ครูฝึกทักษะ ใน กะทู้, ภูเก็ต

ครูฝึกทักษะ ใน กะทู้, ภูเก็ต

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ขวัญตา สิทธิกร
ขวัญตา สิทธิกร
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 76 ปี
ชัญญารัตน์ บิลยะโฮร์
ชัญญารัตน์ บิลยะโฮร์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 25 ปี

เป็นคนใจเย็นค่ะ สามารถสอนเด็กเล็กได้ มีเทคนิคช่วยให้น้อง ๆ ตั้งใจเรียน ค่ะ มีความรับผิดชอบ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

สอบแอดมิชชั่นติดแล้วมีเวลาว่างหลายเดือนเลยกว่ามหาลัยจะเปิด เลยไปเรียนขับรถกับครูฝึกที่จองบนเว็บใส่ใจ ครูสอนดีมากทั้งทฤษฎีและปฏบัติ หลังเรียนเสร็จ ครูพาไปสอบใบขับขี่ด้วย ประทับใจมาก ๆ ครับ
Saijai
พิธา ฤทธิ์เจริญ
3 ปีที่แล้ว
ได้ครูสอนทำขนมฝีมือดีจากเว็บนี้ มีเทคนิคการสอนทำขนมได้รสชาติออกมาอร่อยไม่แพ้กับที่ดัง ๆ เลย ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ
Saijai
กชอร มัฑนวัลลพย์
3 ปีที่แล้ว
ได้ครูสอนกีตาร์จากเว็บใส่ใจ สอนดีครับ ราคาไม่แพงด้วย คอนเฟิร์ม
Saijai
ชยน ช่วยชัยชนะ
3 ปีที่แล้ว
ผมเรียนทำอาหารกับเชฟที่จองผ่านใส่ใจ เชฟบอกสูตรละเอียดหมดเลย เราเลือกเรียนแบบออนไลน์นะ เพราะไม่ได้อยู่ในกรุงเทพ คิดว่าคุ้มอยู่กับราคาที่จ่าย เพราะสิ่งที่เราเรียนเราสามารถเอามาต่อยอดได้ คิดอยู่ว่าอยากจะเปิดร้านอาหารที่มีทั้งอาหารคาวและหวาน เราคิดว่าจะเอาสิ่งที่เรียนไปปรับใช้ในธุรกิจที่เราอยากทำครั้งนี้ได้
Saijai
อดิศักดิ์ ฤาพิทักษ์
3 ปีที่แล้ว
ลงเรียนทำของหวานค่ะ ชอบมาก ๆ ครูสอนสอนดีคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป เชฟบอกสูตรหมดเลยวิธีการทำ ขั้นตอน เคล็ดลับต่าง ๆ ประทับใจมาก ๆ ค่ะ ตอนนี้เปิดร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ในย่านสุขุมวิท ได้นำสิ่งที่เรียนมา มาต่อยอดได้ดีเลยค่ะ
Saijai
นรีกุล วงศ์นารี
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ครูฝึกทักษะ

ทักษะเสริมที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงาน มีอะไรบ้าง
ทักษะเสริมที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงาน มีอะไรบ้าง ด้วยโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วบวกกับวิกฤติไวรัส (COVID-19) เป็นตัวเร่งให้ความเปลี่ยนแปลงเกิดเร็วขึ้น คนทำงานจำเป็นต้องปรับตัวและสร้างหรือเพิ่มทักษะให้กับตนเอง เพื่อเพิ่มคุณค่าและความก้าวหน้าให้กับตัวเอง การมีทักษะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานอะไรบ้าง
1. ทักษะทางด้านกีฬา โค้ช/ผู้ฝึกสอนกีฬา คนทำงานหลายคนที่มีงานประจำเป็นพนักงานออฟฟิศ แต่มีทักษะในการเล่นกีฬา เช่น กอล์ฟ ไตรกีฬา ว่ายน้ำ ฟุตบอล เป็นต้น การเล่นกีฬาที่นอกจากจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังถือว่าเป็นข้อได้เปรียบและเป็นการสร้างโอกาสทางสังคม เช่นการออกรอบตีกอล์ฟกับลูกค้าและเจรจาธุรกิจไปด้วย หรือการเป็นตัวแทนองค์กรเข้าแข่งขันไตรกีฬา ซึ่งถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรอีกทางหนึ่ง
2. ทักษะการทำอาหาร สมมุติว่ามีคุณแม่ท่านหนึ่งกำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็กสำหรับดูแลลูก ๆ มีผู้สมัครสองคนที่มีคุณสมบัติ ความรู้และความสามารถพอ ๆ กัน แต่คนแรกมีทักษะให้การทำอาหารที่ทั้งอร่อยและสร้างสรรค์ ส่วนคนที่สองทำเป็นแต่ไข่ต้ม ไข่ดาว และไข่เจียว คุณคิดว่าใครจะได้งานนี้ไป
3. ทักษะการขับรถ ทักษะการขับรถเป็นอีกหนึ่งทักษะที่มักถูกระบุลงไปในคุณสมบัติที่นายจ้างต้องการนอกจากความรู้ ประสบการณ์ที่เกี่ยวกับหน้าที่การงานโดยตรง เช่น นายจ้างต้องการพนักงานตลาดที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านการตลาด แต่ระบุเพิ่มเติมไว้ด้วยว่า หากขับรถเป็นจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ เพราะหน้าที่ของพนักงานการตลาดคือต้องพบปะลูกค้าทั้งในและนอกออฟฟิศ ฉะนั้นหากพนักงานคนนั้นขับรถเป็น จะช่วยส่งเสริมให้ปฏิบัติงานได้สะดวกมากขึ้น
คุณสามารถประกอบอาชีพได้จากทักษะอะไรบ้าง
ทักษะเสริมอะไรบ้างที่นอกจากจะเป็นประโยชน์แล้วยังอาจจะเอามาใช้ประกอบอาชีพได้

1. ทักษะด้านภาษา โดยพื้นฐานทั่วไปคือทักษะภาษาอังกฤษ แต่จะดีเข้าไปอีกหากคุณมีความสามารถด้านภาษาอื่น ๆ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ เพราะความสามารถด้านภาษาที่ 2 และ 3 นั้นเป็นที่ต้องการอย่างมากในยุคอาเซียน (ASEAN) และหากมีคะแนนหรือใบรับรองความสามารถด้านภาษาด้วยจะยิ่งดีมาก เพราะจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสมัครงานหรือใช้ประกอบอาชีพติวเตอร์สอนภาษาได้อีกด้วย
2. ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ ทุกวันนี้คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญของการทำงานในทุกสาขาอาชีพไปแล้ว ดังนั้นหากคุณสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้คล่อง โดยเฉพาะโปรแกรมพื้นฐานที่ใช้กันอย่างเช่น MS Word, MS Excel, Power Point จะช่วยให้คุณได้เปรียบผู้สมัครงานคนอื่นๆ
3. ทักษะด้านดนตรี เช่น ร้องเพลง เล่นเครื่องดนตรี กำกับดนตรี แต่งเพลง ฟัง แยกเสียงได้ดี วิเคราะห์วิจารณ์ดนตรี ความสามารถด้านนี้ สามารถนำมาใช้ประกอบอาชีพได้หลายๆ อาชีพ ตัวอย่างเช่น ผู้จัดรายการเพลงทางวิทยุ ช่างทำเครื่องดนตรี นักแต่งเพลง ผู้กำกับวงประสานเสียง วาทยากร นักร้อง ครูดนตรี
4. ทักษะด้านกีฬา สำหรับคนที่สนใจกีฬา อยากคลุกคลีกับวงการกีฬา สำหรับผู้ชื่นชอบกีฬาสามารถใช้ทักษะในส่วนนี้ประกอบอาชีพได้มากมาย อาทิเช่น
• ครู อาจารย์ ทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา
• วิทยากรผู้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกาย
• นักกายภาพบำบัด
• นักวิทยาศาสตร์ทางด้านกีฬาในกระทรวงหรือกรมกองต่างๆ
• โค้ชหรือผู้ฝึกสอนกีฬา
• เทรนเนอร์ในฟิตเนสต่าง ๆ
การเรียนทักษะเสริมควรเรียนแบบออนไลน์หรือตัวต่อตัว
หลาย ๆ คนที่กำลังมองหาที่เรียนทักษะเสริมต่าง ๆ อย่างทักษะด้านกีฬา ทักษะการขับรถ ทักษะการทำอาหาร และทักษะด้านดนตรีอยู่คงกำลังสงสัยว่าการเรียนทักษะเสริมเหล่านี้สามารถเรียนรูปแบบไหนได้บ้างที่จะทำให้เรียนรู้ได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด ควรเรียนแบบออนไลน์ หรือแบบตัวต่อตัวดี บนแพลตฟอร์มใส่ใจมีติวเตอร์สอนทักษะเสริมทั้งสองรูปแบบ โดยขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้เรียน การเรียนการสอนรูปแบบออนไลน์ส่วนใหญ่นั้นจะเหมาะกับการเรียนเกี่ยวกับทฤษฎี กฎ กติกาเบื้องต้น ที่ต้องอาศัยการทำความเข้าใจในเนื้อหาก่อน ยกตัวอย่างเช่นการเรียนทักษะด้านดนตรี ซึ่งก่อนที่จะเรียนการปฏิบัตินั้นจำเป็นต้องเรียนรู้คีย์และจดจำโน้ตต่าง ๆ ก่อน หรือการเรียนทักษะการทำอาหารจำเป็นต้องเรียนรู้คุณสมบัติและประโยชน์ของวัตถุดิบนั้น ๆ ก่อนการเริ่มทำอาหารจริง เป็นต้น ทั้งหมดนี้จึงต้องอาศัยการจดจำเนื้อหาและข้อมูลต่าง ๆ ดังนั้นการเรียนแบบออนไลน์จึงถือว่าสะดวกเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาเรียนด้วยเช่นกัน นอกจากการเรียนรูปแบบออนไลน์แล้ว ใส่ใจเองก็มีบริการการสอนในรูปแบบตัวต่อตัวเช่นกัน ซึ่งรูปแบบนี้จะเหมาะสมสำหรับผู้เรียนที่ยังไม่มีพื้นฐานของทักษะเสริมเหล่านั้นมากนัก หรืออาจเหมาะสำหรับการเรียนทักษะเสริมที่จำเป็นต้องใช้ภาคปฏิบัติประกอบการเรียนการสอน ยกตัวอย่างเช่น ทักษะการขับรถ ที่นอกจากเรียนรู้กฎและข้อปฏิบัติต่าง ๆ เมื่ออยู่บนท้องถนนแล้ว ก็จำเป็นที่จะต้องฝึกขับรถลงสนามจริงเพื่อให้ผู้เรียนได้นำทฤษฎีทั้งหมดที่เรียนมาใช้ปฏิบัติจริงนั่นเอง เพราะการขับรถนั้นจำเป็นต้องฝึกขับบ่อย ๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้ผู้เรียน
คุณสามารถคัดเลือกครูฝึกสอนทักษะได้อย่างไร
เพื่อให้การเรียนทักษะเสริมต่าง ๆ นั้นมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ใส่ใจจะมาแนะนำวิธีการคัดเลือกครูฝึกสอนทักษะที่จะช่วยรับประกันคุณภาพในการเรียนการสอนให้กับผู้เรียนได้ดังนี้

1. พิจารณาจากคุณสมบัติเบื้องต้น ประวัติและข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ ของครูผู้สอน เช่น ข้อมูลการศึกษาหรือข้อมูลการทำงาน เป็นต้น
2. การสัมภาษณ์จะยิ่งช่วยให้เราสามารถพิจารณาเลือกครูฝึกสอนที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อได้พูดคุยเราจะสามารถสังเกตได้ว่าทัศนคติของครูฝึกนั้นเป็นอย่างไรจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่าง ๆ ดังนั้นลองสัมภาษณ์ครูฝึกโดยการพูดคุยและยกตัวอย่างต่าง ๆ มา เช่น ครูฝึกมีความคิดเห็นอย่างไรต่อสถานการณ์แบบนี้ และมีวิธีรับมืออย่างไรบ้าง เป็นต้น
3. พิจารณาเลือกครูฝึกที่มีประสบการณ์ ในการสอนทักษะเสริมนั้นจำเป็นต้องได้ผู้ฝึกสอนที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน เพราะความแม่นยำในการฝึกสอนจะยิ่งช่วยให้การเรียนทักษะเสริมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ครูฝึกสอนขับรถก็จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในการฝึกสอนและขับรถมาไม่ต่ำกว่า 3 ปี ทั้งยังต้องมีความรู้ในเรื่องกฎต่าง ๆ บนท้องถนนอย่างแม่นยำอีกด้วย
4. มีความเข้าใจในเนื้อหาที่จะต้องสอนเป็นอย่างดี เพราะเมื่อใดที่ผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วก็จะสามารถนำความรู้ความเข้าใจเหล่านั้นไปถ่ายทอดต่อให้กับผู้เรียนได้อย่างถูกต้องนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น การทำอาหาร ที่จำเป็นต้องมีขั้นตอน สูตร และวิธีในการทำหารที่ละเอียดและถูกต้อง เป็นต้น

หากเราเลือกครูฝึกสอนทักษะโดยพิจารณาจากคุณสมบัติต่าง ๆ เหล่านี้แล้วก็จะทำให้การเรียนทักษะเสริมของเรานั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง