วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ
1. ผู้ดูแลควรผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ที่สำคัญต้องมีประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรง และควรมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้สูงอายุความปลอดภัยตลอดระยะเวลาการดูแ
2. ผู้ดูแลต้องมีใจรักไม่ว่าจะเป็นงานการบริบาล และบริการ มีจิตใจชอบช่วยเหลือและปรารถนาดีต่อผู้อื่น และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
3. มีความอดทนและสามารถเข้าอกเข้าใจผู้สูงอายุเป็นอย่างดีว่าต้องการอะไร เนื่องจากผู้สูงอายุหรือคนชรานั้นเป็นช่วงอายุที่ค่อนข้างมีความละเอียดอ่อนในหลาย ๆ เรื่อง ผู้ดูแลควรรู้ว่าจะต้องดูแลและบริการอย่างไรให้ผู้สูงอายุมีความพึงพอใจ
4. มีความดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุ สามารถดูแลและช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นการดูแลเรื่องอาหาร สุขอนามัย และกิจวัตรประจำวันอื่น ๆ ไปจนถึงการดูแลเรื่องสภาพจิตใจ ผู้ดูแลที่สามารถอยู่เป็นเพื่อนคุยและทำกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกับผู้สูงอายุได้เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุรู้สึกโดดเดี่ยว
5. สามารถสื่อสารและรายงานข้อมูลระหว่างการดูแลให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุได้ตลอดเวลา เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่ได้ทำการว่าจ้างผู้ดูแลมาทำหน้าที่ในส่วนนี้
คุณสมบัติที่กล่าวมาข้างตนนั้นสามารถบ่งบอกได้ถึงความเป็นมืออาชีพของผู้ดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี หากคุณต้องการให้ผู้สูงอายุในบ้านซึ่งเปรียบเสมือนบุคคลที่คุณรักและเคารพนับถือนั้นมีความสุข โปรดอย่ามองข้ามคุณสมบัติเหล่านี้ไปก่อนเลือกใช้บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านคุณ
1. ตรวจสอบประวัติย้อนหลังของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ทำการว่าจ้างมา เพื่อให้แน่ใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติการกระทำที่ผิดกฎหมายมาก่อน โดยสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. สอบถามประวัติการทำงานต่าง ๆ ที่ผ่านมา โดยอาจสอบถามจากผู้ว่าจ้างโดยตรงว่าเคยดูแลผู้สูงอายุมาอย่างไรบ้าง มีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหนในการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ขณะเดียวกันก็สามารถสอบถามจากผู้ว่าจ้างที่เคยทำการจ้างก่อนหน้านี้ได้เช่นเดียวกัน
3. ฝากฝังทางเพื่อนบ้านให้ช่วยสอดส่องดูแลอีกทีหนึ่ง ซึ่งเพื่อนบ้านจะสามารถติดต่อหาเราได้ทันทีหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น
4. หากว่าจ้างคนดูแลผู้สูงอายุโดยหาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ควรศึกษาคำวิจารณ์หรือรีวิวจากผู้ใช้ก่อนหน้าว่ามีความคิดเห็นต่อการบริการอย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นน่าเชื่อถือและเป็นคนมีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ
5. การติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านช่วยให้สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ถือเป็นการป้องกันความปลอดภัยที่ดีอย่างหนึ่งเช่นกัน
1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน
การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย
วัดสำคัญในอำเภอบางบ่อ วัดบางพลีน้อย
เป็นวัดที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีของชาวจังหวัดสมุทรปราการและแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอีกด้วย
จุดเด่นของ https://th.wikipedia.org/wiki/วัดบางพลีน้อย วัดบางพลีน้อย ก็คือ ประชาชนที่อยู่ในละแวกนี้จะมีการนำวัตถุโบราณที่มีค่ามาบริจาคและรวบรวมไว้ที่วัดนี้ เพื่อที่จะได้จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อรวบรวมจัดเก็บวัตถุโบราณ, พระพุทธรูปในสมัยต่างๆ, สมุดข่อยและหนังสือโบราณ ซึ่งทั้งหมดนี้จะอยู่ในความดูแลของสภาวัฒนธรรมตำบล และสภาวัฒนธรรมอำเภอบางบ่อ และได้ทำการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ขึ้นในปี พ.ศ. 2542
ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะมีโบราณวัตถุต่างๆ ล้วนแต่เป็นของเก่าแก่ที่หลวงพ่ออนันต์ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส เก็บสะสมสืบทอดต่อกันมาเป็นระยะเวลานาน และที่สำคัญของแต่ละชิ้นจะถูกซ่อมแซมให้มีสภาพดีเหมือนเดิม อาทิเช่น
- พระพุทธรูป เก่าแก่โบราณรุ่นหายากมากมาย อาทิเช่น รูปหลวงพ่อโสธร, หลวงพ่อฉิม, พระพุทธรูปปางไสยาสน์, หลวงพ่อพระครูแถบ
- ตะเกียงเจ้าพายุ ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีมากมายหลายแบบแตกต่างกันไปตามแต่ละยุคแต่ละสมัย ซึ่งเป็นของหายากมากแล้วในปัจจุบัน
- นาฬิกาโบราณ ประกอบด้วย นาฬิกาเก่าแก่ที่ไม่มีผลิตแล้วในสมัยนี้ ซึ่งบางเรือนเจ้าอาวาสซื้อมาแล้วซ่อมแซมจนใช้งานได้ตามปกติ และบางเรือนชาวบ้านที่มีจิตเมตตาร่วมกันบริจาคให้แก่วัด เพื่อให้วัดเก็บรักษาไว้เป็นอนุสรณ์และได้มีไว้ให้เด็กรุ่นหลังได้ชื่นชม
- บาตรพระ เป็นบาตรที่มีอายุเก่าแก่และหาได้ยากอีกเช่นกัน
ปัจจุบันทางวัดได้จัดแสดงโบราณวัตถุเป็นสัดส่วนและมีโครงการจัดสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์เป็นรูปพญาวานร ซึ่งจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับพญาวานรหรือลิง สายพันธุ์ต่างๆ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับวัตถุมงคลของวัดที่จัดสร้างขึ้น โดยในบรรดาเครื่องรางของขลังนั้นจะมีอยู่ชนิดหนึ่งที่เรียกกันว่า ลิงแกะ หรือ หนุมานแกะ ซึ่งเป็นที่นิยมเช่าไปบูชาเป็นอย่างมาก
ดูแลผู้สูงอายุอย่างไรให้อายุยืนยาว
ดูแลผู้สูงอายุอย่างไรให้อายุยืนยาว
เมื่ออายุมากขึ้น ผู้สูงอายุมักรู้สึกเหนื่อยง่ายและเคลื่อนไหวได้ช้าลง อาการเหล่านี้เป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นได้กับผู้สูงอายุทุกคน โดยผู้สูงอายุจะรู้สึกอ่อนแรง เหนื่อย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ บุคคลในครอบครัว ที่จะให้การดูแลอย่างใกล้ชิดกับผู้สูงอายุ โดยวิธีดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุจะมีการดูแลในหลายปัจจัย ดังต่อไปนี้
- ดูแลสุขภาพจิต เพราะจิตใจที่มีความสุขมีผลต่อสุขภาพร่างกายของผู้สูงอายุอย่างแน่นอน หากไม่ได้เจอหน้ากัน อย่างน้อยควรมีการพูดคุยกันอย่างสม่ำเสมอ เช่น การพูดคุยทางโทรศัพท์ หรือการพูดคุยแบบเห็นหน้ากัน เช่น Video Call คุยกัน หรืออาจจะสอนให้ผู้สูงอายุใช้งานอินเทอร์เน็ต และ Social Media เพื่อให้ท่านได้ติดต่อสื่อสารกับญาติพี่น้องหรือแม้กระทั่งเพื่อนฝูงในวัยเดียวกัน ช่วยให้ลดความเครียดและความเหงาได้อีกทางหนึ่งด้วย
- ดูแลสมอง ผู้สูงอายุควรได้รับที่มีประโยชน์และสารอาหารครบถ้วน แต่อย่างไรก็ตามควรเป็นอาหารที่ช่วยรักษาน้ำหนักของผู้สูงอายุด้วย โดยอาจมีการทำกิจกรรมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพที่ดี และการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก็จะช่วยให้สมองได้ผ่อนคลายด้วย
- ดูแลสุขภาพเท้า โดยการทาครีมบำรุงเท้า เพื่อลดอาการหยาบกร้านของผิวหนังเพราะผู้สูงอายุจะมีผิวที่แห้งและเกิดอาการคันได้ง่าย ดังนั้นจึงควรทาครีมอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดปัญหานี้ รวมไปถึงรองเท้าของผู้สูงอายุก็เช่นกัน ควรเป็นรองเท้าที่ทำจากวัสดุหนังแบบนุ่มหรือมีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งจะช่วยให้เกิดความสบายและคล่องตัวในการเดินมากยิ่งขึ้น
- ดูแลสุขภาพดวงตา ลูกหลานควรพาผู้สูงอายุไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้งเป็นอย่างต่ำ เพื่อตัดแว่นสายตาที่เหมาะสม รวมทั้งตรวจดูว่าผู้สูงอายุมีปัญหาสุขภาพตาหรือไม่ รวมทั้งไม่สูบบุหรี่เมื่ออยู่ใกล้ผู้สูงอายุ เนื่องจากจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดจอตาเสื่อมหรือต้อกระจกได้
วัดปีกกา
วัดปีกกา หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดปานประสิทธาราม ตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อของสองจังหวัดคือ จังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดสมุทรปราการ โดยตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 16 ไร่ วัดปานประสิทธาราม จัดตั้งขึ้นโดย นายเชย ขุนเจ๋ง และนายซัง มีซัง เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2475 ชื่อเดิมที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากคือ วัดปีกกา ต่อมาเปลี่ยนเป็น วัดปานประสิทธาราม เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2499 เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่หลวงพ่อปานซึ่งได้เดินธุดงค์มาปักกลดที่นี่และทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก วัดปีกกา ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2495 และได้มีการเปิดสอนโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม เมื่อปีพ.ศ. 2478 และยังมีศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ในวัด เมื่อปี พ.ศ. 2546
จุดเด่นของ วัดปีกกา คือ รูปปั้นหลวงพ่อปานองค์ใหญ่และตลาดน้ำวัดปีกกา โดยภายในบริเวณริมคลอง จะมีการก่อสร้างเพิงสำหรับให้ประชาชนในพื้นที่ได้เข้าจำหน่ายสินค้าพื้นบ้านให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
ตลาดน้ำปีกกาเป็นตลาดน้ำเล็กๆ ที่มีความอบอุ่นและทำให้ได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบชุมชนพื้นบ้านอย่างแท้จริง โดยร้านค้าในตลาดส่วนใหญ่นั้นก็เป็นคนในพื้นที่ชุมชน ที่มาค้าขายของกินของใช้ในราคาย่อมเยา แถมยังราคาไม่แพงอีกด้วย ที่สำคัญตลาดที่นี่จะใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากมีการจำหน่ายอาหารพื้นบ้านแล้ว ยังมีมุมต่างๆ สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนหย่อนใจ หรือถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย
ที่ตั้ง ตลาดน้ำปีกกา ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เปิดให้บริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง