วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
มีความรักและความเมตตาต่อลูกศิษย์มีความเสียสละ หมั่นเพียรศึกษาปรับปรุงวิธีการสอนเพื่อพัฒนาตนเองอยู่เสมอมีความเข้าใจและเอาใจใส่ตัวศิษย์ทุกคนเป็นกำลังใจและช่วยสร้างแรงบันดาลใจเพื่อให้ผู้เรียนเป็นคนที่ใฝ่รู้เป็นแบบอย่างที่ดีมีจรรยาบรรณ มีจิตวิญญาณของความเป็นครูสามารถถ่ายทอดความรู้ได้เป็นอย่างดีมีวิธีการสอนที่หลากหลายมีวิสัยทัศน์กว้างไกลมีความยุติธรรมยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมถึงการยอมยอมรับและเข้าใจความแตกต่างของเด็กแต่ละคน
สามารถเข้าใจความเป็นอยู่หรือพฤติกรรมต่างๆของเด็ก ละเอียดอ่อน ใจดี ใส่ใจในการสอน ขยัน เป็นกันเองมากๆกับเด็กทุกวัย อยากสอนพิเศษเพื่อที่จะแบ่งปันความรู้ที่ตนเองได้เรียนมาและอยากช่วยให้เด็กทุกคนเข้าใจในบทเรียนหรือเนื้อหานั้นๆมากยิ่งขึ้น และต้องการฝึกวิชาชีพที่ตนเองกำลังศึกษาอยู่เพราะอนาคตต้องการเป็นคุณครูค่ะ
สวัสดีค่ะ ชื่อกุ๊กไก่ มีประสบการณ์การสอนและจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทั้งเด็กเล็ก และนักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย
นิสัยส่วนตัว ใจเย็น ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆได้ง่าย สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆได้ตลอดเวลา
ตอนนี้กำลังศึกษาต่อปริญญาโท สาขาวิทยาศาสตร์การอาหารเพื่อโภชนาการ หลักสูตรนานาชาติ ที่มหาวิทยาลัยมหิดลค่ะ
แสดงผล 1 ถึง 20 จาก 31 ผลการค้นหา
1 2ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ติวเตอร์
1) ติวเตอร์ควรมีเทคนิคในการสอนเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เรียน การถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้เรียนนั้น จำเป็นต้องใช้เทคนิคที่น่าสนใจและสนุก เพื่อทำให้ผู้เรียนได้รับความรู้ที่เราสอนอย่างมีประสิทธิภาพ หากติวเตอร์ถ่ายทอดความรู้ทางวิชาการที่ตึงเครียดมากเกินไป อาจทำให้เด็กไม่สนใจเรียนและทำให้เบื่อหน่ายได้
2) การเป็นติวเตอร์ควรมีความยืดหยุ่นทั้งในเวลาการสอนหรือสถานที่การสอน ในบางครั้งติวเตอร์อาจจะต้องเปลี่ยนแผนการสอนให้เข้ากับนักเรียนแต่ละคน บางครั้งนักเรียนของคุณไม่สะดวกเรียนที่บ้าน อาจจะสะดวกเรียนตามร้านกาแฟ ห้องสมุดหรือตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ดังนั้นติวเตอร์จะต้องปรับการสอนให้เหมาะสมกับความต้องการของนักเรียนแต่ละคน
3) ติวเตอร์จะต้องมีความอดทนสูงและเข้าใจ หากนักเรียนของคุณมีข้อสงสัยในเนื้อหาที่เรียนนั้น คุณจะต้องอธิบายจนกว่านักเรียนจะเข้าใจโดยต้องใช้ความพยายามและความอดทนเพราะถือเป็นการช่วยเหลือนักเรียนให้มีผลการเรียนที่ดีขึ้น
4) ทักษะการสื่อสารกับนักเรียน แน่นอนว่าการสอนทักษะที่จำเป็นต้องใช้มากที่สุดคือทักษะการพูด ติวเตอร์ต้องใช้วิธีการพูด วิธีการอธิบายให้เข้าใจมากที่สุด บางครั้งเนื้อหาการเรียนนั้นยากแล้ว หากติวเตอร์ไม่มีวิธีการพูดให้เข้าใจได้ง่ายจะทำให้นักเรียนไม่เข้าใจในเนื้อหาที่ติวเตอร์สอน
นี่คือทักษะขั้นพื้นฐานที่ติวเตอร์ควรมี ดังนั้นหากจะหาติวเตอร์ที่ดีมาสอนลูก ๆ ของคุณที่บ้าน คุณสมบัติดังกล่าวของติวเตอร์สามารถประกอบการตัดสินใจของผู้ปกครองได้ค่ะ
• ติวเตอร์ส่วนตัวให้ความสนใจนักเรียนแบบใกล้ชิด เพราะการเรียนแบบกลุ่มใหญ่ ในโรงเรียนนั้นคุณครูไม่สามารถให้ความสนใจนักเรียนได้ทั่วถึง ส่วนตัวนักเรียนเองเมื่อมีข้อสงสัยอาจจะไม่กล้าถามเพราะกลัวเพื่อนนักเรียนคนอื่น ๆ ล้อเลียนว่าเรียนไม่เก่งหรือเรียนไม่รู้เรื่อง ทำให้ต้องปล่อยความสงสัยนั้นไป แต่การเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัว นักเรียนมีความกล้าที่จะถามหรือและขอครูอธิบายซ้ำจนกว่าจะเข้าใจ เพราะไม่ต้องกลัวว่าใครจะจับตามองหรือตัดสินว่าตัวเองไม่ฉลาด
• นักเรียนมีสมาธิในการเรียนมากขึ้น เพราะการเรียนเป็นกลุ่มใหญ่ เมื่อมีสิ่งรบกวนเช่น เพื่อนพูดคุยกันหรือแอบกินขนมในห้องเรียน นักเรียนจะหลุดโฟกัสจากเนื้อหาได้ง่าย เพราะสมาธิถือเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อมีสมาธินักเรียนจะเข้าใจเนื้อบทเรียนหาตรงหน้าได้มากขึ้น เมื่อเข้าใจในเนื้อหาบทเรียนการทำข้อสอบจะไม่ใช่เรื่องยากและทำให้ผลการเรียนดียิ่งขึ้น
• นักเรียนสามารถนำสิ่งที่ติวเตอร์ส่วนตัวสอนไปใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่างเช่น เทคนิคต่าง ๆ ในการทำข้อสอบ วิธีการจำที่ดี ติวเตอร์ส่วนตัวสามารถถ่ายทอดความรู้นั้นให้เด็กนักเรียนได้โดยตรงเพื่อที่นักเรียนจะนำไปใช้เพื่อให้การเรียนของนักเรียนนั้นดีขึ้น
อย่างไรก็ดีในปัจจุบันนี้มีหลากหลายทางเลือกสำหรับการเรียนเสริมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันกวดวิชา หรือ การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวก็ดี วันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณที่กำลังมองหาติวเตอร์ให้ลูก ๆ ว่าควรตกลงอะไรกับติวเตอร์ มาดูกันค่ะ
• สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องตกลงกับติวเตอร์คือสถานที่เรียนและเวลาเรียน การจ้างติวเตอร์ส่วนตัวคุณสามารถเลือกสถานที่เรียนและเวลาได้ตามความสะดวก อย่างไรก็ดีหากต้องการจะเรียนที่บ้านหรือตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ เช่นร้านกาแฟ คาเฟ่ หรือห้องสมุดคุณพ่อคุณแม่หรือตัวนักเรียนจะต้องแจ้งให้ติวเตอร์ทราบทุกครั้งเพื่อความชัดเจนทั้งสองฝ่าย
• แน่นอนว่าการจ้างติวเตอร์นั้นคุณหวังเพื่อที่จะได้รับความใส่ใจจากติวเตอร์ ดังนั้นก่อนทำการเรียนทุกครั้งนักเรียนจะต้องพูดคุยกับติวเตอร์ถึงเรื่องการเรียน หากคุณต้องการให้ติวเตอร์สอนคุณในเนื้อหาบทเรียนไหนเป็นพิเศษนักเรียนจะต้องบอกติวเตอร์เพื่อที่ติวเตอร์ เพราะติวเตอร์ส่วนตัวนั้นจะช่วยให้เราได้พัฒนาตัวเองในด้านการเรียนที่ดีขึ้น
• ค่าจ้าง ก่อนทำการจ้างคุณพ่อคุณแม่จะต้องตกลงค่าจ้างกับติวเตอร์ตามชั่วโมงที่จ้างสอน
หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการจ้างติวเตอร์ส่วนตัวเพื่อลูก ๆ ของคุณจะได้สะดวกในการเรียน ใส่ใจมีติวเตอร์คุณภาพรอให้บริการคุณอยู่ค่ะ
ข้อมูลทั่วไปปทุมธานี
คำขวัญของจังหวัดปทุมธานี ที่มีอยู่ว่า “ถิ่นบัวหลวง เมืองรวงข้าว เชื้อชาวมอญ นครธรรมะ พระตำหนักรวมใจ สดใสเจ้าพระยา ก้าวหน้าอุตสาหกรรม” เมื่อขึ้นต้นด้วย ถิ่นบัวหลวงแล้ว ก็คงเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งที่อยู่ในภาคกลางของประเทศไทย เป็นหนึ่งในห้าจังหวัดในพื้นที่ปริมณฑลของกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศเหนือของกรุงเทพมหานคร มีพื้นที่ 1,525.856 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรทั้งหมด 1,176,411 คน ประวัติเมืองปทุมธานีนั้นแรกเริ่มเดิมทีในสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อเมืองสามโคก เป็น เมืองประทุมธานี แต่ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ใช้คำว่า "จังหวัด" แทน "เมือง" และให้เปลี่ยนการสะกดชื่อใหม่จาก "ประทุมธานี" เป็น "ปทุมธานี" กลายเป็น จังหวัดปทุมธานี ที่ใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนตราสัญลักษณ์จังหวัดปทุมธานีนั้นเป็นรูปวงกลมมีสัญลักษณ์ดอกบัวหลวงสีชมพูอยู่ตรงกลาง และรวงข้าวสีทองอยู่ 2 ข้าง ดอกบัวและต้นข้าว หมายถึง ความสมบูรณ์ด้วย พืชพันธุ์ธัญญาหาร จังหวัดปทุมธานีนั้นมีพื้นที่เกษตรกรรม เพราะอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและมีการขุดคลองเพื่อทำการเกษตรหลายสาย จึงเป็นพื้นที่เกษตรกรรม สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ โดยมีพื้นที่ทำการเกษตรที่เหมาะสม 635,647 ไร่ ประกอบด้วย ข้าว 610,187 ไร่ ปาล์มน้้ามัน 25,322 ไร่ ยางพารา 138 ไร่ มีพันธ์ข้าวที่ขึ้นชื่อคือ ข้าวหอมปทุมธานีที่มีลักษณะเด่น คือ เป็นพันธุ์ข้าวที่วิจัยและคัดสายพันธุ์ที่ ศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี ทางกายภาพเมื่อเป็นข้าวสุกจะนุ่มเหนียว มีกลิ่นหอมอ่อน ปทุมธานีมีกล้วยหอมเป็นสินค้าเกษตรอีกชนิดหนึ่ง โดยมีพื้นที่ปลูกกล้วยหอม 17,248 ไร่ มีผลผลิตเดือนธันวาคม 2562 จำนวน 3,640.80 ตัน ราคา 31,440 บาท/ตัน เป็นรายได้ที่น่าสนใจไม่แพ้พืชชนิดอื่นๆ และในปัจจุบัน นอกจากการเกษตรแล้ว จังหวัดปทุมธานียังเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ มีนิคมอุตสาหกรรมกระจายอยู่ทั้งจังหวัด โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมเกือบร้อยละ 70 ของจังหวัดมาจากภาคอุตสาหกรรม โดยมีโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ 3,298 มีแรงงานในภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 234,608 คน จำนวนเงินทุนรวม332,407.391 ล้านบาท (ข้อมุล ณวันที่ 07 มิ.ย. 64)
ด้านศานาและวัฒนธรรม จํานวนศาสนสถานในจังหวัดปทุมธานี
โดยจําแนกได้ดังนี้ วัดในพุทธศาสนา 185 แห่ง (พระอารามหลวงมหานิกาย พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตำบลบางขะแยง อำเภอเมืองปทุมธานี วัดเขียนเขต (พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ) ตำบลบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี พระอารามหลวงธรรมยุติกนิกาย วัดจันทน์กะพ้อ (พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ) ตำบลบางเตย อำเภอสามโคก มัสยิด 30 แห่ง และโบสถ์ (คริสต์) 39 แห่ง
ของดีเมืองปทุมธานี ข้าวหอมปทุมธานี
ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทย ในแต่ละท้องถิ่นก็มีพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมเป็นของท้องถิ่นเอง เราอาจเคยได้ยินข้าวเหนียวลืมผัว ข้าวหอมสุรินทร์ หรือ ข้าวหอมปทุม ใช่แล้ว ข้าวหอมปทุมธานีเป็นข้าวที่มีส่วนในการช่วยลดระดับไขมัน LDL (LDL คือ ไขมันที่มีความหนาแน่นต่ำ เป็นไขมันที่ไม่ดี ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง สาเหตุของโรคหลอดเลือดอุดตัน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง) ซึ่งคอเลสเตอรอลชนิดนี้ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกายของ ดังนั้นเมื่อเรารับประทานข้าวหอมปทุมเข้าไป ระดับ แอล ดี แอล คอเลสเตอรอลก็จะลดลง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด ส่วนในความรู้สึกของผู้บริโภคนั้นแทบแบ่งแยกไม่ได้ว่าเป็นข้าวชนิดไหน เพราะเมื่อหุงแล้ว ข้าวสวยนิ่มทานอร่อยอีกทั้งคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับข้าวหอมมะลิไทย ถือว่าเป็นข้าวหอมไทยที่สามารถนำมาทดแทน ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวหอมปทุมธานีเป็นสายพันธุ์ใหม่ของข้าวหอมที่พัฒนาโดยสถาบันข้าวในจังหวัดปทุมธานี มีกลิ่นหอมและเมล็ดข้าวคล้ายกับข้าวหอมมะลิไทย โดยเฉพาะข้าวใหม่ช่วงต้นฤดูจะมีกลิ่นหอมมากเป็นพิเศษ สามารถปลูกได้ในท้องนาทั่วไป ซึ่งในพื้นที่ที่เกษตรได้ปลูกข้าวหอมปทุมธานีนั้นส่วนใหญ่ปลูกในพื้นที่ภาคกลางของประเทศไทย ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรน้ำ ข้าวหอมปทุมธานีสามารถเก็บเกี่ยวพืช 2-3 ครั้งต่อปี
ข้าวหอมปทุมเป็นข้าวที่ได้มาจากการผสมพันธุ์ระหว่างข้าวสายพันธุ์ BKNA6-183-2 (พันธุ์แม่) กับสายพันธุ์ PTT8506-3-21 ที่ศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี เมื่อฤดูนาปรัง ปี 2553 จากนั้นก็ได้รับการพัฒนาเรื่อยมา เมื่อได้รับการขยายพันธุ์จนกลายเป็นข้าวสายพันธุ์หลักแล้ว กรมวิชาการเกษตรจึงได้พิจารณาให้เป็นพันธุ์รับรอง โดยให้ชื่อ “ข้าวพันธุ์ปทุมธานี 1” หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าข้าวหอมปทุมนั่นเอง ส่วนราคาข้าวหอมปทุมนั้น จะว่าไปแล้วก็จะเหมือนกับสินค้าอื่นๆ คือ จะขึ้นอยู่กับความต้องการและผลผลิตของชาวนา ถ้ามีความต้องการซื้อมาก และ ปีไหนเกิดภาวะแล้ง ผลผลิตน้อย ราคาข้าวหอมปทุมก็จะเพิ่มขึ้นสูง ในทางกลับกัน ถ้าปีไหนผลผลิตมาก ก็จะทำให้ราคาข้าวหอมปทุมตกต่ำลง อย่างที่กล่าวไปแล้วนั้นว่า ข้าวหอมปทุมมีคุณสมบัติคล้ายข้าวหอมมะลิ ทำให้คุณค่าและคุณประโยชน์ที่เราได้รับมีความคล้ายคลึงกัน โดยข้าวหอมปทุมมีคาร์โบไฮเดรตสูงถึง 71-77% รองลงมาคือโปรตีน 5-8% มีส่วนช่วยให้พลังงานแก่ร่างกาย นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี 1 ช่วยป้องกันโรคเหน็บชาและวิตามินบี 2 ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอกได้อีกด้วย ข้าวหอมปทุมมีส่วนช่วยลดอัตราความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน โรคภูมิแพ้ และโรคความจำเสื่อม เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารและไขมันชนิดดีต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยลดไขมันเลวที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของเราอีกด้วย
เตรียมตัวให้พร้อมสอบ
เนื่องจากระบบการศึกษาไทยที่มีมหาวิทยาลัยเป็นศูนย์กลางการเรียน การสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรือการสอบเพื่อเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาจึงมีการแข่งขันสูงเมื่อเปรียบเทียบกับสัดส่วนของจำนวนสถานศึกษา พ่อแม่ผู้ปกครองรวมถึงตัวนักเรียนเอง ต่างทุ่มเททั้งกำลังทรัพย์และใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้บุตรหลานได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่ต้องการ นักเรียนส่วนใหญ่เลือกใช้การติวกับติวเตอร์แบบตัวต่อตัว ซึ่งมักจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการติวเป็นชั้นเรียน เพื่อให้แน่ใจว่าเวลาและเงินทองที่ทุ่มไปกับการเรียนพิเศษจะช่วยให้สอบได้ ผู้เรียนควรปฏิบัติดังนี้
1. เตรียมความพร้อมให้มากที่สุด อย่าเดินเข้าไปในการทดสอบโดยไม่ได้เตรียมตัว
2. คิดให้เหมือนคุณครู การบ้าน แบบทดสอบ เอกสารแจก บันทึกประจำวัน และงานในชั้นเรียนล้วนเป็นตัวบ่งชี้ว่าครูของคุณคิดว่าอะไรสำคัญเกี่ยวกับข้อมูลและสิ่งที่อาจปรากฏในแบบทดสอบ
3. ฝึกทำข้อสอบเก่า ๆ การฝึกทำข้อสอบจะทำให้เข้าใจเนื้อหาวิชาได้ดีกว่าการเน้นหรืออ่านโน้ตซ้ำ ๆ ดังนั้น ลองเปลี่ยนการจดโน้ตเป็นบันทึกสรุปแยกตามประเด็นที่จะต้องสอบ
4. ทบทวนทุกวัน การทบทวนบทเรียนวันละเล็กน้อยจะช่วยให้เข้าใจจุดอ่อนของตัวเอง และหาทางแก้ไขได้ล่วงหน้าสำหรับบทเรียนต่อ ๆ ไป
6. ตัดสิ่งรบกวนออก ตั้งใจเรียนเพื่อสอบ ปิดการแจ้งเตือนบนโทรศัพท์ บล็อกเว็บไซต์โปรดชั่วคราว อย่าลืมพักสมองทุก ๆ 45 นาทีจะช่วยให้มีสมาธิและพร้อมจะเรียนในบทต่อไปมากขึ้น
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง