ดูแลเด็ก ใน กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

วณิตา กะสิรักษ์
วณิตา กะสิรักษ์
Saijai อายุ 25 ปี
Jitraporn Tunsom
Jitraporn Tunsom
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 41 ปี
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

ผมเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย ไม่ยุ่งอบายมุข ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำได้ทุกอย่างครับ สอนได้ทุกวิชา ค่าจ้างเป็นต่อชั่วโมงหรือให้เป็นรายเดือนก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
จิตฤดี สุวรรณมณี
จิตฤดี สุวรรณมณี
Saijai อายุ 38 ปี

I am a girl,love and care the kid I like the kid that same my family.I think I can do the job is good.

แสดงเพิ่มเติม
อารีย์ ทองอุปการ
อารีย์ ทองอุปการ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 27 ปี
กุลวาณีย์ พันธ์สน
กุลวาณีย์ พันธ์สน
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 27 ปี

เข้ากับคนได้ง่าย มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ รักเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
เกตน์สิรี มะหะหมัด
เกตน์สิรี มะหะหมัด
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 34 ปี

เป็นพยาบาลวิชาชีพ ประสบการณ์ในการทำงานแผนก icu 5-8 ปี

แสดงเพิ่มเติม
ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 41 ปี
Michael Do
Michael Do
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

I work for a travel firm in Hawaii, USA and I enjoy working out at the gym a lot. I enjoy listening to the news about investments, cryptocurrencies, and the macro economy. I have a 4 year old son (born in 2017) who is half Thai and I want to bring him to Thailand to see his culture and heritage. I am looking for a babysitter mostly during the night time so that I can have personal time off.

แสดงเพิ่มเติม

เคยเลี้ยงเด็ก ๆ ที่เป็นหลาน อยู่บ้านที่ต่างจังหวัด หลาน ๆ มักจะมานอนด้วยเสมอ ๆ อยู่ด้วยกันทั้งวัน ทั้งกินข้าว เล่นกัน สอนการบ้าน

แสดงเพิ่มเติม
Narak Poonsombat
Narak Poonsombat
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 37 ปี
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
Saijai อายุ 30 ปี

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
ชลาลัย แสงอร่าม
ชลาลัย แสงอร่าม
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

สวัสดีค่ะ ชื่อกิ๊ฟนะคะ เป็นคนรักเด็กถึงไม่มีลูกเป็นของตัวเองแต่มีหลานที่รักมากๆ ค่ะ เราจะดูแลลูกหลานคุณให้เหมือนดูแลหลานเราเลยค่ะ ปัจุบันทำงานประจำอยู่อยากหารายได้เพิ่ม โดยดูแลเด็กหลังเลิกเรียน หรือ เสาร์ อาทิตย์ ฝากพิจารณาด้วยนะคะ

แสดงเพิ่มเติม
วนิดา ชัยวร
วนิดา ชัยวร
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 33 ปี
แคทรียา มูฮำหมัด
แคทรียา มูฮำหมัด
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

มีประสบการณ์ icu ทารกแรกเกิด และเนิสรี่ 7 ปี

แสดงเพิ่มเติม
อชิรญาณ์ จันทะบุตร
อชิรญาณ์ จันทะบุตร
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 36 ปี

รักเด็กยิ้มแย้มแจ่มใส ชอบสนุกกับสิ่งที่ทำ ใส่ใจทุกรายละเอียดของคนรอบข้างมุ่งมั่นตั้งใจแยกแยะเวลางานเวลาส่วนตัวได้

แสดงเพิ่มเติม
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม
รวี คินิมาน
รวี คินิมาน
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 47 ปี

ดิฉันเป็นครูที่มีจรรยาบรรณที่ดีรักและจริงใจกับเด็กและนายจ้างทำงานอย่างเต็มที่ให้เกียรติซึ่งกันและกันมีปัญหาอะไรสามารถแนะนำและปรึกษากันได้ค่ะ ถ้าเป็นรายชั่วโมง 300/ชั่วโมง

แสดงเพิ่มเติม
นรีรัตน์  ฝอยทอง
นรีรัตน์ ฝอยทอง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

สนใจงานพี่เลี้ยงเด็กค่ะ มีประสบการณ์บ้านนายจ้างมา8ปี เลี้ยงได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงเด็กโต ตอนนี้ว่างงานอยู่ค่ะ กำลังมองหางาน สามารถรับฟังและเรียนรุ้สิ่งใหม่ๆ ได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
3 ปีที่แล้ว
ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
3 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถว สุขุมวิท71 ลองใช้เว็บใส่ใจครั้งแรก เพราะเพื่อนๆ แนะนำมา อยากได้พี่เลี้ยงเด็ก มองหามาหลายที่ ที่นี่รายละเอียดครบ ราคาชัดเจน โทรปรึกษาพนักงานก็อธิบายเข้าใจง่ายมาก สะดวกสบาย ง่ายกว่า search หาเองใน Google ชอบมากๆ ค่ะ
Saijai
นงคราญ แซ่ตั้ง
4 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
4 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังกับพี่เลี้ยง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะไว้วางใจให้ลูก ๆ ของคุณอยู่ในความดูแลพี่เลี้ยงเด็ก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเด็กอาจเกิดความรู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ ใส่ใจมีวิธีการที่จะช่วยลดความกังวลของทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ดังนี้ค่ะ

1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

ทำความรู้จักกับกรุงเทพมหานครกัน

กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน มรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์

ได้ยินเพลงนี้ทุกคนจะนึกถึงจังหวัดที่เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย นั่นคือ กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงที่มีชื่อยาวที่สุดในโลก สมัยก่อนชาวต่างชาติเรียกกรุงเทพฯว่า บางกอก ซึ่งแปลมาจากคำว่า Bangkok ในภาษาอังกฤษนั่นเอง กรุงเทพเป็นเมืองหลวงที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศไทย และยังเป็นศูนย์กลางการปกครอง การศึกษา การคมนาคม การเงิน และการสื่อสาร สำหรับการปกครอง กรุงเทพเป็นเขตปกครองพิเศษของประเทศไทย ในส่วนของแม่น้ำสายสำคัญในกรุงเทพ ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งไหลผ่านฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี สำหรับคำขวัญของกรุงเทพ คือ “กรุงเทพฯ ดุจเทพสร้าง เมืองศูนย์กลางการปกครอง วัด วัง งามเรืองรอง เมืองหลวงของประเทศไทย” และต้นไม้ประจำกรุงเทพ คือ ต้นไทรย้อยใบแหลม

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในกรุงเทพ ได้แก่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว), วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์), พระบรมมหาราชวัง, วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร, วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร, พระที่นั่งวิมานเมฆ, พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร, พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด, ตลาดนัดสวนจตุจักร, ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร, ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี และอีกมากมายหลายสถานที่ด้วยกัน โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นที่นิยมมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงเทพ



การคมนาคมในกรุงเทพมหานคร

การคมนาคมในกรุงเทพมหานคร ใช้การเดินทางทางบกโดยพาหนะส่วนตัวเป็นหลัก แต่หากไม่มีรถยนต์ส่วนบุคคล การเดินทางในกรุงเทพก็มีตัวเลือกอีกมากมายหลายรูปแบบทั้งทางบกและทางน้ำ ตัวอย่างเช่น รถเมล์ รถไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถไฟ หรือ เรือ

ตัวอย่างการเดินทางในกรุงเทพในรูปแบบต่างๆ ได้แก่

การเดินทางโดยรถตุ๊กตุ๊ก โดยส่วนมากรถประเภทนี้จะรอผู้โดยสารอยู่ตามจุดเดินทางต่างๆ และมีการคิดค่าบริการตามระยะทางที่เดินทาง ซึ่งอาจจะทำการตกลงต่อรองราคากันได้ เพราะรถแบบนี้จะไม่มีมิเตอร์ ดังนั้นจึงไม่มีราคาที่เป็นมาตรฐาน

การเดินทางโดยรถแท๊กซี่มิเตอร์ การเดินทางแบบนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในกรุงเทพมหานคร สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและรวดเร็วในการเดินทาง ซึ่งรถแท๊กซี่จะจอดรอรับผู้โดยสารอยู่ตามจุดต่างๆ ทั่วไป โดยการคิดอัตราค่าโดยสารจะขึ้นอยู่กับระยะทางและเวลาที่ใช้ในการเดินทาง และอาจจะมีค่าบริการพิเศษเพิ่มเติมเช่น ค่าทางด่วน ระหว่างการเดินทางอีกด้วย

การเดินทางโดยรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง การเดินทางแบบนี้เน้นความสะดวกและรวดเร็วเป็นหลัก โดยเฉพาะในสถานการณ์รถติดในกรุงเทพ การใช้รถรับจ้างแบบนี้จะทำให้ผู้โดยสารไปถึงจุดหมายได้ในเวลาอันรวดเร็วและไม่พลาดการนัดหมาย

การเดินทางโดยรถไฟฟ้ามหานคร การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า โดยปกติจะเปิดทำการตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึงเที่ยงคืนในทุกๆวัน การเดินทางแบบนี้จะเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพ เพราะเป็นการเดินทางที่สะดวกและประหยัดค่าเดินทางได้เป็นอย่างมาก รถไฟฟ้า MRT มีเส้นทางเดินรถรวมระยะทางกว่า 20 กิโลเมตรเป็นโครงการใต้ดินตลอดสาย มีสถานีทั้งหมด 18 สถานี เป็นสถานีใต้ดินทั้งหมด ระยะห่างระหว่างสถานี โดยเฉลี่ย 1 กม.



วิถีชีวิตของคนกรุงเทพมหานคร

กรุงเทพเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งความศิวิไลซ์ และเคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลกอีกด้วย แต่หากวิเคราะห์ความเป็นอยู่ของชาวกรุงเทพแล้ว วิถีชีวิตเมืองกรุงนั้นต้องพบเจอกับความวุ่นวายมากมายหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ตอนเช้าที่ต้องเจอ สภาวะรถติด คนกรุงเทพมักจะเคยชินกับการต้องตื่นแต่เช้าเพื่อออกเดินทางไปยังที่ทำงาน หรือเด็กเดินทางไปโรงเรียน การเดินทางใช้เวลาหลายชั่วโมงถือเป็นเรื่องปกติสำหรับคนกรุงเทพไปแล้ว ที่ส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาบนรถยนต์ส่วนตัวหรือใช้เวลาอยู่บนรถเมล์ หรือรถไฟฟ้า เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ กรุงเทพฯ ครองแชมป์เมืองรถติดที่สุดของอาเซียน จากผลสำรวจของ Boston Consulting Group (BCG) ซึ่งคนกรุงเทพฯ เสียเวลารถติดบนท้องถนนนานถึง 72 นาที/วัน ดังนั้น การเดินทางของคนกรุงเทพหากเดินทางผ่านการขนส่งสาธารณะไม่ว่าจะเป็นรถเมล์หรือรถไฟฟ้าล้วนต้องเผื่อเวลาในการเดินทางเพิ่ม เนื่องจากการจราจรที่ติดขัดทำให้การเดินทางไม่สามารถกำหนดเวลาที่แน่นอนได้ จนบางครั้งอาจจะต้องเลือกใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้างเข้ามาเป็นตัวเลือกเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีเสี่ยงด้านความปลอดภัยเพราะอาจจะมีอุบัติเหตุได้ง่าย แต่ในช่วงเร่งด่วนแล้ว รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

ด้านอาหารการกินของคนกรุงเทพ ส่วนมากจะมีอาหารมากมายหลายอย่างขายทั้งริมทางเท้า(Street Food)และร้านอาหารในห้างต่างๆ โดยสิ่งสำคัญที่คนกรุงเทพต้องเผชิญก็คือ ค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูง ทั้งของกินและของใช้ต่างๆ จะมีราคาค่อนข้างสูง ถึงแม้ว่าจะมีงานลดราคาสินค้าที่จัดขึ้นมาค่อนข้างบ่อย แต่ก็ยังทำให้คนกรุงเทพต้องดิ้นรนเพื่อหาเงินให้เพิ่มมากขึ้น