ดูแลเด็ก ใน นครปฐม

ดูแลเด็ก ใน นครปฐม

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

วิไล นันต๊ะภาพ
วิไล นันต๊ะภาพ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 47 ปี
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
ฮามีด๊ะฮ์ โต๊ะขวัญ
Saijai อายุ 30 ปี

มีความอดทน ขยัน รักความสะอาด ใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม

นิสัย : ใจเย็น รักเด็ก รักผู้สูงอายุ ไม่เหวี่ยง ไม่วีน ใส่ใจ สะอาด พูดน้อย ไม่จุกจิก

แสดงเพิ่มเติม
ทิพวรรณ์ ราศรี
ทิพวรรณ์ ราศรี
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

เป็นคนอัธยาศัยดีค่ะ ใจเย็นค่ะชอบเล่นกับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการของน้องได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อานนท์ ทองแสง
อานนท์ ทองแสง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 30 ปี

ผมเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย ไม่ยุ่งอบายมุข ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำได้ทุกอย่างครับ สอนได้ทุกวิชา ค่าจ้างเป็นต่อชั่วโมงหรือให้เป็นรายเดือนก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
เสาวณีย์ เขาพระจันทร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจดูแลเหมือนลูกเจ้าของเองใจเย็น ดูแลได้ตลอด

แสดงเพิ่มเติม

เป็นคนเรียบง่ายไม่เรื่องมากเลี้ยงน้องตามแพทย์แนะนำและผู้ปกครองแนะนำได้

แสดงเพิ่มเติม
วนิดา ชัยวร
วนิดา ชัยวร
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 33 ปี

เข้ากับคนได้ง่าย มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ รักเด็ก

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
4 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถว สุขุมวิท71 ลองใช้เว็บใส่ใจครั้งแรก เพราะเพื่อนๆ แนะนำมา อยากได้พี่เลี้ยงเด็ก มองหามาหลายที่ ที่นี่รายละเอียดครบ ราคาชัดเจน โทรปรึกษาพนักงานก็อธิบายเข้าใจง่ายมาก สะดวกสบาย ง่ายกว่า search หาเองใน Google ชอบมากๆ ค่ะ
Saijai
นงคราญ แซ่ตั้ง
4 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
4 ปีที่แล้ว
ลองค้นหาบริการพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายที่ จนได้มาเจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดู รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้เลือกพี่เลี้ยง ขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ รายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ พี่เลี้ยงที่ได้มาก็ตรงตามความต้องการสุด ๆ รู้สึกประทับใจมาก
Saijai
ณัฐณิชา ทิวาสวัสดิ์
4 ปีที่แล้ว
เมื่อก่อนไม่กล้าจ้างพี่เลี้ยงเด็ก แต่ลองจ้างผ่านทางใส่ใจดู พี่เลี้ยงทำงานได้น่าพอใจมาก ๆ พูดเพราะมาก จนลูกเราติดคำพูดเลยค่ะ ราคาก็ที่ไม่สูงเกินไป จับต้องได้สำหรับคนที่มีรายได้ไม่เยอะอย่ามากต่อเดือน คุณแม่คนไหนอยากหาพี่เลี้ยงเด็ก แนะนำเลยค่ะ
Saijai
ชื่นนภา วัฒนพันธ์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง ควรทำอย่างไร
ใส่ใจขอพูดถึงข้อกังวลและแนวทางแก้ไขเมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกๆ ที่บ้าน

1. ความปลอดภัยของลูกน้อย สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลมากที่สุดคือความปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการกระทำรุนแรงของพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยทั้งทางร่างกายและพฤติกรรม ควรพูดคุย ซักถามเด็กอยู่เป็นประจำเกี่ยวกับกิจกรรมระหว่างวันที่ลูก ๆ ทำกับพี่เลี้ยง การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้านเป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจขึ้น
2. ประสบการณ์การทำงาน บางครั้งพี่เลี้ยงเด็กอาจไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและความชำนาญของตน นอกจากการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้มีการทดลองงานสักระยะหนึ่งเพื่อดูว่าพี่เลี้ยงเด็กมีความชำนาญหรือสามารถทำงานได้ตามมอบหมายหรือไม่
3. พี่เลี้ยงเด็กหยิบฉวยทรัพย์สินในบ้าน หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่เจอพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์แต่ยังกังวลว่าพี่เลี้ยงเด็กอาจพยายามขโมยสิ่งของมีค่าภายในบ้าน แนวทางป้องกันที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้คือ ไม่วางสิ่งของมีค่าไว้ในที่เปิดเผย ล็อคลิ้นชักเก็บของและประตูห้องที่พี่เลี้ยงเด็กไม่จำเป็นต้องใช้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ภายในบ้านเพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาได้อีกทาง
พ่อแม่ควรตกลงอะไรบ้างก่อนจ้างพี่เลี้ยงเด็ก?
เมื่อคุณพ่อคุณแม่สามารถหาพี่เลี้ยงเด็กที่ถูกใจได้แล้ว ควรพูดคุยและตกลงกันเรื่องใดบ้างก่อนเริ่มงาน

1. วันและเวลาทำงาน คุณพ่อและคุณแม่ควรมีแผนการทำงานของพี่เลี้ยงที่ชัดเจน เช่นกำหนดวันทำงาน วันหยุด และเวลาทำงานในแต่ละวันให้ชัดเจน และควรถามความสมัครใจหากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานล่วงเวลา
2. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ คุณพ่อคุณแม่ควรระบุขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน หากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานบ้านหรืองานอื่น ๆ นอกจากดูแลเด็ก ควรตกลงกันให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน
3. ระยะเวลาการทดลองงาน หาดคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงทดลองงานก่อนสักระยะหนึ่งก่อนทำสัญญาว่าจ้าง ควรระบุช่วงระยะเวลาและเงื่อนไขในการทดลองงานให้ชัดเจน
4. ค่าจ้าง คุณพ่อคุณแม่ควรสอบถามและตกลงค่าจ้างของพี่เลี้ยงให้ชัดเจน และค่าจ้างควรจะสอดคล้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบ และจำนวนชั่วโมงทำงานในแต่ละวัน ประสบการณ์ในการทำงานอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ประกอบการพิจารณาอัตราค่าจ้างได้
5. กรณีจ้างพี่เลี้ยงประจำแบบพักอาศัยร่วม คุณพ่อคุณแม่ต้องจัดการเรื่องที่พักให้กับพี่เลี้ยง รวมถึงอาหารในแต่ละวันตามตกลงกัน
6. ข้อตกลงในการอยู่อาศัยร่วมกัน คุณพ่อคุณแม่ควรบอกกล่าวพี่เลี้ยงให้ชัดเจนถึงกฎระเบียบต่าง ๆ สิ่งใดไม่ควรปฏิบัติของการอาศัยอยู่ร่วมกัน

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

นครปฐมเมืองเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

นครปฐม จังหวัดหนึ่งในภาคกลางด้านตะวันตก จังหวัดเล็กๆที่ห่างจากกรุงเทพมหานครเพียงประมาณ 56 กิโลเมตร เมืองแห่งปูชนียสถานเก่าแก่ที่สำคัญหลายแห่ง เช่นพระปฐมเจดีย์ ที่เป็นร่องรอยของการเผยแพร่อารยธรรมพุทธศาสนาแห่งแรกในประเทศไทยซึ่งนครปฐมเดิมตั้งอยู่ริมทะเล เป็นเมืองเก่าแก่ที่รุ่งเรืองมากในสมัยอดีต ที่ชนต่างชาติอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานเป็นจำนวนมาก ต่อมาเกิดความแห้งแล้งในเมืองนครปฐม ประชาชนจึงอพยพไปตั้งหลักแหล่งอยู่ริมแม่น้ำและสร้างเมืองใหม่ขึ้นมาที่เรียกว่า “นครชัยศรี” ทำให้เมืองนครปฐมกลายเป็นเมืองร้างหลาย 100 ปี ต่อมาในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีการปฏิสังขรณ์สิ่งต่างๆบริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ และมีการขุดคลองเจดีย์บูชาเพื่อการคมนาคมสะดวกมากขึ้น และในปีถัดๆมานครปฐมเริ่มมีการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขึ้นหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นรถไฟสายใต้ พระราชวัง ถนนและเปลี่ยนชื่อเมืองจาก “นครชัยศรี” เป็น “นครปฐม”นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปัจจุบันนครปฐมมีพื้นที่ทั้งหมด 2,161 ตารางกิโลเมตร แบ่งเขตการปกครองด้วยกันทั้งหมด 7 อำเภอ ซึ่งมีอาณาเขตทิศเหนือติดกับจังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทิศใต้ติดกับจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดราชบุรี ทิศตะวันออกติดกับจังหวัดนนทบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและกรุงเทพมหานคร ส่วนทิศตะวันตกติดกับจังหวัดราชบุรีและจังหวัดกาญจนบุรี พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบลุ่มไม่มีภูเขาและเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ประชากรส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำไร่ ทำสวน โดยเฉพาะการปลูกส้มโอซึ่งเป็นชื่อเสียงของจังหวัดนครปฐม และได้ชื่อว่า “เมืองส้มโอหวาน” เทศกาลงานประจำปีของจังหวัดนครปฐมก็มีความน่าสนใจไม่แพ้ที่อื่นเช่น งานนมัสการหลวงพ่อวัดไร่ขิง ซึ่งนครปฐมเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อวัดไร่ขิง พระพุทธรูปแบบเชียงแสน ปางมารวิชัย เกิดจากความเลื่อมใสศรัทธาของประชาชน จึงเกิดพิธีนมัสการขึ้น ยังมีงานเลี้ยงบุฟเฟ่ต์ช้างและประกวดราชินีช้างจะจัดขึ้นในวันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับวันแรงงาน นอกจากนี้ยังมีเทศกาลและประเพณีอีกหลากหลายให้ทุกท่านเดินทางมาเที่ยวชม



การให้นมเด็กหลังคลอด ต้องทำอย่างไร

หลังคลอดเป็นเวลาสำคัญอย่างยิ่งที่จะฝึกหัดให้ลูกกินนมแม่ให้ใช้หัวนมแม่กระตุ้นบริเวณริมฝีปากบนของลูก เมื่อลูกอ้าปากกว้างให้ดันตัวลูกเข้าหาเต้านม โดยให้อมหัวนมให้ลึกจนถึงลานหัวนม ลิ้นลูก จะวางอยู่ใต้ลานนม ริมฝีปากคลี่บานรอบเต้านม ขณะที่ลูกดูดนมแม่จะมองเห็นการเคลื่อนไหวของขากรรไกรลูกบริเวณกกหูแก้มลูกจะโป่งพอง และมีระยะหยุดเพื่อกลืนน้ำนม

ปริมาณน้ำนมแม่ นอกจากขึ้นกับสุขภาพกายและใจของแม่แล้ว ยังสัมพันธ์กับการดูดนมของลูกด้วย ดังนั้นการช่วยให้น้ำนมแม่มามากพอก็คือ การให้ลูกมีโอกาสดูดนมแม่ทันทีหลังคลอด การที่ลูกได้ดูดบ่อยๆ และลูกได้ดูดนมแม่นานพอในแต่ละมื้อ ท่าทางที่ดีในการให้นมแม่คือ ลำตัวแม่จะต้องงอเล็กน้อย ถ้าแม่ต้องก้มมากหรือโน้มตัวมากระหว่างให้นม ควรหาหมอนช่วยรองปรับระดับลำตัวลูกศีรษะของลูกควรอยู่ในแนวเดียวกับลำตัว ลำตัวของจะลูกหันเข้าหาเต้านม ไม่ควรให้ลูกนอนหงายแล้วหันมาดูดนม การจัดท่าดูดนมให้ถูกต้องจะช่วยให้การให้นมลูกเป็นไปด้วยความสบายตัวทั้งแม่และลูก แม่ไม่ควรรู้สึกเจ็บที่หัวนมขณะที่ให้นมลูก ถ้าแม่รู้สึกเจ็บให้ถอนนมออกจากปากลูกก่อนและลองเริ่มใหม่ และถ้าลูกดูดนมสักพักแล้วไม่ยอมดูด การใช้วิธีบีบน้ำนมเข้าปากลูกจะช่วยกระตุ้นให้ลูกดูดต่อได้ ใน 3 เดือนแรก การตื่นกินนมของลูกในช่วงกลางวันกับกลางคืนแทบจะไม่แตกต่างกัน จึงควรระวังไม่ป้อนนมถี่เกินไป ควรมีช่วงห่างระหว่างมื้อนมประมาณ 2-3 ชั่วโมง เนื่องจากธรรมชาติของ เด็กวัยนี้นอกจากใช้การดูดเพื่อการกินนมแล้ว ยังใช้การดูดเพื่อการผ่อนคลายตนเองอีกด้วย ดังนั้นแม้ว่าลูกจะอิ่มแล้ว แต่เมื่อแม่เอานมเข้าปาก ลูกก็จะดูดนมได้อีกจนอาเจียนหรือสำรอกออกมา



บทบาทที่สำคัญของพ่อแม่ที่ต้องมีต่อเด็กในยุคปัจจุบัน

ในสภาวะปัจจุบัน พ่อแม่หลายคู่ไม่ค่อยมีเวลาอยู่ร่วมกับลูกหรือครอบครัวต่างฝ่ายต่างทำกิจกรรมของตนเอง ขาดการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ส่งผลทำให้บรรยากาศในครอบครัวไม่มีความสุข สิ่งที่จะทำให้สมาชิกในครอบครัวมีความสุข มีบรรยากาศน่าอยู่ มิได้ขึ้นอยู่กับเวลาเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นกับการปฏิบัติของคนในครอบครัว ได้แก่

  • ตอบสนองความต้องการของกันและกันตามความเหมาะสม เช่น ให้ความรัก ความยอมรับ เข้าใจพื้นฐานทางอารมณ์ความรู้สึกนึกคิด และให้เกียรติซึ่งกันและกัน

  • มีการพูดจาสื่อสารที่ดีต่อกัน รับฟังและเข้าใจความต้องการของผู้อื่น สามารถใช้คำพูดที่ช่วย แก้ไขหรือลดความขัดแย้ง ให้คำชี้แนะ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

  • มีกิจกรรมทำร่วมกัน ทำให้เกิดการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เป็นรากฐานในการฝึกหัดแก้ไข ปัญหา ส่งผลทำให้เกิดความภาคภูมิใจ รู้สึกว่าตนมีความสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งภายในบ้าน

  • ส่งเสริมพัฒนาการตามวัย พัฒนาทักษะหลายด้านและส่งเสริมให้เด็กมีประสบการณ์ชีวิต โดยตรงหลายรูปแบบ รวมทั้งควบคุมกำกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

  • ฝึกทักษะการคิดและลงมือแก้ไขปัญหาต่างๆ หลากหลายรูปแบบ

  • เป็นต้นแบบที่เหมาะสมและเรียกร้องให้เด็กเล่นบทบาทให้ตรงเพศตรงวัยตรงกับสถานการณ์

  • เน้นการเป็นคนดีโดยส่งเสริมให้เด็กช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุดและฝึกช่วยเหลือผู้อื่นมาตั้งแต่ เล็กจนติดเป็นนิสัย