ดูแลผู้สูงอายุ ใน เมืองสมุทรสาคร, สมุทรสาคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน เมืองสมุทรสาคร, สมุทรสาคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ธมลวรรณ สังข์แก้ว
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจ เข้าใจ สะอาด ดูแลเปรียญเสมือนญาติ

แสดงเพิ่มเติม
อธิวุฒิ สมัครการ
อธิวุฒิ สมัครการ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 34 ปี

เป็นคนใจเย็น รักการช่วยเหลือผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หากมีที่พักให้เช่าใกล้สถานที่ทำงานจะดีมาก หรือจะให้อยู่บ้านเฝ้า 24 ชั่วโมงเลยก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
3 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเว็บไซต์ใส่ใจมาให้ เลยลองเข้าไปดู จ้างน้องมาดูแลแม่ น้องเขาทั้งสุภาพ เรียบร้อย ทำอาหารอร่อย แถมยังเคยฝึกอบรมการปฐมบาลเบื้องต้นมาด้วย คุณแม่ก็ดูจะชื่นชอบน้องเขามาก ๆ ค่ะ เราเลยรู้สึกสบายใจไปด้วย โดยรวมแล้วถือว่าน่าพอใจมากค่ะ
Saijai
อภิสรา ประภาสกุล
3 ปีที่แล้ว
ได้คนคอยดูแลแม่ผมอย่างดี และถ่ายภาพรายงานเรื่องแม่ให้ผมทางไลน์อีกด้วยครับ คุ้มราคามากครับ
Saijai
ปราโมทย์ มนตรา
3 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
3 ปีที่แล้ว
ย้ายตามสามีมาอยู่กรุงเทพ แล้วยังต้องดูแลแม่สามีที่สูงอายุ และมีโรคประจำตัวด้วย ตอนแรก ๆ ลำบากมาก เพราะต้องวุ่นวายเรื่องย้ายงานและหาคนดูแลผู้สูงอายุอีก จนมาเจอเว็บไซต์ใส่ใจ โชคดีมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากจะได้คนดูแลผู้สูงอายุที่ราคาไม่แพงมากแล้ว ยังได้คนมีประสบการณ์ ไว้ใจได้ ทำงานคล่องแถมมาช่วยทำงานบ้านอีก ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ณฐาสัณห์ ถาวร
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุหรือคนชรา คุณควรเลือกผู้ดูแลที่มีคุณสมบัติอะไรบ้าง
การเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุหรือคนชราถือเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณสมบัติของผู้ดูแลที่มีความเป็นมืออาชีพนั้นมีดังนี้

1. ผู้ดูแลควรผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ที่สำคัญต้องมีประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรง และควรมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้สูงอายุความปลอดภัยตลอดระยะเวลาการดูแ
2. ผู้ดูแลต้องมีใจรักไม่ว่าจะเป็นงานการบริบาล และบริการ มีจิตใจชอบช่วยเหลือและปรารถนาดีต่อผู้อื่น และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
3. มีความอดทนและสามารถเข้าอกเข้าใจผู้สูงอายุเป็นอย่างดีว่าต้องการอะไร เนื่องจากผู้สูงอายุหรือคนชรานั้นเป็นช่วงอายุที่ค่อนข้างมีความละเอียดอ่อนในหลาย ๆ เรื่อง ผู้ดูแลควรรู้ว่าจะต้องดูแลและบริการอย่างไรให้ผู้สูงอายุมีความพึงพอใจ
4. มีความดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุ สามารถดูแลและช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นการดูแลเรื่องอาหาร สุขอนามัย และกิจวัตรประจำวันอื่น ๆ ไปจนถึงการดูแลเรื่องสภาพจิตใจ ผู้ดูแลที่สามารถอยู่เป็นเพื่อนคุยและทำกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกับผู้สูงอายุได้เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุรู้สึกโดดเดี่ยว
5. สามารถสื่อสารและรายงานข้อมูลระหว่างการดูแลให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุได้ตลอดเวลา เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่ได้ทำการว่าจ้างผู้ดูแลมาทำหน้าที่ในส่วนนี้
คุณสมบัติที่กล่าวมาข้างตนนั้นสามารถบ่งบอกได้ถึงความเป็นมืออาชีพของผู้ดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี หากคุณต้องการให้ผู้สูงอายุในบ้านซึ่งเปรียบเสมือนบุคคลที่คุณรักและเคารพนับถือนั้นมีความสุข โปรดอย่ามองข้ามคุณสมบัติเหล่านี้ไปก่อนเลือกใช้บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านคุณ
อะไรที่ช่วยให้คุณคลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชราอยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง
แม้ว่าคุณจะพิจารณาคุณสมบัติของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างอย่างครบถ้วนและได้ตัดสินใจจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุมาแล้วนั้น เป็นเรื่องปกติหากคุณจะยังคงกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ อยู่ สิ่งที่จะช่วยให้คุณคลายความกังวลหากต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่กับผู้ดูแลตามลำพังที่บ้านมีดังนี้

1. ตรวจสอบประวัติย้อนหลังของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ทำการว่าจ้างมา เพื่อให้แน่ใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติการกระทำที่ผิดกฎหมายมาก่อน โดยสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. สอบถามประวัติการทำงานต่าง ๆ ที่ผ่านมา โดยอาจสอบถามจากผู้ว่าจ้างโดยตรงว่าเคยดูแลผู้สูงอายุมาอย่างไรบ้าง มีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหนในการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ขณะเดียวกันก็สามารถสอบถามจากผู้ว่าจ้างที่เคยทำการจ้างก่อนหน้านี้ได้เช่นเดียวกัน
3. ฝากฝังทางเพื่อนบ้านให้ช่วยสอดส่องดูแลอีกทีหนึ่ง ซึ่งเพื่อนบ้านจะสามารถติดต่อหาเราได้ทันทีหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น
4. หากว่าจ้างคนดูแลผู้สูงอายุโดยหาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ควรศึกษาคำวิจารณ์หรือรีวิวจากผู้ใช้ก่อนหน้าว่ามีความคิดเห็นต่อการบริการอย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นน่าเชื่อถือและเป็นคนมีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ
5. การติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านช่วยให้สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ถือเป็นการป้องกันความปลอดภัยที่ดีอย่างหนึ่งเช่นกัน
สิ่งสำคัญที่คนจ้างจะต้องตกลงกับผู้ดูแลผู้สูงอายุคืออะไร
เมื่อคุณตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุไว้คอยดูแลผู้สูงอายุที่บ้านเพื่อแบ่งเบาภาระของคุณ คุณควรมีข้อตกลงที่ชัดเจนก่อนทำการจ้าง ดังต่อไปนี้

1. มีการทำสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความถูกต้องและความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย โดยระบุข้อวันเริ่มงาน ตกลงในเรื่องของเงินเดือน ชั่วโมงการทำงาน สวัสดิการและวันหยุดที่ควรจะได้รับตามกฎหมายแรงงาน
2. ทำความเข้าใจถึงความคาดหวังที่นายจ้างต้องการจากผู้ดูแล และหน้าที่รับผิดชอบต่างๆ ว่าอาจจะต้องทำงานอื่นนอกเหนือจากการดูแลผู้สูงอายุหรือไม่ ตัวอย่างเช่น อาจจะต้องช่วยดูแลเพิ่มเติม ในเรื่องของความสะอาดต่างๆ ของเครื่องใช้ หรือความสะอาดในพื้นที่ที่ผู้สูงอายุอยู่
3. อธิบายข้อมูลส่วนตัวในเชิงลึกของผู้สูงอายุที่ต้องดูแล เช่น ลักษณะนิสัย ความชอบส่วนตัว โรคประจำตัว อาหารที่ทานได้ หรือ อาหารที่แพ้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและมีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก
4. ควรใส่ใจในสุขภาพของคนที่จะมาเป็นคนดูแลผู้สูงอายุของเราด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องโรคติดต่อต่างๆ ที่อาจจะแพร่มาสู่คนชราได้ คนดูแลจึงควรมีสุขภาพแข็งแรง และควรมีผลการตรวจสุขภาพมาเพื่อยืนยันกับผู้ว่าจ้าง
5. ทำความเข้าใจว่าหากคนดูแลผู้สูงอายุป่วยไข้ ผู้ว่าจ้างจะอนุญาตให้พักงาน เพื่อลดปัญหาการแพร่เชื้อสู่ผู้สูงอาย
6. หากผู้ว่าจ้างเลือกให้คนดูแลผู้สูงอายุพักอาศัยที่บ้านด้วย ควรมีห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนและมีการจัดหาอาหารให้ ควรอธิบายข้อมูลให้ชัดเจนด้วยว่ามีอาหารให้กี่มื้อต่อวัน
7. คนดูแลผู้สูงอายุควรได้รับการอบรมและตรวจสอบประวัติ และลายนิ้วมือ เพื่อประสิทธิภาพของงาน และความไว้วางใจของผู้ว่าจ้าง

ดูแลผู้สูงอายุช่วงหน้าฝน

ผู้สูงอายุ คนแก่ หรือคนชรา เป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาสุขภาพเมื่อเจอกับสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะสภาพอากาศที่ชื้นและเย็นของหน้าฝน ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ เพราะการละเลยไม่ป้องกันเอาไว้ก่อน อาจจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงตามมาเรามาดูวิธีดูแลผู้สูงอายุช่วงหน้าฝนกันค่ะ

- เนื่องจากผู้สูงอายุจะมีผิวที่แห้งและขาดความชุ่มชื้นอยู่แล้ว เมื่อถึงฤดูฝนจะทำให้ผิวซึ่งแห้งอยู่แล้วเกิดอาการคันเพิ่มขึ้นมาได้ ดังนั้น ควรแนะนำผู้สูงอายุให้ทาครีมเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ ที่สำคัญแนะนำให้ผู้สูงอายุอย่าเกาหากมีอาการคัน เพราะอาจจะทำให้เป็นแผลเปื่อยและหายยาก แต่หากว่าคันมากจริงๆ ก็ควรพาผู้สูงอายุไปพบแพทย์เพื่อที่จะได้รับครีมทาแก้ผื่นคันมาใช้

- โรคที่มากับหน้าฝน แน่นอนต้องเป็นโรคไข้เลือดออก นอกจากเด็กเล็กแล้ว ผู้สูงอายุก็เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลและระวังการเกิดโรคนี้ด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อฝนตกและมีน้ำท่วมขังก็จะทำให้มียุงเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงให้คนที่ถูกกัดอย่างแน่นอน เบื้องต้นคือควรป้องกันและดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย คอยทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายรอบๆบ้านอย่างสม่ำเสมอ

- ควรแนะนำให้ผู้สูงอายุหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำ โดยเฉพาะบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง เพราะการเดินลุยน้ำอาจจะเป็นสาเหตุของโรคเท้าเปื่อย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวาน จะมีความเสี่ยงติดเชื้อและลุกลามทำให้แผลเปื่อยนั้นหายได้ยาก ดังนั้นหลังจากเดินลุยน้ำควรรีบล้างเท้าให้สะอาดและเช็ดให้แห้งทันที

- ผู้สูงอายุควรระมัดระวังการลื่นล้ม เพราะฝนตกมักจะทำให้พื้นลื่นและอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาที่ร้ายแรง เช่น กระดูกหัก หรือศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนได้ วิธีป้องกันเบื้องต้นคือ ควรให้ผู้สูงอายุเลือกรองเท้าที่มีดอกยางที่ยึดเกาะพื้นได้ดี สวมใส่กระชับ หรือมีอุปกรณ์ช่วยพยุงขณะเดิน



สะพานแดง

สถานที่ถ่ายรูปชิคๆ ที่ใครๆ ก็อยากไป เพราะที่นี่จะมีสะพานไม้สีแดง ความยาว 700 เมตร ที่ทอดยาวไปในทะเล ใครมาที่นี่ก็จะได้รูปถ่ายสวยๆ กลับไปอย่างแน่นอน หากใครกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุด ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก แนะนำว่าให้มาที่นี่รับรองว่าคุ้มค่าในการเดินทางอย่างแน่นอน

สะพานแดง หรือที่ใครๆ รู้จักกันในชื่อ จุดชมวิวโลมา ซึ่งเป็น Landmark ใหม่ของจังหวัดสมุทรสาคร เพราะบรรยากาศสุดโรแมนติก พร้อมทัศนียภาพชายฝั่งทะเลที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน - มกราคม จะมีลมหนาวพัดพาเอาฝูงโลมาเข้ามาบริเวณนี้ จึงเป็นจุดชมโลมาแห่งเดียวที่มีความเป็นธรรมชาติและอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ อีกด้วย ถึงแม้ปัจจุบันจะมีโอกาสได้เห็นปลาโลมาน้อยลง แต่จุดชมวิวแห่งนี้ก็ยังคงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาถ่ายรูปกับสะพานสีแดงสดใสไว้เป็นที่ระลึก

จากที่เล่าต่อกันมา สาเหตุที่สะพานแห่งนี้ทาสีแดงก็เพราะว่ามีหมู่บ้านที่มีชื่อว่า หมู่บ้านแดง โดย สะพานแดง จะสร้างด้วยไม้และปูน มีความยาวประมาณ 700 เมตร โดยบริเวณรอบๆ สะพานจะมีการสร้าง ไม้ไผ่ชะลอคลื่น เอาไว้ตามแนวสะพาน ซึ่งสาเหตุของการสร้างสิ่งนี้เพราะเป็นภูมิปัญญาของชาวบ้าน เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและฟื้นฟูคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับธรรมชาติ โดยการนำเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นจากการสังเกตบริเวณเพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่ที่เกิดการรวมตัวกันของดินเลน มาประยุกต์ใช้และทดลองปักแนวไม้ไผ่ชะลอคลื่น เพื่อแก้ไขปัญหาการพังทลายของชายฝั่งและเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนให้มากขึ้น

ที่สำคัญบนสะพานแห่งนี้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของชายฝั่งที่สวยงาม สามารถชมบรรยากาศของพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน และปัจจุบันมีการปรับปรุงทางเดินบริเวณสะพานไม้แดงใหม่เป็นแบบพื้นปูนทำให้มีความมั่นคงและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

ที่อยู่ ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร



ศาลพันท้ายนรสิงห์

เชื่อว่าคนไทยเกือบทุกคนจะต้องรู้จักชื่อของ พันท้ายนรสิงห์ ผู้ซึ่งมีชื่อเป็นที่จดจำในหน้าประวัติศาสตร์ของชาติไทย ซึ่งทั้งในละครและภาพยนตร์ก็ได้มีการสร้างเรื่องราวของ พันท้ายนรสิงห์ เอาไว้อย่างมากมาย

ซึ่งปัจจุบันยังมี ศาลพันท้ายนรสิงห์ ให้รุ่นลูกรุ่นหลานของเราได้สักการบูชาที่จังหวัดสมุทรสาครนั่นเอง

ศาลพันท้ายนรสิงห์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความซื่อสัตย์ของ พันท้ายนรสิงห์ ผู้ซึ่งเป็นนายท้ายเรือที่จงรักภักดีซึ่งยอมรับโทษประหารชีวิตเพื่อรักษาระเบียบแบบแผนราชประเพณีตามกฎมณเฑียรบาล ซึ่งเชื่อกันว่าสถานที่ตั้งศาลคือ สถานที่ที่ พันท้ายนรสิงห์ ถูกประหารชีวิต แต่ปัจจุบันตัวศาลเดิมได้ผุพังไปตามกาลเวลารวมทั้งถูกน้ำกัดเซาะตลิ่ง จึงได้มีการสร้างศาลขึ้นมาใหม่โดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล เมื่อปี พ.ศ. 2493 โดยได้มีการสร้างภาพยนตร์เรื่อง พันท้ายนรสิงห์ ขึ้นอีกครั้งในปีเดียวกัน

รูป พันท้ายนรสิงห์ ในศาลแห่งนี้ สร้างขึ้นจากไม้จันทน์หอม ขนาดเท่าคนจริงอยู่ในท่าถือท้ายคัดเรือ เป็นที่พึ่งทางจิตใจและเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก เพราะชาวบ้านนิยมมาขอพรจากที่นี่และประสบความสำเร็จกันเป็นส่วนมาก ดังนั้นชาวบ้านจะนิยมซื้อของมาแก้บนเป็น นวมชกมวย, ไม้พายเรือ หรือรูปปั้นไก่แก้ว เพราะตามประวัติที่เล่าต่อกันมานั้น พันท้ายนรสิงห์ ชอบการชกมวยและตีไก่นั่นเอง

นอกจากนี้ บริเวณ ศาลพันท้ายนรสิงห์ ยังมีซากเรือโบราณสร้างจากไม้ตะเคียนต้นเดียวที่มีขนาดใหญ่ คาดว่ามีอายุถึงราว 300 ปี ชาวบ้านในละแวกนี้เชื่อกันว่าเป็นซากเรือในขบวนเสด็จหรืออาจเป็นเรือลำเลียงทหารในสมัยของ พันท้ายนรสิงห์

การเดินทางไปยัง ศาลพันท้ายนรสิงห์ สามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ไปตามถนนพระราม 2 บริเวณกิโลเมตรที่ 16-17 เข้าซอยข้างวัดพันท้าย จะมีป้ายบอกทางไปยัง ศาลพันท้ายนรสิงห์

ที่ตั้ง บริเวณปากคลองโคกขาม ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร