เสริมสวย ใน นนทบุรี

เสริมสวย ใน นนทบุรี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

โชติกา พิชญปิติโชติ
โชติกา พิชญปิติโชติ
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการค่ะ

-ต่อขนตาเริ่มต้น 499฿

-ทำเล็บเริ่มต้น 150฿

-แว็กซ์ขน เริ่มต้น 99฿

แสดงเพิ่มเติม
นิธิวรรณ  ศรีสวัสดิ์
นิธิวรรณ ศรีสวัสดิ์
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

สวัสดีค่ะนุ่นเป็นช่างต่อขนตามาแล้ว4 ปีมั่นใจได้เลยว่าทางร้านเราใส่ใจรายละเอียดใจเย็นมือเบาประสบการณ์จะทำให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีแน่นอนค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ยุทธชัย สรหงษ์
ยุทธชัย สรหงษ์
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

ช่างทำเล็บมีประสบการณ์มากกว่า3ปี สปามือและเท้า+ทาสีเจล+ต่อพีวีชี+งานเพ้นท์+ตัดหนัง

แสดงเพิ่มเติม
Manussapong Somsawang
Manussapong Somsawang
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ช่างใจดี มีความเป็นมืออาชีพ ใช้เครื่องสำอางค์เค้าเตอร์แบรนด์ บริการเป็นกันเอง ใส่ใจทุกรายละเอียดของลูกค้า ทรงผมและโทนสีหน้าลูกค้าสามารถหาแบบมาได้ตามความต้องการของลูกค้า บริการแต่งหน้าทำผมรับปริญญา แต่งหน้าทำผมเจ้าสาว แต่งหน้าทำผมออกงาน แต่งหน้าทำผมเพื่อนเจ้าสาว แต่งหน้าทำผมออกงาน แต่งหน้าทำผมกีฬาสี แต่งหน้าทำผมในวันสำคัญต่างๆ

แสดงเพิ่มเติม
ปูชิตาภักดิ์ อนันต์วัชรกุล
ปูชิตาภักดิ์ อนันต์วัชรกุล

เปิดร้านทำเล็บและต่อขนตา 3 เดือน ค่ะ ให้บริการทำเล็บ ทาสีเจล ราคาเริ่มต้นที่ 100 บาท ทาสีลูกแก้ว ต่อเล็บ งานเพ้นท์ ต่อขนตา ต่อตาสาย ฝ บริการนอกสถานที่ มีค่าเดินทาง 200 บาทค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ประกายเดือน สุขศรีจักรวาฬ
ประกายเดือน สุขศรีจักรวาฬ
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

หากคุณต้องการมีเล็บที่สวยงาม แนะนำบริการทาสีเจล เพ้นท์เล็บ ตามสไตล์ทีคุณชื่นชอบ สามารถแนะนำและออกแบบลายเล็บที่คุณต้องการ ในราคาที่เป็นกันเอง

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา เสริมสวย

แบบไหนที่เรียกว่า "ความงาม"
“Beauty Standard” ในปัจจุบันสื่อโฆษณาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทีวี สื่อโซเชียลมีเดียพยายามสร้างมาตรฐานความงามไปในทิศทางเดียวกัน ให้ผู้หญิงต้องมีรูปร่างผอมเพรียวหรือแทบจะผอมแห้ง ผิวขาว หน้าใส ผู้ชายต้องตัวสูง ขายาว มีกล้ามเนื้อสวยงาม ดูดี ดูสมบูรณ์แบบในสายตาของคนส่วนใหญ่ จนสิ่งเหล่านี้ส่งอิทธิพลให้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกไม่พอใจกับรูปลักษณ์ภายนอกตนเอง อ้วนไป ขาใหญ่ไป พุงใหญ่ไป หน้าอกเล็กไป ฯลฯ
วัยรุ่นส่วนหนึ่งมีปัญหาการรับประทานอาหารที่ผิดปกติ เพราะกังวลเรื่องน้ำหนักตัว เด็กวัยนี้มากกว่าครึ่งงดอาหาร อดอาหาร สูบบุหรี่ อาเจียน และกินยาระบายเพื่อควบคุมน้ำหนัก โดยมีพฤติกรรมเหล่านี้ตั้งแต่อายุยังน้อย จนอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือเป็นตลอดชีวิต การพยายามไปให้ถึงมาตรฐานความงามและรูปร่างดีอาจนำไปสู่ความผิดปกติของการกินและปัญหาสุขภาพจิต จนกลายเป็นนิสัย ส่งผลเสี่ยงต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความเสียหายให้กับอวัยวะ พัฒนาการล่าช้า หรืออาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ด้านจิตใจ คนที่เป็นโรคเหล่าก็มีโอกาสฆ่าตัวตายสูง เพราะติดอยู่กับความคิดด้านลบ
ที่จริงแล้วคำว่า “Beauty Standard” หรือ มาตรฐานความงาน ไม่สามารถนำอะไรมาวัดหรือกำหนดได้ตายตัว ดังนั้นสิ่งที่ควรปลูกฝังให้กับทุกคนคือความเข้าใจถึงความแตกต่าง ความหลากหลายของคน ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น พอใจกับสิ่งที่ตัวเองมี รักตัวเองไม่ว่าเราจะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร เปิดใจรับและยอมรับให้มากขึ้น ความสุขสร้างเองได้
เทคนิคเปลี่ยนทรงผมให้หน้าดูเด็กลง
ไม่ว่าผู้หญิงจะอายุเท่าไหร่ ทุกคนก็อยากจะดูดี อ่อนเยาว์และสวยงาม คงไม่ใช่เรื่องยากตอนที่อายุยังน้อย ๆ แต่พออายุขึ้น ริ้วรอยแห่งวัยเพิ่มมากขึ้น คุณผู้หญิงต่างสรรหาวิธีที่จะช่วยลดอายุ ไม่ว่าจะเป็นศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า ครีมลดริ้วรอย การนวดหน้า หรือสปาหน้าเด็ก นอกจากการดูแลผิวพรรณให้อ่อนวัยแล้ว ทรงผมยังเป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้คุณดูเด็กลง รวมทรงผมที่จะช่วยเปลี่ยนลุคและกระชากวัยคุณลงได้เป็น 10 ปี
ทรงผมสั้นดัดลอน ช่วยทำให้คุณดูมีบุคลิกที่เด็กลงด้วยผมดัดลอนใหญ่ อย่าดัดผมลอนเล็กเพราะจะทำให้ผมหยิกเกินไป และหน้าอาจจะดูแก่ไปเลย การดัดผมลอนใหญ่จะช่วยให้ผมดูหนาขึ้นและมีวอลลุ่ม เป็นทรงผมที่เข้าได้กับทุกบุคลิกและแต่งตัวได้ง่าย
ทรงผมสไลด์สร้างวอลลุ่ม ทรงนี้เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวสบาย ๆ ไม่ต้องแต่หน้า แต่งผมเยอะ ๆ สระเสร็จ เพียงแต่เป่าให้แห้ง ไดร์ให้เข้าทรง หวีครั้งเดียวอยู่ทรงได้ทั้งวัน วอลลุ่มผมจะช่วยให้หน้าอ่อนลง
ทรงบ็อบสั้นตรง หรือทรงนักเรียน ทรงผมยอดฮิตตลอดกาล อาจเพิ่มความสดใสด้วยการทำสีผมให้อ่อนลง จะทำให้หน้าดูละมุนและอ่อนเยาว์
ทรงผมปลายงุ้ม หรือลอนตัวซี จะให้อารมณ์แบบสาวญี่ปุ่นดูคาวาอี ทำได้ทั้งผมสั้น ผมประบ่า และผมยาว ลอนผมที่งุ้มเข้า จะช่วยทำให้กรอบหน้าคุณดูเล็กลง เหมาะกับคนที่มีแก้มนิด ๆ
ทรงผมปลายสวอน อีกทรงที่เหมาะกับผู้ที่ใบหน้ากลมคือ ทรงผมประบ่าสวอนปลาย เป็นลุคทันสมัย เป็นทรงสวยใสสไตล์เกาหลี ดัดยกโคนขึ้นเล็กน้อยเพิ่มความละมุน ดูธรรมชาติมากขึ้น ทรงนี้ยังช่วยเพิ่มความยาวให้ใบหน้า ดูทันสมัย
เมื่อย่างเข้าวัย 40 ผู้หญิงควรดูแลผิวหน้าอย่างไร
สำหรับคุณผู้หญิงที่อายุย่างเข้าสู่หลักสี่ ต้องหันมาสนใจด้านสุขภาพทั้งร่ายกายและจิตใจอย่างจริงจังกันแล้วนะคะ อาจจะดูว่าสายไปสักนิดถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้นสนใจตัวเอง แต่ก็ยังดีกว่าที่จะปล่อยปะละเลยไปเรื่อย ๆ
ปัญหาที่อาจพบได้บ่อยและเห็นได้ชัดเจนของคุณผู้หญิงวัยนี้ คือ ปัญหาผิวพรรณ เช่น ขาดความชุ่มชื้น รูขุมขนกว้าง มีริ้วรอยเหี่ยวย่น ฝ้า กระและจุดด่างดำ ที่เห็นได้ชัดเจนขึ้น จนบางครั้งบั่นทอนความมั่นใจของคุณไปเลย จะยิ้มแต่ละทีก็กลัวรอยตีนกา เพราะผิวมีร่องลึก ขาดความยืดหยุ่น ไม่ไสเด้งเหมือนตอนเป็นสาว ๆ สารพัดปัญหาผิวกวนใจ
เคล็ดลับง่ายๆ ในการรักษาความสวยของสาววัย 40 วิธีการที่จะช่วยให้คุณผู้หญิงแลดูสาว ดูสวย ดูอ่อนกว่าวัย เป็นสาววัย 40 ที่มีสุขภาพและอารมณ์ดี ไม่ยุ่งยาก ทำได้จริงและเห็นผลแน่นอน
- ทำใจให้สบาย การมีทัศนคติที่ดี มองโลกในแง่บวก คิดบวก ส่งผลดีต่อร่างกายและจิตใจอย่างแน่นอน ศัตรูตัวร้ายของผิว คือความเครียด ความเครียดส่งผลเสียต่อผิวของคุณผู้หญิงได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยที่เดียว ลองสังเกตได้จากตัวเราเอง หากเราเครียดผิวเราจะดูแห้งแล้ว รูขุมขนกว้างขึ้นและหมองคล้ำอย่างเห็นได้อย่างชัดเจน การแต่งหน้ายังไม่สามารถปกปิดความหมองของผิวที่เกิดจากความเครียดได้เลย ยิ่งเครียดมากยิ่งส่งผลให้คุณดูแก่กว่าวัย ดังนั้นทำใจให้สดใส มองโลกในแง่ดีเข้าไว้เพื่อสุขภาพผิวที่ดี
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที ช่วยให้คุณผู้หญิงรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า สร้างสมาธิและลดความเครียดได้เป็นอย่างดี ได้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและส่งผลให้ผิวดี มีน้ำมีนวล ผิวไม่เหี่ยวและย่อนคล้อยก่อนวัย เพียงแค่แบ่งเวลา ออกกำลังกายแบบง่าย ๆ ที่บ้าน เช่น การวิ่งหรือเดินบนลู่วิ่ง หรือลองหาคลิปฝึกโยคะ เต้นแอโรบิก จากยูทูป ลองทำตาม หรือเดินออกกำลังกายตามสวนสาธารณะ ปั่นจักรยาน หรือเล่นกีฬาที่ชอบกับเพื่อน ๆ
- You are what you eat ดูแลผิวพรรณด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ มีสารอาหารครบถ้วน ถือเป็นการดูแลร่างกายและจิตใจจากภายใน รับประทานผักและผลไม้เพิ่มกากใย (Fiber)ให้มากขึ้น ลดการอาหารรสจัด ไม่ว่าจะเปรี้ยว หวาน มัน หรือเค็ม ลองเปลี่ยนเป็นอาหารรสเบา ๆ ดูบ้าง ช่วยในการย่อยและดูแลการขับถ่ายให้ได้ดี กิไม่มีของเสียตกค้างในร่างกาย เป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลให้ผิวพรรณสดใสอย่างแน่นอน
เคล็ดไม่ลับ ทำได้ง่าย ๆ สำหรับคุณผู้หญิงทุกวัยที่อยากมีผิวและสุขภาพดี
ปัญการผิวแพ้ง่ายและการดูแลที่ถูกวิธี
ปัญหาผิวแพ้ง่ายมักเกิดจากปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดภาวะระคายเคือง ซึ่งมีทั้งปัจจัยภายใน เช่น พันธุกรรม หรือโรคความผิดปกติของผิวหนัง และปัจจัยภายนอก เช่น สิ่งแวดล้อม แสงแดด มลพิษทางอากาศ สารเคมีจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ทำให้ผิวแพ้ง่ายกลายเป็นเรื่องยากที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่เราสามารถหลีกเลี่ยงและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการได้ ดังนั้นการดูแลจึงต้องเน้นการบำรุงให้ผิวแข็งแรง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังได้แนะนำแนวทางการดูแลผิวหน้าที่แพ้ง่าย ดังนี้
1. ทำความสะอาดผิวหน้า : น้ำร้อนจะทำให้ไขมันที่จำเป็นบนชั้นผิวถูกชะล้างออกมากเกินไป จึงควรล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ 2 ครั้งต่อวัน เช้า-เย็น ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ไม่มีสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ที่เน้นสูตรอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ และควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดหน้าแรงๆ เพราะจะทำให้เกิดการเสียดสีและเกิดการระคายเคือง
2. เกราะปกป้องผิวหน้า : เกราะปกป้องผิวที่อ่อนแอเป็นสาเหตุของผิวหน้าแห้งและผิวไวต่อสิ่งกระตุ้น สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย ควรใช้สกินแคร์ที่ช่วยลดการระคายเคืองลดปัญหาผิวแห้ง ควบคู่ไปกับการให้ความชุ่มชื้น และฟื้นบำรุงเกราะปกป้องผิวให้ดีขึ้น
3. หลีกเลี่ยงและปกป้องผิวแสงแดด ต้องใช้ครีมกันแดดทุกวันทาก่อนออกแดด 15-20 นาที เพราะผิวแพ้ง่ายจะไวต่อแสงแดดมาก ควรใช้สารกันแดดธรรมชาติ (Physical sunscreen) ที่ช่วยป้องกันแสงแดดโดยการสะท้อนออก ไม่ใช่การดูดซับเข้ามาที่ผิวเหมือนสารกันแดดเคมี ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้ และสารกันแดดเคมียังเป็นอันตรายสามารถดูดซึมสู่เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังเข้าร่างกายได้อีกด้วย

วิธีทำโทนเนอร์ง่ายๆ ใช้เอง

เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงเจอกับมลภาวะในชีวิตประจำวันไม่น้อย ยิ่งสาวๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่ย่านนนทบุรียิ่งเจอมลภาวะมากในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะทางอากาศ ควัน ครีมกันแดด หรือเครื่องสำอางที่สาวๆใช้ ซึ่งการกำจัดมลภาวะบนผิวหน้ามีอยู่หลากหลายวิธี หนึ่งในนั้นคือโทนเนอร์ ซึ่งโทนเนอร์มีความจำเป็นต่อผิวหน้ามาก เพราะว่าจะช่วยปรับสภาพผิวของเราให้พร้อมสำหรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป ช่วยกระชับรูขุมขนแล้วก็ช่วยลดการอักเสบของสิวด้วย วันนี้จะมาแนะนำวิธีทำโทนเนอร์ใช้เองแบบง่ายๆ สไตล์สาวๆ กันค่ะ

อุปกรณ์ที่เราต้องเตรียมมี

  • น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1/4 ถ้วยตวง
  • และชาเขียวแบบซองชง 3/4 ถ้วยตวง

นำส่วนผสมทั้งสองมาผสมให้เข้ากันแล้วนำมาเช็ดที่ผิวหน้าเบาๆ หลังจากที่ล้างทำความสะอาดแล้ว หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราถึงต้องทําโทนเนอร์ใช้เองคำตอบก็คือ โทนเนอร์ที่เราทำเองปราสจากแอลกอฮอล์และน้ำหอม เราจึงมั่นใจได้เลยค่ะว่าอ่อนโยนต่อผิวสงสัยใช่ไหมว่าทำไมถึงเลือกใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์แล้วก็ชาเขียว คำตอบก็คือ Apple Cider จะช่วยปรับค่า PH บนผิวให้สมดุลและช่วยป้องกันการเกิดแบคทีเรียบนผิวด้วยค่ะ ส่วนชาเขียวจะช่วยลดการอักเสบและรอยแดงของสิวให้จางลงแถมยังช่วยซ่อมแซมผิวที่ถูกทำร้ายด้วยค่ะ เห็นไหมว่าแอปเปิ้ลไซเดอร์และชาเขียวมีประโยชน์ขนาดไหน ยังไงก็อย่าลืมลองนำโทนเนอร์สูตรนี้ไปลองทำกันดูนะ



สิ่งควรรู้เกี่ยวกับยาแต้มสิว

ความเครียดและมลภาวะล้วนทำให้เกิดสิวทั้งสิ้น หลายคนที่ทำงานในเมืองใหญ่อย่างนนทบุรีคงหนีไม่พ้นปัญหาเหล่านี้ สิวเห่ออาจกลายเป็นเรื่องปกติ แต่ก็แก้ได้ด้วยยาแต้มสิว ซึ่งยาแต้มสิวที่ดีจะไม่ทำให้ผิวหน้าของเราแห้งแสบ ลอก เป็นขุยแน่นอน นอกจากนี้ ในการใช้ยาแต้มสิวยังมีความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับยาแต้มสิวอีกหลายข้อ เลยอยากพาสาวๆ มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับยาแต้มสิวกันใหม่ค่ะ ยาแต้มสิวก็คือยาที่ใช้แต้มสิวแล้วจะทำให้ผิวของเราลอกเป็นขุย จริงๆแล้วการที่ผิวของเราแห้งและลอกเป็นขุยหลังจากใช้ยาแต้มสิวนั่นก็เป็นเพราะว่ายาแต้มสิวตรงนั้นมีการใส่กรดซาลิไซลิก หรือส่วนผสมที่เร่งการผลัดเซลล์ผิวในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น ซึ่งจะเป็นการทำร้ายผิวหนังของเรา มีความเชื่อเกี่ยวกับยาแต้มสิวที่สาวๆ หลายคนเข้าใจผิดกันมาตลอด นั่นก็คือใช้แล้วสิวไม่หาย ขอบอกเลยว่าไม่จริงเสมอไป เพราะมียาแต้มสิวบางชนิด มีตัวยาที่ช่วยลดการอักเสบของสิวและช่วยลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย สาวๆ เคยรู้สึกไหมเวลาใช้ยาแต้มสิวแล้วจะต้องรู้สึกแสบๆที่ผิวหนัง เหมือนตัวยากำลังออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคอยู่ ซึ่งจริงๆแล้วการที่เรารู้สึกแสบหลังจากใช้ยาแต้มสิว แปลว่ายาแต้มสิวตัวนั้นมีการใช้กรดซาลิไซลิกหรือส่วนผสมที่เป็นกรดต่างๆ มากเกินไป กลายเป็นการทำร้ายผิวหนังของเรา อาจจะทำให้ผิวเกิดรอยแผลเป็นตามมาค่ะ ความเชื่อที่ว่าหลังจากใช้ยาแต้มสิวแล้วเนี่ยจะทำให้สิวยุบและหายทันที ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดมากๆ เลย เพราะยาแต้มสิวจะค่อยๆ ช่วยลดการอักเสบของสิวซึ่งจะต้องใช้เวลา 2-3 วันหรือมากกว่านั้น สิวของเราก็จะค่อยๆยุบลงอย่างช้าๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลและการรักษาความสะอาดด้วย



สิวเห่อทำอย่างไรดี

ปัญหาสิวเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนแต่ธรรมชาติของผิวหน้าของแต่ละคน จะแตกต่างกันออกไป จึงส่งผลต่อใบหน้าของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะมีสิวมาก บางคนอาจมีสิวน้อย บางคนอาจจะเป็นคนดูแลตัวเอง แต่ก็ยังมีสิวผุดขึ้นมา ถ้าพูดถึงจุดเริ่มต้นของสิว สิวนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว เกิดมาจากต่อมไขมันใต้ผิวหนัง สี่ผลิตน้ำมันออกมาเพื่อเคลือบผิวไม่ให้แห้งจนเกินไป แต่ต่ำไขมันอาจจะผลิตน้ำมันออกมามากจนเกินไปด้วยการควบคุมของฮอร์โมน แอนโดรเจน ที่เป็นตัวกระตุ้นให้ต่อมไขมันมีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อมีน้ำมันมากขึ้นและไม่สามารถออกจากรูขุมขนได้ เพราะมีสิ่งสกปรกกีดขวาง มันก็จะกลายเป็นสิวในที่สุด โดยวิธีการรักษาสิวนั้นมีอยู่หลากหลายวิธีด้วยกัน

ลดความมันบนใบหน้า หากรู้ตัวว่าหน้ามัน ควรจะล้างหน้าเพื่อเอาความมันนั้นออก แต่อย่าล้างบ่อยจนเกินไปเพราะจะยิ่งไปช่วยกระตุ้นการเกิดสิวได้

ดื่มน้ำ การดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยทำให้เซลล์ต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นตัวช่วยในการนำสารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกายให้ถูกขับออกมา ดังนั้นเราควรดื่มน้ำไม่ต่ำกว่าวันละ 8 แก้วเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการล้างพิษ

การกำจัดความเครียด เมื่อเราเครียดร่างกายของเราจะหลั่งฮอร์โมนที่สามารถไปกระตุ้นต่อมไขมันหรือผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น  โดยมีงานวิจัยสรุปมาว่าเมื่อมีความเครียดเกิดขึ้นจะทำให้เกิดการอักเสบของสิวเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้น ประมาณ 93.5% เลยทีเดียว