เสริมสวย ใน ตลิ่งชัน, กรุงเทพมหานคร

เสริมสวย ใน ตลิ่งชัน, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา เสริมสวย

ความหมายของ "ความงาม" ที่แท้จริง
เกิดมาหน้ากลม ก็อยากมีหน้าวีเชพ จมูกที่แม่ให้มาดูจะบี้ ๆ แบน ๆ ก็อยากเสริมดั้งให้โด่ง มองกระจกแล้วยังไม่ค่อยพอใจกับหน้านี้ หุ่นนี้ อยากสวย อยากดูดีกว่าที่เป็นอยู่ พยายาม เสริม เพิ่ม เติมแต่งให้ได้ในแบบที่ตนพอใจ ผลิตภัณฑ์และวิทยาการเสริมความงาม ครีมบำรุง เครื่องสำอาง วิตามิน อาหารเสริม แพ็คเกจทำสวย สปา นวดหน้า การทำศัลยกรรม สิ่งเหล่านี้กลายเป็นหนทางที่จะนำพาให้หนุ่ม ๆ สาว ๆ ทั้งหลายก้าวไปสู่ความงามที่ตัวเองใฝ่ฝัน เรียกว่ามีร้อยทุ่มไปร้อย มีหมื่นก็ทุ่มกันไปทั้งหมื่น จนมีคำถามที่หลายคนอยากรู้ว่า มาตรฐานความสวย ความหล่อ เราจะสามารถวัดได้จากอะไร หรือวัดกันได้อย่างไร เพราะนิยามความสวยของแต่ละคน แต่ละพื้นที่ ภูมิภาค แต่ละประเทศย่อมไม่เหมือนกัน ถ้านับรวมเรื่องค่านิยมความงามในแต่ละยุคสมัยเข้าไปด้วย ยิ่งไม่สามารถนำมาวัดหรือเปรียบเทียบได้เลยว่าแบบไหนคือสวย แบบไหนคือไม่สวย
สาวไทยผิวสีแทน ผิวสีน้ำผึ้ง ที่คนไทยส่วนหนึ่งไม่ปลื้มสักเท่าไหร่ กลับเป็นที่นิยมและชื่นชอบของประเทศฝั่งตะวันตก อย่างอเมริกาและยุโรป เพราะคนแถบนั้นจะมองว่าผิวสีแทนบ่งบอกถึงความมีสุขภาพดี เป็นคนที่ได้ออกไปทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬากลางแจ้ง ในขณะที่คนไทยพยายามหลบเลี่ยงแดดเพราะกลัวดำ กลัวผิวเสีย ใช้ครีมบำรุงผิวที่เน้นทำให้ผิวขาวขึ้น (Whitening) แต่ฝรั่งกลับชอบอาบแดดเพราะอยากมีผิวสีเข้มขึ้น

เอาเป็นว่าเรื่องความสวย ความหล่อ ขึ้นอยู่กับความพอใจของเจ้าตัวเป็นหลัก ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรที่ตายตัว หากการพยายามไปถึงความสวยที่ต้องการ โดยไม่ได้ทำให้ตัวเองหรือคนรอบข้างเดือดร้อน สวยขึ้น (ในแบบที่ตัวเองชอบ) แล้วรู้สึกมั่นใจมากขึ้น ทำแล้วเพิ่มโอกาสในหน้าที่การงาน เมื่อการเสริมสวยเสริมหล่อสามารถสร้างพลังงานด้านบวกให้กับตัวเอง
เทคนิคเปลี่ยนทรงผมให้หน้าดูเด็กลง
ไม่ว่าผู้หญิงจะอายุเท่าไหร่ ทุกคนก็อยากจะดูดี อ่อนเยาว์และสวยงาม คงไม่ใช่เรื่องยากตอนที่อายุยังน้อย ๆ แต่พออายุขึ้น ริ้วรอยแห่งวัยเพิ่มมากขึ้น คุณผู้หญิงต่างสรรหาวิธีที่จะช่วยลดอายุ ไม่ว่าจะเป็นศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า ครีมลดริ้วรอย การนวดหน้า หรือสปาหน้าเด็ก นอกจากการดูแลผิวพรรณให้อ่อนวัยแล้ว ทรงผมยังเป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้คุณดูเด็กลง รวมทรงผมที่จะช่วยเปลี่ยนลุคและกระชากวัยคุณลงได้เป็น 10 ปี
ทรงผมสั้นดัดลอน ช่วยทำให้คุณดูมีบุคลิกที่เด็กลงด้วยผมดัดลอนใหญ่ อย่าดัดผมลอนเล็กเพราะจะทำให้ผมหยิกเกินไป และหน้าอาจจะดูแก่ไปเลย การดัดผมลอนใหญ่จะช่วยให้ผมดูหนาขึ้นและมีวอลลุ่ม เป็นทรงผมที่เข้าได้กับทุกบุคลิกและแต่งตัวได้ง่าย
ทรงผมสไลด์สร้างวอลลุ่ม ทรงนี้เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวสบาย ๆ ไม่ต้องแต่หน้า แต่งผมเยอะ ๆ สระเสร็จ เพียงแต่เป่าให้แห้ง ไดร์ให้เข้าทรง หวีครั้งเดียวอยู่ทรงได้ทั้งวัน วอลลุ่มผมจะช่วยให้หน้าอ่อนลง
ทรงบ็อบสั้นตรง หรือทรงนักเรียน ทรงผมยอดฮิตตลอดกาล อาจเพิ่มความสดใสด้วยการทำสีผมให้อ่อนลง จะทำให้หน้าดูละมุนและอ่อนเยาว์
ทรงผมปลายงุ้ม หรือลอนตัวซี จะให้อารมณ์แบบสาวญี่ปุ่นดูคาวาอี ทำได้ทั้งผมสั้น ผมประบ่า และผมยาว ลอนผมที่งุ้มเข้า จะช่วยทำให้กรอบหน้าคุณดูเล็กลง เหมาะกับคนที่มีแก้มนิด ๆ
ทรงผมปลายสวอน อีกทรงที่เหมาะกับผู้ที่ใบหน้ากลมคือ ทรงผมประบ่าสวอนปลาย เป็นลุคทันสมัย เป็นทรงสวยใสสไตล์เกาหลี ดัดยกโคนขึ้นเล็กน้อยเพิ่มความละมุน ดูธรรมชาติมากขึ้น ทรงนี้ยังช่วยเพิ่มความยาวให้ใบหน้า ดูทันสมัย
สิ่งจำเป็นในการดูแลผิวหน้าสำหรับผู้หญิงวัย 40+
30 ยังแจ๋ว หรือต่อให้ปาไป 40 แล้วก็ยังสวยได้ถ้าดูแลตัวเองดี ๆ อาจฟังดูน่าตกใจเล็กน้อยเมื่อกล่าวถึงอายุช่วง 40 ปี ที่ถือว่าเป็น “วัยกลางคน” (midlife) ซึ่งมักจะมาพร้อมกับ Midlife Crisis ที่ทำให้เราได้มองย้อนกลับไป ในช่วงชีวิตเราผ่านมานี่ครึ่งทางแล้วเหรอ แล้วต่อไปจะเอาอย่างไรกับชีวิตดี แล้วเราจะสามารถเตรียมตัวเตรียมใจตัวเองให้พร้อมกับก้าวเข้าสู่วัย 40 อย่างมีความสุขอย่างไร
สิ่งที่ควรเตรียมตัวเพื่อให้คุณก้าวเข้าสู่วัย 40 อย่างมีความสุข
1. สุขภาพที่ดี “อโรคยา ปรมาลาภา” ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
เรื่องสุขภาพต้องมาก่อน การมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์ แข็งแรง ถือเป็นต้นทุนของทุกสิ่ง เมื่อคุณมีสุขภาพดี คุณจะสามารถทำอะไรที่อยากทำโดยไม่ต้องกังวลถึงข้อจำกัดด้านสุขภาพ หลักพื้นฐานที่สามารถทำให้คุณเป็นคนที่มีสุขภาพดีคือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้เบิกบานไม่คิดลบ ไม่เครียด และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทั้งหมดดูเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย ๆ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ สิ่งเหล่านี้ที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วกลับไม่ได้ทำง่ายอย่างที่คิด ด้วยข้อจำกัดของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป และการสร้างสุขภาพที่ดีไม่ใช่สิ่งที่สามารถสร้างได้ภายในวันเดียวหรือสองวัน ดังนั้นหากคุณอยากเป็นคนวัยสี่สิบที่สุขภาพดี คุณต้องเริ่มต้นดูแลและไม่ทำสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพตั้งแต่เนิ่น ๆ
2. ความมั่นคงทางการเงิน การทำงานในบริษัทเอกชนแม้จะมีรายได้หรือเงินเดือนสูงกว่างานราชการ แต่ความเสี่ยงเรื่องความมั่นคงดูเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เลยหากคุณตกงานในวัย 40 ยิ่งหางานใหม่ยากเข้าไปอีก โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนจากปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด หรือภาวะสงคราม คุณควรมีแผนสำรองหรืออาชีพเสริมตั้งแต่เนิ่น ๆ ระลึกไว้เสมอว่ารายรับไม่สำคัญเท่าเงินเหลือ ออมเงินตั้งแต่เริ่มทำงาน ลงทุนเพื่อให้มีรายได้พิเศษนอกจากงานหลัก สร้างความมั่นคงทางการเงินเพื่อลดความกังวลเมื่ออายุมากขึ้น
3. ปรับปรุงและเปลี่ยนตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความรู้ด้านเทคโนโลยี ติดตามข่าวสาร รู้ทันโลก ทำในสิ่งที่ชอบ และปล่อยวางในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ยิ่งอายุมากขึ้น คุณต้องยิ่งเข้าใจในธรรมชาติของคน ไม่มีอะไรที่จะถูกใจเราทั้งหมด คุณไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงใครให้เป็นไปในแบบที่คุณต้องการได้ แต่สิ่งที่คุณทำได้คือปรับจิตใจตัวเองให้ยอมรับในความแตกต่างและความเป็นไปรอบข้าง สิ่งที่ควรมีมากขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้นคือ สติ
ปัญการผิวแพ้ง่ายและการดูแลที่ถูกวิธี
ปัญหาผิวแพ้ง่ายมักเกิดจากปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดภาวะระคายเคือง ซึ่งมีทั้งปัจจัยภายใน เช่น พันธุกรรม หรือโรคความผิดปกติของผิวหนัง และปัจจัยภายนอก เช่น สิ่งแวดล้อม แสงแดด มลพิษทางอากาศ สารเคมีจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ทำให้ผิวแพ้ง่ายกลายเป็นเรื่องยากที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่เราสามารถหลีกเลี่ยงและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการได้ ดังนั้นการดูแลจึงต้องเน้นการบำรุงให้ผิวแข็งแรง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังได้แนะนำแนวทางการดูแลผิวหน้าที่แพ้ง่าย ดังนี้
1. ทำความสะอาดผิวหน้า : น้ำร้อนจะทำให้ไขมันที่จำเป็นบนชั้นผิวถูกชะล้างออกมากเกินไป จึงควรล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ 2 ครั้งต่อวัน เช้า-เย็น ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ไม่มีสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ที่เน้นสูตรอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ และควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดหน้าแรงๆ เพราะจะทำให้เกิดการเสียดสีและเกิดการระคายเคือง
2. เกราะปกป้องผิวหน้า : เกราะปกป้องผิวที่อ่อนแอเป็นสาเหตุของผิวหน้าแห้งและผิวไวต่อสิ่งกระตุ้น สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย ควรใช้สกินแคร์ที่ช่วยลดการระคายเคืองลดปัญหาผิวแห้ง ควบคู่ไปกับการให้ความชุ่มชื้น และฟื้นบำรุงเกราะปกป้องผิวให้ดีขึ้น
3. หลีกเลี่ยงและปกป้องผิวแสงแดด ต้องใช้ครีมกันแดดทุกวันทาก่อนออกแดด 15-20 นาที เพราะผิวแพ้ง่ายจะไวต่อแสงแดดมาก ควรใช้สารกันแดดธรรมชาติ (Physical sunscreen) ที่ช่วยป้องกันแสงแดดโดยการสะท้อนออก ไม่ใช่การดูดซับเข้ามาที่ผิวเหมือนสารกันแดดเคมี ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้ และสารกันแดดเคมียังเป็นอันตรายสามารถดูดซึมสู่เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังเข้าร่างกายได้อีกด้วย

ดูแลผิวอย่างไรไม่ให้หน้าดูแก่เกินวัย

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าแสงแดดของประเทศไทยนั้นแรงเหลือเกิน และได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองร้อนอันดับ 3 ของโลก ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจกันแน่ใช่ไหมละคะ ยิ่งเป็นแสงแดดในช่วงตอนเที่ยงหรือตอนบ่ายก็ไม่มีใครอยากออกจากบ้านกันหรอกค่ะ ในย่านตลิ่งชันก็เช่นกัน สำหรับใครคนไหนที่เคยมายังที่แห่งนี้ ก็คงจะรู้ดีถึงความอบอ้าวในบริเวณนี้ อยากจะเดินออกไปข้างนอกทั้งทีก็กลัวว่าแสงแดดจะเข้ามาทำร้ายผิวของเรา และผลที่ตามมาก็ทำให้ผิวของเรานั้นเสีย เพราะการที่เราสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงจะทำให้หน้าของเรานั้นเหี่ยวย่นได้ และทำให้ใบหน้าไม่มีชีวิตชีวา วันนี้ SAIJAI เลยได้รวบรวมวิธีการดูแลรักษาผิวหน้าไม่ให้ดูแก่ก่อนไว้มาฝากหนุ่มๆ สาวๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะรับมือทำอย่างไรกับอากาศเมืองไทยที่เสี่ยงผิวไหม้กันทุกวัน

ใช้ครีมบำรุงรอบดวงตา หากมองเห็นเส้นบางๆ รอบดวงตาแล้ว เราควรใช้ครีมบำรุงเพื่อให้ผิวหนังรอบดวงตาได้รับการดูแลป้องกัน เพราะผิวบริเวณดวงตาค่อนข้างบาง โดนแดดทำร้ายได้ง่าย

ทำตัวให้ผ่อนคลาย ความเครียดจะทำให้ง่ายต่อการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า และยังทำให้หลั่งฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติด้วยอย่าปล่อยให้เกิดการสะสมของความเครียดเพราะจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้

การนอน การนอนนั้นเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและดีที่สุดในการดูแลผิวไม่ให้แก่ก่อนไว เพราะว่าเวลาที่เรานอนหลับ ร่างกายของเราจะซ่อมแซมความเสียหายจากเซลล์ที่เสื่อมสภาพ ช่วยชะลอการเหี่ยวย่นของใบหน้าเราได้อีกด้วย

การใช้ผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้นอาจจะต้องใช้ครีมบำรุงในการต่อต้านริ้วรอย ซึ่งในการต่อต้านริ้วรอยนั้นจะเข้าไปช่วยเพิ่มการเผาผลาญของเซลล์ และจะทำให้ผิวหน้าของเรานั้นไม่เกิดริ้วรอยตามมา



เคล็ดลับการมีผิวเปล่งปลั่ง ที่คุณสามารถทำเองได้

องค์ประกอบหลักและสัญญาณของผิวสุขภาพดี คือการเปล่งประกายแบบธรรมชาติ แต่สาเหตุต่างๆ เช่น การอดนอนความเครียดอายุ และแม้แต่สิ่งที่คุณกินเข้าไปก็อาจทำให้ผิวของคุณเสียความสดใสได้ ข่าวดีก็คือคุณสามารถเปลี่ยนผิวที่ดูหมองคล้ำและเหนื่อยล้าให้กลับมาเปล่งปลั่งและเปล่งปลั่งได้เองที่บ้าน เพียงแค่ทำตามเคล็ดลับผิวและการทำความสะอาดผิวหน้า ที่ SAIJAI จะมาแนะนำให้สาวๆ ได้ทราบกันในวันนี้ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ

กุญแจสู่ผิวที่เปล่งปลั่งของสาวๆ ก็คือการทำความสะอาดใบหน้าของคุณ ด้วยการขจัดสิ่งสกปรก น้ำมัน และอนุภาคมลภาวะที่อาจอุดตันรูขุมขนและทำให้เกิดความหมองคล้ำ คุณควรล้างหน้าในตอนเช้าและกลางคืนด้วยการนวดเบาๆ โฟมล้างหน้าที่เหมาะสำหรับผิวของคุณเอง

ขัดผิวเป็นประจำ

Wizemann กล่าวว่า "วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการทำให้ผิวกระจ่างใสและเพิ่มความเปล่งประกายทั้งในทันทีและในระยะยาวก็คือการผลัดเซลล์ผิว" แต่เกือบครึ่งหนึ่งของสาวๆ จะข้ามขั้นตอนนี้ไป ขั้นตอนนี้จะขจัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่ตายออกไปเพื่อให้ผิวเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น สาวๆ ควรจะใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวกาย เช่นสครับผิวหน้าสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หรือขัดผิวด้วยสารเคมี เช่นการลอกหน้าสัปดาห์ละครั้งสำหรับผิวบอบบางหรือผิวแห้ง

การให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและการปกป้องผิว

เพื่อความกระจ่างใสยิ่งขึ้น ให้ตามด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ เมื่อผิวชุ่มชื้นแล้วจะทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งขึ้นทันที และต้องแน่ใจว่าได้ปกป้องผิวด้วยครีมกันแดดหรือเดย์ครีม ที่มี SPF 30+ แล้ว เนื่องจากการผลัดเซลล์ผิวจะทำให้เกิดความเสียหายจากแสงแดดได้อีกด้วย





ผมสวยดูเงางามสำหรับสาวๆ ต้องทำอย่างไร

การมีผมสวย สุขภาพดีเงางามนั้นเป็นไปได้ไม่ยาก และประกอบด้วยการมีสุขภาพดีด้วย โดยทั่วไปเส้นผมที่เงางามจะขึ้นอยู่กับอาหารที่เรารับประทานอีกด้วย ดังนั้นวันนี้เรา ได้รวบรวมวิธีการดูแลเส้นผม ให้ผมของสาวๆ ดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติมาฝาก จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

หลีกเลี่ยงแชมพูที่มีซิลิโคน ซิลิโคนในแชมพูสามารถทำให้ผมของสาวๆแห้งได้ ในทางกลับกันสำหรับคนที่สภาพผมมันอยู่แล้วยังสามารถทำให้หนังศีรษะผลิตไขมันหรือน้ำมันมากเกินไป นอกจากนี้แนะนำให้ใช้แชมพูจากธรรมชาติแทน แชมพูที่ดีสำหรับผมมันเยิ้มควรมีสารสกัดจากส้มและสารสกัดจากสมุนไพร ที่สามารถกำจัดการสะสมของน้ำมันและสิ่งสกปรกบนเส้นผมและหนังศีรษะของสาวๆ โดยไม่กำจัดน้ำมันตามธรรมชาติของเส้นผมออกไป

บำรุงผมให้ได้รับวิตามินที่เพียงพอ การทานอาหารเสริม วิตามิน B12 และ B6 สามารถทำให้ต่อมน้ำมันทำงานลดลงได้ จะทำให้ผมของสาวๆดีขึ้นและลดปัญหาผมร่วง นอกจากนี้สาวๆอาจจะต้องรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน B12 และ B6 อย่างเพียงพอ เช่น ผัก ถั่วเหลือง ขนมปัง ธัญพืช นม เนื้อสัตว์และปลา

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ถ้าหากสาวๆมีผมและหนังศีรษะที่มัน จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อจัดการกับปัญหาผมมัน การทำความสะอาดด้วยแชมพู ก็ให้ผลได้ดีในการกำจัดน้ำมันและการสะสมของสิ่งสกปรก การทำแบบนี้สามารถทำให้เส้นผมของสาวๆสดชื่นและลดไขมันบนหนังศีรษะ