ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางซื่อ, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางซื่อ, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ศิริวิมล ทรงศิริ
ศิริวิมล ทรงศิริ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ที่บ้านมีสถานที่ ให้น้องวิ่งเล่น มีไซ เพศเมียอายุ 1 ปี น้องน่ารักนิสัยดีค่ะ มีโกลเด้น 1 ตัว น้องชอบเล่นมาก ที่บ้านมีอาหาร ห้องแอร์ ของเล่น ขนม พร้อมให้น้องๆค่ะ ที่รับเลี้ยงเพราะน้องไซที่บ้านจะได้มีเพื่อนใหม่ๆด้วยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อารยา หนูทอง
อารยา หนูทอง
Saijai อายุ 23 ปี

เคยมีประสบการณ์ทำงานเเม่บ้านมาก่อน สามารถทำความสะอาดได้ โดยส่วนตัวเป็นคนใจเย็นกับสถานการณ์ต่างๆพร้อมรับมือ

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ นอนกับสุนัข์ทุกวัน

แสดงเพิ่มเติม
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
เกียรติศักดิ์ ศรีชาย
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 25 ปี
ศตวรรษ ทับทิม
ศตวรรษ ทับทิม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ผมรักสัตว์เคยทำงานเป็นผช.สัตว์แพทย์​ มีความอดทนสูง​

แสดงเพิ่มเติม
เทพทัต กะโปงทอง
เทพทัต กะโปงทอง
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 19 ปี

ใจเย็น รักสัตว์ มีความอดทนอดกลั้น เคยเลี้ยงสัตว์

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ราคาไม่แพง มีการบอกรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆให้ด้วย ซึ่งตอนนี้ใช้บริการมา 4ครั้งแล้วครับ บริการดีทุกครั้งเลยครับ
Saijai
ศิลา ใจอารีย์
3 ปีที่แล้ว
น้องแมว 2 ตัว ไม่สามารถเดินทางไปกับครอบครัวเราได้ ลูกสาวจึงหาที่ดูแล เจอเว็บใส่ใจ ที่ฝากเลี้ยงอยู่ใกล้บ้าน จึงฝากใส่ใจให้ดูแล ห้องพักแยกออกมาเป็นสัดส่วน น้องมีของเล่น คลายเหงา
Saijai
วรากร พงศ์ศิริพัฒน์
3 ปีที่แล้ว
ชอบมากเลย บริการคือดีมาก ดูแลน้องหมาเราดี ปลื้มสุด
Saijai
อรอนงค์ วาร์ด
3 ปีที่แล้ว
ลองจองพี่เลี้ยงดูแลน้องหมาผ่านเว็ปใส่ใจ รู้สึกประทับใจมากครับ เจ้าด้อบบี้เองก็ดูเหมือนจะดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อนใหม่ด้วย เห็นตามติดน้องที่มาช่วยดูแลไม่ห่างเลย
Saijai
ชิตพล เจียรเวชพรกุล
3 ปีที่แล้ว
ลองเรียกคนดูแลน้องหมาผ่านเว็บใส่ใจ พี่เลี้ยงเขาเฟรนด์ลี่มาก พาน้องไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น รู้สึกประทับใจพี่เลี้ยงมาก ๆ เลยค่ะ
Saijai
อรัชกร แซ่ลี้
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ขอดีของการมีสัตว์เลี้ยง
เครียด เหงา เศร้า บางครั้งเราต้องการคนมาคอยรับฟังปัญหา ซึ่งนอกจากเพื่อนสนิท หรือคนในครอบครัวแล้ว อีกหนึ่งทางเลือกก็คือ การมีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว นก ปลา ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่คนนิยม สัตว์เลี้ยง สามารถช่วยเยียวยาจิตใจให้กับผู้ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะเหงาและเครียด ไปจนถึงผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี คุณทราบหรือไม่ว่าการเลี้ยงสัตว์มีประโยชน์ต่อเรามากกว่าที่คิด มาดูข้อดีกันเลยค่ะ

- การเลี้ยงสุนัขหรือแมวเพื่อบำบัดความเครียดหรือในต่างประเทศเรียกว่า Pets Therapy (สัตว์เลี้ยงบำบัด) ซึ่งมีผลการศึกษาวิจัยมานานแล้วว่า การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงนั้น สามารถช่วยเยียวยาผู้ป่วยได้จริง ทั้งยังมีคำแนะนำให้ผู้สูงอายุเลี้ยงสัตว์เพื่อบรรเทาความเหงาและป้องกันโรคซึมเศร้าอีกด้วย

- การมีสัตว์เลี้ยงช่วยลดคอเลสเตอรอลโดยผลการศึกษาพบว่าคนที่เลี้ยงสัตว์จะมีค่าคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดอย่างไตรกลีเซอร์ไรด์น้อย เนื่องจากมีกิจกรรมพาสัตว์เลี้ยงไปเดินออกกำลังกายนั่นเอง
- ช่วยลดความดันโลหิต เพราะการมีสัตว์เลี้ยงจะทำให้เราคลายเครียด ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์กพบว่า ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาโรคความดันโลหิตสูงจะมีค่าความดันโลหิตที่ต่ำลงเมื่อมีสัตว์เลี้ยง

- Rebecca A. Johnson ผู้อำนวยการศูนย์การวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์ มหาวิทยาลัยมิสซูรี ได้กล่าวว่า เพียงแค่มองสัตว์เลี้ยง สมองจะหลั่งออกซิโทซิน ทำให้มีความสุขและลดฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ทำให้เกิดความเครียด โดยมีผลการวิจัยกับทหารผ่านศึกชาวสหรัฐอเมริกา ที่ประสบภาวะผิดปกติทางจิตใจหรือ PTSD พบว่า ทหารผ่านศึกนายนั้นไม่กล้าออกจากบ้านโดยไม่มีภรรยาไปด้วย เมื่อได้ลองเลี้ยงสุนัข เพียงไม่กี่อาทิตย์เขาก็มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นและกล้าที่จะออกจากบ้านเพียงล
คุณสมบัติของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีอะไรบ้าง
หากคุณกำลังมองหาคนช่วยดูแลบรรดาสัตว์เลี้ยงแสนรักที่บ้านในยามที่คุณไม่มีเวลา สิ่งเหล่านี้คือลักษณะและคุณสมบัติสำคัญของผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี

1. มีใจรักงานบริการด้านนี้ และมีความรักที่แท้จริงต่อบรรดาสัตว์เลี้ยง ไม่รังเกียจที่จะต้องเก็บกวาดกรงหรือทำความสะอาดบริเวณที่สัตว์เลี้ยงอยู่ บางครั้งเจ้าสัตว์เลี้ยงเหล่านี้อาจเล่นซนจนทำให้บ้านสกปรก ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงจะต้องทำความเข้าใจและหาทางแก้ไข โดยไม่แสดงอารมณ์หงุดหงิดต่อสัตว์เลี้ยงเหล่านั้น
2. มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เนื่องจากบรรดาสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ต้องได้รับการดูแลอย่างเสมอต้นเสมอปลาย พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจำเป็นต้องบริหารเวลาในการดูแลอย่างมืออาชีพ เช่น เวลาให้อาหาร อาบน้ำ ออกกำลังกาย ฯลฯ เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีสุขอนามัยและสภาพจิตใจที่ดี
3. มีความรู้ในเรื่องของสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดี สัตว์เลี้ยงแต่ละชนิดมีวิธีการเลี้ยงดูที่แตกต่างกันไป เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสุนัขและแมว สุนัขค่อนข้างเป็นสัตว์สังคม ชอบอยู่กับผู้คน จึงสามารถพาออกไปเดินเล่นในที่สาธารณะได้ กลับกันแมวค่อนข้างเป็นสัตว์ที่รักสันโดษ หากเจอผู้คนมาก ๆ อาจทำให้ตื่นคนและอาจส่งผลให้เกิดความเครียดตามมา ดังนั้นพี่เลี้ยงสัตว์ที่ดีจำเป็นต้องรู้ว่าสัตว์ชนิดไหนเหมาะกับการเลี้ยงแบบใด
4. มีประสบการณ์ในการดูแลสัตว์เลี้ยง การอยู่กับสัตว์เหล่านี้มาเป็นเวลานานจะทำให้เกิดความเคยชิน และสามารถรับมือกับสถานการณ์คับขันได้เป็นอย่างดี เช่น ยามสัตว์เลี้ยงป่วยและจำเป็นจะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ผู้ดูแลที่มีความรู้ในการปฐมพยาบาลสัตว์สามารถสร้างความไว้วางใจให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยงได้

คุณสมบัติทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมานั้นนับว่าเป็นคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีเลยก็ว่าได้ อย่าลังเลที่จะเลือกใช้บริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงในทันที เพื่อความสบายใจของคุณ ลำพัง
วิธีการสังเกตุสัตว์เลี้ยงเมื่อมีอาการป่วย
เพราะสัตว์เลี้ยงไม่สามารถบอกเราได้เมื่อรู้สึกไม่สบาย หากเราไม่สังเกตเห็นว่าพวกเขาเริ่มมีอาการผิดปกติ มารู้อีกทีเขาก็ป่วยหนักจนอาจทำให้ไม่สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที หรืออาจจะต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษามากกว่าเดิมก็เป็นได้

วิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยมีดังนี้

1. พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสัตว์เลี้ยง เมื่อสัตว์เลี้ยงของคุณเอาแต่นอนอยู่นิ่ง ๆ บางครั้งก็หลบอยู่ตามซอกหลืบมืด ๆ ในบ้าน หรือมีอาการซึม และไม่ร่าเริงเหมือนปกติแม้ว่าคุณจะเอาของเล่นไปล่อแล้วก็ตาม สาเหตุที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขากำลังรู้สึกไม่สบายตัว
2. มีอาการเบื่ออาหาร หากสัตว์เลี้ยงของคุณที่เคยกินเยอะเป็นปกติ จู่ ๆ กลับกินอาหารได้น้อยลง หรือไม่กินอาหารเลย อาจจะเป็นเพราะว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยอยู่ก็เป็นได้
3. มีความผิดปกติอื่น ๆ ตามร่างกาย เช่น มีน้ำมูก มีขี้ตาเกรอะกรัง หายใจติดขัด จนไปถึงอาเจียน และถ่ายเหลว อาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยอยู่ไม่มากก็น้อย ทางที่ดีควรรีบหาทางรักษาสัตว์เลี้ยงของคุณให้เร็วที่สุด
4. เอาแต่ร้องหรือคร่ำครวญมากผิดปกติ บางครั้งเวลาที่คุณเผลอไปจับหรือลูบส่วนใดของสัตว์เลี้ยงแล้วจู่ ๆ เขาขู่หรือเผลอกัดคุณขึ้นมานั้น อาจเป็นเพราะเขากำลังเจ็บตรงอวัยวะส่วนที่คุณเผลอไปโดนโดยไม่รู้ตัวอยู่ก็ได้
5. สัตว์เลี้ยงขนหยาบกระด้าง และขนร่วงมากกว่าปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจขาดสารอาหารบางอย่าง หรืออาจมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับผิวหนังอยู่นั่นเอง

หากคุณหมั่นเอาใจใส่และสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงคุณบ่อย ๆ จะทำให้พวกเขาห่างไกลจากโรคต่าง ๆ และมีชีวิตอยู่กับคุณไปอีกนานเลยทีเดียว
ก่อนจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผู้ว่าจ้างจะต้องทำข้อตกลงดังนี้?
ทุกคนที่มีสัตว์เลี้ยงย่อมเข้าใจถึงความห่วงใยเมื่อเราต้องอยู่ห่างไกลจากสัตว์เลี้ยงของเราไม่ว่าจะในระยะสั้นหรือระยะยาว ดังนั้น การเลือกพี่เลี้ยงสัตว์มาอยู่ที่บ้านจึงมีเงื่อนไขและข้อตกลงที่ต้องพูดคุยกันก่อนการจ้างงานดังนี้

• ค่าตอบแทนหรือค่าจ้าง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
• ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะมีตารางการทำงานที่ไม่แน่นอนทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่านายจ้างมีธุระหรือต้องการใช้บริการในตอนไหนก็สามารถเรียกใช้บริการได้
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีหน้าที่ดูแลสัตว์ขั้นพื้นฐานทั้งหมด ตัวอย่างเช่น การให้อาหารและน้ำ หรือขนมต่าง ๆ
• หากเป็นสัตว์ เช่น สุนัข หรือแมว พี่เลี้ยงต้องรู้จักการเช็ดตัว แปรงขน และแปรงฟันให้ได้
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถพาสัตว์เลี้ยงไปทำกิจกรรม หรือเดินออกกำลังกายได้
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงต้องสนุกกับการใช้เวลาร่วมกับสัตว์และต้องรู้จักวิธีการทำให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกผ่อนคลาย และไม่เครียดเมื่อต้องอยู่โดยไม่มีเจ้าของ
• พี่เลี้ยงต้องรู้จักวิธีทำความสะอาดเมื่อสัตว์เลี้ยงมีการขับถ่าย
• พี่เลี้ยงต้องรู้จักรักษาความสะอาดของเล่น ที่นอน หรือบริเวณที่สัตว์อยู่ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสามารถช่วยให้ยาสัตว์เลี้ยงได้ หากสัตว์เลี้ยงมีอาการป่วยหรือมีโรคประจำตัว
• หากมีเหตุฉุกเฉินที่สัตว์เลี้ยงป่วยกะทันหัน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงสามารถดูแลและพาไปพบแพทย์ได้ทันที
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงควรมีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้มาก่อนและสามารถตรวจสอบประวัติก่อนทำการว่าจ้างได้

การคมนาคมในเขตบางซื่อ

ปัจจุบันย่านบางซื่อยังคงเป็นพื้นที่ที่ตั้งของหน่วยงานภาครัฐเป็นหลัก และการเติบโตยังคงกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งสถานีกลางบางซื่อ เป็นพื้นที่ต่อขยายมาจากรถไฟฟ้า MRT สถานีบางซื่อในปัจจุบันให้กลายเป็นสถานีรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ หรือเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางคมนาคม

ภาพรวมของการเดินทางในย่านบางซื่อนับว่าดีมาก คือ มีสภาพการจราจรที่คล่องตัวและมีวิธีบริการที่ดีเยี่ยม แม้คนที่ไม่เคยเดินทางเข้าไปในย่านนี้เลย ก็ไม่สับสนกับรูปแบบการเดินทางที่ให้บริการอยู่ โดยการเดินทางในย่านบางซื่อนั้นมีหลากหลายรูปแบบ

รถเมล์ มีป้ายรถประจำทางคอยให้บริการอยู่บนถนนเส้นหลักทุกสาย

รถเมล์สายสำคัญได้แก่

รถเมล์สาย 5 : สถานีขนส่ง (จตุจักร)-จักรวรรดิ์

รถเมล์สาย 16 : หมอชิต 2-สุรวงศ์

รถเมล์สาย 30 : วงกลมสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (ตลิ่งชัน)-นนทบุรี

รถเมล์สาย 50 : พระราม 7-สวนลุมพินี

รถเมล์สาย 65 : วัดปากน้ำ (นนท์)-สนามหลวง

รถเมล์สาย 66 : ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ-สายใต้ใหม่ (ตลิ่งชัน)

รถเมล์สาย 97 : กระทรวงสาธารณสุข-โรงพยาบาลสงฆ์

รถเมล์สาย 543 : บางเขน-ลำลูกกา

รถไฟ ที่มีสถานีรถไฟให้บริการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สถานีบางซื่อเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ชื่อว่า ชุมทางรถไฟบางซื่อ ส่วนใหญ่เป็นรถไฟที่วิ่งไปกลับระหว่างหัวลำโพงกับภาคเหนือ

ถึงแม้จะยังไม่เห็นว่าศูนย์กลางคมนาคมที่สมบูรณ์แบบมีหน้าตาเป็นอย่างไร และจะช่วยเพิ่มศักยภาพของการเดินทางได้มากน้อยขนาดไหน แต่ด้วยองค์ประกอบที่ย่านบางซื่อมีอยู่ตอนนี้ ถือว่าเป็นย่านที่มีจุดแข็งในด้านการเดินทางพอสมควรแล้ว ทุกพื้นที่ในย่านนี้สามารถเข้าถึงได้ง่าย การเชื่อมต่อไปยังย่านใกล้เคียงก็สะดวกสบาย ไม่ว่าจะใช้รถยนต์ส่วนตัว หรือรถโดยสารสาธารณะ



การดูแลสุนัขให้ขนนุ่มฟูดูสวยควรทำอย่างไร

การดูแลน้องหมาให้มีขนนุ่มฟูเป็นเงาสวยบ่งบอกถึงการมีสุขภาพที่ดีของน้องหมา รวมไปถึงการดูแลเอาใจใส่จากคนเลี้ยงที่ดูแลได้เป็นอย่างดีอีกด้วย สำหรับเจ้าของสุนัขมือใหม่หรือคนที่เลี้ยงสุนัขอยู่แล้วแต่ขนของสุนัขไม่นุ่มฟูสวยงาม เรามีเคล็ดไม่ลับที่จะช่วยให้สุนัขมีขนนุ่มฟูและดูสวยงาม 5 ข้อดังต่อไปนี้

1. ดูแลเรื่องอาหารการกิน สุนัขสายพันธุ์ต่างประเทศส่วนใหญ่จะหมดปัญหาในเรื่องนี้เพราะคนเลี้ยงจะฝึกให้กินอาหารเม็ดเป็นหลัก สวนสุนัขพันธุ์ทางตัวเล็กและพันธุ์ใหญ่ที่มีการผสมข้ามหลายสายพันธุ์ ผู้เลี้ยงต้องฝึกให้กินน้องกินอาหารเม็ดควบคู่กับอาหารที่ใช้เลี้ยงเป็นประจำ

2. การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลขนที่มีคุณภาพ การอาบน้ำหรือการเช็ดขนให้สุนัขควรเลือกผลิตภัณฑ์แชมพูสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ และเลือกใช้แชมพูอาบน้ำให้เหมาะสมและตรงกับลักษณะของสุนัขแต่ละสายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์เล็ก พันธุ์ขนสั้น พันธุ์ขนยาว เป็นต้น

3. อาหารเสริมบำรุงขนสำหรับสุนัข อาหารเสริมสำหรับสุนัขจะมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับสุขภาพ ช่วยทำให้ขนและผิวหนังของสุนัขมีสุขภาพดี การเลือกซื้ออาหารเสริมควรเรื่องที่มีสารอาหารประเภทโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพและทำให้ขนสุนัขนุ่มฟูสวยมากยิ่งขึ้น

4. การดูแลทำความสะอาดขน สุนัขพันธุ์ขนสั้นและขนยาวต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดด้วยการอาบน้ำและแปรงขน 1-2 ครั้ง ต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับอาการและความสกปรกของสุนัขด้วย ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นอาจใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวให้สุนัขแทนการอาบน้ำได้ ส่วนการแปรงขนอย่างสม่ำเสมอช่วยป้องกันเส้นขนพันกันและยังกระจายน้ำมันในบริเวณผิวหนังของสุนัขให้กระจายอย่างทั่วถึง

5. การกำจัดเห็บหมัดและตรวจสุขภาพผิวหนังเป็นประจำ เห็บหมัดเป็นปัญหาสุขภาพของสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสุนัข เห็บหมัดที่เกาะกินเลือดอยู่ตามผิวหนังของสุนัขนั้นเป็นสาเหตุทำให้ผิวของสุนัขเป็นแผลและเกิดโรคผิวหนังตามมาในภายหลังซึ่งเป็นผลทำให้ขนของสุนัขหลุดร่วงและไม่สวยงาม



การฝึกสุนัขให้ทำตามคำสั่งมีวิธีอย่างไรบ้าง

<สัตว์เลี้ยงที่เราเลี้ยงดูด้วยความรัก หากได้รับการฝึกฝนให้รับฟังและเข้าใจคำสั่งได้บ้าง จะทำให้สามารถแบ่งเบาภาระของผู้ดูแลในการเลี้ยงดูให้น้อยลงได้ สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ฝึกให้เข้าใจคำสั่งได้ง่ายกว่าสัตว์เลี้ยงประเภทอื่น ๆ แล้วเราจะฝึกสุนัขอย่างไรให้เข้าใจคำสั่ง

การฝึกสุนัขให้เข้าใจคำสั่งนั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการฝึกฝน โดยสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่สามารถฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งของคนเลี้ยงได้ง่ายกว่าสัตว์เลี้ยงประเภทอื่น ๆ หลายคนอาจเข้าใจว่าการฝึกสุนัขทำได้เฉพาะสุนัขสายพันธุ์ใหญ่หรือสายพันธุ์ดุ ๆ เท่านั้น และต้องส่งไปฝึกในโรงเรียนฝึกสุนัขเพียงอย่างเดียว ที่จริงแล้วการฝึกสุนัขทำได้ทุกสายพันธุ์โดยเฉพาะสุนัขเล็ก ๆ ที่เลี้ยงไว้ดูเล่นหรือเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคลายเหงา เราสามารถฝึกได้เองโดยไม่ต้องส่งไปเข้าโรงเรียนฝึกสุนัขให้สิ้นเปลืองเงิน ซึ่งการฝึกนอกจากฝึกด้วยการใช้เสียง และการใช้อุปกรณ์แล้ว ยังมีขั้นตอนการฝึกที่คนเลี้ยงสามารถเรียนรู้และทำได้ในขั้นตอนการฝึกสุนัขให้ทำตามคำสั่งด้วยตัวเอง เช่น หากเราต้องการฝึกให้สุนัขเดินตามขนานไปกับตัวเราทางด้านซ้ายมือ เริ่มจากขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

1. ใส่ปลอกคอแล้วคล้องโซ่ที่คอ จูงสุนัขให้เดินตาม

2. หากสุนัขไม่ทำตาม ให้กระตุกโซ่ที่คล้องคอให้ตึงขึ้นเพื่อรั้งให้ทำตามคำสั่ง

3. เมื่อสุนัขทำตาม ให้ปล่อยโซ่หย่อนลง เพื่อให้สุนัขเดินได้อย่างอิสระ

4. หากผู้เลี้ยงต้องการให้สุนัขหยุดเดิน กระตุกโซ่ให้รัดขึ้นพร้อมออกคำสั่ง “หยุด” เป็นการฝึกให้สุนัขรู้ว่าเรากำลังฝึกเขาอยู่

5. การฝึกมีเพียง 2 ขั้นตอน หากสุนัขไม่ทำตาม เพียงกระตุกโซ่ให้รัดหรือรั้งขึ้น เมื่อทำตามก็ปล่อยโซ่ให้หย่อนลง ทำลักษณะนี้ไปเรื่อย ๆ จะทำให้สุขเคยชินและตามคำสั่งได้เอง

6. นอกจากการฝึกตาม 2 ขั้นตอนดังกล่าว จะทำให้สุนัขเชื่อฟังคำสั่งแล้ว การฝึกควบคู่ไปกับการใช้เสียง เช่น ทำเสียงเข้มเมื่อสุนัขไม่ทำตาม หรือใช้น้ำเสียงอ่อนโยนเมื่อสุนัขเชื่อฟังและทำตามคำสั่ง จะทำให้การฝึกง่ายขึ้น

การเลี้ยงสุนัข นอกจากฝึกให้ทำตามคำสั่งของคนเลี้ยงแล้ว ควรฝึกให้สุนัขรู้อาณาเขตของตัวเองภายในบ้าน กินนอนหรือขับถ่ายอยู่ในบริเวณที่จัดไว้ให้ เพื่อช่วยให้ผู้เลี้ยงดูแลรักษาความสะอาดได้ง่ายขึ้น และควรฝึกสุนัขให้รู้จักการอยู่ในกรงของตัวเอง