วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
พี่เลี้ยงเด็ก พี่เลี้ยงเด็กชั่วคราว รับเลี้ยงเด็กที่บ้านตัวเอง พี่เลี้ยงสองภาษา พี่เลี้ยงวันหยุดบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันHelloo, My name is noon and i'm 27 years old. graduated from kasetsart university, i very love the kid from my background and just want to have a good experience, wanna play with your kid!! my personality is always smile, happy girl with a kindness. I have been in USA about 4 months and have experience to play with kid of my host.
สวัสดีค่ะ ชื่อนุ่น อายุ 27ปี จบป.ตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นคนรักเด็กมากๆและชอบเล่นกับเด็กๆ พื้นฐานเคยเลี้ยงน้องๆมา2คน และอยากมาหาประสบการณ์วันว่างเสาร์อาทิตย์
สวัสดีค่ะ พี่ชื่อ พัชรี อ่อนศรีค่ะ
เคยผ่านการทำงานเลี้ยงเด็กมา10ปีค่ะตั้งแต่แรกเกิดถึงเข้าโรงเรียนค่ะพี่ดูแลทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กค่ะ
ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กแต่ระช่วงวัยดูแลความปลอดภัยขั้นสูงสุดในแต่ระช่วงวัยค่ะ
ทำอาหารได้ทุกช่วงวัยของเด็กค่ะเน้นความสะอาด ใจเย็น มีสติในการทำงานตลอดเวลาค่ะ
เลี้ยงเด็กตามความประสงของพ่อและแม่ค่ะแต่ระบ้านจะมีวิธีการเลี้ยงแตกต่างกันค่ะ ใส่ใจรายระเอียดทุกอย่างค่ะ ขอบคุณมากๆๆค่ะ
สวัสดีคะ ชื่อป่าน นะคะ อายุ 27 ปี เป็นคนรักเด็ก ประสบการณ์ครูผู้ช่วยสอนศิลปะเด็กเล็ก และโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษค่ะ สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้คะ Line ID: Phn.rati
Sawasdee Ka! ( It's Hello in Thai language :D) My name is Ratikorn, but please call me for shorten name Phannie. I am 27 years old. I am generous, patient, friendly, easy going, gentle,warmth, reasonable, honest, has a sense of responsibility. Moreover I am open- minded girl who try to learn new things around me. I also enjoy learning new things to develope myself in the future.About experience with kids, I worked at the school for kids for 1 year, there were 20children, aged about 3-12 years old.
1.ชื่อ-นามสกุล (ไทย) : นิศาชล ช่วยขุน(อังกฤษ) : nisachon chuaykhunสถานะ : โสด2.อายุ : 31 3.ตำแหน่งงานที่สมัคร : ครูผู้ช่วย พี่เลี้ยงเด็กส่วนสูง : 165 ซ.มน้ำหนัก : 44ก.ก.ไม่มีรอยสักไม่ใส่เหล็กดัดฟันไม่สูบบุหรี่กินเหล้านิสัยส่วนตัว ใจดีมีเมตตาชอบเด็กๆเป็นอย่างมาก เรียบร้อย พูดเพราะไม่พูดคำหยาบ ชอบดูแลคนอื่น ชอบให้คำปรึกษา ชอบให้แรงจูงใจให้ความรักพร้อมความรู้พร้อมกัน ชีวิตและการทำงานทุกทางผูกพันธ์กับเด็ก เป็นพี่สาวคนโตเลี้ยงๆน้องที่บ้านเกิด ขยันชอบเอนเตอร์เทรน ประวิติการทำงานสายอีเว้นท์ช่วงว่างงานหรือวันหยุด-MC โฟนของเล่นเด็ก บ.คิดส์โด-MC โฟนงานวัคซีน ม.ไทย-ญี่ปุ่น- Staff แจกใบปลิว งานโบกป้าย เอกตร้า-ครูสอนเสริม สอนการบ้านบ้านเด็กกำพร้างานประจำที่เคยผ่าน-ฝึกงาน สถาบันคอม ม.ราม-พี่เลี้ยงสถานสงเคราะห์ บ.มหาเมฆ กรมเด็ก-ปัจจุบัน ครูผู้ช่วยโรงเรียนเด็กก่อนเรียนรามคำแหง 7.ระดับการศึกษา :ป.ตรี คณะมนุษยศาสตร์ ม.รามคำแหง8.ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลงลูกทุ่ง โฟนMC เต้น นำกิจกรรมเอนเตอร์เทน9.สื่อสารภาษาอังกฤษ : พอได้บ้าง10.รอยสัก : ไม่มี11. ที่อยู่ : รามคำแหงมหาดไทย12. สถานะการฉีดวัคซีนโควิด : ฉีดแล้ว2เข็ม
สวัสดีค่ะ ชื่อจอยนะคะ อายุ 22 ปีค่ะ เพิ่งจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลันหอการค้าไทย สาขาภาษาอังกฤษและการแปลค่ะ เคยช่วยพี่เลี้ยงหลานตอนช่วงปิดเทอมค่ะ และตอนนี้อยากหาประสบการณ์เลี้ยงเด็กเพิ่มค่ะ เพื่อที่จะสมัครเป็นออแพร์ที่ต่างประเทศค่ะ เป็นคนใจเย็นและใจดีค่ะ สามารถสอนภาษาอังกฤษน้องและสอนการบ้านน้องได้ค่ะ เข้ากับเด็กได้ดีและชอบอยู่กับเด็กค่ะ
- จบปริญาโท จิตวิทยาเด็ก วัยรุ่นและครอบครัว มหิดล
- จบ MBA จาก Lancaster University, UK
- รักเด็กมากค่ะ ชอบเล่นและทำงานกับเด็ก
- สื่อสาร อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษได้
- เคยสอน Creative Movement สำหรับเด็ก 1-6 ปีใน รร นานาชาติหลายแห่ง
- เคยเป็นผู้จัดการ รร เสริมทักษะการเรียนรู้และการคิด
- มีประสบการณ์ดูแลเด็กพิเศษ
ชื่อ รสิตา พิมพกร ชื่อเล่น ปูสถานะภาพ มีครอบครัวแล้วเบอร์โทร 098-9954465ว-ด-ป เกิด 5ธันวาคม 2527สัญชาติ ไทยตำแหน่งที่ต้องการสมัคร พี่เลี้ยงน้องค่ะการสื่อสารภาษา อังกฤษ พออ่านออกเขียนได้ค่ะไทย ดีมากค่ะปัจจุบันพักอยู่ที่ สระแก้วประสบการณ์ทำงาน -เลี้ยงน้อง1ขวบถึง4ขวบลาดพร้าว-เลี้ยงน้อง2ขวบถึง4ขวบทองหล่อ-เลี้ยงน้อง3เดือนถึง3ขวบ7เดือนชิดลมได้รับวัคซีนมาแล้ว ....3... เข็ม
Hi my name is Sunee. I have an experince of babysitting for more than 2 years as well as raising my own kids. I was an exchange student and stay with a family in Canada in 1988. After graduated bechalor degree from Ramkhamhang University, I worked as a Thai Language Tutor for foreigners. I can communicate in English.
