ดูแลเด็ก ใน กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

พี่เลี้ยงเด็กที่จ้างผ่านเว็บใส่ใจคือดีจริง ๆ พี่เลี้ยงเด็กมีประสบการณ์ในการเลี้ยงดูเด็กและเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก ทำให้คนเป็นแม่อย่างเราหายห่วงลูกเลยจริง ๆ หากใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก บริการของทางใส่ใจถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน
Saijai
กรรชัย วงศ์พานิชญ์
3 ปีที่แล้ว
ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
3 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
3 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
3 ปีที่แล้ว
เมื่อก่อนไม่กล้าจ้างพี่เลี้ยงเด็ก แต่ลองจ้างผ่านทางใส่ใจดู พี่เลี้ยงทำงานได้น่าพอใจมาก ๆ พูดเพราะมาก จนลูกเราติดคำพูดเลยค่ะ ราคาก็ที่ไม่สูงเกินไป จับต้องได้สำหรับคนที่มีรายได้ไม่เยอะอย่ามากต่อเดือน คุณแม่คนไหนอยากหาพี่เลี้ยงเด็ก แนะนำเลยค่ะ
Saijai
ชื่นนภา วัฒนพันธ์
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานนอกบ้านและไม่มีเวลาเลี้ยงลูกเอง ลองเปรียบเทียบกันระหว่างส่งลูกไปเนอสเซอรี่และจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้าน อะไรจะตรงใจคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด
บริการรับเลี้ยงเด็กในปัจจุบันมีหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก หรือเนอสเซอรี่ เรามาดูข้อดีข้อเสียกันเลยค่ะ

ข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กที่บ้านมีดังนี้

1) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณได้อย่างใกล้ชิด ลูกของคุณจะได้รับความเอาใจใส่ที่ส่งผลต่อพัฒนาการเด็กทางด้านอารมณ์
2) พี่เลี้ยงสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านการทำกิจกรรมต่าง
3) พ่อแม่ประหยัดเวลามากขึ้น หากจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลที่บ้าน
4) เด็กจะไม่ป่วยบ่อย เนื่องจากเด็กจะอยู่ในบ้านของตนเอง

ข้อดีของเนอสเซอรี่

1) เด็ก ๆ จะรู้จักการเข้าสังคม
2) เนอสเซอรี่มีบริเวณกว้างเพื่อให้เด็กได้ทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
3) เด็กจะได้ฝึกดูแลตัวเอง เพราะครูพี่เลี้ยงไม่ได้ดูแลเด็กแบบใกล้ชิด

ข้อเสียของพี่เลี้ยง

1) ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเข้าศูนย์เนอสเซอรี่
2) เด็กอาจจะติดพี่เลี้ยงเกินไป
3) ลดความเป็นส่วนตัวของครอบครัว

ข้อเสียของเนอสเซอรี่

1) เด็กป่วยบ่อยเพราะมีภูมิคุ้มกันที่น้อยเนื่องจากอยู่กับเด็กหลายคน
2) ลูกจะไม่ได้รับการดูแลใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวอาจส่งผลถึงอารมณ์ของเด็กได้
3) เด็กจะอยู่ห่างไกลจากพ่อแม่

หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาบริการพี่เลี้ยงเด็ก ใส่ใจมีบริการพี่เลี้ยงมืออาชีพที่พร้อมจะให้บริการคุณค่ะ
ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีคืออะไร
6 ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี

1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา

ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังกับพี่เลี้ยง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะไว้วางใจให้ลูก ๆ ของคุณอยู่ในความดูแลพี่เลี้ยงเด็ก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเด็กอาจเกิดความรู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ ใส่ใจมีวิธีการที่จะช่วยลดความกังวลของทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ดังนี้ค่ะ

1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

ทำความรู้จักกับกรุงเทพมหานครกัน

กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน มรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์

ได้ยินเพลงนี้ทุกคนจะนึกถึงจังหวัดที่เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย นั่นคือ กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงที่มีชื่อยาวที่สุดในโลก สมัยก่อนชาวต่างชาติเรียกกรุงเทพฯว่า บางกอก ซึ่งแปลมาจากคำว่า Bangkok ในภาษาอังกฤษนั่นเอง กรุงเทพเป็นเมืองหลวงที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศไทย และยังเป็นศูนย์กลางการปกครอง การศึกษา การคมนาคม การเงิน และการสื่อสาร สำหรับการปกครอง กรุงเทพเป็นเขตปกครองพิเศษของประเทศไทย ในส่วนของแม่น้ำสายสำคัญในกรุงเทพ ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งไหลผ่านฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี สำหรับคำขวัญของกรุงเทพ คือ “กรุงเทพฯ ดุจเทพสร้าง เมืองศูนย์กลางการปกครอง วัด วัง งามเรืองรอง เมืองหลวงของประเทศไทย” และต้นไม้ประจำกรุงเทพ คือ ต้นไทรย้อยใบแหลม

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในกรุงเทพ ได้แก่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว), วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์), พระบรมมหาราชวัง, วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร, วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร, พระที่นั่งวิมานเมฆ, พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร, พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด, ตลาดนัดสวนจตุจักร, ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร, ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี และอีกมากมายหลายสถานที่ด้วยกัน โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นที่นิยมมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงเทพ



การคมนาคมในกรุงเทพมหานคร

การคมนาคมในกรุงเทพมหานคร ใช้การเดินทางทางบกโดยพาหนะส่วนตัวเป็นหลัก แต่หากไม่มีรถยนต์ส่วนบุคคล การเดินทางในกรุงเทพก็มีตัวเลือกอีกมากมายหลายรูปแบบทั้งทางบกและทางน้ำ ตัวอย่างเช่น รถเมล์ รถไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถไฟ หรือ เรือ

ตัวอย่างการเดินทางในกรุงเทพในรูปแบบต่างๆ ได้แก่

การเดินทางโดยรถตุ๊กตุ๊ก โดยส่วนมากรถประเภทนี้จะรอผู้โดยสารอยู่ตามจุดเดินทางต่างๆ และมีการคิดค่าบริการตามระยะทางที่เดินทาง ซึ่งอาจจะทำการตกลงต่อรองราคากันได้ เพราะรถแบบนี้จะไม่มีมิเตอร์ ดังนั้นจึงไม่มีราคาที่เป็นมาตรฐาน

การเดินทางโดยรถแท๊กซี่มิเตอร์ การเดินทางแบบนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในกรุงเทพมหานคร สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและรวดเร็วในการเดินทาง ซึ่งรถแท๊กซี่จะจอดรอรับผู้โดยสารอยู่ตามจุดต่างๆ ทั่วไป โดยการคิดอัตราค่าโดยสารจะขึ้นอยู่กับระยะทางและเวลาที่ใช้ในการเดินทาง และอาจจะมีค่าบริการพิเศษเพิ่มเติมเช่น ค่าทางด่วน ระหว่างการเดินทางอีกด้วย

การเดินทางโดยรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง การเดินทางแบบนี้เน้นความสะดวกและรวดเร็วเป็นหลัก โดยเฉพาะในสถานการณ์รถติดในกรุงเทพ การใช้รถรับจ้างแบบนี้จะทำให้ผู้โดยสารไปถึงจุดหมายได้ในเวลาอันรวดเร็วและไม่พลาดการนัดหมาย

การเดินทางโดยรถไฟฟ้ามหานคร การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า โดยปกติจะเปิดทำการตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึงเที่ยงคืนในทุกๆวัน การเดินทางแบบนี้จะเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพ เพราะเป็นการเดินทางที่สะดวกและประหยัดค่าเดินทางได้เป็นอย่างมาก รถไฟฟ้า MRT มีเส้นทางเดินรถรวมระยะทางกว่า 20 กิโลเมตรเป็นโครงการใต้ดินตลอดสาย มีสถานีทั้งหมด 18 สถานี เป็นสถานีใต้ดินทั้งหมด ระยะห่างระหว่างสถานี โดยเฉลี่ย 1 กม.



วิถีชีวิตของคนกรุงเทพมหานคร

กรุงเทพเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งความศิวิไลซ์ และเคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลกอีกด้วย แต่หากวิเคราะห์ความเป็นอยู่ของชาวกรุงเทพแล้ว วิถีชีวิตเมืองกรุงนั้นต้องพบเจอกับความวุ่นวายมากมายหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ตอนเช้าที่ต้องเจอ สภาวะรถติด คนกรุงเทพมักจะเคยชินกับการต้องตื่นแต่เช้าเพื่อออกเดินทางไปยังที่ทำงาน หรือเด็กเดินทางไปโรงเรียน การเดินทางใช้เวลาหลายชั่วโมงถือเป็นเรื่องปกติสำหรับคนกรุงเทพไปแล้ว ที่ส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาบนรถยนต์ส่วนตัวหรือใช้เวลาอยู่บนรถเมล์ หรือรถไฟฟ้า เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ กรุงเทพฯ ครองแชมป์เมืองรถติดที่สุดของอาเซียน จากผลสำรวจของ Boston Consulting Group (BCG) ซึ่งคนกรุงเทพฯ เสียเวลารถติดบนท้องถนนนานถึง 72 นาที/วัน ดังนั้น การเดินทางของคนกรุงเทพหากเดินทางผ่านการขนส่งสาธารณะไม่ว่าจะเป็นรถเมล์หรือรถไฟฟ้าล้วนต้องเผื่อเวลาในการเดินทางเพิ่ม เนื่องจากการจราจรที่ติดขัดทำให้การเดินทางไม่สามารถกำหนดเวลาที่แน่นอนได้ จนบางครั้งอาจจะต้องเลือกใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้างเข้ามาเป็นตัวเลือกเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีเสี่ยงด้านความปลอดภัยเพราะอาจจะมีอุบัติเหตุได้ง่าย แต่ในช่วงเร่งด่วนแล้ว รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

ด้านอาหารการกินของคนกรุงเทพ ส่วนมากจะมีอาหารมากมายหลายอย่างขายทั้งริมทางเท้า(Street Food)และร้านอาหารในห้างต่างๆ โดยสิ่งสำคัญที่คนกรุงเทพต้องเผชิญก็คือ ค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูง ทั้งของกินและของใช้ต่างๆ จะมีราคาค่อนข้างสูง ถึงแม้ว่าจะมีงานลดราคาสินค้าที่จัดขึ้นมาค่อนข้างบ่อย แต่ก็ยังทำให้คนกรุงเทพต้องดิ้นรนเพื่อหาเงินให้เพิ่มมากขึ้น