ช่างผม ใน ถลาง, ภูเก็ต

สิ่งที่ทำให้ผมเสียมีหลายปัจจัยด้วยกัน ซึ่งหากไม่อยากให้ผมของคุณเสียโดยไม่รู้ตัวควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้

- สระผมหลายครั้งต่อสัปดาห์ เราไม่จำเป็นต้องสระผมบ่อยเกินไปโดยไม่มีเหตุจำเป็น เพราะทุกครั้งที่ผมเปียกแกนผมด้านในจะบวม เกล็ดผมเปิดออก เมื่อเป็นอย่างนี้บ่อยครั้งจะทำให้ผมชี้ฟูและแตกหักง่ายขึ้น

- ชอบเกาหนังศีรษะเวลาสระผม หลายคนชอบเกาหนังศีรษะให้แรงๆ วิธีนี้จะทำให้หนังศีรษะของเราเป็นแผลและติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งวิธีที่ถูกต้องคือเกาได้แต่ให้ใช้ปลายนิ้วนวดศีรษะ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เลือดบริเวณหนังศีรษะไหลเวียนดี

- ออกจากบ้านทั้งที่ผมเปียก เมื่อผมเปียกชื้นเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดเชื้อราบริเวณหนังศีรษะได้ ทำให้เกิดอาการคันและผมร่วง เพียงแค่เรายอมเสียเวลา 10-15 นาทีเป่าผมให้แห้งดีกว่าการรักษาปัญหาผมเป็นเดือนๆ

- ปล่อยผมสยายเวลานอน ในเวลาที่เรานอนผมอาจจะมีการเสียดสีกับหมอน และมีการดึงให้ขาดร่วงโดยเราไม่รู้ตัว เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหานี้หลังจากวางศีรษะบนหมอน ให้ช้อนผมขึ้นไปไว้ด้านบนรวบผมหลวมๆเพื่อป้องกันผมพันกัน

- สระผมด้วยน้ำอุ่นหรือเย็นจัด อุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมสำหรับการสระผมคืออุณหภูมิห้องปกติหากสระผมด้วยน้ำที่ร้อนหรือเย็นจัด จะก่อให้เกิดปัญหาผมแห้งและทำลายหนังศีรษะได้

- ไดร์ผมด้วยความร้อน การใช้ความร้อนกับเส้นผมไม่ว่าจะเป็นการเป่าให้แห้งหรือจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนบ่อยๆไม่ดีแน่นอน เพราะผมจะแห้งกรอบได้ง่าย ควรเลี่ยงการเป่าผมด้วยความร้อนลงบ้าง แต่หากต้องใช้ความร้อนในการทำผมจริงๆควรใช้อุณหภูมิที่เหมาะสม

ไม่ว่าใครก็อยากจะมีทรงผมที่สวยเพอร์เฟคอยู่แล้ว หนึ่งในนั้นคือการเลือกเข้าร้านซาลอน เพราะทรงผมที่ดีและเข้ากับบุคลิกจะทำให้เราดูดีขึ้นได้ นี่เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องการหาทรงผมที่สวยและนั่งรอช่างทำได้เป็นวันๆ จะว่าไปหลายคนก็แอบลุ้นกับการเดินเข้าร้านทำผมเหมือนกันว่าช่างจะสามารถทำให้ได้ตามที่คาดหวังไว้หรือไม่ ซึ่งสิ่งที่เราควรรู้ก่อนเปลี่ยนทรงผมเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการมีดังนี้

- ให้ดูทรงผมที่อยากได้และไม่อยากได้ ถือเป็นเรื่องง่ายๆที่คนส่วนใหญ่คาดไม่ถึง เราอยากได้ทรงนี้เราก็แค่ต้องหาแบบทรงนั้นให้ช่างดู และควรให้ดูทั้งสิ่งที่อยากได้และไม่อยากได้เพราะบางครั้งอาจมีเส้นบางๆกั้นอยู่ ช่างก็จะรู้ว่าควรทำแบบไหน 

- ไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าที่ร้านนำเสนอให้เสมอไป เชื่อว่าหลายคนเคยมีประสบการณ์เมื่ออยู่ร้านทำผมและกำลังจะจ่ายเงินไปกับสิ่งต่างๆที่ร้านนำเสนอซะงั้น บางครั้งอาจเกิดจากความเกรงใจหรือคล้อยตามไปกับคำแนะนำของช่าง ให้ดึงสติกลับมาก่อน ดูความต้องการว่าเราอยากได้สิ่งใดบ้าง หรือถ้ามีผลิตภัณฑ์ในร้านที่เราไม่อยากได้ก็ควรสามารถปฏิเสธ

- สระผมที่บ้านก่อนไปร้านเสริมสวย บางร้านอาจคิดค่าบริการเสริมสำหรับการสระผม ในกรณีแบบนี้ให้เราสระผมให้เรียบร้อยก่อนไปร้านจะทำให้สามารถประหยัดได้ 

ก่อนทำผมทุกครั้งควรปรึกษาช่างทำผม ว่าหากทำแล้วผมเราจะเสียหรือไม่ หรือแบบนี้ทำได้หรือเปล่า ไม่อย่างนั้นผมที่คุณอยากให้ออกมาเพอร์เฟคอาจออกมาพังแบบไม่เป็นท่าเลยก็ได้

หลายคนคงมี New year resolutions ประจำปี 2022 กันแล้ว ปีใหม่ก็ต้องเปลี่ยนลุคใหม่กันหน่อย ยิ่งเรื่องความสวยความงามมองข้ามไม่ได้เลย ควรถือโอกาสนี้เปลี่ยนความสดชื่นให้กับตนเองต้อนรับปี โดยเริ่มจากการอัปเดทเทรนด์สีผมที่มาแรงกันก่อนดีกว่า จะมีเฉดไหนที่ใช่หรือเฉดไหนที่เหมาะกับคุณนั้นไปดูกันค่ะ

- โทนสี Blond เป็นเทรนด์คลาสสิคที่ทำได้ง่ายและเข้ากับทุกสีผิว ทั้งผิวเข้มและผิวขาวโดยผมสีนี้จะเพิ่มความเปรี้ยวให้น่าค้นหา นอกจากจะเป็นโทนที่ทำได้ทุกคนแล้ว ยังเป็นโทนที่ทำให้หน้าดูสว่างมากขึ้นอีกด้วย

- โทนสี Pink Lilac หากอยากเปลี่ยนลุคให้ดูละมุนขึ้นลองทำสีผมแนวพาสเทลสีชมพูม่วงดู หรือผมสีโทนเทาให้ดูประกายชมพูม่วง โทนผมยอดฮิตเหล่านี้เป็นของวัยรุ่นชาวเกาหลีที่นิยมในปัจจุบัน

- โทนสี Brown ถ้าคุณคิดว่าการทำสีผมที่โดดเด่นมากเกินไปทำให้แต่งตัวยากหรือคิดว่าสไตล์มินิมอลล์อาจไม่เข้ากับคุณ แนะนำให้ลองเป็นสีธรรมชาติอย่างสีน้ำตาลซึ่งเป็นสีที่มาแรงในทุกปีแต่หากใครอยากได้รับความแปลกใหม่อาจจะแซมสีทองหรือเปลี่ยนเป็นประกายทองก็ดูดีเหมือนกัน

- โทนสีPlatinum โทนสีที่มาแรงตลอดกาลหรือสีเทาโทนสว่างจะช่วยปรับให้คุณดูเป็นสาวเปรี้ยวแบบไม่ต้องทำอะไรมาก ซึ่งหากใครที่เพิ่งลองทำสีผมเป็นครั้งแรกอาจจะลองทำแค่ด้านในดูก่อนว่าเข้ากับคุณไหมแล้วค่อยเริ่มทำทั้งหัว

ครบครันกันไปแล้วนะคะกับเทรนด์สีผมประจำปี 2022 ที่มีให้เลือกมากมายให้สาวๆได้เปลี่ยนลุคของตัวเองให้เป็นคนใหม่ในปีนี้ ควรเลือกในสิ่งที่คุณอยากเป็นอยากเปลี่ยนแปลงและเข้าร้านทำผมอัพรูปใหม่ให้ดูสดใสมั่นใจรับปี 2022 กันค่ะ