วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ช่างใจดี มีความเป็นมืออาชีพ ใช้เครื่องสำอางค์เค้าเตอร์แบรนด์ บริการเป็นกันเอง ใส่ใจทุกรายละเอียดของลูกค้า ทรงผมและโทนสีหน้าลูกค้าสามารถหาแบบมาได้ตามความต้องการของลูกค้า บริการแต่งหน้าทำผมรับปริญญา แต่งหน้าทำผมเจ้าสาว แต่งหน้าทำผมออกงาน แต่งหน้าทำผมเพื่อนเจ้าสาว แต่งหน้าทำผมออกงาน แต่งหน้าทำผมกีฬาสี แต่งหน้าทำผมในวันสำคัญต่างๆ
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา เสริมสวย
ทรงผมสั้นดัดลอน ช่วยทำให้คุณดูมีบุคลิกที่เด็กลงด้วยผมดัดลอนใหญ่ อย่าดัดผมลอนเล็กเพราะจะทำให้ผมหยิกเกินไป และหน้าอาจจะดูแก่ไปเลย การดัดผมลอนใหญ่จะช่วยให้ผมดูหนาขึ้นและมีวอลลุ่ม เป็นทรงผมที่เข้าได้กับทุกบุคลิกและแต่งตัวได้ง่าย
ทรงผมสไลด์สร้างวอลลุ่ม ทรงนี้เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวสบาย ๆ ไม่ต้องแต่หน้า แต่งผมเยอะ ๆ สระเสร็จ เพียงแต่เป่าให้แห้ง ไดร์ให้เข้าทรง หวีครั้งเดียวอยู่ทรงได้ทั้งวัน วอลลุ่มผมจะช่วยให้หน้าอ่อนลง
ทรงบ็อบสั้นตรง หรือทรงนักเรียน ทรงผมยอดฮิตตลอดกาล อาจเพิ่มความสดใสด้วยการทำสีผมให้อ่อนลง จะทำให้หน้าดูละมุนและอ่อนเยาว์
ทรงผมปลายงุ้ม หรือลอนตัวซี จะให้อารมณ์แบบสาวญี่ปุ่นดูคาวาอี ทำได้ทั้งผมสั้น ผมประบ่า และผมยาว ลอนผมที่งุ้มเข้า จะช่วยทำให้กรอบหน้าคุณดูเล็กลง เหมาะกับคนที่มีแก้มนิด ๆ
ทรงผมปลายสวอน อีกทรงที่เหมาะกับผู้ที่ใบหน้ากลมคือ ทรงผมประบ่าสวอนปลาย เป็นลุคทันสมัย เป็นทรงสวยใสสไตล์เกาหลี ดัดยกโคนขึ้นเล็กน้อยเพิ่มความละมุน ดูธรรมชาติมากขึ้น ทรงนี้ยังช่วยเพิ่มความยาวให้ใบหน้า ดูทันสมัย
ปัญหาที่อาจพบได้บ่อยและเห็นได้ชัดเจนของคุณผู้หญิงวัยนี้ คือ ปัญหาผิวพรรณ เช่น ขาดความชุ่มชื้น รูขุมขนกว้าง มีริ้วรอยเหี่ยวย่น ฝ้า กระและจุดด่างดำ ที่เห็นได้ชัดเจนขึ้น จนบางครั้งบั่นทอนความมั่นใจของคุณไปเลย จะยิ้มแต่ละทีก็กลัวรอยตีนกา เพราะผิวมีร่องลึก ขาดความยืดหยุ่น ไม่ไสเด้งเหมือนตอนเป็นสาว ๆ สารพัดปัญหาผิวกวนใจ
เคล็ดลับง่ายๆ ในการรักษาความสวยของสาววัย 40 วิธีการที่จะช่วยให้คุณผู้หญิงแลดูสาว ดูสวย ดูอ่อนกว่าวัย เป็นสาววัย 40 ที่มีสุขภาพและอารมณ์ดี ไม่ยุ่งยาก ทำได้จริงและเห็นผลแน่นอน
- ทำใจให้สบาย การมีทัศนคติที่ดี มองโลกในแง่บวก คิดบวก ส่งผลดีต่อร่างกายและจิตใจอย่างแน่นอน ศัตรูตัวร้ายของผิว คือความเครียด ความเครียดส่งผลเสียต่อผิวของคุณผู้หญิงได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยที่เดียว ลองสังเกตได้จากตัวเราเอง หากเราเครียดผิวเราจะดูแห้งแล้ว รูขุมขนกว้างขึ้นและหมองคล้ำอย่างเห็นได้อย่างชัดเจน การแต่งหน้ายังไม่สามารถปกปิดความหมองของผิวที่เกิดจากความเครียดได้เลย ยิ่งเครียดมากยิ่งส่งผลให้คุณดูแก่กว่าวัย ดังนั้นทำใจให้สดใส มองโลกในแง่ดีเข้าไว้เพื่อสุขภาพผิวที่ดี
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที ช่วยให้คุณผู้หญิงรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า สร้างสมาธิและลดความเครียดได้เป็นอย่างดี ได้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและส่งผลให้ผิวดี มีน้ำมีนวล ผิวไม่เหี่ยวและย่อนคล้อยก่อนวัย เพียงแค่แบ่งเวลา ออกกำลังกายแบบง่าย ๆ ที่บ้าน เช่น การวิ่งหรือเดินบนลู่วิ่ง หรือลองหาคลิปฝึกโยคะ เต้นแอโรบิก จากยูทูป ลองทำตาม หรือเดินออกกำลังกายตามสวนสาธารณะ ปั่นจักรยาน หรือเล่นกีฬาที่ชอบกับเพื่อน ๆ
- You are what you eat ดูแลผิวพรรณด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ มีสารอาหารครบถ้วน ถือเป็นการดูแลร่างกายและจิตใจจากภายใน รับประทานผักและผลไม้เพิ่มกากใย (Fiber)ให้มากขึ้น ลดการอาหารรสจัด ไม่ว่าจะเปรี้ยว หวาน มัน หรือเค็ม ลองเปลี่ยนเป็นอาหารรสเบา ๆ ดูบ้าง ช่วยในการย่อยและดูแลการขับถ่ายให้ได้ดี กิไม่มีของเสียตกค้างในร่างกาย เป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลให้ผิวพรรณสดใสอย่างแน่นอน
เคล็ดไม่ลับ ทำได้ง่าย ๆ สำหรับคุณผู้หญิงทุกวัยที่อยากมีผิวและสุขภาพดี
1. ทำความสะอาดผิวหน้า : น้ำร้อนจะทำให้ไขมันที่จำเป็นบนชั้นผิวถูกชะล้างออกมากเกินไป จึงควรล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ 2 ครั้งต่อวัน เช้า-เย็น ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ไม่มีสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ที่เน้นสูตรอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ และควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดหน้าแรงๆ เพราะจะทำให้เกิดการเสียดสีและเกิดการระคายเคือง
2. เกราะปกป้องผิวหน้า : เกราะปกป้องผิวที่อ่อนแอเป็นสาเหตุของผิวหน้าแห้งและผิวไวต่อสิ่งกระตุ้น สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย ควรใช้สกินแคร์ที่ช่วยลดการระคายเคืองลดปัญหาผิวแห้ง ควบคู่ไปกับการให้ความชุ่มชื้น และฟื้นบำรุงเกราะปกป้องผิวให้ดีขึ้น
3. หลีกเลี่ยงและปกป้องผิวแสงแดด ต้องใช้ครีมกันแดดทุกวันทาก่อนออกแดด 15-20 นาที เพราะผิวแพ้ง่ายจะไวต่อแสงแดดมาก ควรใช้สารกันแดดธรรมชาติ (Physical sunscreen) ที่ช่วยป้องกันแสงแดดโดยการสะท้อนออก ไม่ใช่การดูดซับเข้ามาที่ผิวเหมือนสารกันแดดเคมี ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้ และสารกันแดดเคมียังเป็นอันตรายสามารถดูดซึมสู่เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังเข้าร่างกายได้อีกด้วย
วิธีทำโทนเนอร์ง่ายๆ ใช้เอง
เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงเจอกับมลภาวะในชีวิตประจำวันไม่น้อย ยิ่งสาวๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่ย่านนนทบุรียิ่งเจอมลภาวะมากในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะทางอากาศ ควัน ครีมกันแดด หรือเครื่องสำอางที่สาวๆใช้ ซึ่งการกำจัดมลภาวะบนผิวหน้ามีอยู่หลากหลายวิธี หนึ่งในนั้นคือโทนเนอร์ ซึ่งโทนเนอร์มีความจำเป็นต่อผิวหน้ามาก เพราะว่าจะช่วยปรับสภาพผิวของเราให้พร้อมสำหรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป ช่วยกระชับรูขุมขนแล้วก็ช่วยลดการอักเสบของสิวด้วย วันนี้จะมาแนะนำวิธีทำโทนเนอร์ใช้เองแบบง่ายๆ สไตล์สาวๆ กันค่ะ
อุปกรณ์ที่เราต้องเตรียมมี
- น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1/4 ถ้วยตวง
- และชาเขียวแบบซองชง 3/4 ถ้วยตวง
นำส่วนผสมทั้งสองมาผสมให้เข้ากันแล้วนำมาเช็ดที่ผิวหน้าเบาๆ หลังจากที่ล้างทำความสะอาดแล้ว หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราถึงต้องทําโทนเนอร์ใช้เองคำตอบก็คือ โทนเนอร์ที่เราทำเองปราสจากแอลกอฮอล์และน้ำหอม เราจึงมั่นใจได้เลยค่ะว่าอ่อนโยนต่อผิวสงสัยใช่ไหมว่าทำไมถึงเลือกใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์แล้วก็ชาเขียว คำตอบก็คือ Apple Cider จะช่วยปรับค่า PH บนผิวให้สมดุลและช่วยป้องกันการเกิดแบคทีเรียบนผิวด้วยค่ะ ส่วนชาเขียวจะช่วยลดการอักเสบและรอยแดงของสิวให้จางลงแถมยังช่วยซ่อมแซมผิวที่ถูกทำร้ายด้วยค่ะ เห็นไหมว่าแอปเปิ้ลไซเดอร์และชาเขียวมีประโยชน์ขนาดไหน ยังไงก็อย่าลืมลองนำโทนเนอร์สูตรนี้ไปลองทำกันดูนะ
สิ่งควรรู้เกี่ยวกับยาแต้มสิว
ความเครียดและมลภาวะล้วนทำให้เกิดสิวทั้งสิ้น หลายคนที่ทำงานในเมืองใหญ่อย่างนนทบุรีคงหนีไม่พ้นปัญหาเหล่านี้ สิวเห่ออาจกลายเป็นเรื่องปกติ แต่ก็แก้ได้ด้วยยาแต้มสิว ซึ่งยาแต้มสิวที่ดีจะไม่ทำให้ผิวหน้าของเราแห้งแสบ ลอก เป็นขุยแน่นอน นอกจากนี้ ในการใช้ยาแต้มสิวยังมีความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับยาแต้มสิวอีกหลายข้อ เลยอยากพาสาวๆ มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับยาแต้มสิวกันใหม่ค่ะ ยาแต้มสิวก็คือยาที่ใช้แต้มสิวแล้วจะทำให้ผิวของเราลอกเป็นขุย จริงๆแล้วการที่ผิวของเราแห้งและลอกเป็นขุยหลังจากใช้ยาแต้มสิวนั่นก็เป็นเพราะว่ายาแต้มสิวตรงนั้นมีการใส่กรดซาลิไซลิก หรือส่วนผสมที่เร่งการผลัดเซลล์ผิวในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น ซึ่งจะเป็นการทำร้ายผิวหนังของเรา มีความเชื่อเกี่ยวกับยาแต้มสิวที่สาวๆ หลายคนเข้าใจผิดกันมาตลอด นั่นก็คือใช้แล้วสิวไม่หาย ขอบอกเลยว่าไม่จริงเสมอไป เพราะมียาแต้มสิวบางชนิด มีตัวยาที่ช่วยลดการอักเสบของสิวและช่วยลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย สาวๆ เคยรู้สึกไหมเวลาใช้ยาแต้มสิวแล้วจะต้องรู้สึกแสบๆที่ผิวหนัง เหมือนตัวยากำลังออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคอยู่ ซึ่งจริงๆแล้วการที่เรารู้สึกแสบหลังจากใช้ยาแต้มสิว แปลว่ายาแต้มสิวตัวนั้นมีการใช้กรดซาลิไซลิกหรือส่วนผสมที่เป็นกรดต่างๆ มากเกินไป กลายเป็นการทำร้ายผิวหนังของเรา อาจจะทำให้ผิวเกิดรอยแผลเป็นตามมาค่ะ ความเชื่อที่ว่าหลังจากใช้ยาแต้มสิวแล้วเนี่ยจะทำให้สิวยุบและหายทันที ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดมากๆ เลย เพราะยาแต้มสิวจะค่อยๆ ช่วยลดการอักเสบของสิวซึ่งจะต้องใช้เวลา 2-3 วันหรือมากกว่านั้น สิวของเราก็จะค่อยๆยุบลงอย่างช้าๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลและการรักษาความสะอาดด้วย
สิวเห่อทำอย่างไรดี
ปัญหาสิวเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนแต่ธรรมชาติของผิวหน้าของแต่ละคน จะแตกต่างกันออกไป จึงส่งผลต่อใบหน้าของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะมีสิวมาก บางคนอาจมีสิวน้อย บางคนอาจจะเป็นคนดูแลตัวเอง แต่ก็ยังมีสิวผุดขึ้นมา ถ้าพูดถึงจุดเริ่มต้นของสิว สิวนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว เกิดมาจากต่อมไขมันใต้ผิวหนัง สี่ผลิตน้ำมันออกมาเพื่อเคลือบผิวไม่ให้แห้งจนเกินไป แต่ต่ำไขมันอาจจะผลิตน้ำมันออกมามากจนเกินไปด้วยการควบคุมของฮอร์โมน แอนโดรเจน ที่เป็นตัวกระตุ้นให้ต่อมไขมันมีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อมีน้ำมันมากขึ้นและไม่สามารถออกจากรูขุมขนได้ เพราะมีสิ่งสกปรกกีดขวาง มันก็จะกลายเป็นสิวในที่สุด โดยวิธีการรักษาสิวนั้นมีอยู่หลากหลายวิธีด้วยกัน
ลดความมันบนใบหน้า หากรู้ตัวว่าหน้ามัน ควรจะล้างหน้าเพื่อเอาความมันนั้นออก แต่อย่าล้างบ่อยจนเกินไปเพราะจะยิ่งไปช่วยกระตุ้นการเกิดสิวได้
ดื่มน้ำ การดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยทำให้เซลล์ต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นตัวช่วยในการนำสารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกายให้ถูกขับออกมา ดังนั้นเราควรดื่มน้ำไม่ต่ำกว่าวันละ 8 แก้วเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการล้างพิษ
การกำจัดความเครียด เมื่อเราเครียดร่างกายของเราจะหลั่งฮอร์โมนที่สามารถไปกระตุ้นต่อมไขมันหรือผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น โดยมีงานวิจัยสรุปมาว่าเมื่อมีความเครียดเกิดขึ้นจะทำให้เกิดการอักเสบของสิวเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้น ประมาณ 93.5% เลยทีเดียว
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง