนั่งอยู่ในรถโดยสารต่าง ๆ ลองสอดแทรกการใช้ภาษาต่างประเทศในการทำกิจวัตรประจำวันเพื่อให้เกิดความคุ้นเคย
2. จดจำคำศัพท์ ยิ่งรู้คำศัพท์มากเท่าไหร่จะสามารถพูดและเข้าใจได้มากและเร็วขึ้นเท่านั้น
3. ฝึกฝนอย่างจริงจัง ฝึกออกเสียงหรือลองสนทนาบ่อย ๆ เพื่อจะได้ฝึกให้เคยชินกับการออกเสียงที่ถูกต้อง
4. ขยันทำการบ้าน การทำการบ้าน คือ การฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศให้เป็นไปอย่างแม่นยำ จนกลายเป็นความชำนาญ และสามารถทำออกมาได้ด้วยตัวเอง ยิ่งฝึกมาก ยิ่งเพิ่มทักษะได้มากขึ้น
5. จับกลุ่มติวกับเพื่อน ๆ เมื่อมีเวลาว่าง เช่น หาเวลาทบทวน ทำการบ้าน หรือฝึกพูดภาษานั้น ๆ กับเพื่อน ช่วยแก้ไขข้อบกพร่องให้กันและกัน และทำให้ไม่เบื่อที่จะเรียนรู้อีกด้วย
6. หาจุดอ่อนของตัวเองให้เจอ เมื่อเรารู้ว่าอะไรคือจุดอ่อนในการเรียนของตัวเอง เราจะแก้ไขได้ตรงจุด รู้ว่าควรเรียนรู้เพิ่มในส่วนไหนและเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียน
7. หาโอกาสในการใช้ภาษาต่างประเทศเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับภาษาให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการหาโอกาสพูดคุยกับเจ้าของภาษา หรือลองดูภาพยนตร์ในระบบเสียงแบบ Soundtrack เพื่อฝึกภาษา
8. หากสงสัยให้สอบถามครูผู้สอนหรือเจ้าของภาษาทันที เพื่อทำลายกำแพงที่เป็นอุปสรรคในการเรียนไปให้เร็วที่สุด และทำให้สามารถจดจำและเรียนรู้ในสิ่งที่ถูกต้องได้มากที่สุด
อยากเรียนภาษาต่างประเทศ จำเป็นไหมที่ต้องไปเรียนที่ต่างประเทศถึงจะสื่อสารได้
เพราะภาษาต่างประเทศไม่ใช่ภาษาที่เราคุ้นเคย ดังที่วลีภาษาอังกฤษมักใช้คำว่า “it is not my mother tongue” หมายถึง ไม่ใช่ภาษาที่เราคุ้นเคยตั้งแต่เกิดหรือง่าย ๆ คือไม่ใช่ภาษาแม่ของเรา มีคำถามว่าถ้าเราอยากเก่งภาษาต่างประเทศจำเป็นไหมที่ถ้าเราต้องเดินทางไปเรียนภาษาที่ประเทศนั้น ๆ การไปต่างประเทศสำหรับหลาย ๆ คนเป็นเรื่องที่ยาก ทั้งการจัดการและค่าใช้จ่าย ถ้าอย่างนั้นเราลองผสมผสานการใช้ภาษาเข้ากับชีวิตประจำวันของเราดู ค่อย ๆ ฝึกและเรียนรู้ เพื่อให้พัฒนาการทางภาษาดีไม่แพ้การไปเมืองนอกเลย

1. อ่านหนังสือหรือบทความภาษาอังกฤษ เริ่มอ่านอย่างไรให้น่าสนใจให้เข้าใจง่าย ให้อ่านในสิ่งที่เราสนใจที่เราชอบ อย่างน้อยเราเมื่อมีพื้นฐานในเรื่องนั้น ๆ เมื่ออ่านภาษาต่างประเทศ เราพยายามแปลคำศัพท์ทำให้เราเข้าใจบทความง่ายขึ้น เมื่อเป็นเรื่องง่ายเราไม่เบื่อที่จะทำ เมื่อทำบ่อย ๆ เราก็จะซึมซับและได้คำศัพท์ไปในตัว
2. ยิ่งอ่านมากยิ่งทำให้เราเจอคำศัพท์ใหม่ ๆ ให้จดบันทึกและหาความหมาย ลองหาบทความที่มีความซับซ้อนมากขึ้นเพื่อพัฒนาการอ่าน
3. การอ่านอ่อนออกเสียงทำให้เราคุ้นเคยกับการใช้ภาษาและเป็นการฝึกสำเนียงไปด้วย คราวนี้เราลองหาเรื่องราวที่เราสนใจฟังอาจเป็นคลิปวิดีโอสั้น ๆ ซึ่งมีอยู่มากมายบนโลกออนไลน์
4. ฝึกทุกที่ที่มีโอกาส การพบเพื่อนใหม่ผ่านสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์ค ที่มีหลากหลายช่องทาง เราสามารถอ่านความเห็นและแสดงความเห็นได้ด้วย ไปถึงการหาโอกาสพูดคุย กับคุณครูในโรงเรียน หรือในกลุ่มที่สนใจเรื่องเดียวกัน
5. สำคัญที่สุดอย่ากลัวที่จะใช้ เพราะถ้าเราไม่ใช้ภาษาออกไปเราไม่รู้ว่ามันผิดหรือถูก ถ้าเราใช้ออกไปแล้วมีผู้สื่อสารทักมาว่าผิดเราได้แก้ไขให้ถูกต้องได้ ค่อยๆปรับไปไม่นานเราก็สามารถใช้ภาษาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
6. ศูนย์การเรียนรู้ เรียนพิเศษ การที่ได้รับการแนะนำจากคุณครู ติวเตอร์เจ้าของภาษาโดยตรงทำให้เรามีความมั่นใจในการใช้ภาษามากขึ้น ที่สำคัญติวเตอร์สามารถจัดวิธีการเรียนที่เหมาะสมกับพัฒนาการทางภาษาของเรา