ครูฝึกทักษะ ใน เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต

ครูฝึกทักษะ ใน เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ขวัญตา สิทธิกร
ขวัญตา สิทธิกร
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 77 ปี
ชัญญารัตน์ บิลยะโฮร์
ชัญญารัตน์ บิลยะโฮร์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนใจเย็นค่ะ สามารถสอนเด็กเล็กได้ มีเทคนิคช่วยให้น้อง ๆ ตั้งใจเรียน ค่ะ มีความรับผิดชอบ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เป็นคนชอบทำขนมมาก เลยมาเรียนทำขนมไทยกับครูจันทร์ที่เจอจากเว็บใส่ใจนี่แหละค่ะ ครูเก่งมาก ทำขนมอร่อย มีสอนทำเบเกอรี่ด้วย เริ่ดมากค้าา
Saijai
ธิดารัตน์ พิพัฒน์โยธากุล
3 ปีที่แล้ว
สอบแอดมิชชั่นติดแล้วมีเวลาว่างหลายเดือนเลยกว่ามหาลัยจะเปิด เลยไปเรียนขับรถกับครูฝึกที่จองบนเว็บใส่ใจ ครูสอนดีมากทั้งทฤษฎีและปฏบัติ หลังเรียนเสร็จ ครูพาไปสอบใบขับขี่ด้วย ประทับใจมาก ๆ ครับ
Saijai
พิธา ฤทธิ์เจริญ
3 ปีที่แล้ว
ผมเรียนทำอาหารกับเชฟที่จองผ่านใส่ใจ เชฟบอกสูตรละเอียดหมดเลย เราเลือกเรียนแบบออนไลน์นะ เพราะไม่ได้อยู่ในกรุงเทพ คิดว่าคุ้มอยู่กับราคาที่จ่าย เพราะสิ่งที่เราเรียนเราสามารถเอามาต่อยอดได้ คิดอยู่ว่าอยากจะเปิดร้านอาหารที่มีทั้งอาหารคาวและหวาน เราคิดว่าจะเอาสิ่งที่เรียนไปปรับใช้ในธุรกิจที่เราอยากทำครั้งนี้ได้
Saijai
อดิศักดิ์ ฤาพิทักษ์
4 ปีที่แล้ว
ช่วงโควิดออกไปไหนไม่ได้ ว่างๆ เลยลองหาคอร์สเรียนเสริมทางอินเตอร์เน็ต เจอเว็บของใส่ใจ มีข้อมูลคนสอนพร้อมราคาให้เลือกเรียนเยอะมาก
Saijai
สารภี พินทองดี
4 ปีที่แล้ว
ส่งลูกไปเรียนว่ายน้ำกับครูกร น้องวินชอบมาก ตื้นเต้นทุกครั้งเวลาไปเรียน ครูกรก็น่ารัก ลูกสนุกใหญ่เลย
Saijai
มนัญชยา ภาภิลัย
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ครูฝึกทักษะ

ทักษะเสริมอะไรบ้างที่คุณควรมีเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงาน
ในสังคมของการทำงานถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ยิ่งในยุคของวิกฤตไวรัสระบาดเช่นนี้ ทำให้หลาย ๆ องค์กรต้องแก้ปัญหาโดยการลดจำนวนพนักงานให้เหลือน้อยลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อพนักงานบางคนที่มีศักยภาพไม่เพียงพอ แต่ถ้าหากมีทักษะเสริมเหล่านี้ก็จะช่วยพลิกให้วิกฤตเป็นโอกาสได้ ซึ่งทักษะเหล่านี้สามารถเพิ่มโอกาสในการทำงานกับองค์กรต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยต่อยอดในการเริ่มทำธุรกิจของตนเองได้ในอนาคตเช่นกัน

1. ทักษะทางด้านกีฬา ในปัจจุบันนี้มีกีฬาที่คนนิยมเล่นมากมาย เช่น ฟุตบอล เทนนิส ว่ายน้ำ ฯลฯ ซึ่งการเล่นกีฬานอกจากจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว การพัฒนาทักษะทางด้านนี้สามารถช่วยให้เรามีความชำนาญมากยิ่งขึ้น และสามารถทำงานเกี่ยวกับผู้ฝึกสอนกีฬา โค้ช หรือเทรนเนอร์ได้เช่นกัน
2. ทักษะการทำอาหาร การเรียนทำอาหารถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้คนมักนิยมกันในสมัยนี้ หากคุณมีทักษะในด้านการทำอาหาร คุณสามารถนำความรู้เหล่านั้นไปต่อยอดเพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงานในอนาคต หรือประกอบกิจการทางด้านร้านอาหารได้เช่นกัน ซึ่งเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองอีกด้วย
3. ทักษะการขับรถ แน่นอนว่าการขับรถนั้นเป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการขับขี่อย่างปลอดภัยนั้นมีความสำคัญต่อทั้งตัวเราเอง และผู้อื่นที่อยู่บนท้องถนนเช่นกัน การฝึกขับรถอย่างถูกกฎวิธีจะช่วยทำให้เราตระหนักถึงวินัยจราจรและมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากยิ่งขึ้น
4. ทักษะด้านดนตรี ซึ่งทักษะทางด้านนี้สามารถนำไปประกอบอาชีพในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพทางด้านการศึกษา เช่น คุณครูสอนดนตรี เป็นต้น หรืออาชีพทั่วไปที่เกี่ยวกับด้านดนตรี เช่น นักดนตรีทั่วไป ผู้ประพันธ์เพลง บรรเลงดนตรีประกอบภาพยนตร์ ฯลฯ
ทักษะที่สามารถนำไปประกอบอาชีพได้มีอะไรบ้าง
ยุคสมัยนี้การแข่งขันในด้านต่าง ๆ ค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านการเรียน หรือการทำธุรกิจก็ตาม ดังนั้นความถนัดและทักษะในสิ่ง ๆ เดียวอาจไม่เพียงพอเสียแล้ว เราจึงจำเป็นต้องขวนขวายและเรียนรู้ทักษะเสริมอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อเปิดโอกาสให้กับตัวเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งตัวอย่างทักษะเสริมที่สามารถนำไปประกอบอาชีพในอนาคตได้นั้นมีดังต่อไปนี้

1. ทักษะด้านกีฬา สำหรับคนที่มีใจรักและชื่นชอบในการเล่นกีฬาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล เทนนิส ว่ายน้ำ ฯลฯ หากคุณมีทักษะความสามารถในด้านนี้ ก็อาจช่วยให้คุณทำอาชีพเกี่ยวกับกีฬาได้เช่นกัน เช่น โค้ชหรือผู้ฝึกสอนกีฬา เทรนเนอร์ในฟิตเนส ครูสอนวิชาพละศึกษา วิทยากรที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกาย นักกายภาพบำบัด เป็นต้น
2. ทักษะด้านการทำอาหาร ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทักษะที่ผู้คนให้ความสนใจกันเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบันนี้ เพราะการมีทักษะในการทำอาหารที่ดีนั้นจะช่วยต่อยอดเกี่ยวกับการประกอบอาชีพของเราในอนาคตได้ โดยส่วนใหญ่คนที่เรียนการทำอาหารจากสถาบันชื่อดังต่าง ๆ ก็มีจุดประสงค์ที่จะเปิดธุรกิจร้านอาหารของตัวเอง หรือบางคนที่ชื่นชอบในการทำอาหารจนมีฝีมือการทำอาหารที่ดีเยี่ยมก็สามารถประกอบอาชีพเชฟได้เช่นกัน
3. ทักษะด้านการขับรถ สำหรับบางคนที่ขับรถเป็น รู้กฎจราจรเป็นอย่างดี สามารถเปิดโรงเรียนสอนขับรถเองได้เลย และหากบางคนที่มีใจรักในงานบริการด้วยนั้นก็สามารถทำอาชีพพนักงานขับรถเพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองได้เช่นกัน
4. ทักษะด้านดนตรี บางคนอาจมีใจรักในการร้องเพลงและการเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็ก หากหมั่นฝึกฝนและพัฒนาทักษะไปเรื่อย ๆ ก็อาจทำให้เรากลายเป็นคุณครูสอนร้องเพลง หรือนักดนตรีมืออาชีพเลยก็ว่าได้
การเรียนทักษะเสริมควรเรียนแบบออนไลน์หรือตัวต่อตัว
หลาย ๆ คนที่กำลังมองหาที่เรียนทักษะเสริมต่าง ๆ อย่างทักษะด้านกีฬา ทักษะการขับรถ ทักษะการทำอาหาร และทักษะด้านดนตรีอยู่คงกำลังสงสัยว่าการเรียนทักษะเสริมเหล่านี้สามารถเรียนรูปแบบไหนได้บ้างที่จะทำให้เรียนรู้ได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด ควรเรียนแบบออนไลน์ หรือแบบตัวต่อตัวดี บนแพลตฟอร์มใส่ใจมีติวเตอร์สอนทักษะเสริมทั้งสองรูปแบบ โดยขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้เรียน การเรียนการสอนรูปแบบออนไลน์ส่วนใหญ่นั้นจะเหมาะกับการเรียนเกี่ยวกับทฤษฎี กฎ กติกาเบื้องต้น ที่ต้องอาศัยการทำความเข้าใจในเนื้อหาก่อน ยกตัวอย่างเช่นการเรียนทักษะด้านดนตรี ซึ่งก่อนที่จะเรียนการปฏิบัตินั้นจำเป็นต้องเรียนรู้คีย์และจดจำโน้ตต่าง ๆ ก่อน หรือการเรียนทักษะการทำอาหารจำเป็นต้องเรียนรู้คุณสมบัติและประโยชน์ของวัตถุดิบนั้น ๆ ก่อนการเริ่มทำอาหารจริง เป็นต้น ทั้งหมดนี้จึงต้องอาศัยการจดจำเนื้อหาและข้อมูลต่าง ๆ ดังนั้นการเรียนแบบออนไลน์จึงถือว่าสะดวกเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาเรียนด้วยเช่นกัน นอกจากการเรียนรูปแบบออนไลน์แล้ว ใส่ใจเองก็มีบริการการสอนในรูปแบบตัวต่อตัวเช่นกัน ซึ่งรูปแบบนี้จะเหมาะสมสำหรับผู้เรียนที่ยังไม่มีพื้นฐานของทักษะเสริมเหล่านั้นมากนัก หรืออาจเหมาะสำหรับการเรียนทักษะเสริมที่จำเป็นต้องใช้ภาคปฏิบัติประกอบการเรียนการสอน ยกตัวอย่างเช่น ทักษะการขับรถ ที่นอกจากเรียนรู้กฎและข้อปฏิบัติต่าง ๆ เมื่ออยู่บนท้องถนนแล้ว ก็จำเป็นที่จะต้องฝึกขับรถลงสนามจริงเพื่อให้ผู้เรียนได้นำทฤษฎีทั้งหมดที่เรียนมาใช้ปฏิบัติจริงนั่นเอง เพราะการขับรถนั้นจำเป็นต้องฝึกขับบ่อย ๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้ผู้เรียน
คุณควรมีวิธีการคัดเลือกครูฝึกสอนทักษะต่าง ๆ อย่างไร
ครูสอนทักษะ เช่น ครูสอนว่ายน้ำ ครูสอนทำอาหาร โค้ชฟุตบอล โค้ชเทนนิส ครูสอนขับรถ ฯลฯ นอกจากจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญในทักษะนั้น ๆ แล้ว ต้องมีคุณสมบัติอะไรอีกบ้างที่จะทำให้สามารถถ่ายทอดความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. มีทัศนคติและวิธีคิดแบบผู้สอน ต้องเข้าใจว่าตนเองมีหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้เรียนที่แต่ละคนมีความสามารถให้การเรียนรู้แตกต่างกัน ต้องมีวิธีการนำเสนอและอธิบายให้ผู้เรียนเข้าใจ
2. สามารถการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ ขั้นตอนการนำเสนอที่น่าสนใจ ง่ายต่อการนำไปปฏิบัติต่อ เช่น เชฟ (Chef) กระบวนการทำอาหารมีหลายขั้นตอนที่จะดึง จุดเด่นของวัตถุดิบหรือเมนูที่เชฟจะนำเสนอ ถ้ากระบวนการนำเสนอเข้าใจง่าย ผู้เรียนจะสามารถพัฒนาทักษะได้
3. ต้องมีจิตวิทยาที่สามารถดึงความสนใจให้ผู้เรียนมีใจจดจ่อกับการเรียน แต่ไม่เครียดจนเกินไป
4. มีวินัย เพราะทักษะทุกอย่างจะเกิดขึ้นและดีได้ต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นครูผู้สอนเองต้องเป็นผู้รักษาระเบียบวินัย เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ผู้เรียน
5. ติดตามผล เพื่อให้แน่ใจว่าผู้เรียนได้รับความรู้และนำไปใช้ได้จริง