เสริมสวย ใน ปราจีนบุรี

เสริมสวย ใน ปราจีนบุรี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Manussapong Somsawang
Manussapong Somsawang
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ช่างใจดี มีความเป็นมืออาชีพ ใช้เครื่องสำอางค์เค้าเตอร์แบรนด์ บริการเป็นกันเอง ใส่ใจทุกรายละเอียดของลูกค้า ทรงผมและโทนสีหน้าลูกค้าสามารถหาแบบมาได้ตามความต้องการของลูกค้า บริการแต่งหน้าทำผมรับปริญญา แต่งหน้าทำผมเจ้าสาว แต่งหน้าทำผมออกงาน แต่งหน้าทำผมเพื่อนเจ้าสาว แต่งหน้าทำผมออกงาน แต่งหน้าทำผมกีฬาสี แต่งหน้าทำผมในวันสำคัญต่างๆ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา เสริมสวย

ความงาม คือ อะไร
สำนวนสุภาษิตไทยที่ว่า "ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง" ยังคงใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ครีมบำรุง เครื่องสำอาง วิตามิน อาหารเสริม แพ็คเกจทำสวย สปา นวดหน้า ไปจนถึงการทำศัลยกรรม ถูกนำมาใช้เสริมเติมและปรุงแต่งความสวยงามกันอย่างแพร่หลาย แทบจะเรียกได้ว่า “สวยสั่งได้” หรือ “สวยเสกได้” กันเลยทีเดียว
ในท้องตลาดทั้งภายในประเทศไทยและต่างประเทศ สินค้าและบริการเกี่ยวกับความสวย ความงาม ถือเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมแบบไม่ตกยุค ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยินดีลงทุนตามกำลังทรัพย์เพื่อให้ตัวเองดูดี ใช้ครีมบำรุงเพราะอยากมีหน้าใส ผิวดูมีสุขภาพดี รูปร่างสมส่วน(แบบที่ตัวเองชอบ) ทั้งออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือใช้ทางลัดเพื่อให้ตัวเองสวย หล่อ ดูดีตามต้องการ
ปัจจุบันการเสริมความงามไม่จำกัดอยู่แต่เฉพาะคุณผู้หญิงเท่านั้น แต่คุณผู้ชายอีกจำนวนมากที่ทุ่มทุนเสริมหล่อกันแบบไม่ยอมแพ้สาวเลย หลายให้ความสำคัญกับความงามและรูปลักษณ์ภายนอก จนดูเหมือนว่าต่างคนต่างพยายามปรุงแต่งตัวเองเพื่อให้สวยตามมาตรฐานและค่านิยมของสังคม จนบางครั้งลดทอนคุณค่าของตัวเอง ขาดความมั่นใจ หรือบางคนถึงขั้นกลายเป็นปัญหากระทบจิตใจจนกลายเป็นความทุกข์ไปเลย
แล้วแบบไหนหรืออย่างไรจึงเรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานของความสวย ความหล่อ เพราะค่านิยมความงามในแต่ละยุคย่อมแตกต่างกันออกไปตามช่วงเวลานั้น ๆ หรือแตกต่างกันไปตามพื้นที่ เฉพาะมุมมองความงามของคนไทยเองแค่ประเทศเดียวก็ใช้ว่าจะเหมือนกันหมดทั้งประเทศ เพราะต่างคนต่างมีรสนิยมและความชอบที่แตกต่างกันออกไป คนไทยอาจจะมองว่า แบบฝรั่ง แบบเกาหลี นั้นสวย แต่ถ้าข้ามไปฝั่งยุโรป อเมริกา ผู้คนแถบประเทศนั้น กลับมองว่าสไตล์ไทยนี่แหละสวย
หรือที่จริงแล้วความสวย ความหล่อไม่สามารถวัดได้ด้วยมาตรฐานที่ตายตัว เพราะแต่ละคนก็มีรสนิยม ความชอบที่ต่างกันออกไป เอาเป็นว่าสวยกันคนละแบบ ดูดีกันคนละสไตล์ พูดง่าย ๆ ก็คือเอาที่สบายใจดีกว่า
เทคนิคเปลี่ยนทรงผมให้หน้าดูเด็กลง
ไม่ว่าผู้หญิงจะอายุเท่าไหร่ ทุกคนก็อยากจะดูดี อ่อนเยาว์และสวยงาม คงไม่ใช่เรื่องยากตอนที่อายุยังน้อย ๆ แต่พออายุขึ้น ริ้วรอยแห่งวัยเพิ่มมากขึ้น คุณผู้หญิงต่างสรรหาวิธีที่จะช่วยลดอายุ ไม่ว่าจะเป็นศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า ครีมลดริ้วรอย การนวดหน้า หรือสปาหน้าเด็ก นอกจากการดูแลผิวพรรณให้อ่อนวัยแล้ว ทรงผมยังเป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้คุณดูเด็กลง รวมทรงผมที่จะช่วยเปลี่ยนลุคและกระชากวัยคุณลงได้เป็น 10 ปี
ทรงผมสั้นดัดลอน ช่วยทำให้คุณดูมีบุคลิกที่เด็กลงด้วยผมดัดลอนใหญ่ อย่าดัดผมลอนเล็กเพราะจะทำให้ผมหยิกเกินไป และหน้าอาจจะดูแก่ไปเลย การดัดผมลอนใหญ่จะช่วยให้ผมดูหนาขึ้นและมีวอลลุ่ม เป็นทรงผมที่เข้าได้กับทุกบุคลิกและแต่งตัวได้ง่าย
ทรงผมสไลด์สร้างวอลลุ่ม ทรงนี้เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวสบาย ๆ ไม่ต้องแต่หน้า แต่งผมเยอะ ๆ สระเสร็จ เพียงแต่เป่าให้แห้ง ไดร์ให้เข้าทรง หวีครั้งเดียวอยู่ทรงได้ทั้งวัน วอลลุ่มผมจะช่วยให้หน้าอ่อนลง
ทรงบ็อบสั้นตรง หรือทรงนักเรียน ทรงผมยอดฮิตตลอดกาล อาจเพิ่มความสดใสด้วยการทำสีผมให้อ่อนลง จะทำให้หน้าดูละมุนและอ่อนเยาว์
ทรงผมปลายงุ้ม หรือลอนตัวซี จะให้อารมณ์แบบสาวญี่ปุ่นดูคาวาอี ทำได้ทั้งผมสั้น ผมประบ่า และผมยาว ลอนผมที่งุ้มเข้า จะช่วยทำให้กรอบหน้าคุณดูเล็กลง เหมาะกับคนที่มีแก้มนิด ๆ
ทรงผมปลายสวอน อีกทรงที่เหมาะกับผู้ที่ใบหน้ากลมคือ ทรงผมประบ่าสวอนปลาย เป็นลุคทันสมัย เป็นทรงสวยใสสไตล์เกาหลี ดัดยกโคนขึ้นเล็กน้อยเพิ่มความละมุน ดูธรรมชาติมากขึ้น ทรงนี้ยังช่วยเพิ่มความยาวให้ใบหน้า ดูทันสมัย
สิ่งจำเป็นในการดูแลผิวหน้าสำหรับผู้หญิงวัย 40+
30 ยังแจ๋ว หรือต่อให้ปาไป 40 แล้วก็ยังสวยได้ถ้าดูแลตัวเองดี ๆ อาจฟังดูน่าตกใจเล็กน้อยเมื่อกล่าวถึงอายุช่วง 40 ปี ที่ถือว่าเป็น “วัยกลางคน” (midlife) ซึ่งมักจะมาพร้อมกับ Midlife Crisis ที่ทำให้เราได้มองย้อนกลับไป ในช่วงชีวิตเราผ่านมานี่ครึ่งทางแล้วเหรอ แล้วต่อไปจะเอาอย่างไรกับชีวิตดี แล้วเราจะสามารถเตรียมตัวเตรียมใจตัวเองให้พร้อมกับก้าวเข้าสู่วัย 40 อย่างมีความสุขอย่างไร
สิ่งที่ควรเตรียมตัวเพื่อให้คุณก้าวเข้าสู่วัย 40 อย่างมีความสุข
1. สุขภาพที่ดี “อโรคยา ปรมาลาภา” ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
เรื่องสุขภาพต้องมาก่อน การมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์ แข็งแรง ถือเป็นต้นทุนของทุกสิ่ง เมื่อคุณมีสุขภาพดี คุณจะสามารถทำอะไรที่อยากทำโดยไม่ต้องกังวลถึงข้อจำกัดด้านสุขภาพ หลักพื้นฐานที่สามารถทำให้คุณเป็นคนที่มีสุขภาพดีคือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้เบิกบานไม่คิดลบ ไม่เครียด และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทั้งหมดดูเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย ๆ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ สิ่งเหล่านี้ที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วกลับไม่ได้ทำง่ายอย่างที่คิด ด้วยข้อจำกัดของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป และการสร้างสุขภาพที่ดีไม่ใช่สิ่งที่สามารถสร้างได้ภายในวันเดียวหรือสองวัน ดังนั้นหากคุณอยากเป็นคนวัยสี่สิบที่สุขภาพดี คุณต้องเริ่มต้นดูแลและไม่ทำสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพตั้งแต่เนิ่น ๆ
2. ความมั่นคงทางการเงิน การทำงานในบริษัทเอกชนแม้จะมีรายได้หรือเงินเดือนสูงกว่างานราชการ แต่ความเสี่ยงเรื่องความมั่นคงดูเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เลยหากคุณตกงานในวัย 40 ยิ่งหางานใหม่ยากเข้าไปอีก โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนจากปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด หรือภาวะสงคราม คุณควรมีแผนสำรองหรืออาชีพเสริมตั้งแต่เนิ่น ๆ ระลึกไว้เสมอว่ารายรับไม่สำคัญเท่าเงินเหลือ ออมเงินตั้งแต่เริ่มทำงาน ลงทุนเพื่อให้มีรายได้พิเศษนอกจากงานหลัก สร้างความมั่นคงทางการเงินเพื่อลดความกังวลเมื่ออายุมากขึ้น
3. ปรับปรุงและเปลี่ยนตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความรู้ด้านเทคโนโลยี ติดตามข่าวสาร รู้ทันโลก ทำในสิ่งที่ชอบ และปล่อยวางในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ยิ่งอายุมากขึ้น คุณต้องยิ่งเข้าใจในธรรมชาติของคน ไม่มีอะไรที่จะถูกใจเราทั้งหมด คุณไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงใครให้เป็นไปในแบบที่คุณต้องการได้ แต่สิ่งที่คุณทำได้คือปรับจิตใจตัวเองให้ยอมรับในความแตกต่างและความเป็นไปรอบข้าง สิ่งที่ควรมีมากขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้นคือ สติ
ปัญการผิวแพ้ง่ายและการดูแลที่ถูกวิธี
ปัญหาผิวแพ้ง่ายมักเกิดจากปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดภาวะระคายเคือง ซึ่งมีทั้งปัจจัยภายใน เช่น พันธุกรรม หรือโรคความผิดปกติของผิวหนัง และปัจจัยภายนอก เช่น สิ่งแวดล้อม แสงแดด มลพิษทางอากาศ สารเคมีจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ทำให้ผิวแพ้ง่ายกลายเป็นเรื่องยากที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่เราสามารถหลีกเลี่ยงและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการได้ ดังนั้นการดูแลจึงต้องเน้นการบำรุงให้ผิวแข็งแรง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังได้แนะนำแนวทางการดูแลผิวหน้าที่แพ้ง่าย ดังนี้
1. ทำความสะอาดผิวหน้า : น้ำร้อนจะทำให้ไขมันที่จำเป็นบนชั้นผิวถูกชะล้างออกมากเกินไป จึงควรล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ 2 ครั้งต่อวัน เช้า-เย็น ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ไม่มีสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ที่เน้นสูตรอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ และควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดหน้าแรงๆ เพราะจะทำให้เกิดการเสียดสีและเกิดการระคายเคือง
2. เกราะปกป้องผิวหน้า : เกราะปกป้องผิวที่อ่อนแอเป็นสาเหตุของผิวหน้าแห้งและผิวไวต่อสิ่งกระตุ้น สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย ควรใช้สกินแคร์ที่ช่วยลดการระคายเคืองลดปัญหาผิวแห้ง ควบคู่ไปกับการให้ความชุ่มชื้น และฟื้นบำรุงเกราะปกป้องผิวให้ดีขึ้น
3. หลีกเลี่ยงและปกป้องผิวแสงแดด ต้องใช้ครีมกันแดดทุกวันทาก่อนออกแดด 15-20 นาที เพราะผิวแพ้ง่ายจะไวต่อแสงแดดมาก ควรใช้สารกันแดดธรรมชาติ (Physical sunscreen) ที่ช่วยป้องกันแสงแดดโดยการสะท้อนออก ไม่ใช่การดูดซับเข้ามาที่ผิวเหมือนสารกันแดดเคมี ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้ และสารกันแดดเคมียังเป็นอันตรายสามารถดูดซึมสู่เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังเข้าร่างกายได้อีกด้วย