วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก
1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา
ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ
พัฒนาการสำคัญของเด็กวัย 4-5 ขวบ
คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองหรือพี่เลี้ยงเด็กเคยสังเกตหรือไม่ว่าเด็กอายุ 4 ถึง 5 ขวบ จะมีความเป็นตัวของตัวเองและมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เด็กวัยนี้ส่วนใหญ่เริ่มพัฒนาความเป็นตัวของตัวเอง การควบคุมตนเอง และความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น เด็กพอใจที่จะเล่นกับของเล่นเป็นเวลานาน กระตือรือร้นที่จะลองสิ่งใหม่ ๆ และเมื่อเด็กรู้สึกหงุดหงิดจะสามารถแสดงอารมณ์ได้ดีขึ้น แม้ว่าเด็กจะเติบโตและพัฒนาตามจังหวะของตนเอง แต่สิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าเด็กมีพัฒนาการตามวัยได้แก่
พัฒนาการสำคัญด้านภาษา เด็กจะมีความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น มีการตั้งคำถามและสนทนากับพ่อแม่ ผู้ปกครองหรือพี่เลี้ยงเด็กในสิ่งที่ตนอยากรู้ มีการใช้คำศัพท์หรือภาษาที่ซับซ้อนขึ้น สามารถตอบคำถามและคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล และสามารถแสดงความรู้สึกได้ดีขึ้นด้วย เด็กส่วนใหญ่ในวัยนี้ชอบร้องเพลง คล้องจอง และแต่งคำ
พัฒนาการในการเคลื่อนไหวและทักษะการใช้มือและนิ้ว
เด็กวัยนี้ควรเรียนรู้ผ่านการเล่น เช่น วิ่ง กระโดด ขว้างและเตะลูกบอล ปีนป่าย และแกว่งไปมาอย่างสบาย ๆ ยืนขาเดียวเกิน 9 วินาที ตีลังกาแล้วกระโดด เดินขึ้นลงบันไดโดยไม่ต้องมีคนช่วย เดินไปข้างหน้าถอยหลังอย่างง่ายดาย ถีบสามล้อ คัดลอกสามเหลี่ยม วงกลม สี่เหลี่ยมจัตุรัส และรูปร่างอื่น ๆ วาดคนมีร่างกาย ใช้ส้อมกับช้อน แต่งตัวและเปลื้องผ้า แปรงฟัน และใช้ห้องน้ำโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือมากนัก
พัฒนาการทางอารมณ์และสังคม ในวัยนี้เด็กเริ่มเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น สิ่งที่บ่งชี้ว่าเด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์และสังคมสมวัย ได้แก่ สนุกกับการเล่นกับเด็กคนอื่น ๆ และทำให้เพื่อน ๆ พอใจ แบ่งปันและผลัดกัน เข้าใจกฎของเกม เข้าใจและปฏิบัติตามกฎ อย่างไรก็ตามเด็กวัยนี้อาจจะยังคงเรียกร้องและไม่ให้ความร่วมมือในบางครั้ง กลายเป็นมีความคิดของตัวเองมากขึ้น แสดงความโกรธด้วยวาจามากกว่าทางร่างกาย (ส่วนใหญ่) เข้าใจความแตกต่างระหว่างการเสแสร้งกับความเป็นจริง
เด็กวัยนี้เป็นวัยที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะสามารถสื่อสารได้มากกว่าเด็กวัย 2-3 ขวบและกำลังก้าวไปสู่อีกวัยของเด็ก ถ้าเราเข้าใจความเป็นตัวของตัวเอง ความคิดของบุตรหลานเราก็จะสามารถโตไปด้วยกันได้
สายน้ำท่าจีน
บ้านท่าจีน แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นชุมชนของคนจีน ที่นำเรือสำเภามาจอดเทียบท่าค้าขาย อยู่ปากแม่น้ำท่าจีน เพราะบริเวณนี้ ติดกับชายฝั่งทะเล โดยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยา สมุทรสาครเดิมเป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่มีชาวจีนนำเรือสำเภาเข้ามาจอดเทียบท่าค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าและได้พักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเรียกว่า บ้านท่าจีน ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวไทย ครั้นในรัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 2099) ได้โปรดให้ยกฐานะบ้านท่าจีนขึ้นเป็น เมืองสาครบุรี เพื่อเป็นหัวเมืองสำหรับเรียกระดมพลในช่วงสงคราม และยกให้เป็นเมืองด่านหน้าป้องกันผู้รุกรานทางทะเลในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6 ในปี พ.ศ. 2459) โปรดเกล้าให้ทางราชการเปลี่ยนคำว่า “เมือง” เป็น “จังหวัด” ทั่วทุกแห่งในพระราชอาณาจักร “เมืองสมุทรสาคร” จึงได้เปลี่ยนเป็น จังหวัดสมุทรสาคร มาจวบจนปัจจุบัน โดยจังหวัดสมุทรสาครนั้นมีลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่งทะเล สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1.00 - 2.00 เมตร โดยมีแม่น้ำท่าจีนไหลผ่านตอนกลางจังหวัด (แม่น้ำท่าจีน เป็นแม่น้ำที่แยกตัวออกจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ตำบลมะขามเฒ่า บริเวณปากคลองมะขามเฒ่า) แม่น้ำท่าจีนนั้นก่อนจะไหลออกสู่อ่าวไทยที่ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร มีความยาวทั้งสิ้นประมาณ 325 กิโลเมตร (ในส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ระยะทางยาวประมาณ 70 กิโลเมตร) ส่วนพื้นที่ตอนบนในเขตอำเภอบ้านแพ้วและอำเภอกระทุ่มแบน นั้นมีความอุดมสมบูรณ์ของดินและมีโครงข่ายแม่น้ำลำคลองเชื่อมโยงถึงกันกระจายอยู่ทั่วพื้นที่กว่า 170 สาย (เช่นคลองภาษีเจริญ คลองบางยาง คลองดำเนินสะดวก คลองกระทุ่มแบน) จึงเหมาะที่จะทำการเพาะปลูกพืชนานาชนิด และบางส่วนเป็นย่านธุรกิจ อุตสาหกรรมและที่อยู่อาศัย พื้นที่ตอนล่างของจังหวัดในเขตอำเภอเมืองสมุทรสาครอยู่ติดชายฝั่งทะเลยาว 41.8 กิโลเมตร จึงเหมาะที่จะประกอบอาชีพประมงทะเล เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งและทำนาเกลือ (จังหวัดสมุทรสาครมีภูมิประเทศติดกับทะเล จึงมีการทำอาชีพทำนาเกลือมากที่สุดของประเทศไทย) ตราประจำจังหวัดสมุทรสาคร เป็นรูปเรือสำเภาจีนแล่นในทะเล ด้านหลังเป็นโรงงานและปล่องไฟ ซึ่งหมายถึงความรุ่งเรืองที่มีมาจากอดีตถึงปัจจุบัน ตราประจำจังหวัดสมุทรสาคร เริ่มใช้เมื่อพุทธศักราช 2483 ในสมัยที่หลวงวิเศษภักดี (ชื้น วิเศษภักดี) เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด
นาเกลือ ที่สมุทรสาคร
เพลงหนุ่มนาข้าว สาวนาเกลือ แว่วมาทุกครั้งที่ ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดที่มีภูมิประเทศติดกับทะเล กองเกลือสีขาว ตลอดสองข้างทางของถนน สลับกับโรงงาน จังหวัดสมุทรสาครมีอาชีพทำนาเกลือมากที่สุดของประเทศไทย เป็นที่รู้กันดีว่าเกลือทะเลหรือเกลือสมุทร (Sea Salt) คือเกลือที่ผลิตขึ้นโดยการนำน้ำทะเลขึ้นมาตากแดดให้น้ำระเหยไปเหลือแต่ผลึก เกลือตกอยู่ (Solar Evaporation System) เกลือ ประเภทนี้มีการผลิตและการใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณและถือเป็นอาชีพเก่าแก่อาชีพ หนึ่งของโลกและของคนไทยที่สืบทอดกันมายาวนาน เป็นภูมิปัญญาของมนุษย์ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งควรค่าแก่การรักษาภูมิปัญญานี้ไว้ไม่ให้สูญหายไป แต่ก็ด้วยประสบปัญหาหลายด้าน ทำให้คนรุ่นใหม่ขาดแรงจูงใจที่จะมาสืบทอดการทำนาเกลือต่อ เส้นทางสายนาเกลือจึงดูเหมือนจะค่อยๆ เลือนหายไปจากสังคมไทย และวิถีนาเกลือก็กำลังจะสูญหายไปเพราะทุกวันนี้ชาวนาเกลือมีจำนวนลดลง สถานการณ์การผลิตเกลือ ใน พ.ศ. 2559 พบว่า ผลผลิตเกลือทะเล ซึ่งส่วนใหญ่มีแหล่งผลิตในพื้นที่ของจังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร และเพชรบุรีลดลงจากในปีก่อน (จาก 1,288,005 ตัน ลดลงเหลือ 1,015,000 ตัน)
พอสิ้นฤดูฝนสายลมเปลี่ยนทิศ ความแห้งแล้งมาเยือน ชาวนาเกลือจะเริ่มต้นฤดูการผลิตเกลือ ตั้งแต่ เตรียมนา กำจัดสิ่งสกปรก ปรับดิน และกลิ้งนาให้แน่นเรียบโดยใช้รถไถ จากนั้นก็เปิดน้ำเข้ามากักเก็บในนาจนมีความเค็มในระดับที่เหมาะสม โดยการทยอยเปิดน้ำเข้านาแปลงต่างๆ ตามลำดับ น้ำจากทะเลจะไหลตามคลองส่งน้ำไปยังที่ทำกินของชาวนาเกลือ เมื่อน้ำทะเลขึ้น นาเกลือผืนที่อยู่ปลายสุดของลำรางจะต้องได้รับน้ำก่อน ส่วนผู้ที่อยู่ใกล้กว่าจะสูบน้ำได้ทีหลัง เพื่อป้องกันปัญหาการแย่งน้ำกัน นี่คือธรรมเนียมในท้องถิ่นที่แบ่งปัน และทำนาเกลือร่วมกัน น้ำทะเลที่ผันมาตามคลองส่งน้ำจะถูกสูบเข้าไปเก็บที่วังน้ำ จากนั้นจึงจะถูกผันเข้านาประเทียบ และนาตาก เพื่อตากแดดให้น้ำระเหยออก ถัดไปก็จะเป็นนาเชื้อ ซึ่งต้องเตรียมน้ำให้มีความเค็มจัดในระดับที่เหมาะสมจะทำเป็นเกลือ และไปถึงจุดสุดท้ายจะปล่อยน้ำเข้านาปลง ซึ่งใช้เป็นพื้นที่ตกผลึกเกลือ โดยกระบวนการตกผลึกหรือการปลงใช้เวลา 15 วัน หลังจากนั้น ก็จะสามารถรื้อเกลือไปขายได้ โดยที่เกลือรุ่นแรกของปีจะออกช่วงเดือนมกราคม และได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในฤดูแล้งที่มีแดดจัด
ภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบทอดต่อๆ กันมา ชาวนาจะหยุดทำนาเกลือตลอดฤดูฝนเพราะเกลือกับฝนนั้นเป็นของไม่ถูกกัน แต่ถ้าโชคไม่ดีเดือนนั้นมีฝนหลงฤดูมาในช่วงการทำนาเกลือก็จะเสียหายมาก เพราะฝนตกลงมาเพียงไม่กี่นาที ก็สามารถทำให้กองเกลือที่กำลังเตรียมเก็บขายละลายกลายเป็นน้ำในพริบตา ที่แย่ไปกว่านั้นเกลือที่ละลายไปแล้วในนาเกลือก็จะไม่สามารถนำน้ำเกลือนั้นมาตกผลึกได้อีก กระบวนการต่างๆ ข้างต้นก็จะต้องเริ่มใหม่อีกครั้ง กลับไปทำความสะอาดนาและปล่อยน้ำเข้านาปลงใหม่ และด้วยเหตุนี้เองชาวนาเกลือจึงต้องมีการพยากรณ์อากาศที่แม่นยำมาก คือลางบอกฝนตามภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมา เช่น ถ้าน้ำในนาเกลือเริ่มแดง มีเมฆหัวแดงทางทิศตะวันออก หรือถ้าเดินที่คันนาแล้วมีดินติดเท้า นั่นแปลว่าอีก 3-4 วัน ฝนจะตกลงมา
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง