เสริมสวย ใน สารภี, เชียงใหม่

เสริมสวย ใน สารภี, เชียงใหม่

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการเสริมสวย ใน สารภี, เชียงใหม่:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Pilin  Pinyapat J
Pilin Pinyapat J
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

รับแต่งหน้ารับปริญญา แต่งหน้าออกงาน แต่งหน้าเพื่อนเจ้าสาว หรือออกงานอีเว้นต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับใบประกาศจากสถาบันสอนแต่งหน้า IMC รับประกันฝีมือและคุณภาพ ใช้เครื่องสำอางค์แบรนเนม

แสดงเพิ่มเติม
Porsche
Porsche
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ให้บริการแต่งหน้า-ทำผม ในจังหวัดเชียงใหม่...แต่งในในโอกาสพิเศษของคุณในรูปแบบต่างๆ...แต่งหน้าออกงาน แต่งรับปริญญา แต่งหน้าเจ้าสาว...ให้เราเนรมิตความงานในโอกาสพิเศษของคุณ...ช่างเป็นกันเอง ไม่เหวี่ยง...Can Speak English...

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา เสริมสวย

แบบไหนที่เรียกว่า "ความงาม"
“Beauty Standard” ในปัจจุบันสื่อโฆษณาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทีวี สื่อโซเชียลมีเดียพยายามสร้างมาตรฐานความงามไปในทิศทางเดียวกัน ให้ผู้หญิงต้องมีรูปร่างผอมเพรียวหรือแทบจะผอมแห้ง ผิวขาว หน้าใส ผู้ชายต้องตัวสูง ขายาว มีกล้ามเนื้อสวยงาม ดูดี ดูสมบูรณ์แบบในสายตาของคนส่วนใหญ่ จนสิ่งเหล่านี้ส่งอิทธิพลให้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกไม่พอใจกับรูปลักษณ์ภายนอกตนเอง อ้วนไป ขาใหญ่ไป พุงใหญ่ไป หน้าอกเล็กไป ฯลฯ
วัยรุ่นส่วนหนึ่งมีปัญหาการรับประทานอาหารที่ผิดปกติ เพราะกังวลเรื่องน้ำหนักตัว เด็กวัยนี้มากกว่าครึ่งงดอาหาร อดอาหาร สูบบุหรี่ อาเจียน และกินยาระบายเพื่อควบคุมน้ำหนัก โดยมีพฤติกรรมเหล่านี้ตั้งแต่อายุยังน้อย จนอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือเป็นตลอดชีวิต การพยายามไปให้ถึงมาตรฐานความงามและรูปร่างดีอาจนำไปสู่ความผิดปกติของการกินและปัญหาสุขภาพจิต จนกลายเป็นนิสัย ส่งผลเสี่ยงต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความเสียหายให้กับอวัยวะ พัฒนาการล่าช้า หรืออาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ด้านจิตใจ คนที่เป็นโรคเหล่าก็มีโอกาสฆ่าตัวตายสูง เพราะติดอยู่กับความคิดด้านลบ
ที่จริงแล้วคำว่า “Beauty Standard” หรือ มาตรฐานความงาน ไม่สามารถนำอะไรมาวัดหรือกำหนดได้ตายตัว ดังนั้นสิ่งที่ควรปลูกฝังให้กับทุกคนคือความเข้าใจถึงความแตกต่าง ความหลากหลายของคน ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น พอใจกับสิ่งที่ตัวเองมี รักตัวเองไม่ว่าเราจะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร เปิดใจรับและยอมรับให้มากขึ้น ความสุขสร้างเองได้
ทรงผมที่ช่วยให้คุณดูเด็กลง
ทรงผมมีผลต่อภาพรวมต่อบุคลิกและหน้าตาอย่างไม่หน้าเชื่อ SAIJAI ขอเอาใจคุณผู้หญิงที่อยากดูสดใส ดูเด็กกว่าอายุจริง ด้วยเทคนิคการจัดทรงผมที่คุณสามารถใช้ได้จริงให้การปรับลุคให้ดูเด็กลง
1. ผมหน้าม้าปัดข้างปิดหน้าผากและการดัดปลายผมให้มีวอลลุ่มไม่ลีบแบน ดูเหมาะสำหรับคนที่หน้าผากกว้าง
2. ผมตรง ๆ ลีบ ๆ อาจดูน่าเบื่อ ลองดัดผมลอนใหญ่เพื่อเพิ่มวอลลุ่ม และยังเพิ่มความสดใสได้อีกด้วย เลือกช่างทำผมหรือร้านซาลอนที่ทันสมัยและเข้าใจเทรนด์ เพราะการดัดผมบางแบบอาจจะทำให้คุณกลายเป็นป้า แทนที่จะปัง
3. ใครผมสั้น ลองไดร์ผมแบบยกโคนจะทำให้ผมไม่ลีบแบนติดหนังศรีษะ ไดร์ปลายผมให้งุ้มเข้าเล็กน้อย
4. อย่าปล่อยให้ผมยาวเกินไป หมั่นตัดแต่งให้เข้าทรงอยู่เสมอ เล็มปลายผมที่แห้งเสียแตกปลายออก ทรงผมที่ยุ่งเหยิงและผมแห้งทำให้คุณดูโทรม
5. ถ้าคุณไม่ใช่คนที่หน้าเล็กจริง ๆ พยายามหลีกเลี่ยงทรงผมแสกกลาง ผมแสกข้างกับหน้าม้าจะช่วงพรางให้หน้าคุณดูเล็กลง
6. หากคุณมีลำคอที่ยาวจนเกินงาม การตัดผมให้ยาวประบ่าพอดี ๆ จะช่วยอำพรางลำคอที่ยาวของคุณได้
7. ผมหน้าม้า บ็อบสั้น ถือเป็นทรงผมที่ไม่เคยล้าสมัย ไม่มีเชย ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี
8. การแต่งทรงผมมากเกินไปจะทำให้ดูหน้าแก่เกินวัย ลองปล่อยผมเป็นธรรมชาติ เน้นผมสุขภาพดี สะอาด ไม่มันเยิ้ม
9. สาวผมยาว การผูกผมหางม้าหรือลองถักผมเปียแบบหลวม ๆ พาดไหล่ลุคนี้ก็ทำให้คุณดูอ่อนวัยได้
10. การทำสีผม ทำไฮไลท์ให้ผมมี 2 เฉดสี ช่วยให้คุณดูสดใส
สิ่งจำเป็นในการดูแลผิวหน้าสำหรับผู้หญิงวัย 40+
30 ยังแจ๋ว หรือต่อให้ปาไป 40 แล้วก็ยังสวยได้ถ้าดูแลตัวเองดี ๆ อาจฟังดูน่าตกใจเล็กน้อยเมื่อกล่าวถึงอายุช่วง 40 ปี ที่ถือว่าเป็น “วัยกลางคน” (midlife) ซึ่งมักจะมาพร้อมกับ Midlife Crisis ที่ทำให้เราได้มองย้อนกลับไป ในช่วงชีวิตเราผ่านมานี่ครึ่งทางแล้วเหรอ แล้วต่อไปจะเอาอย่างไรกับชีวิตดี แล้วเราจะสามารถเตรียมตัวเตรียมใจตัวเองให้พร้อมกับก้าวเข้าสู่วัย 40 อย่างมีความสุขอย่างไร
สิ่งที่ควรเตรียมตัวเพื่อให้คุณก้าวเข้าสู่วัย 40 อย่างมีความสุข
1. สุขภาพที่ดี “อโรคยา ปรมาลาภา” ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
เรื่องสุขภาพต้องมาก่อน การมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์ แข็งแรง ถือเป็นต้นทุนของทุกสิ่ง เมื่อคุณมีสุขภาพดี คุณจะสามารถทำอะไรที่อยากทำโดยไม่ต้องกังวลถึงข้อจำกัดด้านสุขภาพ หลักพื้นฐานที่สามารถทำให้คุณเป็นคนที่มีสุขภาพดีคือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้เบิกบานไม่คิดลบ ไม่เครียด และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทั้งหมดดูเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย ๆ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ สิ่งเหล่านี้ที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วกลับไม่ได้ทำง่ายอย่างที่คิด ด้วยข้อจำกัดของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป และการสร้างสุขภาพที่ดีไม่ใช่สิ่งที่สามารถสร้างได้ภายในวันเดียวหรือสองวัน ดังนั้นหากคุณอยากเป็นคนวัยสี่สิบที่สุขภาพดี คุณต้องเริ่มต้นดูแลและไม่ทำสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพตั้งแต่เนิ่น ๆ
2. ความมั่นคงทางการเงิน การทำงานในบริษัทเอกชนแม้จะมีรายได้หรือเงินเดือนสูงกว่างานราชการ แต่ความเสี่ยงเรื่องความมั่นคงดูเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เลยหากคุณตกงานในวัย 40 ยิ่งหางานใหม่ยากเข้าไปอีก โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนจากปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด หรือภาวะสงคราม คุณควรมีแผนสำรองหรืออาชีพเสริมตั้งแต่เนิ่น ๆ ระลึกไว้เสมอว่ารายรับไม่สำคัญเท่าเงินเหลือ ออมเงินตั้งแต่เริ่มทำงาน ลงทุนเพื่อให้มีรายได้พิเศษนอกจากงานหลัก สร้างความมั่นคงทางการเงินเพื่อลดความกังวลเมื่ออายุมากขึ้น
3. ปรับปรุงและเปลี่ยนตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความรู้ด้านเทคโนโลยี ติดตามข่าวสาร รู้ทันโลก ทำในสิ่งที่ชอบ และปล่อยวางในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ยิ่งอายุมากขึ้น คุณต้องยิ่งเข้าใจในธรรมชาติของคน ไม่มีอะไรที่จะถูกใจเราทั้งหมด คุณไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงใครให้เป็นไปในแบบที่คุณต้องการได้ แต่สิ่งที่คุณทำได้คือปรับจิตใจตัวเองให้ยอมรับในความแตกต่างและความเป็นไปรอบข้าง สิ่งที่ควรมีมากขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้นคือ สติ
ปัญการผิวแพ้ง่ายและการดูแลที่ถูกวิธี
ปัญหาผิวแพ้ง่ายมักเกิดจากปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดภาวะระคายเคือง ซึ่งมีทั้งปัจจัยภายใน เช่น พันธุกรรม หรือโรคความผิดปกติของผิวหนัง และปัจจัยภายนอก เช่น สิ่งแวดล้อม แสงแดด มลพิษทางอากาศ สารเคมีจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ทำให้ผิวแพ้ง่ายกลายเป็นเรื่องยากที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่เราสามารถหลีกเลี่ยงและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการได้ ดังนั้นการดูแลจึงต้องเน้นการบำรุงให้ผิวแข็งแรง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังได้แนะนำแนวทางการดูแลผิวหน้าที่แพ้ง่าย ดังนี้
1. ทำความสะอาดผิวหน้า : น้ำร้อนจะทำให้ไขมันที่จำเป็นบนชั้นผิวถูกชะล้างออกมากเกินไป จึงควรล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ 2 ครั้งต่อวัน เช้า-เย็น ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ไม่มีสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ที่เน้นสูตรอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ และควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดหน้าแรงๆ เพราะจะทำให้เกิดการเสียดสีและเกิดการระคายเคือง
2. เกราะปกป้องผิวหน้า : เกราะปกป้องผิวที่อ่อนแอเป็นสาเหตุของผิวหน้าแห้งและผิวไวต่อสิ่งกระตุ้น สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย ควรใช้สกินแคร์ที่ช่วยลดการระคายเคืองลดปัญหาผิวแห้ง ควบคู่ไปกับการให้ความชุ่มชื้น และฟื้นบำรุงเกราะปกป้องผิวให้ดีขึ้น
3. หลีกเลี่ยงและปกป้องผิวแสงแดด ต้องใช้ครีมกันแดดทุกวันทาก่อนออกแดด 15-20 นาที เพราะผิวแพ้ง่ายจะไวต่อแสงแดดมาก ควรใช้สารกันแดดธรรมชาติ (Physical sunscreen) ที่ช่วยป้องกันแสงแดดโดยการสะท้อนออก ไม่ใช่การดูดซับเข้ามาที่ผิวเหมือนสารกันแดดเคมี ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้ และสารกันแดดเคมียังเป็นอันตรายสามารถดูดซึมสู่เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังเข้าร่างกายได้อีกด้วย