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก
1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ
เรื่องอาหารและโภชนาการของเด็กที่ต้องใส่ใจ
อาหารและโภชนาการหรับเด็ก
โภชนาการมีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมของเด็ก พ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือพี่เลี้ยงเด็กต้องพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเสิร์ฟผลไม้ ผัก เนื้อไม่ติดมัน และผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ และจำกัดอาหารที่มีน้ำตาลสูงและอาหารที่มีไขมันสูง โภชนาการที่เหมาะสมควรรวมถึงการรับประทานอาหารสามมื้อต่อวันและของว่างที่มีคุณค่าทางโภชนาการสองมื้อ
ปริมาณแคลอรีที่เด็กก่อนวัยเรียนจำเป็นต้องได้รับในแต่ละวันขึ้นอยู่กับว่าพวกเขากระตือรือร้นแค่ไหน คำแนะนำด้านโภชนาการที่ดีที่สุดเพื่อให้เด็กมีสุขภาพที่ดีในขั้นตอนนี้ คือการกระตุ้นให้เด็กกินอาหารที่หลากหลาย เลือกอาหารจากผลิตภัณฑ์จากธัญพืช ผักและผลไม้มากมาย ไขมันต่ำ ไขมันอิ่มตัว และ คอเลสเตอรอล น้ำตาลและเกลือปานกลาง มีแคลเซียมและธาตุเหล็กเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายที่กำลังเติบโต พ่อแม่ ผู้ปกครอง พี่เลี้ยงและผู้ดูแลเด็กยังช่วยส่งเสริมโภชนาการที่ดีได้ด้วยการเป็นตัวอย่างที่ดี นิสัยการกินเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกายเป็นประจำควรเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ มันง่ายกว่ามากถ้าทุกคนในบ้านปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกันไม่ใช่ให้เด็กปฏิบัติตัวเคร่งครัดเรื่องอาหารการกิน แต่บรรดาผู้ใหญ่ในบ้านกลับไม่ใส่ใจ
หลีกเลี่ยงการเก็บของหวานหรือของขบเคี้ยวที่มีแคลอรีสูง เช่น มันฝรั่งทอด น้ำอัดลมธรรมดา ซีเรียลเคลือบน้ำตาล ลูกอม หรือไอศกรีมทั่วไปในบ้าน ระวังอาหารที่อาจทำให้เด็กสำลักได้ เช่น แครอทดิบ ถั่วลิสง องุ่นทั้งลูก เนื้อที่เคี้ยวยาก ข้าวโพดคั่ว หมากฝรั่ง หรือลูกอมที่ แม้ว่าเด็กอาจไม่ได้รับประทานอาหารที่ครบถ้วนเท่าที่คุณต้องการ แต่ตราบใดที่พวกเขายังเติบโตตามปกติและมีระดับพลังงานปกติ คงไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล เพื่อป้องกันปัญหาการกิน ควรสอนเด็กเรื่องโภชนาการให้รู้จักข้อดีของการกินอาหารที่มีประโยชน์และผลเสียของอาหารขยะ (Junk Food)
ควรสร้างบรรยากาศการรับประทานอาหารให้เรื่องสนุกมีความสุข ไม่ควรทะเลาะหรือถกปัญหาเครียดบนโต๊ะอาหาร ความผิดพลาดทางโภชนาการที่พบบ่อยในวัยนี้ คือการปล่อยให้เด็กดื่มนมหรือน้ำผลไม้มากเกินไปจนอิ่มและไม่อยากกินอาหารมื้อหลัก บังคับให้ลูกกินเมื่อไม่หิว หรือการบังคับให้พวกเขากินอาหารที่ไม่ต้องการ คุณสามารถพ่อแม่ ผู้ปกครอง พี่เลี้ยงและผู้ดูแลเด็กอาจจะให้วิตามินเสริมแก่เด็ก หากเด็กรับประทานอาหารได้น้อย ไม่ควรลงโทษรุนแรงหากเด็กกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ แต่อธิบายเหตุผลและชี้ให้เห็นข้อดีและข้อเสียที่เกิดจากกิน
คลองเตยในวันพรุ่งนี้
หากวันนี้มีคำกล่าวขึ้นมาว่าในอนาคตอันใกล้นี้ย่านคลองเตยจะกลายเป็น CBD (Central Business District) ตลอดความยาวหลายกิโลเมตรที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา สำนักผังเมืองกรุงเทพมหานครจะเปลี่ยนสีผังเมืองของที่ดินทั้งหมด 2,353 ไร่ของการท่าเรือฯ ที่ก่อนหน้านี้เป็นสีน้ำเงินซึ่งระบุการใช้ประโยชน์ว่าเป็นที่ดินของหน่วยงานราชการเท่านั้น โดยในผังเมืองกรุงเทพมหานครฉบับใหม่ที่จะประกาศใช้ในปี พ.ศ.2563 จะเปลี่ยนเป็นสีแดงแบบเดียวกับพื้นที่ที่เป็น CBD ปัจจุบันของกรุงเทพมหานคร นั่นหมายความว่ากรุงเทพมหานครจะมีที่ดินที่ในผังเมืองระบุว่าเป็นสีแดงหรือที่ดินเพื่อการพาณิชยกรรมเพิ่มอีก 2,353 ไร่ทันที (สี – สีต่างๆ ที่เห็นบนผังเมืองรวม คือ การแบ่งโซนการใช้ประโยชน์ที่ดิน ที่คิดมาแล้ว และทุกๆ สีก็มีการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน เช่น สีแดง ที่ดินประเภทพาณิชยกรรม สีเหลือง ที่ดินประเภทเพื่อการทำที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย หรือ สีเขียว ที่ดินประเภทเพื่อทำเป็นที่ดินการเกษตร เป็นต้น) และหน่วยงานหนึ่งที่มีที่ดินขนาดใหญ่ในกรุงเทพมหานคร คือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) มีที่ดินขนาด 2,353 ไร่ ย่านคลองเตย ที่ดินแปลงนี้การท่าเรือแห่งประเทศไทยมีแผนจะเปิดให้เอกชนเข้ามาพัฒนานานแล้วมีการศึกษากันมาต่อเนื่องในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา พื้นที่สีแดงนี้กำลังเป็นที่จับตามองเพราะขนาดของพื้นที่ 2,353 ไร่นั้นมี มากกว่าพื้นที่ที่เป็นสีแดงทั้งหมดในปัจจุบันรวมกันซะอีก นั่นก็เท่ากับว่ากรุงเทพมหานครจะมี CBD (Central Business District) ขนาดใหญ่และเป็นพื้นที่พาณิชย์ กรรมแบบแท้จริงขึ้นมาทันที เพราะพื้นที่สีแดงตามผังเมืองกรุงเทพมหานครนั้นคือพื้นที่ที่สามารถพัฒนาโครงการพาณิชยกรรมได้เป็นพื้นที่ที่ถือได้ว่ามีศักยภาพสูงที่สุดในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ปัญหาในการพัฒนาที่ดินแปลงนี้ของการท่าเรือฯ ถ้าตัดเรื่องของการเวนคืนที่ดินหรือการย้ายคน ชุมชนที่อยู่มานานออกไป คือ เรื่องของระบบคมนาคมภายในโครงการและการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนเดิม ที่ดูเหมือนจะไม่เพียงพอที่จะรองรับการขยายตัวในอนาคต ทางรถไฟที่เชื่อมถึงสถานีนี้ซึ่งผ่านทั้งแปลงที่ดินสถานีกลางบางซื่อ มักกะสัน ย่านเพลินจิต ก็มีความเป็นไปได้ที่จะนำมาพัฒนาต่อเป็นระบบรถไฟฟ้าเชื่อมโครงการที่สถานีแม่น้ำเข้ากับพื้นที่ใจกลางเมือง ภารกิจใหญ่ของ “กทท.-การท่าเรือแห่งประเทศไทย” ไม่ใช่แค่การขยายการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือที่มีอยู่ในมือ ในอนาคตมีแผนที่จะทำรถไฟโมโนเรลจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เชื่อมต่อเข้ามาในบริเวณนี้ด้วย ถ้าทำได้จริง น่าจะเป็นการพลิกโฉม “ทำเลคลองเตย” เป็นเมืองที่ทันสมัย ไม่แพ้ทำเลใจกลางเมือง
รู้จักเด็กก่อนวัยเรียน...(หนูโตแล้วนะ)
การเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียนอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับคนเป็น พ่อแม่ ผู้ปกครอง และพี่เลี้ยงเด็ก เพราะเด็กวัยนี้มีความกระตือรือร้นอยากรู้อยากเห็น ทักษะทางสังคม อารมณ์ และร่างกายที่พัฒนาขึ้น การทำความเข้าใจขั้นตอนพัฒนาการของเด็ก จะช่วยให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง และพี่เลี้ยงเด็กมั่นใจได้ว่าวิธีการเลี้ยงดูเหมาะสมสำหรับเด็ก เด็กก่อนวัยเรียนมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น อยากเลือกเสื้อผ้าด้วยตัวเอง ติดกระดุม และแปรงฟันโดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ดูแล (เราคอยดู ทำเป็นตัวอย่างและแนะนำ) ด้วยพัฒนาการด้านทักษะการสื่อสาร เด็กจะเริ่มพูดเป็นประโยคสั้นๆ เล่าเรื่องมากมาย ชอบถามคำถาม "ทำไม" จำเพลงกล่อมเด็ก ชื่นชมกิจกรรมพิเศษ และเข้าใจกิจวัตรประจำวัน ในขั้นตอนนี้ เด็กก่อนวัยเรียนจะเริ่มเล่นร่วมกับเด็กคนอื่นๆ ในกลุ่มเล็กๆ แบ่งปันของเล่น และพัฒนามิตรภาพ เวลาเล่นอาจรวมถึงเกมที่มีโครงสร้างและกิจกรรมสร้างสรรค์จินตนาการ
การให้เด็กวัยนี้เข้าเรียนในชั้นเตรียมอนุบาลเป็นโอกาสที่ดีในการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความเข้มงวดของโรงเรียนและฝึกฝนทักษะทางสังคมและความรู้ความเข้าใจ พ่อแม่สามารถคาดหวังให้เด็กก่อนวัยเรียนแต่งตัวด้วยตัวเอง แปรงฟันด้วยคำแนะนำ และสามารถใช้ห้องน้ำได้ด้วยตัวเอง คุณพ่อคุณแม่อาจไม่แน่ใจเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ ไปโรงเรียน ยิ่งเมื่อลูกรู้สึกเครียดหรือวิตกกังวล แต่โดยรวมแล้วคุณควรจะสามารถสื่อสารกันได้ค่อนข้างดี ให้คำแนะนำชี้แนะมุมมองให้ลูก ๆสนใจมากขึ้น นี่เป็นช่วงเวลาแห่งการเติบโตและเด็กในวัยนี้ต้องการความไว้วางใจและอยากรับผิดชอบมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่ช่วยส่งเสริมความรู้สึกรับผิดชอบโดยเริ่มให้เงินค่าขนม สอนให้เด็กรู้จักคุณค่าของเงินและความสำคัญของการออม ในแง่ของงานบ้าน เด็กก่อนวัยเรียนสามารถช่วยเช็ดโต๊ะ หรือเก็บของเล่น เมื่อเล่นเสร็จ การเสริมแรงเชิงบวกเป็นสิ่งสำคัญสำหรับงานบ้านที่เสร็จสมบูรณ์ และความล้มเหลวในการทำงานบ้านอาจเป็นสัญญาณว่าพวกเขายังไม่พร้อมที่จะทำงานบ้านนั้นหรือต้องการเวลามากขึ้นในการเรียนรู้ ควรเน้นที่ทักษะการสอน มากกว่าการลงโทษเด็กที่ไม่ปฏิบัติตาม การอนุญาตให้บุตรหลานของคุณมีทางเลือกว่างานบ้านใดที่บางครั้งอาจช่วยให้ปฏิบัติตามได้
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง