ดูแลเด็ก ใน สัมพันธวงศ์, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน สัมพันธวงศ์, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

กัญญาภัทร บุตรพรม
กัญญาภัทร บุตรพรม
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

สวัสดีค่ะ ชือ ภัทรค่ะ อายุ 52 ถนัดดูแลเด็กแรกคลอด คุณแม่หลังคลอดค่ะ นวดเด็กแรกเล็กได้ ช้วยให้เด็ก อารมณ์ดีไม่งอแง ช่วยระบบขับถ่าย เลือดลมไหลเวียนดี ร่างกายแข็งแรง.นวดประคบสมุนไพร คุณแม่หลังคลอดช่วยในการอยู่ไฟสมัยโบราณ ทำให้มดลูกเข้าอู่ไว้ ร่างกายแข็งแรง รับงานได้ทั้งในและต่างประเทศค่ะ รับดูแลทั้งคนไทยและต่างชาติ

แสดงเพิ่มเติม
วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี
มัณฑนา ศรีโชติ
มัณฑนา ศรีโชติ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

ใจเย็น รักเด็ก พร้อมเรียนรู้ปรับตัว

แสดงเพิ่มเติม

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Piyatida Dumluck
Piyatida Dumluck
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 39 ปี
ฉันทนา สิทธิ
ฉันทนา สิทธิ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 45 ปี

เป็นคนง่ายๆรักเด็กใจเย็นไม่เคยโกรธหรือโมโหอะไรง่ายๆนอนน้อยทําได้หมดแต่ไม่ชอบจู้จี้

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
3 ปีที่แล้ว
ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
3 ปีที่แล้ว
เราทำงานนอกบ้าน เลยหาพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลน้องที่บ้าน ค้นหาข้อมูลดูเวปนี้ให้รายละเอียดพี่เลี้ยงน่าสนใจ ราคาเรารับได้ เราเลยให้น้องมาทดลองงานก่อนเราไปทำงาน น้องมีประสบการณ์มา เลยปรับตัวไม่ยาก เวลาเราอยู่น้องจะช่วยหยิบจับของทำโน่นทำนี่ไป ประทับใจคะ สองเดือนแล้วน้องทำงานดี มีระเบียบเรียบร้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เราไว้ใจให้น้องคนนี้ดูแล
Saijai
แม่น้องกัญ
4 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
4 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยควรเลือกใช้บริการการเลี้ยงเด็กแบบใด พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว หรือเนอสเซอรี่
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก วันนี้เรามาดูข้อดีขอเสียของพี่เลี้ยงเด็กกันค่ะ ทำไมต้องเลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็ก

1) พี่เลี้ยงช่วยแบ่งเบาภาระของคุณพ่อคุณแม่ได้ หากคุณไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยเนื่องจากต้องทำงานนั้น พี่เลี้ยงเด็กคือทางออกของคุณค่ะ
2) หากคุณเลือกพี่เลี้ยงที่มีคุณสมบัติที่ดีสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกของคุณได้ค่ะ
3) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณแบบใกล้ชิดมากกว่าส่งลูกเข้าศูนย์เลี้ยงเด็ก เพราะศูนย์เลี้ยงเด็กนั้นไม่สามารถดูแลเด็ก ๆ แบบใกล้ชิดได้
4) พี่เลี้ยงสามารถยืดหยุ่นเวลาทำงานให้สอดคล้องกับการทำงานของคุณได้
5) คุณไม่ต้องเสียเวลาไปรับไปส่งลูกน้อยที่ศูนย์หากคุณจ้างพี่เลี้ยงมาที่บ้านเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณ
6) ลูกของคุณจะไม่ป่วยบ่อยเหมือนเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่มีเด็กมากกว่า20คน อาจจะเกิดความเสี่ยงติดโรคจากเพื่อน ๆ ได้
7) พี่เลี้ยงสามารถอยู่ดูแลลูกของคุณและเฝ้าบ้านของคุณได้หากในกรณีคุณกลับบ้านดึก
8) คุณสามารถบอกพี่เลี้ยงเด็กได้หากคุณต้องการให้พี่เลี้ยงมุ่งเน้นพัฒนาการของลูกคุณในด้านไหนเพราะพี่เลี้ยงของคุณจะดูแลเด็กแบบใกล้ชิด และมุ่งเน้นความสนใจให้ลูกของคุณ ต่างจากเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่ต้องเฉลี่ยดูแลอย่างเท่าเทียมกัน

ข้อเสียของพี่เลี้ยงเด็ก

1) ลูกของคุณอาจจะติดพี่เลี้ยงมากเกินไป
2) ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงหากเทียบกับศูนย์เลี้ยงเด็ก
3) คุณอาจจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวภายในครอบครัว

อย่างไรก็ดีข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กนั้นจะช่วยแบ่งเบาหน้าที่ของคุณไปได้เยอะเลยทีเดียว หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็กสักคน ใส่ใจมีบริการด้านนี้ค่ะ
ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีคืออะไร
6 ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี

1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา

ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง ควรทำอย่างไร
ใส่ใจขอพูดถึงข้อกังวลและแนวทางแก้ไขเมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกๆ ที่บ้าน

1. ความปลอดภัยของลูกน้อย สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลมากที่สุดคือความปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการกระทำรุนแรงของพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยทั้งทางร่างกายและพฤติกรรม ควรพูดคุย ซักถามเด็กอยู่เป็นประจำเกี่ยวกับกิจกรรมระหว่างวันที่ลูก ๆ ทำกับพี่เลี้ยง การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้านเป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจขึ้น
2. ประสบการณ์การทำงาน บางครั้งพี่เลี้ยงเด็กอาจไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและความชำนาญของตน นอกจากการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้มีการทดลองงานสักระยะหนึ่งเพื่อดูว่าพี่เลี้ยงเด็กมีความชำนาญหรือสามารถทำงานได้ตามมอบหมายหรือไม่
3. พี่เลี้ยงเด็กหยิบฉวยทรัพย์สินในบ้าน หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่เจอพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์แต่ยังกังวลว่าพี่เลี้ยงเด็กอาจพยายามขโมยสิ่งของมีค่าภายในบ้าน แนวทางป้องกันที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้คือ ไม่วางสิ่งของมีค่าไว้ในที่เปิดเผย ล็อคลิ้นชักเก็บของและประตูห้องที่พี่เลี้ยงเด็กไม่จำเป็นต้องใช้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ภายในบ้านเพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาได้อีกทาง
พ่อแม่ควรตกลงอะไรบ้างก่อนจ้างพี่เลี้ยงเด็ก?
เมื่อคุณพ่อคุณแม่สามารถหาพี่เลี้ยงเด็กที่ถูกใจได้แล้ว ควรพูดคุยและตกลงกันเรื่องใดบ้างก่อนเริ่มงาน

1. วันและเวลาทำงาน คุณพ่อและคุณแม่ควรมีแผนการทำงานของพี่เลี้ยงที่ชัดเจน เช่นกำหนดวันทำงาน วันหยุด และเวลาทำงานในแต่ละวันให้ชัดเจน และควรถามความสมัครใจหากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานล่วงเวลา
2. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ คุณพ่อคุณแม่ควรระบุขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน หากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานบ้านหรืองานอื่น ๆ นอกจากดูแลเด็ก ควรตกลงกันให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน
3. ระยะเวลาการทดลองงาน หาดคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงทดลองงานก่อนสักระยะหนึ่งก่อนทำสัญญาว่าจ้าง ควรระบุช่วงระยะเวลาและเงื่อนไขในการทดลองงานให้ชัดเจน
4. ค่าจ้าง คุณพ่อคุณแม่ควรสอบถามและตกลงค่าจ้างของพี่เลี้ยงให้ชัดเจน และค่าจ้างควรจะสอดคล้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบ และจำนวนชั่วโมงทำงานในแต่ละวัน ประสบการณ์ในการทำงานอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ประกอบการพิจารณาอัตราค่าจ้างได้
5. กรณีจ้างพี่เลี้ยงประจำแบบพักอาศัยร่วม คุณพ่อคุณแม่ต้องจัดการเรื่องที่พักให้กับพี่เลี้ยง รวมถึงอาหารในแต่ละวันตามตกลงกัน
6. ข้อตกลงในการอยู่อาศัยร่วมกัน คุณพ่อคุณแม่ควรบอกกล่าวพี่เลี้ยงให้ชัดเจนถึงกฎระเบียบต่าง ๆ สิ่งใดไม่ควรปฏิบัติของการอาศัยอยู่ร่วมกัน

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

"สำเพ็ง" ชื่อที่มาด้วยเรื่องราว

ต้นกำเนิดของ สำเพ็ง เริ่มต้นขึ้นเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงปราบดาภิเษกและขึ้นครองราชย์ เมื่อ พ.ศ. 2325 ทรงมีพระราชดำริให้ข้ามมาสร้างพระนครใหม่ทางคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาฟากตะวันออก แต่บริเวณที่โปรดฯ ให้สร้างพระบรมมหาราชวังเป็นที่อยู่ของพระยาราชาเศรษฐี และชาวจีนจำนวนหนึ่ง จึงโปรดให้ย้ายไปอยู่ที่สวนบริเวณวัดสามปลื้ม ไปจนถึงคลองวัดสามเพ็ง ซึ่งมีข้อความระบุถึงวัดชื่อ “สามเพ็ง” ในพระราชพงศาวดารฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ว่า “ให้พระยาราชาเศรษฐี และพวกจีนย้ายไปตั้งบ้านเรือนอยู่ ณ ที่สวนตั้งแต่คลองวัดสามปลื้มไปจนถึงคลองวัดสามเพ็ง…” สำหรับชื่อ “สำเพ็ง” จะมาจากคำว่า สามแพร่ง สามแผ่น หรือ สามเพ็ง ก็ลองมาดูข้อสันนิษฐาน ดังนี้

มีหลายข้อสันนิษฐานถึงที่มาของชื่อนี้ เชื่อว่า เป็นชื่อที่เพี้ยนมาจากคำว่า “สามเพ็ง” ซึ่งเป็นชื่อวัดและชื่อคลองที่อยู่ละแวกนั้น คนจีนในย่านเดียวกันชินกับการออกเสียงสั้น จึงทำให้จาก “สามเพ็ง” กลายเป็น “สำเพ็ง” ในทุกวันนี้ หรืออีกข้อสันนิษฐานเชื่อว่า เพี้ยนมาจาก “สามแผ่น” ที่หมายถึงลักษณะภูมิประเทศของย่านที่มีคลองขวาง 2 คลอง ได้แก่ คลองเหนือวัดสำเพ็ง และคลองวัดสามปลื้ม ทำให้ตัดแผ่นดินเป็นสามตอน หรือสามแผ่น ต่อมาจึงเพี้ยนไปตามสำเนียงคนจีนกลายเป็น “สำเพ็ง” หรืออาจเพี้ยนมาจากคำว่า “สามแพร่ง” ที่เป็นลักษณะของภูมิประเทศเช่นกัน หรืออีกข้อสันนิษฐานว่า มาจากชื่อพืชตระกูลเฟิร์นชนิดหนึ่ง มีลักษณะคล้ายใบโหระพา เรียกว่า “ลำเพ็ง” ซึ่งพบเห็นมากในบริเวณนี้ ผู้คนจึงเรียกกันว่า “ลำเพ็ง” และเพี้ยนมาเป็น “สำเพ็ง” ในภายหลัง ในสมัยนั้น สำเพ็งเต็มไปด้วยร้านค้าตลอดจนซ่องโสเภณีและโรงฝิ่นที่ปลูกติดกันจนแน่นขนัด หลังคาของแต่ละหลังเกยซึ่งกันและกัน ก่อให้เกิดเพลิงไหม้บ่อย ๆ เลยมีคำอีกหนึ่งคำ ที่เอ่ยถึงสำเพ็ง วลีที่คนสมัยหนึ่งอาจคุ้นกันว่า “ไฟไหม้สำเพ็ง” ซึ่งหมายถึง “ความชุลมุนวุ่นวายของฝูงชน” หรือ “เรื่องไม่คาดว่าจะเกิดขึ้น” เพราะบ้านเรือนปลูกติดๆ กันเวลาไฟไหม้คนก็คงวุ่นวาย เวลาเกิดเหตุอึกทึกก็เอาไปเปรียบกับคำว่า วุ่นวาย อลหม่าน เหมือนไฟไหม้สำเพ็ง อีกทั้งบ้านที่ติดๆ กัน จนมีคำเปรียบเปรยว่าที่นี่ "ไก่บินไม่ตกพื้น" ก็พออธิบายภาพของสัมเพ็งออก สุนทรภู่รจนาว่า "ถึงสำเพ็งเก๋งตั้งริมฝั่งน้ำ แพประจำยอดเรียงเคียงขนาน มีซุ้มซอกตรอกนางจ้างประจาน ยังสำราญร้องขับไม่หลับลง" (นิราศเมืองแกลง) คำว่า "อีสำเพ็ง" กลายเป็นคำด่าผู้หญิงที่หมายถึง โสเภณีโดยเป็นคำด่าที่รุนแรงที่หมายถึงผู้หญิงที่ค้าขายทางโลกีย์ ธุรกิจที่ว่านี้มีแพร่หลายในสำเพ็ง และทำอย่างเปิดเผย มีโคมสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ ผู้หญิงที่ค้าขายกลุ่มนี้เป็นหญิงกวางตุ้ง หรือถ้าเป็นชาวไทยก็ยังเปลี่ยนชื่อเป็นชาวจีน อาทิ กิมเน้ย กิมเฉียง เป็นต้น สำเพ็ง ชื่อเดียวแต่มากด้วยเรื่องราว"



เที่ยวตลาดน้อย เสน่ห์ย่านเมืองเก่า

บางทีเราก็อยากให้เวลาหยุดหรือเดินช้าลง เพราะบ่อยครั้งที่เรารู้สึกว่าเราวิ่งตามไม่ทันกับโลกที่หมุนไปไวซะเหลือเกิน นาฬิกา เวลา และสายน้ำเดินไปข้างหน้าเสมอ ในเมืองที่กว้างใหญ่แบบกรุงเทพมหานคร กลับมีมุมเล็กๆ ที่เวลาเดินช้าลง แต่ไม่หยุดเดิน มุมที่เราเดินผ่านแต่สามารถจะจินตนาการภาพของวันวานขนานไปกับเวลาในปัจจุบันได้ มุมนั้นคือ “ตลาดน้อย” ตั้งอยู่ในแขวง ตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร อดีตชุมชนชาวจีนเก่าแก่ริมน้ำเจ้าพระยา เป็นย่านการค้าเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เกิดจากการขยายตัวทางการค้าของสำเพ็งในช่วงตอนต้นของกรุงรัตนโกสินทร์ เรียกว่า “ตะลัคเกียะ” หรือ “ตลาดน้อย” เป็นย่านเก่าที่มีความน่าสนใจที่สามารถส่งต่อเรื่องราวในอดีตมายังคนรุ่นหลังได้เรียนรู้ศิลปะ วัฒนธรรมของคนในชุมชนได้อย่างลงตัว เพียงสิบนาทีที่ก้าวย่างจากสำเพ็ง บางภาพระหว่างทางที่ดูรกรุงรัง แต่ถ้ามองอีกครั้งก็อาจเป็นเสน่ห์ของเมือง เหมือนภาพวาดที่ถูกสีป้ายเลอะไว้ เมื่อมองใกล้ๆ ก็ดูสีผิดเพี้ยน แต่หากเดินถอยออกมาเสน่ห์ในองค์รวมกลบกลืนความจุดนั้นไป เช่นกันความกลมกลืนอย่างลงตัว ทั้งศาลเจ้า ร้านค้า บ้านเรือน ถ้าไม่จ้ำอ้าวเดินผ่านสิ่งเหล่านี้ไป ภาพที่ซ้อนอยู่ในห้วงของเวลาทำให้จินตนาการได้ มีจุดที่เป็นที่น่าสนใจอยู่หลายจุด เริ่มจาก ซอยตรอกศาลเจ้า เมื่อครั้งรัชกาลที่ ๑ ทรงย้ายเมืองมาอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ชุมชนชาวจีนที่เคยอาศัยอยู่ทางย่านกุฎีจีนบางส่วนพากันอพยพมารวมกันอยู่ที่ตลาดน้อย ซึ่งในขณะนั้นยังมีสภาพเป็นชานพระนคร โดยชาวจีนกลุ่มแรกๆ ที่อพยพเข้ามาน่าจะเป็นชาวจีนฮกเกี้ยน ซึ่งได้สร้าง ศาลเจ้าโจวซือกง ศาลเจ้าเก่าแก่ที่สุดย่านนี้ ใกล้กันก็มีสตรีทอาร์ทที่เล่าเรื่องแบบยุคใหม่ ตั้งแต่ต้นซอยจนถึงท้ายซอยบริเวณ ศาลเจ้าโรงเกือก แล้วเดินเลาะไปเรื่อยจนถึง “โซวเฮงไถ่” ที่ใครเล่าจะรู้ว่าในตรอกแคบซอกเล็กซอยน้อยที่ชวนให้หลงทางของย่านตลาดน้อย จะพาเราย้อนเวลาไปกว่า 250 ปี (อายุมากกว่ากรุงเทพฯ) คฤหาสน์จีนโบราณ ที่ซ่อนตัวอยู่อย่างลับๆ ใกล้ซอยดวงตะวัน ใจกลางกรุงเก่าย่านตลาดน้อย ป้ายตัวหนังสือจีนด้านหน้าประตูบ้านเขียนไว้ว่า โซว เฮง ไถ่ เมื่อเดินผ่านประตูเข้าไปในคฤหาสน์จีนฮกเกี้ยนแบบโบราณนี้ จะสัมผัสได้ถึงเรื่องราวที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนาน จากรุ่นบุกเบิกมาจนถึงรุ่นปัจจุบัน แต่ยังคงสืบทอดคุณค่าแห่งความเป็น ‘บ้าน’ ได้อย่างไม่เปลี่ยนแปร แม้รูปแบบและการใช้งานจะเปลี่ยนไป เพียงแค่ครึ่งทางจองตลาดน้อย เหมือนการอ่านหนังสือไม่จบเล่ม แต่ก็ไม่อยากฟังเรื่องราวตอนจบ ก้าวออกจากประตูหนึ่งเปิดไปอีกประตูหนึ่ง .....นั่งดูสายน้ำ สายน้ำแห่งกาลเวลา



ส่งเสริมความฉลาดทางอารมณ์ในเด็ก

“อย่าพยายามทำให้ลูกของคุณมีความสุข” ฟังดูขัดกับสัญชาตญาณของคนเป็นพ่อแม่ แต่สิ่งที่ดีที่สุดที่คนเป็นพ่อแม่ ผู้ปกครองและคนดูแลเด็กสามารถทำได้เพื่อความสุขในระยะยาวของเด็ก คือหยุดพยายามทำให้เด็กมีความสุขแบบฉาบฉวยในระยะสั้น พ่อแม่ ผู้ปกครองและคนดูแลเด็กส่วนใหญ่ต้องการให้เด็กถูกแวดล้อมไปด้วยสิ่งสวยงาม หรืออยากให้เด็กสมหวังในทุกสิ่งที่พวกเขาต้องการ แต่โลกแห่งความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น แล้วเราจะทำอย่างไรให้เด็กเติบโตและมีความฉลาดทางอารมณ์ (EQ)

การจัดการกับอารมณ์ด้านลบ

ความโกรธ ความเศร้า หรือความคับข้องใจ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับเด็กทุกคน พ่อแม่ ผู้ปกครองและคนดูแลเด็ก ไม่ควรจัดการกับความรู้สึกเหล่านี้ด้วยการตามใจและทำทุกอย่างเพื่อให้เด็กสบายใจ พึงระลึกไว้เสมอว่าเด็กที่ไม่เคยเรียนรู้ที่จะจัดการกับอารมณ์ด้านลบ จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีอารมณ์อ่อนไหว ไม่สามารถรับมือกับความผิดหวัง ไม่มีความอดทน ไม่สามารถจัดการกับความโกรธและพร้อมจะระเบิดอารมณ์ใส่คนอื่นได้ทุกเมื่อหากโดนขัดใจ พ่อแม่ ผู้ปกครองและคนดูแลเด็ก สามารถสอนให้เด็กจัดการกับอารมร์ด้านลบหรือความผิดหวังได้ เช่น เมื่อเด็กเล่นกับเพื่อน ๆ หรือแข่งขันเกมส์ ต้องสอนให้เด็กยอมรับว่าการแข่งขันย่อมมีแพ้มีชนะ ไม่เยาะเย้ยคนแพ้และยกยอผู้ชนะจนเกินไป ส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาทักษะการเผชิญปัญหาและความยืดหยุ่น และฟื้นตัวจากความพ่ายแพ้ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของชีวิต

เป็นตัวอย่างที่ดี

พ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือแม้แต่พี่เลี้ยงเด็ก มีอิทธิพลต่อพัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็กอย่างหลีกเลี่ยง เด็กที่มีความสุข อารมณ์ดี มักจะมาจากพ่อแม่และคนรอบข้างที่มีความสุขมัก ในขณะที่ลูกของพ่อแม่ที่เป็นโรคซึมเศร้ามีอัตราการซึมเศร้าเฉลี่ยสองเท่า ดังนั้นการจะสร้างความฉลาดทางอารมณ์ของเด็ก คือการดูแลเอาใจใส่ของพ่อแม่ ผู้ปกครอง และคนดูแล แบ่งเวลาสำหรับการพักผ่อน ผ่อนคลาย และสำคัญที่สุดคือ ความรัก พ่อแม่ควรมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ความสุขของเด็กก็จะตามมาโดยธรรมชาติ

ให้ความสำคัญ

"ความสุขส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำมีความสำคัญและคนอื่นเห็นคุณค่า" ดังนั้นพ่อแม่ ผู้ปกครอง และพี่เลี้ยงเด็ก ควรแสดงการรับรู้และขอบคุณเมื่อเด็กให้ความช่วยเหลือเราทำสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเมื่อเด็กพยายามรับผิดชอบหน้าที่ที่คุณมอบหมายให้ ตั้งแต่อายุยังน้อย ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองและความสุขสูงสุดของเขาก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น เด็กอายุ 3 ขวบสามารถรับหน้าที่เล็กในครอบครัว เช่นการดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างให้อาหารแมว ถ้าเป็นไปได้ให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง และพี่เลี้ยงเด็กกำหนดบทบาทที่สอดคล้องกับความถนัดของเด็ก ตัวอย่างเช่น หากเด็กชอบจัดระเบียบสิ่งของ ให้เด็กรับหน้าที่จัดเรียงส้อมและช้อน เมื่อเด็กรู้สึกว่าตัวเองมีหน้าที่ในครอบครัวจะทำให้มีความมั่นใจและเคารพตัวเอง